- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 09 September 2020 23:34
- Hits: 1131
บล.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 9-9-2020
MARKET TALK
กลยุทธ์การลงทุน
ตลาดหุ้นไทยยังเผชิญกับภัยรอบด้าน ทั้งการปรับฐานแรงของตลาดหุ้นหลายแห่ง ราคาน้ำมันที่ลงแรง และความคืบหน้าวัคซีนที่ติดขัดบ้าง ขณะที่ในประเทศยังต้องติดตามประเด็นการเมืองอย่างใกล้ชิด ส่วนกลยุทธ์แนะหลบภัย โดยการเข้าสะสมหุ้นปันผลสูง Valuation สวย โดยเลือก MCS, AP และ STGT เป็น Top picks
ช่วงรอมรสุมสงบ…แนะนำทยอยสะสมหุ้นปันผลสูง
สินทรัพย์เสี่ยงปรับฐานแรงต่อเนื่อง อาทิ ตลาดหุ้น Nasdaq ลดลงถึง 4.1% และยังมีปัจจัยกดดันต่อเนื่อง และเช้านี้ยังมีประเด็นบริษัทผลิตวัคซีนป้องกัน COVID-19 ใกล้สำเร็จ อย่าง AstraZeneca (ขั้นตอนการผลิตถึงเฟสที่ 3) ประกาศหยุดผลิดวัคซีนชั่วคราว เนื่องจากตรวจพบอาการป่วยที่ยังไม่สามารถอธิบายได้ บวกกับราคาน้ำมันที่ลดลงถึง 7% ในคืนที่ผ่านมา (ลดลง 14%mtd) เนื่องจาก Supply ที่เพิ่มขึ้นจากการกลับผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกตามปกติ หลังพายุเฮอร์ริเคน Laura เบาลง และความกังวล Demand ของประเทศแถบเอเซียไม่ฟื้นตัว หลังซาอุฯ ยังปรับลด Official Selling Price (OSP) ให้กับประเทศแถบเอเซีย ถือเป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญที่กดดันตลาดหุ้นไทย เนื่องจาก SET Index มีสัดส่วนหุ้นที่เกี่ยวข้องกับสินค้าโภคภัณฑ์ถึง 1 ใน 4 แสดงว่า หากราคาน้ำมันดิบโลกที่ลดลงทุกๆ 4% มีโอกาสกดดัน SET index ให้ลงได้ถึง 1% หรือ ราวๆ 12 - 13 จุด ขณะที่ในประเทศยังมีประเด็นที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ทั้งประเด็นการเมือง และการถูกปรับลดอันดับเครดิตเรตติ้งลงอย่างในหลายๆประเทศหรือไม่? ภาพรวมประเมินแนวรับของ SET Index วันนี้ไว้ที่ 1270 ถึง 1285 จุด ส่วนพอร์ตจำลองวันนี้ แนะนำ 10% พักไว้กับ DIF และเพิ่มน้ำหนัก 5% ให้ MCS หลังวานนี้มีการปรับ TFG 10%, TKN 5% ออกจากพอร์ต ส่วนกลยุทธ์ แนะหลบมรสุม โดยการเข้าสะสมหุ้นปันผลสูง Valuation สวย ดังตารางทางด้านล่าง โดยเลือก MCS, AP และ STGT เป็น Top picks
แนะสะสม 9 หุ้นปันผลสูง Valuation สวย ช่วงรอมรสุมสงบ
ที่มา: ฝ่ายวิจัย ASPS
วัคซีนหยุดชะงัก ราคาน้ำมันลง ปัจจัยหนุนเริ่มหายไป
เช้านี้ Bloomberg รายงานบริษัท AstraZeneca Oxford 1 ใน 9 บริษัทที่พัฒนาวัคซีน จนถึงเฟสที่ 3 (การพัฒนาวัคซีนมี 4 เฟส) ได้ประกาศชะลอการพัฒนาวัคซีนชั่วคราว เนื่องจากตรวพบอาการป่วยที่ยังไม่สามารถอธิบายได้ในกลุ่มอาสาสมัคร ASPS คาดว่าตลาดหุ้นโลกประเมิน Sentiment เชิงลบช่วงสั้น เพราะหมายถึงความเร็วในการพัฒนาวัคซีนโลกอาจจะล่าช้ากว่าคาด ผลต่อตลาดหุ้นไทยคาด Sentiment เชิงลบต่อกลุ่มท่องเที่ยว, โรงแรม, สายการบิน แต่คาดจะบวกต่อหุ้นถุงมือยาง เช่น STGT และบริษัทแม่อาทิ STA
ความคืบหน้าการพัฒนาวัคซีน
ที่มา: New York Time, 8 ก.ย. 2563
อีกประเด็นหนึ่ง คือ Dollar Index ยังแข็งค่าต่อผลจากวานนี้ค่าเงินปอนด์อ่อนค่าแรงเกือบ 1% จากความกังวล Brexit ที่เพิ่มขึ้น ภายหลังนาย Boris Johnson นายกรัฐมนตรีอังกฤษเผยว่าวันสุดท้ายที่อังกฤษจะลงนาม Brexit คือวันที่ 15 ต.ค. 2563 มิฉะนั้นอังกฤษจะถอนตัวออกจากยุโรปแบบไม่มีข้อตกลงการค้าใดๆเพิ่มเติม (No-deal Brexit)
Dollar Index ที่อยู่ในทิศทางแข็งค่าผลกระทบคือ
1. ราคาน้ำมันดิบโลกปรับฐานอีก 6%จากวันก่อนหน้า หรือปรับลงราว 14%Mtd ถือเป็น Sentiment เชิงลบต่อหุ้นกลุ่มพลังงานที่ส่วนใหญ่ราคาเกินมูลค่าพื้นฐานไปแล้ว ยกเว้นแต่เพียง PTT(Buy: FV@B41) และ IVL ที่ยังแนะนำซื้อ แต่ให้เน้นซื้อเมื่อราคาหุ้นปรับฐานจนเห็น Upside จูงใจก่อน
2. ค่าเงินบาท/ดอลลาร์ อยู่ในทิศทางอ่อนค่า หรืออ่อนค่าราว 1.4% Mtd ล่าสุด อยู่ราว 31.4 บาท ดีต่อหุ้นส่งออก อาทิ SVI, STGT, MCS
ตั้งแต่ ก.ค.63 เป็นต้นมา ดูเหมือนว่า ตลาดหุ้นไทยกับตลาดหุ้นสหรัฐไม่ได้ไปในทิศทางเดียวกัน
ตลาดหุ้นสหรัฐ Dow Jones, S&P500, NasDaq นับตั้งแต่จุดต่ำสุดเมื่อวันที่ 23 มี.ค. ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง-ปัจจุบันราว 82 % หลักๆขึ้นมาจากหุ้นกลุ่ม Tech อาทิ Facebook Apple ฯลฯ ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมาตลาดหุ้นสหรัฐปรับฐานแรงเฉลี่ย 2% คาดว่าเป็นผลจาก 1.Take Profit และ 2.ความกังวลเรื่องสงครามการค้าสหรัฐ-จีน
อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัย ASPS ทำการศึกษาความสัมพันธ์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กับ SET Index นับตั้งแต่ 23 มี.ค.63 (Low ของ SET Index) จนถึงปัจจุบัน พบว่าในช่วงหลังไม่ได้ไปในทิศทางเดียวกัน คือ ตั้งแต่เดือน ก.ค. ตลาดหุ้นสหรัฐปรับเพิ่มขึ้นต่อ ขณะที่ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวออกข้าง
และหากพิจารณาค่าสหสัมพันธ์(Correlation) ในช่วง 23 มี.ค.63- ปัจจุบัน ซึ่งใช้วิเคราะห์ทิศทางความสัมพันธ์ตลาดหุ้น 2 ตลาด(Correlation จะมีค่าในช่วง -1.0 ถึง +1.0 หากใกล้ 1 หมายความว่า 2 ตลาดมีความสัมพันธ์โดยตรงอย่างมาก) พบว่า SET Index กับ ตลาดหุ้นสหรัฐ (Dow jones (INDU) , S&P500(SPX) มี Correlation 0.295-0.305 แปลว่ามีความสัมพันธ์กันน้อย แต่พบว่า SET Index มี Correlation กับตลาดหุ้นกลุ่ม TIPS มากกว่า คือ มี Correlation 0.503-0.597
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ V.S. ตลาดหุ้นไทย
ที่มา: ASPS รวบรวม
Correlation Matrix
ที่มา: Bloomberg, ASPS รวบรวม
และหากพิจารณาผลตอบแทนของตลาดหุ้นทั่วโลก 93 ตลาด นับตั้งแต่ต้นเดือน-ปัจจุบัน (mtd) พบว่ามี 56 ตลาด ราว 60% ที่ Return ตลาดหุ้นติดลบ ที่เหลืออีก 37 ตลาดราว 40% Return ตลาดหุ้นเป็นบวกอยู่ บ่งชี้ได้ว่าตลาดหุ้นทั่วโลกไม่ได้ปรับฐานไปในทิศทางเดียวกันหมด
TTCL พุ่งแรง ลุ้นข่าว PPA โรงไฟฟ้า Ahlone เฟส 2 ในเมียนมาร์
วานนี้หุ้น TTCL ปรับตัวขึ้นชนเพดานที่ 3.94 บาท บนความคาดหวังต่อโครงการโรงไฟฟ้า Ahlone เฟส 2 ขนาด 380 MW ในเมียนมาร์ ที่คาดว่าจะได้รับสัญญาซื้อขายไฟฟ้าภายในเดือน ก.ย. นี้ และ TTCL จะเป็นทั้งผู้ลงทุนหลักและเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างในโครงการนี้ด้วย ซึ่งโครงการนี้จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับ TTCL 2.25 บาท โดยความล่าช้าตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมาเกี่ยวกับแผนพัฒนาโรงไฟฟ้า Ahlone เฟส 2 ทำให้ฝ่ายวิจัยตัดโครงการนี้ออกจากประมาณการ และให้คำแนะนำ Switch กำหนด Fair Value โดยอิง PBV 1 เท่า อยู่ที่ 2.86 บาท บนผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทจากการรับงานใหม่ที่ล่าช้าและปัญหาการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัญจะสูญที่กดดันผลประกอบการในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่หากโครงการนี้สามารถเกิดขึ้นได้ตามแผนจากข้อมูลที่ TTCL นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นในเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา ก็จะช่วยเพิ่ม Fair Value ของ TTCL ขึ้นมาได้จาก 2.86 บาท เป็น 5.11 บาท มี Upside ถึง 29% ถือเป็นประเด็นที่นักลงทุนอาจใช้ในการเก็งกำไรได้
ฝ่ามรสุมด้วยหุ้นปันผลเด่นอย่าง STGT AP MCS
หลังจากหยุดยาวมา 4 วันติด ตลาดหุ้นไทยเปิดทำการมาวันแรกปรับตัวลดลงไปกว่า 18 จุด หรือ 1.5% อย่างไรก็ตามภาพรวมตลาดหุ้นโลกยังปรับฐานแรงต่อเนื่อง เช่น ตลาดหุ้น NASDAQ ลดลงอีก 4.1% ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงแรงต่อเนื่อง (ตามหัวข้อก่อนหน้า) ถือเป็นหนึ่งปัจจัยที่กดดันตลาดหุ้นไทยที่มีสัดส่วนหุ้นที่เกี่ยวข้องกับสินค้าโภคภัณฑ์ถึง 1 ใน 4 ส่วน แสดงว่า ราคาน้ำมันดิบโลกที่ลดลงทุกๆ 4% มีโอกาสกดดัน SET Index ให้ลงได้ถึง 1% หรือ ราวๆ 12 - 13 จุด
เปรียบเทียบผลตอบแทนตั้งแต่ต้นเดือนของแต่ละสินทรัพย์ทั่วโลก
ที่มา: สายงานวิจัย บล. เอเซีย พลัส
รวมถึงยังต้องติดตามประเด็นทางการเมืองอย่างใกล้ชิด บวกกับความเสี่ยงที่ประเทศไทยจะถูกปรับลดอันดับเครดิตเรติ้งลงกดดันตลาดฯ เช่นเดียวกับประเทศอื่นกว่า 23 ประเทศที่ถูก Downgrade ในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้นักลงทุนยังอยู่ในช่วงชะลอการลงทุน เนื่องจากหากเปรียบเทียบในปี 2540 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายที่ประเทศไทยถูก Moody's ปรับลดอันดับเครดิตเรตติ้งลง โดยปรับลดลงถึง 5 ขั้น จาก A2 เป็น Ba1 ช่วงเดือน เม.ย. - ธ.ค. 40 ขณะที่ SET Index ลดลงถึง 47% และค่าเงินบาทอ่อนค่าถึง 80% ในช่วงเวลาเดียวกัน
หลายปัจจัยลบที่รุมเร้า ส่งผลให้ SET Index อยู่ในสภาวะผันผวน แต่เชื่อว่าจะไม่ปรับฐานแรงอย่างตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนแนะนำทยอยสะสมหุ้น Valuation สวย + ปันผลสูง โดยฝ่ายวิจัยมีเงื่อนไขในการคัดกรองดังนี้
1. คาดหวังปันผลได้สูงกว่า 3% ต่อปี
2. มีแนวโน้มกำไรเติบโต หรือ EPS Growth 2 ปีข้างหน้า (2020 - 2021) เป็นบวก
3. มี P/E < 15 เท่า
4. ฝ่ายวิจัย แนะนำ "ซื้อ"
RESEARCH DIVISION
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส
เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 004132
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 087636
วรรณพฤกษ์ โกมลวิทยาธร
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 110506
ภวัต ภัทราพงศ์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์เชิงปริมาณ
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web