- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 10 August 2020 17:29
- Hits: 3851
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 10-8-2020
---กลยุทธ์วันนี้---
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัวในแดนลบโดยมีแรงขายออกมาหนาแน่นในช่วงบ่ายและทำให้ดัชนีปิดลบอีก 8.82 จุด ณ สิ้นวัน โดยยังไร้ปัจจัยบวกใหม่เข้ามาหนุนและรอดูตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ กลุ่มที่ถ่วงตลาดคือค้าปลีก อาหาร ปิโตรฯ สถาบันในประเทศและนักลงทุนต่างชาติพลิกมาขายสุทธิในตลาดหุ้น 510 ลบ.และ 1 พันลบ. ตามลำดับ (สถาบัน Long Index Futures 4.4 พันสัญญา ส่วนสถานะของต่างชาติไม่มีนัยยะ)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index จะยังคงแกว่งตัว Sideways ในกรอบ 1,320-1,330 จุด แม้ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ก.ค. ของสหรัฐฯจะออกมาสูงกว่าคาดที่ 1.76 ล้านตำแหน่ง แต่การเจรจามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ของสภาสหรัฐฯยังไม่ได้ข้อสรุป ซึ่งทำให้ทรัมป์เซ็นคำสั่งบริหารขยายเวลาจ่ายเงินเยียวยาคนตกงานสัปดาห์ละ 400 เหรียญ รวมถึงชะลอการจ่ายภาษีและเลื่อนจ่ายเงินกู้เพื่อการศึกษา ขณะที่ปัจจัยหลักที่ยังต้องจับตาและกดดันบรรยากาศการลงทุนคือสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-จีน โดยคาดจีนจะมีมาตรการตอบโต้การแบน TikTok และ WeChat ขณะที่ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ-จีนมีกำหนดพบกันวันที่ 15 ส.ค. นี้เพื่อประเมินผลของข้อตกลงทางการค้าเฟสแรก ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังไม่มีประเด็นหนุนโดยยังต้องติดตามการประกาศผลประกอบการ 2Q20 ซึ่งเราแนะนำเลือกเก็งกำไรเป็นรายตัว ส่วนจังหวะดัชนีอ่อนตัวลงใกล้ระดับ 1,300+- ยังมองเป็นจังหวะทยอยสะสมระยะกลาง-ยาว โดยหากมีพัฒนาการเชิงบวกของวัคซีนในเฟส 3 เราแนะนำให้ Switch ไปลงทุนกลุ่ม Global Play ทันที
กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นที่คาดมีผลประกอบการ 2Q20 แข็งแกร่ง//ทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานในช่วงตลาดปรับฐานบริเวณ 1,300 จุด+-
หุ้นเด่นเดือน ส.ค. : CPALL, GULF, PTG, SC, STGT
---หุ้นเด่นวันนี้: AP---
- แนะนำ "เก็งกำไร" ราคาเป้าหมาย 8.50 บาท
- จะประกาศกำไร 2Q20 วันพรุ่งนี้ เราคาดกำไรโตโดดเด่นที่สุดในกลุ่ม +89% Q-Q, +140% Y-Y สูงสุดในรอบ 7 ไตรมาส หนุนโดยโครงการแนวราบที่ฟื้นตัวดี
- Presales 2Q20 ดีกว่าที่คาด +50% Q-Q, +10% Y-Y ส่งผลให้แนวโน้มกำไร 3Q20 คาดยังเร่งตัวขึ้น เราคาดกำไรปีนี้ +2% Y-Y และเร่งตัว +8% Y-Y ในปี 2021 ราคาหุ้นซื้อขายที่ PE เพียง 6 เท่าและให้ Dividend Yield 6.5%
Fund Flow กระแสเงินทุนพลิกมาไหลออกจากภูมิภาคหนาแน่น US$729 ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากไต้หวันและฟิลิปปินส์ US$420 ล้านและ US$138 ล้าน ตามลำดับ ส่วนไทยไหลออกเช่นกัน US$33 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ายังอยู่ในทิศทางไหลออก โดยตลาดกังวลกับสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-จีนที่ทยอยรุนแรงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลต่อข้อตกลงทางการค้าเฟสแรกที่จะมีนักพูดคุยกันกลางเดือนนี้
---ประเด็นสำคัญวันนี้---
(+) หุ้นที่คาดมีกำไร 2Q20 แข็งแกร่ง AP BCH CPF DRT GUNKUL ICHI MTC PRM PTG SC STGT TU XO (ตลาคคาดกำไร 2Q20 ของ SET -14% Q-Q, -60% Y-Y)
(+) CBG ประกาศกำไรสุทธิ 2Q20 +10% Q-Q, +110% Y-Y ดีกว่าคาดมากและทำ New High จากสินค้าใหม่ C-Lock ที่ขายดีและรายได้ส่งออกที่โตแรงและทำให้รายได้รวมโตกว่า 20% Y-Y แนวโน้มกำไร 2H20 คาดดีขึ้นต่อเนื่อง เราอยู่ระหว่างปรับใช้ราคาเป้าหมายปี 2021 เบื้องต้นคาดอยู่ในกรอบ 140-150 บาท แนะนำ "ซื้อ"
(+) INTUCH ประกาศกำไรปกติ 2Q20 -7 Q-Q, -13% Y-Y ดีกว่าคาดตามลูกลูกทั้ง ADVANC และ THCOM ขณะที่แนวโน้ม 2H20 คาดทยอยฟื้นตัว ยังคงเป็น Defensive และ Dividend Play ที่ดี เราปรับใช้ราคาเป้าหมายปี 2021 ที่ 66.50 บาท แนะนำ "ซื้อ"
(0) EA ประกาศกำไรปกติ 2Q20 -17% Q-Q, -14% Y-Y ต่ำกว่าตลาดคาดราว 15% จากต้นทุนธุรกิจไบโอดีเซลที่สูง และกระแสลมของโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่อ่อนตัวซึ่งมีปัจจัยฤดูกาลเข้ามาเกี่ยว อย่างไรก็ตามเรายังมองบวกระยะยาวโดยธุรกิจยานพาหนะไฟฟ้าและแบตเตอรี่จะเริ่มมีบทบาทมากขึ้นใน 4Q20 เป็นต้นไป ยังแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 55 บาท
(+) RS ประกาศกำไร 2Q20 ดีกว่าที่คาด 14% โดย -42 Q-Q, +14% Y-Y จากธุรกิจพาณิชย์ที่โตดีในช่วง WFH โดยมีการจัด RS Mall Mid-Year Super Sale และเป็นธุรกิจที่มี Margin สูง เราคาดกำไรปี 2020-2021 +46% Y-Y และ +17% Y-Y ตามลำดับ ประเมินราคาเป้าหมายปี 2021 ที่ 20 บาท แนะนำ "ซื้อ"
(+) STEC คาดกำไร 2Q20 +35%, +5% Y-Y จากแรงหนุนของเงินปันผลรับจาก GULF และ TSE รวมถึงความคืบหน้าก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู เหลือ และส้ม ด้าน Backlog ยังแข็งแกร่ง 9 หมื่นลบ.และมีโอกาสชนะประมูลงานเพิ่มเติมใน 2H20 ส่วนความเสี่ยงคือ Margin ที่อาจต่ำกว่าคาด อย่างไรก็ตาม Valuation ค่อนข้างถูกโดยมี PBV 1.4 เท่า (ค่าเฉลี่ย -2.75 SD) ยังคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 23 บาท
(+) ตลาดดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 46.50 จุด ปิดที่ 27,433.48 จุด หนุนจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเร่งขึ้น 1.763 ล้านตำแหน่งในเดือนก.ค. สูงกว่านักวิเคราะห์คาดที่ 1.48 ล้านตำแหน่ง และอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 10.2% จาก11.1% ในเดือนมิ.ย. และต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดที่ 10.6% ขณะที่นักลงทุนยังติดตามการเจรจาเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่ของสหรัฐ รวมถึงความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีน
(+) ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก หนุนจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค.ของสหรัฐสูงกว่าคาด รวมถึงผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนหลายแห่งของยุโรปที่ออกมาดีกว่าคาด
(0) ตลาดเอเชียปรับตัวผสม ท่ามกลางนักลงทุนติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีน
(+) ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 31.16 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 73 เซนต์ หรือ 1.7% ปิดที่ 41.22 ดอลลาร์/บาร์เรล จากความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมถึงความขัดแย้งรอบใหม่ระหว่างสหรัฐและจีน
(-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 41.4 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 2,028 ดอลลาร์/ออนซ์ จากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์
SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 1262.12 / -5.85
---ปัจจัยที่ต้องติดตาม---
10 ส.ค. - จีน: เงินเฟ้อ (ก.ค.)
11 ส.ค. - ออสเตรเลีย: ความเชื่อมั่นทางธุรกิจ (ก.ค.)
- อังกฤษ: จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการ (ก.ค.)
- เยอรมนี: ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ (ส.ค.)
- รัสเซีย: GDP 2Q20
12 ส.ค. - ออสเตรเลีย: ความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.ค.)
- อังกฤษ: GDP 2Q20
- ยูโรโซน: ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (มิ.ย.)
- สหรัฐฯ: เงินเฟ้อ (ก.ค.)
- ประกาศ MSCI Rebalance
Contact person : Jitra Amornthum Register : 014530
Contact person : Veeravat Virochpoka Register : 047077
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web