- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 31 August 2020 15:33
- Hits: 3849
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 31-8-2020
“ทรัมป์เยียวยาเพิ่ม-PCEดี-ไทยช่วยแบงก์&สายการบิน”
- • หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : WHA (จากถือเป็น Fully Valued)
# ภาวะตลาดและปัจจัยก่อนหน้า : SET วันศุกร์ พลิกกลับเป็นลบ ปิด -3.50 จุด ที่ 1323.31 จุด มูลค่าซื้อขายปานกลาง 55 พันลบ.ถือว่าสอดคล้องกับภูมิภาคที่เป็นไซด์เวย์ช่วงแรกตลาดปรับขึ้นดีรับข่าวเรื่องเฟดเปลี่ยนวิธีเป้าหมายเงินเฟ้อแบบเฉลี่ย คงดอกเบี้ยต่ำได้ และดาวโจนส์บวกดี ขณะที่มีข่าวนายกฯญี่ปุ่นลาออก แต่มีแรงขายช่วงบ่ายเช่นเดียวกับตลาดหุ้นยุโรป แม้ดาวโจนส์ Future บวก ซื้อสุทธิมาก-สถาบัน ขายสุทธิมาก-ต่างชาติ YTD ต่างชาติขายสูงขึ้นเป็น 248 พันลบ.
# ปัจจัยและกลยุทธ์: SET ไซด์เวย์ทางบวก ทรัมป์เยียวยาเพิ่ม 1.3 ล้านล้านเหรียญ ตัวเลข PCE สดใส ไทยช่วยลูกค้าแบงก์-สายการบิน ปัจจัยบวกคือ ทรัมป์จะลงนามเยียวยาโควิด-19 เพิ่ม 1.3 ล้านล้านเหรียญ ยังตอบรับข่าวบวกเฟดเปลี่ยนวิธีคิดเงินเฟ้อ ตัวเลขและดัชนีการใช้จ่ายส่วนบุคคล ก.ค.ดีขึ้น ดาวโจนส์ +162 จุด S&P และNasdaq ทำนิวไฮต่อเนื่อง ดัชนีความกังวลดลงเป็น 22.96 จุด ส่วนตลาดหุ้นเพื่อนบ้านและดาวโจนส์ Future เช้านี้เพิ่มขึ้น ด้านปัจจัยลบคือ หุ้นยุโรปติดลบจากตัวเลขเศรษฐกิจเยอรมันและฝรั่งเศส ส่วนน้ำมัน WTI ลดเล็กน้อย หลังพายุลอร่าไม่สร้างความเสียหายมาก และหลายสำนักทยอยปรับลด GDP ไทยลงอีก แต่สศค.คงไว้ที่ -8.5% กลยุทธ์ระยะสั้นเข้าไว-ออกไว เล่นรอบ คาดดัชนีซื้อ-ขายในกรอบ 1300-1340 จุด ทยอยขายแนวต้านลดเสี่ยง ด้านกลยุทธ์ระยะกลาง-ยาว เนื่องจากเศรษฐกิจโลกและไทยยังย่ำแย่ความเสี่ยง หมดเงินเยียวยา หนี้เสียสูง และการเมืองไทยร้อนแรงขึ้น แต่ก็มีสัญญาณการฟื้นตัว หลังคลายล็อกดาวน์ วัคซีน-ยาคืบหน้า และไตรมาส 2 เป็นจุดต่ำสุดของปีแล้ว ไบเดนชนะเลือกตั้งจะเป็นผลดีกับเอเซียมากกว่าตอนทรัมป์ จึงแนะนำทยอยถอยรับหลักทรัพย์พื้นฐานดี พาณิชย์-CPALL,MCมีโอกาสฟื้นตัวดี รับเหมาเด่น-CK หุ้นพลังงานช่วงนี้ผันผวนแต่แนะนำซื้อ-PTT,PTTEP,TOP,BGRIM.GPSC,BCP วัสดุก่อสร้างพื้นฐานดี-TASCO,DRT,DCC หุ้นกลุ่มการแพทย์เข้าไฮซีซัน-BCH,BDMS,CHG,RJH,RPH หุ้นDefensive-ADVANC,DTAC,CPF,CHG,OSP หุ้นปันผลสูง-KKP,TISCO,LH เติบโต-ฟื้นตัวดี- AP,MTC,PTL,TASCO,TU,STI ราคาเนื้อสัตว์ดี- CPF ขนส่ง-กลับมาฟื้นตัวเร็ว BEM หุ้นกลุ่ม REITs & IFFs ปันผลสูง ดอกเบี้ยในตลาดต่ำ- DIF,AIMIRT,IMPACT กลุ่มธนาคารไม่สดใส ยังต้องตั้งสำรองECL มากใน 2H63 แต่เก็งกำไรปันผลปลายปี แนวรับคือ 1290-1280 จุด และ แนวต้าน 1330-1340 จุด ส่วนตัดขาดทุนต่ำกว่า 1315 จุด ปัจจัยน่าติดตามคือ 1) มีการเก็งกำไรแบงก์หลังจากให้รวมหนี้ได้ ทำให้มีโอกาสบันทึก NPL น้อยลง แนะนำ ซ้อ KBANK,TMB 2) รัฐบาลช่วยเหลือผู้ประกอบการสายการบิน ให้ซอฟโลนและลดค่าธรรมเนียม แนะนำเก็งกำไร AAV, BA และ 3) BANPU (Not Rated) เป็นบวกตัดสินใจลดทุนจดทะเบียนหุ้นที่ซื้อคืนมา ไม่ใช้วิธีขายออกมาในตลาดฯ (วิธีนี้ตลาดฯอาจจะกังวลเรื่องแรงขายออกมา) สัดส่วน 1.69%จากหุ้นทั้งหมด
# Stock Pick Today : MC คาดปี 64 กลับมาโตสดใส ล่าสุดปรับราคาพื้นฐานขึ้น 10.50 บาท ด้วย P/E ปี 63/64F ที่ 16 เท่า เพราะเพิ่มคาดการณ์กำไรปี 63/64F (มิ.ย.) ขึ้น+8% หรือ +29% y-o-y สะท้อนยอดขายโตดีผ่าน E-commerce และควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี ฐานะการเงินเป็นเงินสดสุทธิ ณ สิ้นมิ.ย.63 ที่ 1.85 บาท/หุ้น และจ่ายปันผลสูงสม่ำเสมอ 2H62/63 0.20 บาท/หุ้น XD วันที่ 5 พ.ย.63 ส่วนปี 63/64F คาดการณ์เงินปันผลไว้ที่ 0.60 บาท/หุ้น ณ ราคาปัจจุบัน คิดเป็น Dividend Yield 6% (จ่ายปีละ 2 ครั้ง)การวิเคราะห์ทางเทคนิค: สั้น...กลับเป็นบวกเล็กๆ อาจมีรีบาวด์ช่วงสั้นๆต่อ แต่ยังคงให้น้ำหนักกับการลงในระยะกลาง ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick & Indicatorsยังให้ภาพที่เอียงมาทางบวกเล็กๆ {แม้“ปิดลบ” แต่ก็เล็กน้อย เหนือ“SMA10วัน” (โดยมี“โครงสร้างขาลง–ระยะกลาง”กดดัน)} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯสัปดาห์นี้“แกว่ง”แบบให้น้ำหนักกับการลง แต่“ค่าบวก”(มี“SMA10”หนุน) จะช่วยให้มีรีบาวด์ฯสั้นๆก่อน(แล้วจึงลงต่ำ,ตามมา)ได้ แนวต้าน 1330 (หรือ 1340 – 1350) จุด {แนวตัดขาดทุน “ต่ำกว่า 1315”(แนวรับย่อย “1290 – 1280 / 1250” จุด)}
Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com
Inside Story
Key Drivers TODAY : ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ
Company Update : AOT (ถือ -ราคาพื้นฐาน 56.00)
BDMS (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 25.00)
WHA (Fully Valued -ราคาพื้นฐาน 3.11)
Turnover List Watch : ETC ติด Cash Balance ใช้สัปดาห์นี้
Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
+ สหรัฐ: เฟดเปลี่ยนแนวทางกำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อ สนับสนุนตลาดแรงงาน และเศรษฐกิจสหรัฐ
# ตลาดได้แรงหนุนจากการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดกล่าวสุนทรพจน์เมื่อวันพฤหัสบดี โดยเขาได้ประกาศการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินครั้งสำคัญ ซึ่งเฟดจะเปลี่ยนแปลงแนวทางในการกำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อ โดยจะเปิดทางให้เงินเฟ้อดีดตัวขึ้นมากกว่าเดิมเพื่อสนับสนุนตลาดแรงงาน และเศรษฐกิจสหรัฐ
+ สหรัฐ: ปธน.ทรัมป์จะลงนามเยียวยาผลกระทบทางเศรษฐกิจจากโรคโควิด-19 วงเงิน 1.3 ล้านล้านดอลลาร์
# ตลาดยังปรับตัวขึ้นขานรับที่ปรึกษาของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เปิดเผยว่า ปธน.ทรัมป์จะลงนามในข้อตกลงเยียวยาผลกระทบทางเศรษฐกิจจากโรคโควิด-19 วงเงิน 1.3 ล้านล้านดอลลาร์ หลังจากที่โครงการเงินช่วยเหลือการว่างงานฉุกเฉินหมดอายุมาเป็นเวลา 4 สัปดาห์
+ สหรัฐ: การใช้จ่ายส่วนบุคคลของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.9% ในเดือนก.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาด
# กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเรายงานว่า การใช้จ่ายส่วนบุคคลของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.9% ในเดือนก.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.5% หลังจากพุ่งขึ้น 6.2% ในเดือนมิ.ย. ขณะที่รายได้ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.ค. หลังจากลดลง 1.1% ในเดือนมิ.ย.
# ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ค. และเมื่อเทียบรายปี ดัชนี PCE พื้นฐานดีดตัวขึ้น 1.3% ในเดือนก.ค.หุ้นยุโรปปิดลบ วิตกเศรษฐกิจหลังยอดติดโควิดเพิ่ม,ข้อมูลอ่อนแอ
-ยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบวันศุกร์ วิตกเศรษฐกิจหลังยอดติดโควิดเพิ่ม, ข้อมูลเศรษฐกิจอ่อนแอ
# ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อ28 ส.ค.63 เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจหลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นในสเปน, ฝรั่งเศส และอิตาลี ขณะที่ตลาดถูกกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของเยอรมนี โดยความเชื่อมั่นของผู้บริโภคย่ำแย่ลงในเดือนก.ย. ส่วนฝรั่งเศสมีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ร่วง13.8% ในไตรมาส 2 หลังหดตัว 5.9% ในไตรมาสแรก (สำนักข่าวอินโฟเควสท์)
+ ตลาดหุ้นสหรัฐ: ดาวโจนส์ปิดบวก 161.60 จุด ขณะ S&P500-Nasdaq ทำนิวไฮต่อเนื่อง
# ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่ดีเกินคาด และหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นเวลานาน
- น้ำมัน: WTI ปิดลบ 7 เซนต์ หลังเฮอริเคน"ลอรา"ไม่กระทบอุตฯน้ำมัน
# สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (28 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับพายุเฮอริเคนลอราซึ่งสร้างความเสียหายต่อสาธารณูปโภคด้านพลังงานของสหรัฐน้อยกว่าที่คาดกันไว้
- • ทองคำ: ปิดพุ่ง $42.3 ขานรับเฟดปรับนโยบาย-ดอลล์อ่อน
# สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (28 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศปรับนโยบายเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาที่จะปล่อยให้การจ้างงานและเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นในสหรัฐ ขณะที่จะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไป และราคาทองยังได้แรงหนุนจากการที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงด้วย
ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์
-/+ เศรษฐกิจไทย: สศค.คงคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทย (GDP)ปี 2563 หดตัว -8.5%
# สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) คงคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทย (GDP)ปี 2563 หดตัว -8.5%หลังคาด GDP ครึ่งปีแรก -6.9% โดยทิศทางเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ยังชะลอตัวแต่ในอัตราที่ลดลง เพราะมีหลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ติดลบน้อยลง สะท้อนว่ามีการปรับตัวที่ดีขึ้น โดยต้องพิจารณารายละเอียดเทียบเดือนต่อเดือน
-/+ สศค. เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในเดือน ก.ค.63 แม้ว่าจะยังคงชะลอตัว แต่ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า
# ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในเดือน ก.ค.63 แม้ว่าจะยังคงชะลอตัว แต่ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า โดยเฉพาะการผลิตภาคอุตสาหกรรม การส่งออกสินค้า และการบริโภคภาคเอกชน สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจต่างๆ ที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นผลจากปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการผ่อนคลายให้สามารถดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้มากขึ้น
+ อุตสาหกรรมการบิน: นายกฯสั่งอุ้ม '7 สายการบิน' คลังระดมแบงก์รัฐให้ซอฟท์โลน-พยุงจ้างงาน '2 หมื่นคน'
# นายกฯ รับปากช่วย 7 สายการบิน จัดซอฟท์โลน 2.4 หมื่นล้าน ต.ค.นี้ ขยายเวลาลดค่าธรรมเนียมสายการบินถึง มี.ค.65ต่อลมหายใจผู้ประกอบการ "ธรรศพลฐ์" ระบุยิ้มได้ ประคองธุรกิจรอฟื้นตัวหลังโควิด ยืนยันทุกแอร์ไลน์จะไม่ปลดพนักงาน2 หมื่นตำแหน่งศบค.เล็งถกปลดล็อกการบินระหว่างประเทศ
# ผลกระทบ: เป็นบวก ให้ติดตาม “ภูเก็ตโมเดล” จะสำเร็จหรือไม่ แนะนำ ซื้อ สำหรับ AAV และ BA ถือว่าราคาหุ้นปรับลงมามากไป (Undervalue) และมีโอกาสจะฟื้นตัวได้ในปี 64 แต่ขึ้นกับการเปิดน่านฟ้าให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศจะมีความล่าช้ามากน้อยเพียงใด
+ CPALL: เผยบ.ย่อยได้รับสิทธิแฟรนไชส์ตั้งร้าน 7-Eleven ในสปป.ลาว 30 ปี
# CP ALL LAOS CO., LTD. ซึ่งเป็นบริษัทย่อยทางอ้อมของบริษัท (ถือหุ้นในสัดส่วน 99.99% โดย AlbueraInternational Limited ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้น 100%) ได้เข้าทำสัญญาแฟรนไชส์หลักสำหรับดำเนินการร้าน 7-Eleven ในประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว กับ 7-Eleven,Inc. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้บ.ย่อยได้รับสิทธิแฟรนไชส์ในการจัดตั้งและดำเนินการร้าน 7-Eleven ในประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวเป็นระยะเวลา 30 ปี โดยคู่สัญญาอาจตกลงต่ออายุสัญญาได้อีก 2 ครั้ง ครั้งละ 20 ปี
# ผลกระทบ: เป็นบวก ข้อดีเป็นการกระจายความเสี่ยง และเก็บเกี่ยวการเติบโตที่สูงของกลุ่มประเทศ CLMV จากก่อนหน้าที่รุกตลาดไปกัมพูชา คงคำแนะนำ ซื้อ ที่ราคาพื้นฐาน 81.50 บาท ซึ่งประเมินด้วยวิธี DCF
-/• KBANK: มี Overhang จากขายหุ้นซื้อคืนในตลาดหลักทรัพย์เริ่มวันนี้ ตลาดฯจะตอบรับในทางลบอีกหรือไม่
# ธนาคารมีมติจะขายหุ้นที่ซื้อหุ้นคืนช่วง 31 ส.ค.-16 ก.ย.63 ในตลาดฯ หลังมีมติจากบอร์ด แต่ย้ำคำนึงถึงภาวะตลาดจำนวนหุ้นที่ซื้อคืนทั้งสิ้น 23.93 ล้านหุ้น คิดเป็น 1% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของธนาคาร ราคาทุนที่ซื้อมาเฉลี่ย134 บาท/หุ้น เทียบราคาปัจจุบัน 86.75 บาท/หุ้น
# ผลกระทบ: ราคาหุ้นเคยปรับลงตอนต้น ส.ค.63 ติดตามว่าวันนี้ จะกลับมาลดลงอีกหรือไม่ คาดว่าจะมีความกังวลอยู่ 2ประการคือ 1) มี Selling Pressure จากการที่ธนาคารจะขายหุ้นออกมา และ 2) หากขายขาดทุนจะทำให้มูลค่างทางบัญชี(Book Value) ธนาคารลดลง และความกังวลนี้จะหมดไปหลังจบ 16 ก.ย.63 นี้ แล้ว อย่างไรก็ตามทางธนาคารมีสิทธิ์เลือกที่จะไม่ขาย ขายบางส่วน หรือขายทั้งหมด หากสมมุติให้ธนาคารขายหุ้นไปทั้งหมดแล้วขาดทุน 1,268.3 ล้านบาท หรือ0.53 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 0.6% เทียบกับราคาปิดก็ถือว่าน้อยมากๆ ทางปัจจัยพื้นฐาน คงคำแนะนำ ซื้อ KBANK ราคาพื้นฐานที่ 107.00 บาท
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web