- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 18 September 2020 17:41
- Hits: 12396
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 18-9-2020
“ยังกังวลเฟด-ชุมนุม 19 ก.ย.-ดัชนี FTSE มีผลวันนี้”
- • หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : --
# ภาวะตลาดและปัจจัยก่อนหน้า : SET วานนี้ลด รับข่าวมุมมองเฟดเป็นลบ ปิด -9.08 จุด ที่ 1284.4 จุด มูลค่าซื้อขายบาง 46 พันลบ.ดัชนีฯปรับลงเหมือนภูมิภาคหลังเฟดดกังวลเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่แน่นอนสูง อัตราว่างงาน ส.ค.ที่ 8.4% ถือว่ายังมากและน่ากังวล ตลอดจนไม่แน่ใจผลการชุมนุมในวันที่ 19 ก.ย.63 นี้ ว่าจะบานปลายหรือไม่ แม้น้ำมันฟื้นตัวแต่กลุ่มพลังงานไม่ปรับขึ้นสูง ซื้อสุทธิมาก-รายย่อย ขายสุทธิมาก-ต่างชาติ YTD ต่างชาติขายสุทธิสูงเป็น 263 พันลบ.
# ปัจจัยและกลยุทธ์: SET-ไซด์เวย์ ต่างประเทศไม่สดใส กังวลดเฟด ชุมนุม 19 ก.ย. แต่น้ำมันปรับขึ้น และ FTSE มีผลวันนี้ ปัจจัยบวกคือ ราคาน้ำมันปรับขึ้นต่อ 81เซ็นต์ ติดตามดัชนีความเชื่อมั่นสหรัฐประกาศวันนี้ ด้านไทย ธปท.ประกาศเกณฑ์ให้สินเชื่อบุคคลดิจิตัล KBANK เริ่มออกหุ้นกู้อ้างอิง THOR ดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรม ส.ค.ปรับขึ้น เช่นเดียวกับดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย ส่วนปัจจัยลบคือ กังวลเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่แน่นอน ตัวเลขยื่นขอสวัสดิการว่างงานต่ำกว่าคาด แต่เป็นตัวเลขที่สูง ตัวเลขเริ่มต้นสร้างบ้านส.ค.กลับมาลดลง หลังเพิ่มติดกัน 3 เดือน ดาวโจนส์ -130 จุด ดัชนีกังวลเพิ่มเป็น 26.4 เช้านี้ตลาดหุ้นเพื่อนบ้าน Mix และดาวโจนส์ Future ลดลง กลยุทธ์ระยะสั้น เข้าไว-ออกไว เล่นรอบ คาดดัชนีซื้อ-ขายในกรอบที่ลดลง 1270-1310 จุด ทยอยขายแนวต้านลดเสี่ยง หากหลุด 1285 จุดเป็นสัญญาณไม่ดีอีกครั้ง ให้ Stop Lossด้านกลยุทธ์ระยะกลาง-ยาว เนื่องจากเศรษฐกิจโลกและไทยยังย่ำแย่ ความเสี่ยง หมดเงินเยียวยา หนี้เสียสูง และการเมืองไทยร้อนแรงขึ้น แต่ก็มีสัญญาณการฟื้นตัว หลังคลายล็อกดาวน์ วัคซีน-ยาคืบหน้า และไตรมาส 2 เป็นจุดต่ำสุดของปีแล้ว ดอกเบี้ยในตลาดต่ำ เงินออมไม่มีทางเลือกนัก จึงแนะนำทยอยถอยรับหลักทรัพย์พื้นฐานดี พาณิชย์-CPALL,MC มีโอกาสฟื้นตัวดี รับเหมาเด่น-CK,NWR วัสดุก่อสร้างพื้นฐานดี-DRT,DCC หุ้นกลุ่มการแพทย์เป็นไฮซีซัน-BCH, BDMS,CHG,RJH,RPH หุ้นDefensive-ADVANC,DTAC,CPF,CHG,OSP หุ้นปันผลสูง-KKP,TISCO,LH เติบโต-ฟื้นตัวดี- AP,MTC,PTL,TU,STI ขนส่ง-กลับมาฟื้นตัวเร็ว BEM,BTS ที่อยู่อาศัยขนาดปานกลาง ปันผลมาก- LALIN,NOBLE, SC,SENA หุ้นกลุ่ม REITs & IFFs ปันผลสูง ดอกเบี้ยในตลาดต่ำ- DIF,HREIT,AIMIRT กลุ่มธนาคารไม่สดใส ยังต้องตั้งสำรอง ECL มากใน 2H63 แต่เก็งกำไรปันผลปลายปีและผล Stress Test ต.ค.63 แนวรับคือ 1260-1250 จุด และ แนวต้าน 1300-1310 จุด ส่วนตัดขาดทุนต่ำกว่า 1280 จุด ปัจจัยน่าติดตามคือ PTT แจ้งข่าวดี ก.ล.ต.รับหุ้น IPO ใหม่คือ PTTOR แล้ว รอจังหวะตลาดฯ ขายหุ้น และวานนี้ประกาศจ่ายปันผระหว่างกาล 0.18 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทนปันผล 0.5% คงคำแนะนำ ซื้อ วันนี้จ่ายเงินค่าซื้อหุ้นเพิ่มทุน GULF วันสุดท้าย คาดว่า BBL, STEC และ ROJNAใช้สิทธิ์ทุกราย เพราะราคาใช้สิทธิ์ 30 บาท ต่ำกว่าราคาตลาด และทำให้ต้นทุนเฉลี่ยลดลงเป็น 10.91 บาท แนะนำ ซื้อ ROJNA ถือ BBL แต่ Fully Valued สำหรับSTEC
# Stock Pick Today : ORI ประเมินมูลค่าหุ้นถูก ปันผลดี ยอดขายต้นปีถึงปัจจุบันทำได้สูงเป็น 80% จากเป้าปีนี้ที่ 21.5 พันล้านบาทแล้ว จึงมีโอกาสที่จะทำยอดขายส่วนเพิ่มได้สูงกว่าเป้า และคาดว่ากำไรในช่วงครึ่งหลังปีนี้จะทยอยปรับตัวดีขึ้น ตามโปรแกรมการโอนที่สูงขึ้น ขณะที่ราคาหุ้นขณะนี้กลับถูก P/E ปี 64 ที่เพียง 5.8 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่อยู่อาศัยราว 7 เท่า และมีปันผลที่ดี คาดการณ์อัตราผลตอบแทนปันผลปี 64 เป็น 5.1% กำหนดราคาพื้นฐานไว้ที่ 7.40 บาท
กลยุทธ์ทางเทคนิค: ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick & Indicators เปลี่ยนเป็นลบ(ยัง)เล็กๆ {“ปิดลบ”ใต้“SMA10วัน” (โดยมี“โครงสร้างขาลง – ระยะกลาง”กดดัน)} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯวันนี้“แกว่งลง”เป็นหลัก แต่“ค่าบวก” (มี“Oversold + Divergence ในกราฟรายนาที”หนุน) จะช่วยให้มีรีบาวด์ฯสั้นๆก่อน(แล้วจึงลงต่ำ,ตามมา)ได้ แนวต้าน1300 (หรือ 1310 – 1320) จุด {แนวตัดขาดทุน “ต่ำกว่า 1280” (แนวรับย่อย “1260 – 1250” จุด)}
Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com
Inside Story
Key Drivers TODAY : ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ
Company Update : ANAN (Fully Valued -ราคาพื้นฐาน 1.22)
TPRIME (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 14.20)
In The News : PTT (ราคาปิด 35.75 บาท) : ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง OR
ธปท.ไฟเขียวสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิตอล
Turnover List Watch : คาด WORK ติด Cash Balance เริ่มใช้สัปดาห์หน้า
Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
- เฟด: ยังกังวลที่นายพาวเวลแสดงความเห็นเกี่ยวกับเศรษฐกิจของสหรัฐที่ไม่แน่นอนสูง
# ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ยังคงได้รับแรงกดดันจากการที่นายพาวเวลได้แสดงความกังวลว่า ทิศทางเศรษฐกิจในวันข้างหน้ายังคงมีความไม่แน่นอนสูง ขณะที่อัตราว่างงานก็ยังคงอยู่ในระดับที่สูงมาก เมื่อพิจารณาจากอัตราการมีส่วนร่วมในกำลังแรงงาน (labor force participation) ที่ปรับตัวลดลง
- สหรัฐ: ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังอยู่ในเกณฑ์สูง
# กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 860,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งแม้ว่าตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 875,000 ราย แต่นักลงทุนมองว่าจำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานยังอยู่ในระดับที่สูง
- สหรัฐ: ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านลดลงในเดือน ส.ค.63
# กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านลดลง 5.1% ในเดือนส.ค. สู่ระดับ 1.416 ล้านยูนิตหลังจากพุ่งขึ้นติดต่อกัน 3 เดือน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.478 ล้านยูนิต จากระดับ 1.492 ล้านยูนิตในเดือนก.ค.
- ตลาดหุ้นสหรัฐ: ดาวโจนส์ปิดลบ 130.40 จุด จากแรงขายหุ้นเทคโนฯ,ข้อมูลศก.ซบเซา
# ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 ส.ค.) โดยได้รับปัจจัยลบจากคำสั่งขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มการเงิน รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากการที่นายเจอโรม พาวเวลประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจและตลาดแรงงานของสหรัฐ
+ น้ำมัน: WTI ปิดบวก 81 เซนต์ รับโอเปกพลัสให้คำมั่นปฏิบัติตามข้อตกลงลดผลิต
# สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 ก.ย.) หลังจากที่ประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ให้คำมั่นที่จะปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต
- • ทองคำ: ปิดร่วง 20.6 ดอลล์ นักลงทุนผิดหวังผลประชุมเฟด
# สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (17 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)ไม่ได้เปิดเผยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ในการประชุมเมื่อวันพุธที่ผ่านมา แม้คณะกรรมการเฟดส่งสัญญาณตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีก 3 ปีก็ตาม
- • นักลงทุนติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐประกาศปลายสัปดาห์นี้
# สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้คือ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนก.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนส.ค.จาก Conference Board
ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์
+ ธปท.กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล
# ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกหนังสือเวียน เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงบริการทางการเงินในระบบได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่มีรายได้ประจำกลุ่มที่ไม่สามารถพิสูจน์รายได้ และกลุ่มที่ไม่มีทรัพย์สินที่สามารถใช้เป็นหลักประกัน ให้สามารถใช้ข้อมูลทางเลือกเป็นข้อมูลประกอบในการขอสินเชื่อ โดยผู้ประกอบธุรกิจสามารถให้สินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัลแก่ผู้บริโภคแต่ละรายรวมไม่เกิน20,000 บาท
# ผลกระทบ: เป็นการดีกับทั้งฝ่ายผู้กู้และธนาคารผู้ปล่อยกู้ ผู้กู้ก็จะมีสภาพคล่องมากขึ้นในยามที่เศรษฐกิจย่ำแย่ ส่วนธนาคารก็มีช่องทางในการทำธุรกิจเพิ่มขึ้น ภายใต้หลักเกณฑ์ ธปท. คงคำแนะนำ Underweight กลุ่มธนาคารพาณิชย์เพราะสถานการณ์เศรษฐกิจยังอ่อนแอ ทำให้ความเสี่ยงเรื่อง NPL ยังคงสูง แม้ว่าหลายหลักทรัพย์ราคาปัจจุบันจะต่ำกว่าBVS ก็ตาม ส่วน Top Pick เป็น TISCO
+/- การถ่วงน้ำหนัก FTSE Rebalancing มีผลวันนี้หรือ 18 ก.ย.63
# Large Cap : เข้า (+) CRC, BBL-R, BGRIM ออก (-) TOP / Middle Cap : เข้า (+) TOP, CBG ออก (-)BGRIM /Small Cap : เข้า (+) MEGA, IMPACT, JMT ออก (-) CBG
+ KBANK: กำหนดอัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้ระยะสั้นอ้างอิง THOR เป็นรายแรกให้แก่กองทุน กบข.
# ธนาคารกสิกรไทยได้ดำเนินการกำหนดอัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้ระยะสั้นอ้างอิง THOR เป็นรายแรกให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันในประเทศ โดยมีกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กบข. เป็นผู้ลงทุนหลัก (Cornerstone Investor) โดยหุ้นกู้ดังกล่าวเป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และไม่มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ มูลค่าเสนอขายรวมทั้งสิ้น 1,000 ล้านบาทอายุหุ้นกู้ประมาณ 3 เดือน อัตราดอกเบี้ย Compounded THOR + 0.4075%
# ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) ได้ทำสัญญาอนุพันธ์อ้างอิงอัตราดอกเบี้ย THOR (Overnight Index Swap) กับกองทุนภายใต้การบริหารจัดการของ บลจ.ไทยพาณิชย์
# ผลกระทบ: ไม่ได้เป็นที่น่ากังวลเหมือน BBL ด้วยลักษณะตราสารที่แตกต่างกัน ของ BBL เน้นเพิ่มกองทุนขั้นที่ 1 และจำนวนเงินที่ออกก็น้อยกว่ามากสำหรับ KBANK เป็นเพียง 1 พันล้านบาท ขณะที่ BBL ล็อตแรกสูงเป็นระดับ 2.4 หมื่นล้านบาท จากวงเงินทั้งหมดเป็น 2.2 แสนล้านบาท พิจารณาได้ว่าการอ้างอิงอัตราดอกเบี้ย THOR (Thai OvernightRepurchase Rate) ได้รับความนิยมสูง หลังแบบอ้างอิง THBFIX ได้หมดอายุลง
+ ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนส.ค.63 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก ก.ค.63
# สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผย ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนส.ค.63 อยู่ที่ระดับ 84.0ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 82.5 ในเดือนก.ค.63 โดยดัชนีฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 เนื่องจากหน่วยงานภาครัฐเอกชน และประชาชนได้ร่วมมือกัน ทำให้สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-1 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรค ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศสามารถดำเนินการตามปกติ
+ ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย เดือนส.ค.63 เพิ่มขึ้นจากเดือน ก.ค.63
# ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย เดือนส.ค.63 อยู่ที่ระดับ 32.6 เพิ่มขึ้นจากเดือน ก.ค.63 โดยเป็นการฟื้นตัวขึ้นทุกภูมิภาค มีปัจจัยบวกสำคัญจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ0.50% ต่อปี, รัฐบาลมีมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 5 เพื่อให้ธุรกิจต่างๆ ที่ปิดไปชั่วคราวได้กลับมาเปิดกิจการได้ และประชาชนสามารถออกมาทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามปกติ, ราคาน้ำมันดีเซลในประเทศปรับตัวลดลง 30 สตางค์/ลิตร
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web