- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 18 September 2020 17:45
- Hits: 13905
บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 18-9-2020
Market Wrap-Up
- • SET ปิดวันที่ 17 ก.ย.63 ปิด -9.08 จุด อยู่ที่ 1,284.40 จุด มูลค่าการซื้อขาย 46,006 ลบ.ต่างชาติขาย 2,112 ลบ. สถาบันซื้อ 29 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 74 ลบ. ยอด NVDR มียอดขายสุทธิอยู่ที่ 533 ลบ.โดยมียอดซื้อหุ้น KBANK,KCE,HMPRO,PTTEP,IVL และมียอดขายหุ้น CPF,AOT,CBG,ADVANC,MINT มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 474 ลบ หุ้นที่มีมูลค่า Short สูงคือ MINT,KBANK,AOT โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 15,196 สัญญาและมียอด Long สะสมตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 141,856 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 2,484 ลบ.
- • ตลาดหุ้นสหรัฐ Down Jones ปิด -0.47%, S&P500 -0.84%, Nasdaq -1.27% ถูกแรงขายจากหุ้นเทคโนโลยีกลุ่ม FAANG และกลุ่มบริการสื่อสาร โดยกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ หลังเฟดส่งสัญญาณคงดอกเบี้ยต่ำต่อไปอีก 3 ปี ขณะที่รายงานผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 860,000 ราย ต่ำกว่าคาดที่ 875,000 แต่อยู่ในระดับสูง ส่วนตัวเลขสร้างบ้านใหม่ ส.ค. -5.10% ลดลงหลังปรับขึ้นต่อเนื่อง 3 เดือน ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 ปิด -0.51% หุ้นกลุ่มธนาคาร เช่น เอชเอสบีซี, บาร์เคลยส์, สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ปรับลดลง หลังธนาคารอังกฤษอาจใช้นโยบายดอกเบี้ยติดลบหากจำเป็น ขณะที่หุ้นเทคโนโลยียุโรปปรับลดลงตามหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐ
Market View
- • ภาวะการลงทุนตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับตัวลดลงจากแรงขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี นักลงทุนกังวลแนวโน้มการฟื้นตัวเศรษฐกิจสหรัฐ หลังเฟดเผยคงนโยบายดอกเบี้ยต่ำไปอีก3 ปี แต่ยังคงวงเงิน QE ที่ 1.2 แสน ล.ดอลลาร์/เดือน ซึ่งอาจมีไม่เพียงพอให้ฟื้นเศรษฐกิจและเพิ่มการจ้างงาน และอยู่ระหว่างรอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่วงเงิน 1.3 – 2.2 ลล.ดอลลาร์ ซึ่งอยู่ระหว่างการหารือของพรรครีพับลิกัน – เดโมแครต ส่วนดีลการขาย TikTok ให้กับ Oracle , Warmart ล่าสุดทาง Bytedance ยอมให้ผู้ถือหุ้นสหรัฐถือสัดส่วน 60% ซึ่งคณะทำงานของประธานาธิบดีทรัมป์น่าจะพอใจกับแนวทางดังกล่าว และช่วยลดแรงกดดัน Tech War สำหรับการประชุม BOJ, BOE วานนี้มีมติคงนโยบายดอกเบี้ย แต่ทาง BOE เผยพร้อมใช้นโยบายดอกเบี้ยติดลบหากมีจำเป็น ส่งผลให้หุ้นกลุ่มธนาคารยุโรปปรับลดลง สำหรับดัชนีหุ้นไทยวานนี้ปิด -0.70% ต่างชาติขาย 2,112 ลบ. สถาบันและพอร์ตโบรกเกอร์ซื้อเล็กน้อย เป็นการปรับพอร์ตเพื่อลดความเสี่ยงก่อนการชุมนุมการเมืองในวันพรุ่งนี้ ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับเพิ่มขึ้น และประเด็นข่าว กลต.นับ 1 ไฟลิ่งของ OR ที่จะเสนอขาย IPO ไม่เกิน 3,000 ล.หุ้น ส่งผลให้ผู้ถือหุ้น PTT มีสิทธิ์จองหุ้น OR ระยะสั้นเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มพลังงาน ส่วนกลุ่มอสังหา ฯ ได้ปัจจัยหนุน ศบศ.เห็นชอบปรับเกณฑ์ต่างชาติเข้าซื้อคอนโดได้มากขึ้น โดยห้ามจำนอง ขาย โอน ภายในระยะเวลา 5 ปี รวมยกเว้นเกณฑ์กำหนดระยะเวลาพำนักในไทยไม่น้อยกว่า 3 ปีก่อนยื่นคำขอ
Daily Strategy
- • ดัชนี SET คาดทรงตัวมีแนวรับ 1,270 – 1,280 แนวต้าน 1,290 – 1,300 รอประเมินสถานการณ์ชุมนุมวันพรุ่งนี้ ระยะสั้นแนะนำเก็งกำไร PTT, PTTEP ( + ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น, OR เตรียมขาย IPO) / ANAN, ORI, AP (+ศบศ. ผ่อนเกณฑ์ต่างชาติซื้อคอนโด ฯ)
- • INET* ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus N/A บาท*) นอกจากประเด็นการจำหน่ายทรัพย์สินเข้ากองทรัสต์มูลค่าทรัพย์สินกว่า 4.8 พัน ลบ.ในช่วงไตรมาส 4 แล้วสำหรับ Outlook ของผู้ประกอบการที่ให้บริการ DATA Center และ Cloud Service โอกาสเติบโตของรายได้ในอนาคตค่อนข้างสดใส นอกจากนั้นในระสั้นบริษัทก็มีโอกาสได้รับงานลงทุนโครงข่ายจาก Operator ซึ่งต่างก็เร่งลงทุนโครงข่ายเพื่อให้พร้อมต่อการเปลี่ยนระบบการให้บริการมาเป็น 5G ในเชิง Valuation ปัจจุบันราคาหุ้นเทรดบน P/E ที่ 13.2X ซึ่งก็เป็นระดับที่ค่อนข้างต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตค่อนข้างมากดังนั้นเราจึงแนะนำให้เข้าซื้อเก็งกำไร
- • NOBLE* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 16.30 บาท) มีความน่าสนใจจากระดับ Valuation ที่ถูกที่สุดในกลุ่มอสังหาฯ ด้วย Current PER 2.71 เท่า และ Yield จากเงินปันผลในช่วง 2H63 ที่คาดว่าจะสูงราว 7% แนวโน้มผลประกอบการ 2H63 อยู่ในทิศทางที่ดีตามแผนการรับรู้รายได้จาก Backlog กว่า 6 พันล้านบาท ขณะที่การรุกโครงการระดับราคาต่ำว่า 5 ล้านบาท ภายใต้แบร์ด NUE ได้รับการตอบรับที่ดีในการเปิดตัวช่วง ก.ค.-ส.ค.63 นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยบวกจากที่ประชุม ศบศ.เห็นชอบหลักการปรับปรุง Smart Visa ให้เชื่อมโยงกับการลงทุน เช่น เพิ่มประเภทคำขอเพื่อเข้าซื้ออาคารชุดและกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ โดยยกเว้นหลักเกณฑ์การกำหนดระยะเวลาการพำนักในประเทศไทยไม่น้อยกว่า 3 ปีก่อนยื่นคำขอ ซึ่งประเด็นนี้มองเป็นบวกต่อ NOBLE เพราะมีสัดส่วนลูกค้าต่างชาติเป็นจำนวนมาก ซึ่งที่ผ่านมาใช้วิธีจองออนล์ / โอน ผ่าน Agent
Daily Key Factors
Oil Update (+) WTI Futures ต.ค. ปิด $+0.81 อยู่ที่ $40.97 /บาร์เรล Brent Futures พ.ย. ปิด +$1.08 อยู่ที่ $43.30 /บาร์เรล การประชุม JMMC ของกลุ่มโอเปกพลัสคงลดกำลังการผลิตที่ 7.7 ล.บาร์เรล/วัน ถึง ธ.ค. 63 และจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดหากประเทศสมาชิกไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง โดยอาจจัดการประชุมรอบพิเศษใน ต.ค. นี้ หากราคาน้ำมันมีแนวโน้มปรับลดลง
Gold Update (-) Gold Futures ธ.ค.ปิด -20.60 ดอลลาร์ อยู่ที่ 1,949.90 ดอลลาร์/ออนซ์ ถูกแรงขายทำกำไร หลังเฟดไม่ส่งสัญญาณเพิ่มปริมาณเม็ดเงินแม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังมีความไม่แน่นอนในการฟื้นตัว ขณะที่ Dollar Index อ่อนค่า -0.24 % อยู่ที่ 92.9699
Fund Flow (-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -119.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -67.9 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโด -27.3 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -24.1 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้แข็งค่าเล็กน้อยอยู่ที่ 31.1093 บาทดอลลาร์สหรัฐ
(+) ดัชนี BDI ปิด +13 จุด อยู่ที่ 1,294
(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทรงตัวอยู่ที่ 0.687% , 2 ปี อยู่ที่ 0.137
(0) ค่าเงินหยวน off-shore อ่อนค่าเล็กน้อยอยู่ที่ 6.7628/USD
(-) วานนี้สหรัฐรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้น 45,881 ราย รวมอยู่ที่ 6,874,182 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 861 ราย รวมอยู่ที่ 202,195 ราย / อินเดียติดเชื้อเพิ่มขึ้น 96,793 ราย รวมอยู่ที่ 5,212,686 ราย ( Worldometers )
Economic Calendar
ในประเทศ
09 ก.ย. ประชุมคณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชน (กกร.)
สัปดาห์ที่2 สภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนและอัพเดตสถานการณ์ลงทุน
สัปดาห์ที่3 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม, ยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์
กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า
ต่างประเทศ
15 ก.ย. CN ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีน (ปีต่อปี) ( ส.ค.)
16 ก.ย. US ดัชนีดัชนียอดขายปลีกพื้นฐาน เดือนต่อเดือน) ( ส.ค.)
US ดัชนียอดขายปลีก (เดือนต่อเดือน) ( ส.ค.)
US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
17 ก.ย. US การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของคณะกรรมการกำหนดนโยบาย
การเงิน (FOMC) ของสหรัฐ
US การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย
US แถลงการณ์ของคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลาง
US รายงานจำนวนใบอนุญาตก่อสร้าง ( ส.ค.)
US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) ( ส.ค.)
Theme Strategy
(1) กลุ่ม Defensive Stock BCPG*, BGRIM*, BPP*, GPSC*, GULF*, ADVANC, INTUCH*
(2) กลุ่มที่อิงการบริโภคในประเทศ CPALL, CBG*, ICHI*, OSP*
(3) กลุ่มรับประโยชน์ ศก.ชะลอ NPL เพิ่ม สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อจำนำทะเบียน BAM*, CHAYO*, JMART*, JMT*, SINGER*
(4) กลุ่มส่งออกอาหารเงินบาทอ่อนค่า CPF*, GFPT*, TFG*, TU*, STA*
(5) กลุ่มรับประโยชน์จากต้นทุนน้ำมันอยู่ในระดับต่ำและการคลาย Lockdown TOP, PTTGC, IVL*, PRM*, PTG*
(6) กลุ่มรับประโยชน์จากปลดล็อก พ.ร.บ.งบประมาณ STEC, SEAFCO*, PYLON*
*หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio September 2020: WICE*, JKN*, BGC*, CPF*, BCH*
Analysts
Apichai Raomanachai No. 002939
Nopporn Chaykaew No. 043964
Piyatat Pasommanatsakul No. 081741
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web