# ภาวะตลาดและปัจจัยก่อนหน้า : SET วานนี้สหรัฐฯขัดแย้งจีนรุนแรงขึ้น ปิด -2.39 จุด ณ 1322.01 จุด มูลค่าซื้อขายบาง 37 พันลบ. ดัชนีเคลื่อนไหวกรอบแคบ ยังกังวลสหรัฐ-จีนขัดแย้ง ผู้ติดเชื้อทั่วโลกสูงแม้ตัวเลขจ้างงานฯออกมาดีกว่าคาด รอประกาศ MSCI และผลประกอบการ 2Q63 ของบจ.ซึ่งส่วนใหญ่ออกมาปรับลง ตามการล็อกดาวน์แต่มีเก็งกำไรหุ้นเฉพาะตัว เช่น CBG,NER,UPT,AJ ซื้อสุทธิสูง-รายย่อย ขายสุทธิมาก-สถาบัน YTD ต่างชาติขาย 231 พันลบ.

 # ปัจจัยและกลยุทธ์: SET มีโอกาสรีบาวด์สหรัฐมีโอกาสบรรลุม.กระตุ้นเศรษฐกิจ น้ำมันขึ้น ตัวเลขเศรษฐกิจจีนดีปัจจัยบวกคือรมว.คลังสหรัฐคาดรัฐบาลและสภาฯมีโอกาสบรรลุม.กระตุ้นเศรษฐกิจเร็วสุดในสัปดาห์นี้ตัวเลขการรับสมัครงานและอัตราเปิดรับสมัครงาน ก.ค.เพิ่มขึ้นดีดัชนี PPI จีน ก.ค.ติดลบน้อยลง ส่งสัญญาณฟื้นตัว ดาวโจนส์+358 จุด ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้น ตลาดหุ้นเพื่อนบ้านและดาวโจนส์ Future เช้านี้ปรับขึ้น และดัชนีความกังวล Vix ต่ำที่ 22.1 จุด ด้านปัจจัยลบคือจีนจะตอบโต้สหรัฐด้วยการคว่ำบาตรนักการเมืองสหรัฐ และทองคำยังปรับขึ้นได้ดีทำให้ตลาดหุ้นน่าสนใจน้อยลง กลยุทธ์ระยะสั้น เข้าไว-ออกไว เล่นรอบ คาดดัชนีซื้อ-ขายในกรอบ 1310-1340 จุด

ด้านกลยุทธ์ระยะกลาง-ยาว เนื่องจากเศรษฐกิจโลกและไทยยังย่ำแย่ ติดตามประกาศ GDP 2Q63 จากสภาพัฒน์ฯ 17 ส.ค.นี้จะลงลึกเพียงใด ความเสี่ยง หมดเงินเยียวยา หนี้เสียสูง แต่มีสัญญาณการฟื้นตัว หลังคลายล็อกดาวน์วัคซีน-ยาคืบหน้า และไตรมาส 2 เป็นจุดต่ำสุดของปีแล้วจึงแนะนำทยอยถอยรับหลักทรัพย์พื้นฐานดีหุ้นพลังงานช่วงนี้ผันผวนแต่แนะนำซื้อPTT,PTTEP,TOP,BGRIM.GPSC,BCP วัสดุก่อสร้างพื้นฐานดี-TASCO,DRT หุ้นกลุ่มการแพทย์เข้าไฮซีซันBCH,BDMS,CHG,RJH,RPH

หุ้นDefensive-ADVANC,DTAC,CPF,CHG,OSP หุ้นปันผลสูง-KKP,TISCO,LH เติบโต -ฟื้นตัวดี- AP,MTC,PTL,TASCO,TU, STI ราคาเนื้อสัตว์ดี- CPF ขนส่ง-กลับมาฟื้นตัวเร็ว BEM หุ้นกลุ่ม REITs & IFFs ปันผลสูง ดอกเบี้ยในตลาดต่ำ- DIF,AIMIRT,IMPACT กลุ่มธนาคารไม่สดใส ยังต้องตั้งสำรองECL มากใน 2H63 แต่ระยะสั้นระวังงบ 2Q63 ไม่ดีคือ BDMS,BTS,CPALL,CK,VGI,PF แนวรับคือ 1310-1300 จุด และ แนวต้าน 1335-1345 จุด ส่วนตัดขาดทุนต่ำ

กว่า 1300 จุด ปัจจัยน่าติดตามคือ-12 ส.ค.63 MSCI ประกาศการถ่วงน้ำหนักหุ้นไทย และหลักทรัพย์เข้า-ออก มีผล 1 ก.ย.63 ความเสี่ยงถูกลดน้ำหนัก เพราะ SETปรับตัวลง -15 ส.ค.63 สหรัฐ-จีน เจรจาการค้า โทนเป็นลบ ขัดแย้งหลายเรื่อง จีนซื้อสินค้าน้อยกว่าตกลงไว้ -17 ก.ย.63 สภาพัฒน์ประกาศ GDP 2Q63 มีแนวโน้มจะแย่กว่า -12% (ตอนต้มยำกุ้งปี 40) DBS คาด -13% แต่ Consensus เฉลี่ยเป็น -11%

 # Stock Pick Today : RJH กำไรสุทธิ 2Q63 แข็งแกร่ง 65 ล้านบาท (+34% y-o-y,+22% q-o-q) แรงผลักดันมาจากอัตรากำไรที่ทำได้สูงแนวโน้มธุรกิจมีความสดใส ฟื้นตัวได้ในครึ่งปีหลังสู่ภาวะปกติก่อนเกิดโควิด-19 และการประเมินมูลค่าหุ้นพบว่าน่าสนใจที่สุดในกลุ่ม P/E ปี 63 เป็น 20 เท่า เทียบกับกลุ่มที่ 30 เท่าจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.40 บาท ยิลด์

1.8% บาท XD 24 ส.ค.63 คาดกำไรปีนี้ทรงตัว และปีหน้า +14% y-o-y เป็นผู้นำรพ.ที่อยุธยา ฐานะเป็นเงินสดสุทธิกำหนดราคาพื้นฐาน 28.00 บาท ประเมินด้วยวิธี DCFการวิเคราะห์ทางเทคนิค: สั้น...เป็นลบ แต่อาจมีรีบาวด์ช่วงสั้นๆ ยังคงให้น้ำหนักกับการลงในระยะกลาง ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick & Indicators เป็นลบ {“ปิดลบ”ใต้“SMA10วัน” (โดยมี“โครงสร้างขาลง – ระยะกลาง”กดดัน)} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯวันนี้“แกว่งลง”เป็นหลัก แต่“ค่าบวก”(มี“แนวรับย่อย1300+/-”เดิม“หนุน”) จะช่วยให้

มีรีบาวด์ฯสั้นๆก่อน(แล้วจึงลงต่ำ,ตามมา)ได้

Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com