- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 18 August 2020 17:37
- Hits: 6154
บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 18-8-2020
Market Wrap-Up
• SET ปิดวันที่ 17 ส.ค.63 ปิด -6.14 จุด อยู่ที่ 1,320.91 จุด มูลค่าการซื้อขาย 47,812 ลบ.ต่างชาติซื้อ 0.26 ลบ. สถาบันขาย 2,118 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 186 ลบ.ยอด NVDR มียอดซื้อสุทธิอยู่ที่ 1,925 ลบ.โดยมียอดซื้อหุ้น CPALL,STGT,STA,TRUE,TU และมียอดขายหุ้น MINT,NER,OSP,CBG,TMB มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 620 ลบ หุ้นที่มีมูลค่า Short สูงคือ AOT,KBANK,CBG โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 3,988 สัญญาและมียอด Long สะสมตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 93,540 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 5,177 ลบ.
• ตลาดหุ้นสหรัฐ Down Jones ปิด -0.31% , S&P500 +0.27% และ Nasdaq +1.00% หุ้นกลุ่มธนาคารปรับลดลงตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น Boeing, GE, 3M ก็ปรับตัวลดลง ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี เช่น Nvidia ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ปรับขึ้นหลังโบรกเกอร์แนะนำซื้อลงทุน ส่วนรายงานทางเศรษฐกิจนั้น NAHB เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้าน ส.ค. เพิ่มขึ้น 6 จุด อยู่ที่ 78 เป็นระดับสูงสุด ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 ปิด +0.32% ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มแหล่งแร่ หลังธนาคารกลางจีนประกาศอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบผ่านการดำเนินการทางตลาด (OMO) ขณะที่หุ้นกลุ่มเดินทางและสันทนาการปรับลดลง หลังอังกฤษใช้มาตรการกักกัน 14 วัน สำหรับนักเดินทางจากฝรั่งเศส
Market View
• ภาวะการลงทุนตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ทรงตัวรอความคืบหน้าการเจรจามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่ โดยพรรครีพับลิกันเสนอวงเงิน 1 ลล.ดอลลาร์ แต่เดโมแคคตเสนอที่ 3 ลล.ดอลลาร์ การเจรจาอาจยืดเยื้อจนกว่าสภาคองเกรสจะเปิดอีกครั้งในวันที่ 4 ก.ย. ส่วนข้อขัดแย้งสหรัฐ – จีน นั้น ก.พาณิชย์สหรัฐวานนี้ได้ยกระดับกีดกันบริษัทในเครือ Huawei ไม่ให้เข้าถึงชิปและเทคโนโลยีของสหรัฐเพิ่มอีก 38 บริษัท เป็น 152 บริษัท ส่งผลให้เช้านี้ภาวะการลงทุนในตลาดเอเชียอยู่ในทิศทางทรงตัว วานนี้ดัชนีหุ้นเซี่ยงไฮ้ปิดบวก +2 % ได้แรงหนุนหลังธนาคารกลางจีนอัดฉีดเม็ดเงิน 7 แสน ล.หยวน ผ่านเงินกู้ระยะกลาง อายุ 1 ปี ที่ 2.95% เพื่อเป็นการเสริมสภาพคล่องให้กับธนาคารพาณิชย์ ปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตาม วันพุธ รายงานการประชุมเฟด 28 – 29 ก.ค. ว่ามีจะมีมาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติมในการประชุม ก.ย. นี้หรือไม่ สำหรับดัชนีหุ้นไทยวานนี้ปิด -0.46 % สถาบันขาย -2.1 พัน ลบ. หลังสภาพัฒน์รายงาน GDP ไทย Q2/63 หดตัว -12.2% YoY ดีกว่าคาดที่ -13 % แต่เศรษฐกิจไทยเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยคาดปีนี้เศรษฐกิจไทยหดตัวราว -7.5 % โดยยังต้องพึ่งพาการอุปโภคและการลงทุนของภาครัฐที่คาดจะขยายตัว 3.6 % และ 8.6 % ตามลำดับ ขณะที่รายงานกำไร บจ. Q2/63 อยู่ที่ 1.17 แสน ลบ. -46 % YoY , +34% QoQ และครึ่งปีแรกมีกำไรเพียง 2.0 แสน ลบ. ส่งผลให้คาดการณ์ EPS ตลาดไทยปีนี้ (Bloomberg) ลดลงสู่ระดับ 59.49 บาท/หุ้น ส่งผลให้ Upside ดัชนี SET จำกัด โดยปัจจุบันเทรดที่ F/PE สูงถึง 22.2X
Daily Strategy
• ดัชนี SET ทรงตัวอยู่ในกรอบแนวรับ 1,300 – 1,310 จุด แนวต้าน 1,330 จุด ระหว่างรอการประชุม ศบศ. วันพรุ่งนี้ เพื่อออกมาตรการเสริมสภาพคล่องให้กับธุรกิจ SME , Micro SME แนะนำซื้อ CPF, HTC, CHG เป็นกลุ่ม Defensive
• PTG* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 20.00 บาท) ผลประกอบการ 2Q63 มีกำไรสุทธิ 510 ล้านบาท +20%YoY, +150%QoQ โดยหลักจากค่าการตลาดที่ปรับเพิ่มขึ้น ช่วยชดเชยผลกระทบจาก COVID-19 ในเดือน เม.ย.ก่อนที่ยอดขายจะเริ่มกลับมาฟื้นตัวในเดือน พ.ค.-มิ.ย.หลังรัฐคลายมาตรการ Lock Down ส่วนทิศทางของธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังจะทยอยฟื้นตัวต่อเนื่อง แม้ช่วง 3Q63 ที่ปกติจะเป็น Low Season แต่ปีนี้จะได้มาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวของรัฐมาช่วย ซึ่งบริษัทคาดยอดขายทั้งปีจะเติบโต 8-13% และคาดค่าการตลาดเฉลี่ยจะอยู่ที่ 1.85 บาทต่อลิตร ขณะที่ส่วนแบ่งกำไรจาก Palm Complex น่าจะปรับตัวดีขึ้นตามราคา CPO ที่ฟื้นตัว อิงจาก Bloomberg คาดกำไรปี 63-64 ที่ 1.5 พันล้านบาท และ 1.7 พันล้านบาท -2.4%YoY และ +13.2%YoY โดยบริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.20 บาทต่อหุ้น ขึ้น XD 26 ส.ค
• CPF (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 39.25 บาท) รายงานผลประกอบการ Q2/63 กำไรสุทธิอยู่ที่ 6,029 ลบ. (+46.88% YoY, -1.35% QoQ) คาดQ3/63 จะเติบโตขึ้นจากปัจจัยหนุนเรื่องราคาเนื้อสัตว์ที่ยังคงมีระดับราคาที่สูงในต่างประเทศและเริ่มเห็นการฟื้นตัวภายในประเทศ โดยสำหรับในประเทศไทยความเคลื่อนไหวของราคาหมู และราคาไก่มีแนวโน้มที่ดีที่ 79-80 บาท/กก. และ 34 บาท/กก. ตามลำดับ(ปรับตัวขึ้นจากราคาเฉลี่ย Q2/63 ที่ 66 บาท/กก. และ 29.7 บาท/กก.) โดยได้ผลพวงจากความกังวลของการระบาด Asian Swine Flu ทำให้มีรายย่อยในประเทศไทยเลิกประกอบธุรกิจเลี้ยงหมู ประเมินกำไรสุทธิปี 63 และ 64 อยู่ที่ 21,324 ลบ. (+15.54%YoY) และ 22,542 ลบ.(+5.71%YoY) ตามลำดับ
Daily Key Factors
Oil Update (+) WTI Futures ก.ย.ปิด +$0.88 ดอลลาร์ อยู่ที่ $42.89 /บาร์เรล Brent Futures ต.ค. ปิด +$0.57 ดอลลาร์ อยู่ที่ $45.37 /บาร์เรล ได้แรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง และกลุ่มโอเปกพลัสได้ปฏิบัตตามข้อตกลงลดกำลังการผลิตมากถึง 97 % ใน ก.ค. ขณะทีบริษัทน้ำมันของจีนมีแนวโน้มจะนำเข้าน้ำมันดิบจากสหรัฐอย่างน้อย 20 ล.บาร์เรล ใน ส.ค. – ก.ย. นี้
Gold Update (+) Gold Futures ธ.ค.ปิด +48.90 ดอลลาร์ อยู่ที่ 1,998.70 ดอลลาร์/ออนซ์ ได้แรงหนุนจาก Dollar Index อ่อนค่า -0.25% อยู่ที่ 92.8591 ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับลดลง ส่งผลให้เม็ดเงินไหลเข้าทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
Fund Flow (-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -1.52 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นไทย +0.01 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโด +8.52 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ทรงตัวอยู่ที่ 31.11 บาทดอลลาร์สหรัฐ
(+) ดัชนี BDI ปิด +3 จุด อยู่ที่ 1,598 จุด
(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 0.678 % , ส่วนอายุ 2 ปี เพิ่มขึนอยู่ที่ 0.153 %
(+) ค่าเงินหยวน off-shore แข็งค่าอยู่ที่ 6.9318/USD
(-) วานนี้สหรัฐรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้น 40,596 ราย รวมอยู่ที่ 5,612,011 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 589 ราย รวมอยู่ที่ 173,716 ราย ( Worldometers )
Economic Calendar
สัปดาห์ที่3 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม,ยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์
17 ส.ค. สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) แถลงตัวเลข GDP ไตรมาส 2/63
19 ส.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยแพร่รายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ฉบับย่อ
สัปดาห์ที่4 กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.)แถลงดัชนีอุตสาหกรรม
ต่างประเทศ
18 ส.ค. US รายงานจำนวนใบอนุญาตก่อสร้าง ( ก.ค.)
19 ส.ค. EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) ( ก.ค.)
US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
20 ส.ค. US รายงานการประชุมของ FOMC
US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
US ดัชนีภาคการผลิตจากธนาคารกลางรัฐฟิลาเดลเฟีย ( ส.ค.)
EU ธนาคารกลางยุโรปจะตีพิมพ์รายงานการประชุมนโยบายการเงิน
CN อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดีของธนาคาร PBoC
21 ส.ค. US ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) ( ก.ค.)
Theme Strategy
(1) กลุ่ม Defensive Stock BCPG*, BGRIM*, BPP*, GPSC*, GULF*, ADVANC, INTUCH*
(2) กลุ่มที่อิงการบริโภคในประเทศ CPALL, CBG*, ICHI*, OSP*
(3) กลุ่มรับประโยชน์ ศก.ชะลอ NPL เพิ่ม สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อจำนำทะเบียน BAM*, CHAYO*, JMART*, JMT*, SINGER*
(4) กลุ่มส่งออกอาหารเงินบาทอ่อนค่า CPF*, GFPT*, TFG*, TU*, STA*
(5) กลุ่มรับประโยชน์จากต้นทุนน้ำมันอยู่ในระดับต่ำและการคลาย Lockdown TOP, PTTGC, IVL*, PRM*, PTG*, TASCO*
(6) กลุ่มรับประโยชน์จากปลดล็อก พ.ร.บ.งบประมาณ STEC, SEAFCO*, PYLON*
*หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio July 2020: INTUCH*, JKN*, TVO*, TASCO*, CPF*, BCH*
Analysts
Apichai Raomanachai No. 002939
Nopporn Chaykaew No. 043964
Piyatat Pasommanatsakul No. 081741
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web