- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 29 July 2020 17:10
- Hits: 3292
บล.เคจีไอ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 29-7-2020
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ฟื้นตัวได้บ้าง แต่ไปไม่ไกล
มุมมอง SET Index วันพุธ: ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินดัชนีฯ รีบาวด์... หลังจากวันศุกร์ที่แล้วหุ้นไทยปรับลง (ตามคาด) กังวลการติดเชื้อ COVID-19 ของสหรัฐฯ เร่งตัว และข่าวสหรัฐฯ-จีนขัดแย้งหนักด้านการฑูต เพราะสหรัฐฯ สั่งปิดสถานกงสุลจีนและจีนตอบโต้โดยการสั่งปิดกงสุลสหรัฐฯ เช่นกัน... อย่างไรก็ดีในช่วง 4 วันที่หุ้นไทยปิดทำการนั้น เราพบว่าปัจจัยต่างประเทศเป็นบวกมากขึ้น ซึ่งน่าจะหนุนการฟื้นตัวของตลาดบ้าง
ปัจจัยต่างประเทศ - เป็นบวก: i) ใน 2 วันล่าสุด สหรัฐฯ รายงานผู้ติดเชื้อ COVID-19 ชะลอจากพีคที่ 7.8 หมื่นคนต่อวัน เหลือ 6.1 หมื่นคนต่อวัน ii) เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ดัชนี US flash PMI เดือน ก.ค. ยังคงฟื้นตัวต่อจาก มิ.ย. แม้ว่าสหรัฐฯ ติดเชื้อ COVID-19 หนักในเดือนดังกล่าว iii) พรรครีพับลิกันเสนอมาตรการช่วยเหลือประชาชนสหรัฐฯ รอบที่ 2 เข้าสู่สภาคองเกรส มีการแจกเงิน 1.2 พันดอลล่าร์ฯ สำหรับคนโสด / 2.4 พันดอลล่าร์ฯ สำหรับคู่สามีภรรยา ผนวกกับการให้เงินอุดหนุนคนตกงานแต่ให้ในอัตราที่ต่ำกว่าในมาตรการช่วยเหลือรอบที่ 1... อย่างไรก็ดี นักลงทุนส่วนหนึ่งน่าจะยังชะลอเพื่อรอผลประชุม ธ.กลางสหรัฐฯ (เฟด) ในคืนวันนี้ตามเวลาประเทศไทย ส่งผลให้ SET Index น่าจะฟื้นตัวในกรอบแคบๆ เท่านั้น
ปัจจัยภายในประเทศ - เป็นกลาง: i) กำหนดการเบื้องต้น วันนี้จะมีรายงานดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือน มิ.ย. ซึ่งน่าจะติดลบหนัก YoY เช่นเดียวกับตัวเลขส่งออก มิ.ย. ที่ออกมาเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว... ซึ่งชี้ว่าจีดีพีไทยไตรมาส 2/2563 จะลบหนักเช่นกัน แต่ผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยน่าจะมีค่อนข้างจำกัด เนื่องจากนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดอยู่แล้วว่าตัวเลขไตรมาส 2/2563 จะดิ่งแรง
ปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ (29 - 31 ก.ค.): i) ผลประชุม ธ.กลางสหรัฐฯ (เฟด) วันที่ 29 ก.ค. ii) ตัวเลขเศรษฐกิจไทยเดือน มิ.ย. และไตรมาส 2/2563 จากทาง ธปท. ในวันที่ 31 ก.ค. ขณะที่ในสัปดาห์นี้จะเริ่มเข้าช่วงรายงานงบไตรมาส 2/2563 ของกลุ่มที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ เริ่มจาก SCC* ในวันนี้
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร ESSO*, SCCC / ย่อซื้อ GULF*
ESSO* (เป้าพื้นฐาน 9.5 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 7.6 บาท / แนวต้าน 8.25 บาท หากผ่านแนวต้านนี้ไปได้ประเมินทดสอบแนวต้านถัดไป 8.75 บาท (Stop loss 7.4 บาท) 2) ประเมิน Catalyst บวก i) ผลการดำเนินงาน 2Q63 Turnaround เป็นกำไรราว 1 พันล้านบาท (กำไรสต๊อก + ค่าการกลั่นดีขึ้น QoQ) และ ii) Sentiment บวกจากการเตรียม IPO บ.ลูก PTT* (ปั๊มน้ำมัน OR) ปลายปีนี้ โดย ESSO* มี EBITDA จากธุรกิจปั๊มน้ำมันราว 20-25% ... นักลงทุนอาจพิจารณา "เก็งกำไร" หุ้นโรงกลั่นที่คาดกำไร 2Q63 Turnaround SPRC* (รับ 6.65 / ต้าน 7.15 - 7.3 / Stop loss 6.6), TOP* (รับ 42.5 / ต้าน 46 / Stop loss 42)
SCCC (เป้าพื้นฐาน 209 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 140 บาท / แนวต้าน 155 - 157 บาท (Stop loss 134 บาท) 2) รายงานกำไร 2Q63 กับ 1.02 พันล้านบาท ดีกว่าคาด +57% ... มีโอกาสปรับประมาณการฯปี 2563 ขึ้น เนื่องจากคาดผลการดำเนินงาน 2Q63 จะเป็นจุดต่ำสุด และจะเริ่มฟื้นใน 3Q63 - 4Q63 จาก i) ผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ ii) อัตรากำไรที่ดีขึ้นจากการปิดโรงปูนที่ จ.สระบุรี iii) การลงทุนภาครัฐฯที่จะเริ่มขึ้นใน 2H63 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งการผ่อนคลายมาตรการเฟส 6 ที่จะปลดล๊อกให้แรงงานต่างชาติเข้าไทยได้
GULF* (เป้าพื้นฐาน 40.25 บาท ... หลัง XR 37.25 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 34 บาท และ 33 บาท / แนวต้าน 35 - 37 บาท (Stop loss 30 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯมีมุมมองบวกต่อแผนการเพิ่มทุนของ GULF ที่จะเป็นการขาย RO อัตรา 10:1 ที่ราคา 30 บาท/หุ้น (XR วันที่ 7 ส.ค.) i) ขยายการลงทุนโครงการใหม่ในอนาคต และ ii) Net interest bearing debt/Equity จะลดลงจาก 2.9 เท่า เหลือเพียง 1.4 เท่า ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยฯประเมินผลบวกมากกว่าผลของ Dilution effect 3) แนวโน้มผลการดำเนินงาน 2Q63 Turnaround QoQ พลิกเป็นกำไร จาก i) ไม่มีผลขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนจำนวนมากเช่นใน 1Q63 ii) ผลการดำเนินงานของธุรกิจหลักยังโต YoY
หุ้นมีข่าว
(+) ADVANC*-AMATA* เสริมทัพลุย Smart City ฐานลงทุนโลก (ทันหุ้น) ADVANC* จับมือ AMATA* ขยายความร่วมมือพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) นำโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลเทคโนโลยี AIS 5G ยกระดับการบริหารงานและการผลิตเพิ่มเติมในอมตะซิตี้ ชลบุรี เพื่อรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ และการลงทุนจากทั่วโลก ตามแผนเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก EEC
(+) JMT* ส่งซิกไตรมาส 2 สวย เล็งซื้อหนี้เพิ่มปลาย Q3 โบรกฯฟันธงกำไร Q2 นิวไฮ 209 ล้านพุ่ง 40% (ข่าวหุ้น) ผู้บริหาร JMT* ส่งสัญญาณงบไตรมาส 2/63 ออกมาดีกว่าไตรมาสแรก เตรียมซื้อหนี้เพิ่มช่วงปลายไตรมาส 3 รับแบงก์พาเหรดแห่ขายเอ็นพีแอล โบรกคาด JMT* กำไรสุทธิ Q2 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ 209 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40% จากการเรียกเก็บเงินสดระดับสูงที่ 830 ล้านบาท ส่วน Q3-Q4 ทำสถิติสูงสุดอีก ขณะที่ JMT-W2 ทยอยใช้สิทธิทำให้เงินทุนเพิ่มขึ้น ใช้ซื้อหนี้เสียเข้าพอร์ตเพิ่มได้อีก 6 พันล้านบาท เพิ่มคาดการกำไรสุทธิปี 63-65 ขึ้นอีกและปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 33 บาท
(+) GPSC* จ่อยื่นนำเข้า LNG 10 ปี ขยายอีก 8 พันเมกฯ (ข่าวหุ้น) GPSC* จับมือปตท. จ่อยื่นขอ LNG Shipper รายใหม่ภายใน 2-3 เดือนนี้ เพื่อป้อนโรงไฟฟ้า SPP Replacement อีก 7 สัญญา กำลังผลิต 600 เมกะวัตต์ พร้อมกางแผน 10 ปี ตั้งเป้าลงทุนพลังงานหมุนเวียนอีก 8,000 เมกะวัตต์ ลุ้นครึ่งปีปิดคว้าดีลซื้อกิจการในต่างประเทศมากกว่า 1 โครงการ
(+) BGSR รอลุ้นข่าวดีกลางส.ค.นี้ เซ็นงาน O&M มอเตอร์เวย์ 2 สาย มูลค่า 39,138 ล้าน (ข่าวหุ้น) “อธิบดีทางหลวง” หารือผู้บริหาร BTS* เบื้องต้นแล้ว คาดได้เซ็นสัญญางาน O&M มอเตอร์เวย์ 2 สายทาง มูลค่า 39,138 ล้านบาท กลางส.ค.นี้ เผยกลุ่ม BGSR ต้องไปเตรียมแหล่งเงินกู้-ตั้งบริษัทร่วมเพื่อรับงานให้แล้วเสร็จก่อน
หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า
หุ้นที่แนะนำ "Let profit run" โดยกำหนดจุดล็อกกำไร Trailing stop: RS* (Trailing stop 17 บาท), JMART (Trailing stop 13 บาท)
INTUCH* (เป้าพื้นฐาน 69 บาท) แนวรับ 56.5 บาท / แนวต้าน 58 บาท หากผ่านได้แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop 56 บาท)
CPF* (เป้าพื้นฐาน 38 บาท) แนวรับ 32.5 บาท / แนวต้าน ±35 บาท หากผ่านได้แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop 32 บาท)
PTG* (เป้า Consensus 18.85 บาท) แนวรับ 17.7 บาท / แนวต้าน 19.0 - 19.7 บาท (Stop loss 17.6 บาท)
AMATA* (เป้าพื้นฐาน 18.5 บาท) แนวรับ 15.3 บาท / แนวต้าน 16.4 - 16.8 บาท (Stop loss 15 บาท)
DTAC* (เป้าพื้นฐาน 47 บาท) แนวรับ 39 บาท / แนวต้าน 41 - 42 บาท (Stop loss 37.25 บาท)
STEC* (เป้าพื้นฐาน 19.2 บาท) แนวรับ 15.0 บาท / แนวต้าน 16.0 - 16.2 บาท (Stop loss 15.0 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
กลุ่มธนาคารพาณิชย์ น้ำหนักลงทุน "เท่ากับตลาดฯ" กลุ่มธนาคารฯรายงานกำไร 2Q63 ลดลง -40% YoY ขณะที่มุมมองส่วนใหญ่จากผู้บริหารต่อแนวโน้ม 2H63 ยังอ่อนแอ นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงเรื่องของการปรับลดอัตราการจ่ายปันผลเพื่อรักษาฐานเงินทุน ทำให้หุ้นปันผลสูงในกลุ่มอย่าง BBL*, KKP*, TISCO* มีความเสี่ยงในประเด็นนี้ ในบทวิเคราะห์นี้ฝ่ายวิจัยฯปรับลดประมาณการฯและคำแนะนำหุ้น BBL*, KKP* ลงเป็น "ถือ"
DELTA* แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 104 บาท รายงานกำไร 2Q63 = 2 พันล้านบาท (+130% YoY, +136% QoQ) ดีกว่าคาด +88% และดีกว่า Consensus คาด +106% ฝ่ายวิจัยฯปรับประมาณการฯและราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 104 บาท (เดิม 80 บาท) สะท้อนผลการดำเนินงานที่ดีกว่าคาด ยังคงแนะนำ "ซื้อ"
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web