- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 23 May 2014 18:54
- Hits: 3536
บล.เคที ซีมิโก้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ซื้อเก็งกำไรเมื่ออ่อนตัว-แนวรับ 1375/1350 จุด
Highlight
ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ เปิดบวก ตามค่าเงินเยนอ่อนค่า และตัวเลขยอดขายบ้านมือสองและดัชนีฯ ชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น
ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ : USA: ยอดขายบ้านใหม่ เม.ย. คาด +11.3%m-m (Vs -14.5%) Germany 1Q57F GDP คาด 0.8%q-q IFO Business Climate พ.ค. คาด 111 (Vs 111.2)
-วันทำการล่าสุด นักลงทุนต่างชาติขายต่อ -1.88 พันลบ. (ขายสะสม 3 วัน รวม -1.32 หมื่นลบ.) ส่วนนักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อต่อ +1.72 พันลบ. (ซื้อสะสม 9 วัน รวม +1.40 หมื่นลบ.)
+/-การเมือง ประกาศยึดอำนาจการปกครองโดยผบ.ทบ. รอดูรายชื่อคณะรัฐมนตรีใหม่ (คาด 2 สัปดาห์) และแนวทางการปฏิรูปประเทศ
คาดดัชนีฯ วันนี้ ปรับลง นำโดยหุ้นบลูชิพขนาดใหญ่ จากแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ อิงกฎระเบียบการไม่สามารถลงทุนประเทศที่ทำรัฐประหาร แต่ระยะยาวเป็นสัญญาณบวก การเมืองคลี่คลาย หลังยืดเยื้อมากว่า 6 เดือน
กลยุทธ์: คงพอร์ตลงทุนหุ้นรวม 60% ของพอร์ต โดยมีจุดซื้อบริเวณ 1375/1350 จุด ระยะกลาง-ยาว แนะนำหุ้นที่เกี่ยวเนื่องกับการบริโภคและการลงทุนในประเทศ (STEC CPN QH SPALI KBANK SCB) ส่วนระยะสั้น เน้นกลุ่มอิงการส่งออก (จากค่าเงินบาทอ่อนค่า) อาหาร และค้าปลีก (KCE HANA DELTA TUF CPF GFPT CPALL) และหลีกเลี่ยงลงทุนหุ้นเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวชั่วคราว
หุ้นในกระแส:
• หุ้นโมเมนตัมบวก (ขึ้นเกิน 4.0%) ได้แก่ SUPER VIBHA PPP BMCL UV OFM SPCG KTC หุ้นที่ลงกว่า 2..0% PDI BANPU LH SUSCO
• NVDR (หน่วย: ลบ.) สูงสุดด้านซื้อ ได้แก่ TRUE+191 IVL+179 BBL+158 KTB+151 ด้านขาย PTT-268 SCB-240 DTAC-100
• หลักทรัพย์ที่มี Short Sell สูงสุด (หน่วย:ล้านบาท) ได้แก่ SCB 85 KBANK 80 PTT 65
Market Outlook
คาดดัชนีฯ ตอบรับเชิงลบช่วงสั้น ต่างชาติลดพอร์ต หลังทหารประกาศยึดอำนาจการปกครอง แนวรับ 1375/1350 จุด แต่ระยะเดือนคาดเป็นบวก แนะ selective buy เน้นกลุ่มอิงการส่งออก (จากค่าเงินบาทอ่อนค่า) อาหาร และค้าปลีก (KCE HANA DELTA TUF CPF GFPT CPALL)
คาดดัชนีฯ วันนี้ ปรับตัวลง จากนักลงทุนสถาบันต่างชาติลดพอร์ตจากระเบียบที่ไม่สามารถลงทุนประเทศที่มีการรัฐประหารได้ ประเมินแนวรับที่บริเวณ 1375/1350 จุด เราแนะนำ ลงทุนหุ้นรวมที่ 60% ของพอร์ต โดยระยะสั้น selective buy เน้นกลุ่มอิงการส่งออก (จากค่าเงินบาทอ่อนค่า) อาหาร และค้าปลีก (KCE HANA DELTA TUF CPF GFPT CPALL) และหลีกเลี่ยงลงทุนหุ้นเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวชั่วคราว จากจำนวนนักท่องเที่ยวอาจลดลงในระยะแรก (สถิติปี 49 เดือนก.ย. ลดลง -19.6% mom vs. ค่าเฉลี่ยลดลง -13% mom) รวมถึง หุ้นอิงตระกูลชินวัตร (Negative Sentiment) ส่วนระยะกลาง การอ่อนตัวของดัชนีฯ เป็นโอกาสในการซื้อสะสม แนะนำหุ้นที่เกี่ยวเนื่องกับการบริโภคและการลงทุนในประเทศ คาดใกล้เกิดจุดต่ำสุดใน 1-2 เดือนนี้ (STEC CPN QH SPALI KBANK SCB) (คาด การบริโภคและความเชื่อมั่นในประเทศค่อยๆ ฟื้นตัว หลังมีความชัดเจนเรื่องรัฐบาลและการเลือกตั้งครั้งใหม่)
ประเด็นการเมือง: รัฐประหาร หลังการเจรจาไม่ประสบผล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ในฐานะหัวหน้า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศควบคุมอำนาจการปกครอง หลังประเมินว่า มีแนวโน้มที่สถานการณ์ในประเทศจะเกิดเหตุร้ายแรง จนกระทบความมั่นคงของชาติ รวมถึงชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยระบุ เพื่อให้สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วตลอดจนเพื่อเป็นการปฏิรูปโครงสร้างทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และอื่นๆ เพื่อให้เกิดความชอบธรรมกับทุกพวกทุกฝ่าย
ค่าเงินบาท อ่อนค่าทันทีหลังมีข่าวรัฐประหาร แต่หลังจากนั้นเป็นการแกว่งตัวแคบ โดยกรอบการเคลื่อนไหวยังอยู่ระหว่าง 32.40-32.60 บาท โดยเรามองค่าเงินบาทเป็นตัวชี้นำผลกระทบต่อตลาดหุ้นในวันนี้ การที่ค่าเงินบาทไม่ได้ร่วงแรงอย่างที่หลายฝ่ายกังวล อาจเป็นสัญญาณว่าตลาดหุ้นไทยวันนี้ อาจไม่ลงแรงมากนัก
สถิติจากการรัฐประหารในปี 2549 หากอิงสถิติในการทำรัฐประหารปี 2549 ดัชนีฯ ปรับลงในวันทำการแรก -1.4% และปรับลง -1.4% และ -2.1% ใน 1 และ 2 สัปดาห์หลังรัฐประหาร ดัชนีฯ ปรับขึ้น +2.6% และ+3.4% ในช่วง 1 และ 2 เดือนหลังรัฐประหาร เนื่องจากไม่มีเหตุรุนแรงหลังการรัฐประหาร ความเชื่อมั่นและการบริโภคในประเทศฟื้นตัว เราคาดเหตุการณ์ในปัจจุบันส่วนใหญ่ใกล้เคียงในอดีตจึงมีความเป็นได้สูงที่ตลาดหุ้นจะตอบรับในทิศทางใกล้เคียงเดิม โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับขึ้นได้ดีในช่วง 1 เดือนหลังรัฐประหารปี 49 ได้แก่ ยานยนต์ อาหาร ค้าปลีก และธนาคาร และกลุ่มที่ปรับขึ้นได้ดีในช่วง 3 เดือนแรก ได้แก่ โรงพยาบาล ค้าปลีก และอาหาร
กลยุทธ์: ระยะสั้น selective buy เน้นกลุ่มอิงการส่งออก (จากค่าเงินบาทอ่อนค่า) อาหาร และค้าปลีก (KCE HANA DELTA TUF CPF GFPT CPALL) และหลีกเลี่ยงลงทุนหุ้นเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวชั่วคราว
ระยะกลาง ลงทุนหุ้นรวมที่ 60% ของพอร์ต ประเมินการอ่อนตัวของดัชนีฯ เป็นโอกาสในการซื้อสะสมแนะนำหุ้นที่เกี่ยวเนื่องกับการบริโภคและการลงทุนในประเทศ (STEC CPN QH SPALI KBANK SCB) (คาดการบริโภคและความเชื่อมั่นในประเทศค่อยๆ ฟื้นตัว หลังมีความชัดเจนเรื่องการเลือกตั้งครั้งใหม่) ทางเทคนิค หากวันนี้ดัชนีฯ เปิดลบ แต่ไม่ต่ำกว่าแนวรับ 1380 จุด และสามารถยืนปิดเหนือระดับนี้ได้ ยังมีลุ้นดีดกลับมาที่ 1400 จุดได้อีก แต่หากต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันบริเวณ 1373 จุด ลงไป มีโอกาสถอยไปสร้างฐานใหม่บริเวณ 1350 จุดได้
ประเด็นจับตา
-1. ประเด็นการเมือง: การปกครองภายใต้การนำของทหาร จับตาการตั้งรัฐบาลใหม่ และแนวทางการปฏิรูป
ประเด็นการเมือง (Update):
ทหารยึดอำนาจการปกครองเบ็ดเสร็จ มีรายงานว่า การที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ไม่ได้ประกาศยกเลิกรัฐธรรมนูญปี 2550 แต่สั่งให้สิ้นสุดเป็นการชั่วคราว เป็นไปตามที่ฝ่ายทหารได้หารือกับที่ปรึกษาทางกฎหมาย โดยมีเหตุผล 2 ประการ คือ 1.หากฉีกรัฐธรรมนูญ จะส่งผลให้การใดๆ ที่เกิดขึ้นตามรัฐธรรมนูญต้องยกเลิกไปด้วย 2.การคงรัฐธรรมนูญไว้บางหมวด บางมาตรา และคงองค์กรที่ยึดโยงกับประชาชนไว้ เช่นวุฒิสภา ก็เพื่อสร้างการยอมรับในสายตานานาประเทศ และอาจใช้เป็นช่องทางในการสรรหานายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีชุดใหม่
คสช.มีคำสั่งให้"ยิ่งลักษณ์"รายงานตัวเช้านี้,ประกาศให้"ประยุทธ์"มีอำนาจนายกฯ
คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ(คสช.) มีคำสั่งฉบับ 2/2557 เรียกบุคคลมารายงานตัวกับคสช.เวลา 10.00 น.วันนี้ ซึ่งรวมถึงนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพวก ขณะเดียวกันยังประกาศให้อำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี เป็นอำนาจหน้าที่ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) และหัวหน้าคสช.
2.รายงานเศรษฐกิจสำคัญสัปดาห์นี้ :
วันศุกร์ : USA: ยอดขายบ้านใหม่ เม.ย. คาด +11.3%m-m (Vs -14.5%) Germany 1Q57F GDP คาด 0.8%q-q IFO Business Climate พ.ค. คาด 111 (Vs 111.2)
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจวันทำการผ่านมา:
Conference Board เผย ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเพิ่มขึ้นในเดือน เม.ย. Conference Board เปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.4% สู่ 101.4 ในเดือน เม.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือน มี.ค.นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจจะเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือน เม.ย.
สหรัฐ เผยยอดขายบ้านมือสองเพิ่มขึ้น 1.3% ในเดือนเม.ย. สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติรายงานยอดขายบ้านมือสองเพิ่มขึ้น 1.3% สู่ระดับ 4.56 ล้านยูนิตในเดือน เม.ย. นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ว่า ยอดขายบ้านมือสองจะอยู่ที่ 4.68 ล้านยูนิตในเดือน เม.ย.
อังกฤษ เผยจีดีพี Q1 โต 3.1% สูงสุดรอบ 6 ปี ขณะการลงทุนสูงสุด 1 ปี สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) รายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในไตรมาส 1 มีการ ขยายตัว 0.8% เมื่อเทียบจากไตรมาสสุดท้ายของปี 2013 เมื่อเทียบรายปี จีดีพีเติบโต 3.1% ในไตรมาส 1 ไม่เปลี่ยนแปลงจากตัวเลขขั้นต้นที่รายงานในเดือนที่แล้ว และเป็นอัตราที่สูงที่สุด นับตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ของปี 2007
ผลสำรวจชี้ดัชนี PMI ยูโรโซนขยายตัวเป็นเดือนที่ 11 ใน พ.ค. ผลสำรวจพบว่า ยูโรโซนขยายตัวเป็นเดือนที่ 11 ในเดือนพ.ค. แต่การขยายตัวอย่างแข็งแกร่งของภาคธุรกิจได้ชะลอลงเล็กน้อย โดยการ ชะลอตัวของภาคการผลิตได้บดบังการดีดตัวขึ้นเกินคาดของภาคบริการ การขยายตัวเกิดขึ้นทั่วภูมิภาคยกเว้นฝรั่งเศสที่ยังคงหดตัว ทั้งนี้ ดัชนีคอมโพสิตผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ขั้นสุดท้าย ของมาร์กิต ซึ่งประเมินการขยายตัวของภาคการผลิตและภาคบริการ ลดลงสู่ระดับ 53.9 ในเดือน พ.ค. จาก 54.0 ในเดือน เม.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี แต่ยังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัว
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
Global Momentum
+ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดขึ้นเป็นวันที่สอง
วันทำการที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดเพิ่มขึ้น โดยดัชนี DJIA ปิดเพิ่มขึ้น 10.02 จุดหรือ 0.06% สู่ระดับ 16,543.08 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 4.46 จุดหรือ 0.24% สู่ระดับ 1,892.49 จุด และ Nasdaq ปิดเพิ่ม 22.80 จุด หรือ 0.55% สู่ระดับ 4,154.34 จุด ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกขึ้นเป็นวันที่สองติดต่อกันในวันพฤหัสบดี นำโดยหุ้นขนาดเล็ก ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้นตามการทะยานขึ้นของหุ้นกลุ่มไบโอเทค และรายงานเศรษฐกิจโลกที่ดีขึ้น ภาคโรงงานของจีนอยู่ในภาวะแข็งแกร่งที่สุดในรอบ 5 เดือนในเดือน พ.ค. ทางด้านยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐปรับสูงขึ้นในเดือนเม.ย. และเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ตลาดที่อยู่อาศัยกำลังจะฟื้นตัวขึ้น สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แหงชาติของสหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านมือสองพุ่งขึ้น 1.3 % สู่ 4.65 ล้านยูนิตต่อปีในเดือนเม.ย. และถือเป็นเดือนที่สองในรอบ 9 เดือนที่ตัวเลขนี้ปรับสูงขึ้น
+/- ตลาดหุ้นยุโรป ปิดคละ หนุนจากตัวเลขการผลิตจีน
วันทำการที่ผ่านมา ตลาดหุ้นยุโรปปิดคละ FTSE ปิดลดลง 0.48 จุด หรือ -0.01% สู่ 6,820.56 จุด ดัชนี CAC40 ปิดเพิ่ม 9.18 จุด หรือ 0.21% สู่ 4,478.21 จุด และ DAX ปิดบวก 23.04 จุด หรือ 0.24% สู่ 9,720.91 จุด หุ้นกลุ่มเหมืองปรับขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ดีขึ้น ทางด้านหุ้นกลุ่มบุหรี่พุ่งขึ้นเช่นกัน โดยได้รับแรงหนุนจากความหวังที่ว่าจะมีการควบรวมกิจการ
-ราคาน้ำมันดิบ ร่วงลงเล็กน้อยจากแรงขายทำกำไร
วันทำการที่ผ่านมา Brent ส่งมอบกค. ย่อลง 0.19 ดอลลาร์ สู่ 110.36ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วน Nymexส่งมอบ มิ.ย. ลดลง 0.33 ดอลลาร์ มาปิด ตลาดที่ 103.74 ดอลลาร์ต่อ บาร์เรล เทรดเดอร์เทขายทำกำไรออกมา หลังจากราคาน้ำมันเพิ่งพุ่งขึ้นในวันพุธ โดยในวันนั้นราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบดิ่งลง 7.2 ล้านบาร์เรล สู่ 391.3 ล้านบาร์เรลในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 16 พ.ค. แหล่งน้ำมันขนาดใหญ่ในภาคตะวันตกของลิเบียยังคงปิดทำการ และกลุ่มผู้ประท้วงปิดสำนักงานใหญ่ของบริษัทเซอร์เต ออยล์ คอมปานีของรัฐบาลลิเบีย ซึ่งเป็นผู้บริหารท่าเรือขนส่งน้ำมันเบรกา โดยท่าเรือแห่งนี้เป็นท่าเรือเพียงแห่งเดียวทางภาคตะวันออกของลิเบียที่ยังคงเปิดทำการตลอดช่วงเวลา 9 เดือนที่เกิดความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลกับกลุ่มกบฏลิเบีย ปริมาณการผลิตน้ำมันของลิเบียอยู่ที่ 230,000 บาร์เรลต่อวันในปัจจุบัน ซึ่งต่ำกว่ากำลังการผลิตที่ 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน
+ราคาทองคำ ปิดสูงขึ้น จากเฟดไม่เร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆนี้
วันทำการที่ผานมา ราคาสัญญาทองเดือนมิถุนายน ปิดตลาด เพิ่มขึ้น 6.90 ดอลล์ หรือ 0.54% สู่ 1,295 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับ แรงหนุนจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำวันที่ 29-30 เม.ย.ที่บ่งชี้ว่า เฟดจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ และนายโธมัส คาปาลโบ เทรดเดอร์โลหะมีค่าของบริษัทนิวเอดจ์ กล่าวว่า มีข่าวว่าธนาคารกลางอินเดียเริ่มต้นผ่อนคลายกฎนำเข้าทอง โดยธนาคารกลางอินเดียอนุญาตให้หน่วยงานเอกชนอีก 7 หน่วยสามารถนำเข้าทองได้ ซึ่งการอนุญาตนี้อาจส่งผลให้อุปทานทองเพิ่มสูงขึ้นในอินเดีย และส่งผลให้ค่าพรีเมียมลดลงในฤดูการแต่งงาน
- ดัชนีค่าระวางเรือ Baltic Dry Index ปิดลบเป็นวันที่ 4
วันทำการที่ผานมา ดัชนี Baltic Dry Index ปิดลดลง 22 จุด หรือ -2.23% เป็น 966 จุด หลังจาก ปี 56 เพิ่มขึ้น +28.14%y-y เป็น 2227 จุด (จาก 1738 จุด ณ สิ้นปี 55) โดยระดับสูงสุดอยู่ที่ 2337 จุด เมื่อ 12/12/56 และระดับต่ำสุดอยู่ที่ 698 จุดเมื่อ 2/1/56 ขณะที่ระดับสูงสุดตลอดกาลอยู่ที่ 11793 และระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ อยู่ที่ 554 กลุ่มเรือ (Shipping) คาดผ่านจุดต่ำสุด Bottom Out และฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลก (แนะนำ เก็งกำไร PSL TP Consensus 22.84-27.25 บาท TTA TP Consensus 22.83-27.25 บาท)
ถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย, no. 14501 [email protected] 02-624-6244
ธิดารัตน์ ผโลดม, no. 16564 [email protected] 02-624-6270