- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 23 May 2014 16:01
- Hits: 3048
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
UOBKH แนวโน้มตลาดวันนี้ โดย ยศพณ แสงนิล, CFA : ปรับลง-เลือกหุ้นและรอหาจังหวะซื้อ
ในสถานการณ์เช่นนี้ เราแนะนำว่า Timing is everything และวิกฤติคือโอกาส แน่นอนว่าวันนี้ตลาดไทยต้องเผชิญแรงขายจากต่างชาติเข้ามากดดัน แต่สิ่งที่นักลงทุนควรทำคือ ใจเย็น รอเก็บหุ้นพื้นฐานดีในกลุ่มอาหาร โรงพยาบาล และพลังงานทดแทน เนื่องจากดัชนีไทยพร้อมที่จะรีบาวด์รับข่าวดีได้ทุกเมื่อ เห็นได้จากค่าเงินบาทที่รีบาวด์กลับมาจากเย็นวานนี้ ส่วนดัชนีต่างประเทศส่วนใหญ่ยังอยู่ในแดนบวก
แนวรับ/แนวต้าน : 1370/1400
กลยุทธ์ : เริ่มเก็บหุ้นหากดัชนีลงต่ำกว่า 1370 จุด เน้นหุ้นกลุ่มอาหาร โรงพยาบาล และพลังงานทดแทน
สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 50%: พอร์ตหุ้น 50%
นักลงทุนระยะสั้น : CPF(32.50), KCE(40)
นักลงทุนระยะยาว : BGH(17), EA(14)
จับข่าวมาเก็งกำไร
CPF : ผู้บริหารเผยว่าทุกส่วนธุรกิจยังดำเนินไปได้ด้วยดี โดยธุรกิจปศุสัตว์จะเป็นปัจจัยหลักในการสนับสนุนผลประกอบการในปีนี้ และธุรกิจกุ้งมีการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทั้งนี้บริษัทคงเป้าหมายการเติบโตของรายได้ในปีนี้ที่อย่างต่ำ 10% นอกจากนี้บริษัท ซีพีโภคภัณฑ์ ซึ่งเป็นบริษัทย่อย มีแผนจะปรับโครงสร้างบริษัทย่อยในเครือเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารงาน คงคำแนะนำ ซื้อ ด้วยราคาพื้นฐานที่ 32.50 บาท (รายละเอียดอยู่ในบทวิเคราะห์วันนี้)
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการลงทุน
ปัจจัยภายในประเทศ
- ต่างชาติเทขายหุ้น 2 พันล้าน.-บาทอ่อนค่า ดัชนีอุตสาหกรรมต่ำสุดในรอบ 58 เดือน ททท.เรียกผู้บริหารถกรับมือภาคท่องเที่ยวกระทบจากรัฐประหาร จี้เร่งตั้งรัฐบาลใหม่-กำหนดวันเลือกตั้งให้ชัดเจน ทางด้านพาณิชย์สั่งทูตแจงผู้ค้าทั่วโลกว่าไทยยังค้าขายปกติ พร้อมสั่งทุกจังหวัดสำรวจราคาสินค้า ขู่ขายเกินจริงคุก-ปรับ ขณะที่แบงก์แนะ บสย.ค้ำเอสเอ็มอีเพิ่มเป็น 50% ส่วนภาคเอกชนยังไม่ฟันธงการควบคุมอำนาจของ คสช.ว่าออกหัวหรือก้อย ขอรอดูความชัดเจนและแผนการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ลุ้นอย่าให้มีเหตุการณ์รุนแรง เร่งเลือกตั้งใหม่ เพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากต่างชาติ
ปัจจัยต่างประเทศ
+ สัญญาน้ำมันดิบ ส่งมอบเดือน มิ.ย.ลดลง 33 เซนต์ ปิดที่ 103.74 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (22 พ.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งของข้อมูลด้านการผลิตของสหรัฐได้ช่วยสกัดแรงลบของสัญญาน้ำมันดิบเอาไว้ได้ในระหว่างวัน
+ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,543.08 จุด เพิ่มขึ้น 10.02 จุด หรือ +0.06%
ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงดัชนี PMI ภาคการผลิตและยอดขายบ้านมือสอง อย่างไรก็ตาม ความอ่อนแอของข้อมูลด้านแรงงานของสหรัฐได้สกัดแรงบวกในตลาดและส่งผลให้ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน