- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 17 August 2020 13:21
- Hits: 7559
บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 17-8-2020
รอบด้านตลาดหุ้น
สาระสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์
CPF - แม้เผชิญวิกฤต คาดวงจรธุรกิจหมูขาขึ้นจะต่อเนื่องไปจนถึงอย่างน้อยปี 2021
GULF - เสริมทัพด้วยการเพิ่มทุนหนุนเข้าซื้อกิจการใหม่ เราเชื่อเพิ่มทุนส่งผลบวกมากกว่าลบ
OSP - ยอดขาย C-Vitt ปี 2020 มาแรง ผู้บริหารมั่นใจสร้างกำไร double-digit ใน 3Q20
IRPC - เดินหน้าลดต้นทุนการดำเนินงาน และแสวงหาโอกาสลงทุนใหม่
BLA - เปิดขาย 3 ผลิตภัณฑ์ใหม่ คาดหนุนยอดขาย 2H20 สูงขึ้นกว่า 1H20
RS - ธุรกิจสื่อเริ่มฟื้นตัว และคาดรายได้จากการขายสินค้าขยายตัวต่อเนื่อง ใน 3Q-4Q20
PTTGC - แนวโน้ม 2H20 ฟื้นตัว รวมทั้งอัพไซด์กำไรจากการลงทุนใหม่จะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นสูงขึ้น
CBG - แนวโน้มปี 2021 ผู้บริหารยังคงมุ่งเน้นยอดขายเติบโต double-digit เรามองกำไรทำ new high ใน 3Q20 ได้อีกครั้ง
ปฏิทินหุ้น
การจ่ายปันผลระหว่างกาล
การจ่าย Warrants
การเพิ่มทุน
Market Statistics Daily
รายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์
Short Sell
Warrants
สรุปผลตอบแทนหลักทรัพย์
Tactical Port โดยคุณวิกิจ ถิรวรรณรัตน์
Model Port โดยคุณปรเมศ ทองบัว
Technical Port โดยคุณธนรัตน์ อิศรกุล
Quantitative Port โดยคุณชาญณรงค์ มีชัยเจริญยิ่ง
ภาพตลาดและแนวโน้ม
Market wrap & Outlook
เมื่อวานศุกร์ดัชนีฯ ดิ่งลงแรงหลุดแนวรับที่คาด นำลงด้วยหุ้น ธนาคาร พลังงาน-ปิโตร โรงแรมท่องเที่ยว BBL KBANK SCB PTTGC PTTEP AOT MINT ส่วนหุ้นบวกสวนตลาด ได้แก่ JMART MTC BJC UTP DOHOME
วันนี้คาดดัชนีฯ Sideways 1320-1340 จุด ด้วยปริมาณการซื้อขายที่ลดลงอีก กลยุทธ์ คาดตลาดหุ้นไทยจะไม่สะทกสะท้านไปกับตัวเลข GDP 2Q20 ของสภาพัฒน์ที่ตลาดคาดว่าจะ ติดลบ -13.7% y-y
กลยุทธ์ระยะสัปดาห์ คาดหุ้นไทย แกว่งในกรอบ 1310-1350 จุด มุมมองกลยุทธ์ อิงจากสังเกตการณ์-พฤติกรรมราคาหุ้น จากการรายงานงบ 2Q20 ตลอดฤดูกาล
(1) เรายังคงเห็นแรงซื้อหุ้นเมื่องบออก (แม้งบจะมีขาดทุน) ยกตัวอย่าง AU TU MINT SPALI AAV PSL AOT
(2) แรงขายทำกำไรระยะสั้น แต่แล้วมารับคืน เมื่องบออกมาดี ยกตัวอย่าง COM7 JMART UTP JMT
(3) ส่วนหุ้นบูลชิพใหญ่ ยังคงแกว่งออกข้างออก-ไปในทางลง เช่น ธนาคาร ปิโตรฯ โรงกลั่น พลังงาน โรงไฟฟ้า
จากภาพใหญ่ตลาดที่เราคาดแกว่งออกข้าง และ หุ้นบูลชิพใหญ่ยังนิ่งตามข้อ (3) กลยุทธ์แนะนำ คงเน้นการเลือกเล่นหุ้นไปที่กลุ่ม
(1.) High growth กำไรเติบโตดีต่อเนื่องใน 3Q20 COM7 JMART JMT CHAYO TQM
(2.) Turn-around stocks จากงบติดลบ 2Q20 พลิกมาเป็นกำไรใน 3Q20 CRC SPRC VGI PLANB MINT
(3.) หุ้น Earnings upward revision คาดการณ์จาก Key Message ที่จะได้จาก Analyst meeting และ Opportunity day ในสัปดาห์นี้ (ตาราง Opp.day อาจมีการเปลี่ยนแปลง)
What to watch
(+) วันพุธ US FED minutes (กค.) คาดจะให้มุมมอง New innovation tool และ แผนทางการเงินต่อการหนุนเศรษฐกิจสหรัฐฯในปีหน้า แทนการแถลงผ่านประชุม Jackson hole ที่ถูกยกเลิกไปในปีนี้ เพื่อเลี่ยงการแพร่เชื้อโควิด-19
(+) วันนี้ GDP ไทย ตลาดคาด 2Q -13.7% y-y จาก -1.8% y-y
(+) การเจรจาระหว่างทำเนียบขาวและสภาคองเกรสเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์
(0) ฝรั่งเศส ประกาศมาตรการกักตัว 14 วัน ตอบโต้อังกฤษที่บังคับใช้กับฝรั่งเศสก่อนหน้านี้ / ส่งผลหุ้นกลุ่ม "Leisure" ในตลาดหุ้นยุโรปปรับลงแรงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เพราะวิตกเสียโอกาสในการสร้างรายได้ช่วงฤดูท่องเที่ยวในยุโรป (Summer)
(+) FTSE all world index ซึ่งจะประกาศผลวันที่ 21 สค.นี้ คาด CRC CBG ติด
(*) หุ้นขึ้น XD รับปันผล 19 สค. [email protected] [email protected] [email protected] 20 สค. [email protected] [email protected] 21 สค. [email protected] TQM@1>
หุ้นแนะนำ
CRC ถ้าวันนี้ลงแรง เพราะผลการดำเนินงาน 2Q20 ที่แย่กว่าคาด แนะซื้อสวน เพราะ 3Q เราคาดจะพลิกมีกำไรแบบ V Shape และมีลุ้นติด FTSE all world index ประกาศศุกร์นี้
SPRC กำไรดีกว่าคาด
รายงานวันนี้
สรุปงบวันนี้
วันนี้หุ้นที่ BLS cover มีงบออก 21 บริษัท กำไรดี/ดีกว่าคาด 6 บริษัท BTS SVI CHG SAWAD CENTEL BGRIM กำไรตามคาด 5 บริษัท EGCO BCH BEC CK PYLON ส่วนที่กำไรแย่/แย่กว่าคาด 10 บริษัท TRUE TVO BA AMATA AH SPRC AWC CRC STEC SEAFCO
SAWAD กำไร 982 ล้านบาท กำไรดีกว่าตลาดคาด 6% แต่กำไรเป็นไปตามเราคาด
SVI กำไร 109 ล้านบาท และกำไรหลัก 162 ล้านบาท กำไรสูงกว่าเราและตลาดคาด 61% และ 84% ตามลำดับ เพราะรายได้ดีกว่าคาด และค่าใช้จ่ายน้อยกว่าคาด
BTS กำไร 443 ล้านบาท ผลประกอบการดีกว่าเราคาด และดีกว่าตลาดคาด 143% เพราะรายได้ E&M มากกว่าคาด
CENTEL ไตรมาส 2Q20 ขาดทุน 465ลบ ขาดทุนน้อยกว่าเราและตลาดคาดอย่างมีนัยเพราะคุมค่สใช้จ่ายได้ดีมาก
CRC ขาดทุนสุทธิ 2.6พันลบ ขาดทุนหลัก 2.9พันลบ สูงกว่าเราคาดที่ 2.1พันลบ เนื่องจาก 911ด้อยค่าสินค้าที่มากกว่าภาวะปกติ
AWC ขาดทุน 877ลบ 2Q20 ต่ำกว่าทุกคาดการณ์ ... แนวโน้ม 3Q20 ก็จะขาดทุนน้อยลง
CHG กำไร 155ลบ บวก 14% YoY แต่ลดลง 17% QoQ สูงกว่าเราคาด 11% และตลาด 28% เพราะ GMดีกว่าคาด
STEC กำไรสุทธิ 181 ล้านบาท ลดลง 32%YoY และ 14%QoQ กำไรแย่กว่าเราคาดกว่าคาด 27% และต่ำกว่าตลาดคาด 36% สาเหตุหลักเกิดจากอัตรากำไรขั้นต้นที่แย่กว่าคาด โดย STEC รายได้อยู่ที่ 9.0 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 23%YoY ทรงตัว QoQ ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นยังต่ำเพียง 3.2% ลดลงจาก 5.2% ใน 2Q19 และลดลงจาก 4.1% ใน 1Q20
CK กำไรสุทธิ 64 ล้านบาท กำไรเป็นไปตามที่เราและตลาดคาด ผลประกอบการหดตัวลง 93%YoY แต่พลิกจากที่ขาดทุนใน 1Q20 รายได้งานก่อสร้างยังคงอยู่ในระดับต่ำที่ 3.97 พันล้านบาท ลดลง 28%YoY และ 26% QoQ ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมหดตัวเหลือเพียง 45 ล้านบาท ลดลง 82%YoY แต่ฟื้นตัวขึ้น 193%QoQ เพราะ CKP ขาดทุนลดลงจาก 1Q20 นอกจากนี้ SG&A ที่ 491 ล้านบาท ลดลง 34%YoY และ 11%QoQ
SEAFCO กำไรที่ 72 ล้านบาท ลดลง 30%YoY และ 24%QoQ กำไรต่ำกว่าคาดเล็กน้อยที่ 85 ล้านบาท ยอดรายได้อยู่ที่ 732 ล้านบาท ลดลง 6%YoY และ 16%QoQ เป็นไปตามคาด ชะลอตัวลงเพราะว่ามีการปิดงานและขนย้ายเครื่องจักร ทำให้ช่วงที่ย้ายหน้างานไม่มีการรับรู้รายได้ อัตรากำไรขั้นต้นยังอ่อนตัวลงไปในระดับ 18.4 % ลดลงจาก 2Q19 ที่ 22%
PYLON รายงานกำไร 38 ล้านบาท ลดลง 17%YoY และ 64%QoQ กำไรเป็นไปตามที่เราและตลาดคาด รายได้ 263 ล้านบาท ลดลง 4%YoY และ 64%QoQ อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 27.4% เพิ่มขึ้นจาก 26.8% ใน 2Q19 และ 21.1% ใน 1Q20
สาระสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์
CPF
ประเด็นหลัก: ผู้บริหารมองว่าการกลับมาเลี้ยงหมูในเวียดนามเพิ่มขึ้นยังคงยาก และคาดจะกลับมาเร็วสุดน่าจะเป็นกลางปี 2021 และแม้ว่า COVID-19 จะส่งผลต่อการผลิตของธุรกิจไก่และกุ้งในอินเดีย แต่ผู้บริหารมองว่าผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน 1H20 และกลับมาฟื้นตัวใน 2H20 ด้านธุรกิจกุ้งไทย กำไรคาดปรับตัวดีขึ้นจากการปรับปรุงการเลี้ยงและการผลิต และเน้นทำตลาดในประเทศมากขึ้น
คำแนะนำพื้นฐาน: เรายังคงคาดใน 3Q20 เพิ่มขึ้นก้าวกระโดด ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งไตรมาสที่กำไรหลักยังเติบโตในระดับสูงจากราคาหมูไทยที่ฟื้นตัวและราคาหมูเวียดนามที่ยืนในระดับสูง และราคาเนื้อสัตว์ทุกประเทศที่ฟื้นตัวจากดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากคลายล็อกดาวน์ เรายังคงแนะนำ "ซื้อ" ด้วยราคาเป้าหมาย 38 บาท
GULF
ประเด็นหลัก: COVID-19 ทำให้หลายบริษัทขาดสภาพคล่อง และนำโครงการบางส่วนออกมาขาย ด้วยเหตุนี้ GULF จึงมองเห็นโอกาสในการเข้าซื้อโครงการต่างๆ ในราคาที่ถูกจึงได้มีการเสนอเรื่องการเพิ่มทุน ทั้งนี้ GULF ยังอยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนในหลายโครงการ เช่น โครงการ LNG-to-power และพลังงานทดแทนในประเทศเวียดนาม โครงการพลังงานน้ำในประเทศลาว โครงการโครงสร้างพื้นฐาน และโครงการพลังงานทดแทนในประเทศโอมาน ไต้หวัน และทวีปยุโรป
คำแนะนำพื้นฐาน: เรามองว่าการเพิ่มทุนในครั้งนี้ส่งผลบวกมากกว่าลบ เนื่องจากทำให้ GULF มีเงินสดมากขึ้นพร้อมจะซื้อของถูกในตลาดโลก ดังนั้นราคาหุ้นที่ถูกกดดันจากประเด็นเรื่องการเพิ่มทุนจึงเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผล และเป็นโอกาสในการเข้าซื้อหุ้น GULF ในราคาถูก โดยเรายังคงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 45 บาท
OSP
ประเด็นหลัก: แผนธุรกิจปี 2020 ผู้บริหารยังคงเป้าหมายรายได้และกำไรเติบโต double-digit ใน 2H20 โดยเน้นลดต้นทุน-ค่าใช้จ่ายมากกว่าปกติ หลังจากการเพิ่มกำลังการผลิต C-Vitt ยอดขายก็เติบโตเท่าตัว ในปี 2020 อีกทั้งยังได้ประโยชน์จากภาษีสรรพสามิต ด้านกลยุทธ์การผลิต โรงงานที่ไทยและพม่าเตรียมพร้อมรองรับอัตราการเติบโตของบริษัทในอนาคต 3-4 ปี และด้วยสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งทำให้บริษัทจ่ายเงินปันผลมากกว่านโยบายที่ไม่ต่ำว่า 60% ได้
คำแนะนำพื้นฐาน: เราคาดราคาหุ้นจะค่อยๆ ปรับขึ้นจนกว่าสัญญาณบวกอย่างมีนัยซึ่งเราคาดจะมาในต้นเดือน ต.ค. ที่ตลาดจะเริ่มมีความมั่นใจถึงกลับมาของกำไรที่จะขยายตัวแบบ double-digit ทั้ง YoY และ QoQ ได้ใน 3Q20 เราคงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 48 บาท
IRPC
ประเด็นหลัก: IRPC เริ่มดำเนินโครงการลดต้นทุนการดำเนินงาน คาดลดค่าใช้จ่ายได้ 200-300 ล้านบาท ในปี 2021 และเพิ่มขึ้นเป็น 1 พันล้านบาทในปี 2025 ทั้งนี้บริษัทกำลังหาโอกาสลงทุนในผลิตภัณฑ์ High-value added/specialty ในด้านสถานะทางการเงิน บริษัทมีเงินกู้ที่จะครบกำหนดชำระใน 2H20 ราว 4.7 พันล้านบาท ซึ่งบริษัทได้เตรียมวงเงินกู้ สำหรับการรีไฟแนนซ์ไว้แล้ว
คำแนะนำพื้นฐาน: ผลดำเนินงานหลักที่ดีขึ้นและมูลค่าหุ้นน่าสนใจ คาดว่าจะหนุนราคาหุ้น อย่างไรก็ตามการที่บริษัทเป็นผู้ผลิตที่มีต้นทุนสูงอาจจะจำกัดอัพไซด์ของกำไรในระดับหนึ่ง สำหรับกลุ่มโรงกลั่น เราชอบหุ้น TOP มากกว่า เนื่องจากกำไรมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าหากค่าการกลั่นฟื้นตัว
BLA
ประเด็นหลัก: กิจการจะขายผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นหลังเปิดเมืองร่วมกับ TISCO ซึ่งจะทำให้กิจการมียอดขายครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรก สำรองพิเศษลดลงในครึ่งปีหลัง หลังจากที่กิจการปรับปรุงสำรองเผื่อความผันผวน กิจการมี life policy จะครบกำหนดจำนวน 1 หมื่นล้านบาทปีนี้ ทั้งนี้กิจการมีแผนออก recapture program เพื่อดึงลูกค้ากลับมาและหาลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น
คำแนะนำพื้นฐาน: เรามองว่ากิจการเน้นขายผลิตภัณฑ์เพิ่มครึ่งปีหลังทำให้รายได้และกำไรน่าจะดีกว่าครึ่งปีแรกและสำรองรายการพิเศษลดลงจากครึ่งปีแรก และอาจมีอัพไซด์จากประมาณการเรา เราคงคำแนะนำ "ถือ"
RS
ประเด็นหลัก: บริษัทคาดรายได้จากการขายสินค้าจะปรับตัวขึ้นต่อเนื่องใน 3Q-4Q ธุรกิจสื่อเริ่มเห็นการฟื้นตัวกลับมา +30% ในขณะที่ต้นทุนจะเพิ่มเพียงเล็กน้อยจากรายการมวย ในช่วงครึ่งปีหลังยังมีดีลขายคอนเทนต์อีกโดยคาดรายได้ 50 ล้านบาทและน่าจะมีคอนเสิร์ต Kamikaze ปิดท้ายปี สำหรับ 2H20 คาดจะปิดดีล M&A ได้อย่างน้อย 1 ดีล ซึ่งหากเป็นดีลที่เป็น Strategic partner จะมีมูลค่ากว่า 1 พันล้านบาท
คำแนะนำพื้นฐาน: ในช่วงภาวะวิกฤต RS ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถในการรักษาระดับการทำกำไร และการเติบโต เรายังคงเชื่อว่ากำไรจะสามารถเติบโตได้ต่อเนื่องใน 2H20 ซึ่งจะหนุนให้กำไรทั้งปีขึ้นทำระดับสูงสุดใหม่ เรายังคงคำแนะนำ "ซื้อ"
PTTGC
ประเด็นหลัก: ราคาและส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ใน 2H20 อาจมีอัพไซด์จากความล่าช้าของการเริ่มดำเนินงานของกำลังผลิตใหม่ อย่างไรก็ตามสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ยังคงเป็นปัจจัยที่ต้องจับตามอง เนื่องจากอาจส่งผลกระทบเชิงลบต่ออุปสงต์ปิโตรเคมี นอกจากนั้น บริษัทกำลังหาโอกาสในการทำ M&A กิจการที่เป็น High value สถานะทางการเงินยังคงแข็งแกร่งจะทำให้บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจและลงทุนในโครงการต่างๆ ได้อย่างไม่มีปัญหาสภาพคล่อง
คำแนะนำพื้นฐาน: แนวโน้ม 2H20 ที่ปรับตัวดีขึ้น รวมทั้งอัพไซด์ต่อประมาณการกำไรจากการลงทุนใหม่ในอนาคต น่าจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นได้ต่อไป นอกจากนั้นมูลค่าหุ้นยังคงถูก เราจึงยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 55 บาท"
CBG
ประเด็นหลัก: บริษัทคงแผนธุรกิจปี 2021 เป้าหมายรายได้รวมเติบโต 20% สำหรับ 3Q20 ธุรกิจในประเทศยังคงไปได้สวย หนุนจากยอดขายของทั้ง energy drink, C-Lock และรับจ้างจัดจำหน่ายบุคคลภายนอก แต่ยอดส่งออกมีความเสี่ยงหดตัวราว 5-10% QoQ ทั้งนี้การเปิดตลาดที่เวียดนามเลื่อนไปเนื่องจากปัญหา COVID-19 สำหรับ ICUK ขาดทุนน่าจะน้อยกว่าคาดเดิม เนื่องจากลดค่าใช้จ่าย
คำแนะนำพื้นฐาน: เรายังคงมุมมองเดิมที่กำไร 3Q20 จะสามารถทำ new high ได้อีกครั้ง เพียงแต่อัตราการเติบโตของกำไรอาจจะไม่ตื่นเต้นเหมือนใน 2Q20 ในระยะสั้นเราแนะนำให้นักลงทุน "รอซื้อตอนย่อ"
หุ้นมีข่าว
BGRIM
+ BGRIM ไม่ทำให้ผิดหวัง Q2/2563 กำไรพุ่ง 62.5% ทะลุ 1,017 ล้านบาท จากการขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากการ COD โรงไฟฟ้าใหม่ และการเข้าซื้อกิจการ รวมถึงการเพิ่มขึ้นของลูกค้านิคมอุตสาหกรรม พร้อมเดินหน้าก่อสร้างโรงไฟฟ้าตามแผน เคาะจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.15 บาทต่อหุ้น (ที่มา ทันหุ้น)
INTUCH
+ INTUCH แย้มอยู่ระหว่างร่วมลงทุนภายใต้โครงการอินเว้นท์หลายบริษัท ตั้งเป้าปิดดีล 3-4 บริษัท ในช่วงครึ่งหลังปีนี้ อัดงบลงทุนปี 63 มากกว่า 200 ล้านบาท จากที่วางไว้ 200 ล้านบาท/ปี (ที่มา ข่าวหุ้น)
THCOM
+ THCOM มั่นใจผลงานปี 63 พลิกมีกำไรแน่นอน หลังมีรายได้ใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มเติม แย้มอยู่ระหว่างศึกษา 2 แนวทาง สร้างดาวเทียมดวงใหม่แทนไทยคม 4 เร่งเจรจารัฐบาลอินเดียขายเหมาคาปาซิตี้ไทยคม 8 หวังได้ข้อสรุปภายในปี 63 (ที่มา ข่าวหุ้น)
Trend Forecasting | 17 สิงหาคม 2563
SET Index ปิด 1,327.05 (-0.46%) มูลค่าการซื้อขาย 5.8 หมื่นล้านบาท
หัวข้อ: ค้นหาโซนรับอยู่บริเวณใด....
กลยุทธ์เทคนิค:
ดัชนี 120-นาที ทะลุไปได้ไม่นานแล้วย่อ แถมลงแรงซะด้วยผิดคาด! มองโซนแนวรับมองไว้ 2 จุดคือ แถวนี้เลย 1,325 จุด หรือ ลงไปสู่จุดเดิม 1,300 น่าจะทำให้ RSI ลงมาถึงเขต Oversold ลุ้นเด้ง...กลับมาที่กลุ่มอุตฯ แบงค์ & ขนส่ง ทรงยังดีอยู่หรือไม่! ติดตามหน้าถัดไปครับ+++
มุมมองทางเทคนิค:
ดัชนีกลุ่มแบงค์ ทะลุแล้วลง…ย้อนกลับไปรอบที่แล้ว ทรงคล้ายๆกันทะลุก่อนแล้วย่อ แต่วันถัดไปต้องดีดกลับ...สรุปหุ้นแบงค์วันนี้ต้องเด้งกลับห้ามลงต่ำเด็ดขาด...ส่วนขนส่งย่อลง แต่ยังปิดเหนือเส้นแนวโน้ม ขณะที่ MACD ทรงลุ้นไปต่อ...สรุปทั้ง 2 กลุ่มเลือกถือต่อ ขณะที่ภาพตลาดคาดว่าจะไปลงลึก มองแย่สุดๆก็คือ 1,300 จุด ไม่หลุด+++
วิธีการเลือกหุ้น:
แนะใช้เครื่องมือทางเทคนิคหาสัญญาณกลับตัวระยะสั้น อาทิเช่น เส้นค่าเฉลี่ย RSI, MACD, Bollinger band , Stochastic พ่วงด้วยเครื่องมือปิดความเสี่ยงหรือจุด Trailing stop
โมเดลพอร์ตทางเทคนิค:
สรุปผลตอบแทนการลงทุน Year to date +9% สูงกว่าตลาดที่ -14%
*Addition(หุ้นเข้า):TU
*Deletion(หุ้นออก): TFG (หลุดแนวรับ), BGRIM
หุ้นคงเหลือ: ADVANC, PTTGC, LPN, WORK, HMPRO, BBL ,BEM
ธนรัตน์ อิศรกุล นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์และปัจจัยทางเทคนิค
[email protected] +662-618-1334
Track with Technical: "แผนแก้เกมส์...หุ้นยังถือต่อได้หรือไม่"
BBL
มุมมอง ลุ้นเด้งกลับ
แนะนำ ย่อซื้อเพิ่ม
โซนซื้อ 105 - 106
เป้าหมาย 110/115
Stop loss < 105
LPN
มุมมอง พักเพื่อไปต่อ
แนะนำ ซื้อเพิ่ม
โซนซื้อ 5.4
เป้าหมาย 6/6.2
Stop loss < 5.2
TU
มุมมอง ลุ้นทะลุต้านเปลี่ยนขาขึ้น
แนะนำ ซื้อ
โซนซื้อ 13.8 - 14
เป้าหมาย 16
Stop loss < 13.7
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web