- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 11 September 2020 16:43
- Hits: 2180
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 11-9-2020
กลยุทธ์การลงทุนรายวัน
วานนี้ SET ปรับตัวขึ้นในช่วงแรกตามการฟื้นตัวของตลาดหุ้นในภูมิภาค แต่ค่อยๆปรับตัวลงจากความกังวลปัจจัยการเมืองในประเทศ โดยสิ้นวัน SET ปิดที่ 1,290.89 (-2.51 จุด) มูลค่าการซื้อขาย 4.2 หมื่นล้านบาท (เทียบกับวันก่อนหน้า 4.7 หมื่นล้านบาท)
โดยนักลงทุนต่างชาติ ซื้อหุ้นไทย 3 ลบ. (นักลงทุนสถาบันขาย 629 ลบ.) ส่วนตลาด TFEX นักลงทุนต่างชาติเปิด Long Futures ที่ 4,951 สัญญา)
EA (ราคาเป้าหมาย 47.5 บาท) คาดกำไร 3Q63 จะฟื้นตัว +20.9% QoQ จาก 1) ปริมาณกระแสลมภาคใต้เดือน ก.ค.-ส.ค. ได้ฟื้นกลับมาแล้วจากพายุมรสุม ทำให้เราคาดว่า โครงการหาดกังหัน 126MW น่าจะกลับมาผลิตกระแสไฟฟ้าฟื้นตัว +26.7% QoQ และ 2) ราคาขายไบโอดีเซล B100 คาดจะฟื้น +10.5% QoQ หลังคลาย Lockdown
กลยุทธ์การลงทุนรายวัน
ECB คงอัตราดอกเบี้ยและมาตรการช่วยเหลือตามเดิม : วานนี้ผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับต่ำตามเดิม คือ อัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ -0.5%, อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ที่ 0.25% และอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ ที่ 0% รวมถึงยังมีมติคงวงเงินการซื้อพันธบัตรตามโครงการ Pandemic Emergency Purchase Program (PEPP) ที่ระดับ 1.35 ล้านล้านยูโร โดยจะซื้อจนถึงเดือน มิถุนายน 2564 หรือจนกว่า ECB ประเมินว่าวิกฤติการแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้ผ่านพ้นไปแล้ว นอกจากนี้ ECB มีการปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจปีนี้มาที่ -8% จากคาดการณ์เดิมในเดือน มิ.ย.ที่ -8.7% และคาดจะกลับมาเติบโต +5% ได้ในปี 2564 โดยสรุปแม้ว่า ECB จะยังไม่มีมาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติมจากการประชุมดังกล่าว แต่มีมุมมองที่ดีขึ้นต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างค่อยเป็นค่อยไปจึงอาจเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุน sentiment ของหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการฟื้นตัวของประเทศในแถบยูโรโซน อย่างไรก็ดีสำหรับภาพรวมของการลงทุนในบ้านเรายังคงต้องเพิ่มความระมัดระวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นการเมืองในประเทศ ซึ่งคาดจะเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันจิตวิทยาการลงทุนในระยะสั้น
Investment Strategy : วันนี้คาด SET แกว่ง sideways กรอบแนวรับ 1,280 ต้าน 1,300 จุด เน้นหุ้นแนวโน้มกำไรขยายตัว โดย ATO Picks วันนี้แนะนำ “EA, CENTEL, ADVANC”
กลยุทธ์การลงทุน
มีหุ้น : ถือรอทยอยขายทำกำไรที่บริเวณแนวต้าน 1300/1310 จุด
ไม่มีหุ้น : สามารถเข้าสะสมได้ที่บริเวณ 1286-1293 จุด
AH ลุ้น Q3 พลิกมีกำไร ธุรกิจยานยนต์ฟื้นตัว ปีนี้ยอดขาย 1.5 หมื่นล้าน (ข่าวหุ้น)
ความเห็น : โดยแนวโน้มครึ่งปีหลังมีสัญญาณการฟื้นตัว จากการคลายล็อกดาวน์ ทั้งในประเทศไทย และบริษัทในต่างประเทศ คือ จีน โปรตุเกส และ มาเลเซีย แต่กำไรจะอยู่ในระดับต่ำ เราคาดยอดขาย 14,343 ล้านบาท ลดลง 22% และ ขาดทุนสุทธิเท่ากับ 155 ล้านบาท เทียบกับปี2562ที่ขาดทุน 181 ล้านบาท หุ้นซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชีที่ 21 บาท มาก คงแนะนำ ถือ
TPIPP ลุยโรงไฟฟ้าขยะเงินทุนพร้อมลุยเต็มสูบ (ทันหุ้น)
ความเห็น : คาดหวังได้โรงไฟฟ้าโครงการใหม่ 5 แห่ง รวมขายไฟ 75.8MW ที่จะเปิดประมูล สำหรับโครงการขนาดใหญ่ Southern Economic Zone ที่อ.จะนะ จ.สงขลา มูลค่าลงทุน 3.9 แสนล้านบาท มีความคืบหน้ารอประกาศเป็นพื้นที่สีม่วง แนวโน้มผลประกอบการปีนี้ คาดกำไร 4,584 ล้านบาท ติดลบเล็กน้อย 1% หุ้นซื้อขาย P/E ต่ำ คงแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย ได้เท่ากับ 5 บาท
แบงก์ชาติดับหวัง LTV ผ่ากลยุทธ์อสังหาดิ้นสู้ (ทันหุ้น)
ความเห็น : มาตราการอื่นที่ยังคงรอรัฐบาลเคาะคือการเพิ่มเพดานราคาอสังหาฯที่ได้ลดค่าธรรมเนียมจดจำนองและโอนจากปัจจุบัน 3ล้านเป็น5ล้านหรืออาจไม่มีเพดานเลย ในกรณีเพิ่มเพดานเป็น5ล้าน SPALI และ PSH อาจเห็นแรงเก็งกำไรระยะสั้นเพราะมีสินค้าราคาระดับ 3-5ล้านเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตามดีมานด์อสังหาโดยรวมยังอ่อนแอจากปัญหาเศรษฐกิจ หนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง และรายได้ประชากรที่ลดลง ผู้มีความสามารถในการซื้ออสังหาฯยังกระจุกตัวอยู่ที่ระดับกลางถึงบนมากกว่า
Energy Absolute (EA)
เจอจุดเข้าซื้อที่ดีแล้ว
Rating Change
ราคาหุ้นอ่อนลง 12% สวนทางกำไรจะฟื้น +20.9% QoQ เพิ่มน้ำหนักเป็น ซื้อ
ราคาหุ้นปรับตัวลง 12% นับจากการปรับลดคำแนะนำของเราเมื่อ 10 ส.ค. จนล่าสุดเปิด upside แล้ว 13% ขณะที่ทิศทางไตรมาส 3/63 กำลังกลับเข้าสู่เส้นทางที่ดี คาดกำไรสุทธิ 1.4 พัน ลบ. จะฟื้นราว 20.9% QoQ จากไตรมาส 2/63 ที่เป็นจุดต่ำสุดของปี ส่วนพัฒนาการของโครงการใหม่ๆเริ่มทยอยจับต้องได้แล้วอีกด้วย เรามองเห็นโอกาสนี้เป็นจังหวะที่ดีในการสะสม “ซื้อ” ราคาเหมาะสมปี 2564 ที่ 47.50 บา/ท หุ้น อิง P/E เฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี 25.5 เท่า ซึ่งได้ให้ส่วนลด 15% จากความเสี่ยงของการล่าช้าไว้แล้ว
คาดงบไตรมาส 3 จะล้างความผิดหวังในไตรมาส 2 ได้เบ็ดเสร็จ
กำไรสุทธิไตรมาส 2/63 ที่น่าผิดหวัง 1.1 พัน ลบ. หดตัว -20.8% QoQ -20.3% YoY นั้น จะเป็นจุดต่ำสุดของปี เพราะ (1) ผู้บริหารเผยว่า ปริมาณกระแสลมภาคใต้เดือน ก.ค.-ส.ค. ได้ฟื้นกลับมาแล้วจากพายุมรสุม ทำให้เราคาดว่า โครงการหาดกังหัน 126MW น่าจะกลับมาผลิตกระแสไฟฟ้าฟื้นตัว +26.7% QoQ เป็นราว 185 ล้านหน่วย (2) ราคาขายไบโอดีเซล B100 คาดจะฟื้น +10.5% QoQ เช่นกัน จาก 28.96 เป็นราว 32.00 บาท/ ลิตร เข้าใกล้จุดที่ดีของปีที่ 36.15 บาท/ ลิตร จากอุปสงค์ฟื้นต่อเนื่องหลังคลายล๊อคดาวน์ทั่วประเทศ (3) คาดไม่มีรายการพิเศษกดดันค่าใช้จ่ายขายและบริหารกว่า 52 ลบ. เหมือนไตรมาส 2/63 ในเบื้องต้นคาด EA จะมีกำไรปกติราว 1.4 พัน ลบ. ฟื้นตัวแรง +20.9% QoQ แต่จะยังหดตัว -21.1% YoY เพราะฐานกำไรสูงที่ได้อานิสงค์จากกระแสลมที่แรงผิดปกติ ก.ย. ปีก่อน และฐานค่าใช้จ่ายบริหารที่สูงขึ้นจากการมีโครงการใหม่ๆเดินหน้าหลายโครงการในปีนี้
โครงการใหม่เดินหน้า และเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
โรงงานแบตฯ คงกำหนดตามเดิมปลายปีนี้, แผนส่งมอบรถยนต์ปีนี้ราว 180 คัน ยังคงไว้, เรือไฟฟ้ากำหนดเสร็จปีนี้ 10 ลำ และสร้างรายได้ต้นปีหน้า, ผลิตภัณฑ์ PCM มีรายได้แล้ว เป้า 300 ลบ. ปีนี้ ขณะเดียวที่กลุ่มธุรกิจใหม่เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง โดย EA ได้เข้าซื้อหุ้น PP สัดส่วน 40% ใน NEX (ทำธุรกิจปล่อยเช่า และ ซ่อมบำรุงรถบัส) และถือหุ้นร่วมกันในบริษัท AAB (EA 55%, NEX 45%) ทำธุรกิจประกอบรถยนต์ไฟฟ้า โดยเราอยู่ระหว่างศึกษาโมเดลธุรกิจนี้
ความเสี่ยง
ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน มีสัดส่วนรายได้กว่า 63% จะเริ่มทยอยหมดการสนับสนุนจากภาครัฐ (ระบบ Adder) ตั้งแต่ปี 2022 ซึ่งหากธุรกิจอื่นๆขึ้นมาไม่ทัน จำทำให้กำไรจะเริ่มเปลี่ยนเป็นขาลงในปี 2024
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web