- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 23 July 2020 15:08
- Hits: 4566
บล.เคจีไอ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 23-7-2020
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ (รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ลงต่อ ตลาดกลับมากังวล COVID-19 และเศรษฐกิจโลกอีกครั้ง
มุมมอง SET Index วันพฤหัสฯ: ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินดัชนีฯ ปรับลงต่อแต่น่าจะมีสลับรีบาวด์ในวันได้... หลังจากเมื่อวานตลาดหุ้นเผชิญแรงขายลดความเสี่ยงค่อนข้างแรงในภาคบ่าย ทั้งนี้ valuations ที่ตึงตัวกระตุ้นให้มีแรงขายลดความเสี่ยงออกมา (ตามคาด) ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศพลิกเป็นลบตั้งแต่เมื่อวานบ่าย... ต่อเนื่องถึงเช้าวันนี้
ปัจจัยต่างประเทศ - เป็นลบ: i) จำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ทั่วโลก เพิ่มขึ้น 2.78 แสนคนเมื่อวานนี้ ทำจุดสูงสุดครั้งใหม่ ส่งผลให้นักลงทุนยกระดับความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกขึ้นอีก แม้ว่าจะมีรายงานข่าวว่าสหรัฐฯ เตรียมลงนามดีลมูลค่า 2 พันล้านเหรียญฯ ว่าจ้าง บ.ไฟเซอร์ อิงค์ ผลิตวัคซีน COVID-19 จำนวน 100 ล้านโดสก็ตาม ii) ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนแย่ลงอีก หลังจากรัฐฮุสตันสั่งปิดสถานกงสุลจีนเป็นเวลา 3 วัน สร้างความไม่พอใจให้กับทางการจีน และ iii) นักลงทุนเพิ่มระดับความกังวลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังจากพรรครีพับลิกันมีแผนลดเงินพิเศษเพื่อช่วยเหลือผู้ตกงานในสหรัฐฯ จากปัจจุบันช่วย 600 เหรียญฯ ต่อสัปดาห์ เหลือเพียง 100 เหรียญฯ ต่อสัปดาห์ในช่วงไตรมาส 3/2563 ซึ่งอาจส่งผลแนวโน้มการใช้จ่ายบริโภคชะลอลงหากอัตราว่างงานสหรัฐฯ ไม่ลดลง
ปัจจัยภายในประเทศ - เป็นกลาง: i) ผลประกอบการไตรมาส 2/2563 ของกลุ่มธนาคารฯ (ไม่ร่วม TCAP*) ภาพรวมต่ำกว่าที่เราและ consensus คาดประมาณ 20% แต่น่าจะสะท้อนไปในการปรับลงของราคาหุ้นกลุ่มธนาคารค่อนข้างมากแล้ว
ปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้: i) ตัวเลขส่งออก/นำเข้าของไทย เดือน มิ.ย. ซึ่งจะออกมาในวันนี้ ทั้งนี้ consensus คาดส่งออก -15.0% YoY... หดตัวน้อยลงเมื่อเทียบกับ -22.5% YoY ใน พ.ค. ii) ตัวเลข Markit flash PMI เดือน ก.ค. ของประเทศหลักๆ ของโลก เพื่อประเมินโมเมนตัมการฟื้นตัวของเดือน ก.ค. ซึ่งเป็นเดือนที่มีการระบาดของ COVID-19 รุนแรงขึ้นในประเทศหลักๆ ของโลก
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน (สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร PTG*, ESSO*, SCCC
PTG* (เป้า Consensus 18.85 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 18 บาท / แนวต้าน 19.7 บาท (Stop loss 17.6 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯประเมินกำไร 2Q63 จะโต >48% QoQ เป็นกำไร >300 ล้านบาท จากค่าการตลาดฯที่ฟื้นตัวเด่น 3) ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2H63 จะโต HoH จาก ดีมานด์น้ำมันสำหรับการขนส่ง + เดินทาง ที่จะเพิ่มขึ้นหลังผ่อนคลายนมาตรการล็อคดาวน์ และธุรกิจไบโอดีเซลที่จะฟื้นตัว QoQ และ 4) Sentiment บวกจากการเตรียม IPO บ.ลูก PTT* (ปั๊มน้ำมัน OR) ปลายปีนี้
ESSO* (เป้าพื้นฐาน 9.5 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 7.6 บาท / แนวต้าน 8.25 บาท หากผ่านแนวต้านนี้ไปได้ประเมินทดสอบแนวต้านถัดไป 8.75 บาท (Stop loss 7.35 บาท) 2) ประเมิน Catalyst บวก i) ผลการดำเนินงาน 2Q63 Turnaround เป็นกำไรราว 1 พันล้านบาท (กำไรสต๊อก + ค่าการกลั่นดีขึ้น QoQ) และ ii) Sentiment บวกจากการเตรียม IPO บ.ลูก PTT* (ปั๊มน้ำมัน OR) ปลายปีนี้ โดย ESSO* มี EBITDA จากธุรกิจปั๊มน้ำมันราว 20-25% ... นักลงทุนอาจพิจารณา "เก็งกำไร" หุ้นโรงกลั่นที่คาดกำไร 2Q63 Turnaround และมี Sentiment บวกของหุ้นโรงกลั่นในภูมิภาคจากโรงกลั่นที่ไต้หวันระเบิด แนะนำอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในบทวิเคราะห์ Commodity weekly วานนี้ SPRC* (รับ 6.65 / ต้าน 7.15 - 7.3 / Stop loss 6.6) TOP* (รับ 42.5 / ต้าน 46 / Stop loss 42)
SCCC (เป้าพื้นฐาน 209 บาท) แนวรับ 140 บาท / แนวต้าน 150 - 155 บาท (Trailing stop 140 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯประเมินกำไร 2Q63 = 648 ล้านบาท (+1.7% YoY, -21.5% QoQ) และปรับเพิ่มประมาณการฯปี 2563 - 64 ขึ้น +37% และ +21.5% ตามลำดับ ธุรกิจเริ่มฟื้นตัวหลังผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ โดยประเมินแนวโน้ม Earnings Momentum จะเป็นขาขึ้นต่อเนื่องไปอีก 2 ไตรมาสติดๆ เป็นอย่างน้อย 3) PE ปี 2563 (บนประมาณการฯใหม่) เท่ากับ 14.3 เท่า (ค่าเฉลี่ยในอดีต 21.6 เท่า) และ Dividend yield 4.2%
หุ้นมีข่าว
(+ รับเหมาฯ, วัสดุก่อสร้าง / + นิคมฯ) ศบค.ปล่อย 4 กลุ่ม 'ต่างด้าว' ทะลัก เข้าไทยแสนคน (กรุงเทพธุรกิจ) ศบค.ไฟเขียว 4 กลุ่มต่างชาติ เดินทางเข้าประเทศ "จัดแสดงสินค้า-กองถ่ายภาพยนตร์-เข้าโรงพยาบาล-แรงงานต่างด้าว" เผย "ลาว-กัมพูชา-เมียนมา" จ่อทะลัก 1 แสนคน ให้นายจ้างจัดพื้นที่กักตัว ส่วนยอดผู้ติดเชื้อโควิดใหม่เพิ่ม 6 ราย ด้าน ตม. พร้อมรับการผ่อนปรนมาตรการ ระยะที่ 6 ให้แรงงานต่างด้าวเข้าประเทศ
(-) THAI แจ้งตลท.ผิดนัดชำระหนี้ 8.5 หมื่นล.การบินไทย (ไทยโพสต์) แจ้ง ตลท.ผิดนัดชำระหนี้สินเชื่อ-หุ้นกู้รวม 8.5 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 33.14% ของสินทรัพย์รวม แอร์เอเชียจี้รัฐชัดเจนเปิดบินระหว่างประเทศ ระบุหากไม่เปิดต้องช่วยอุ้มปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ แจงขณะนี้สายการบินไม่มีเงินสดหมุนเวียนเตรียมเจ๊ง
(+) UAC-BCPG* ลุ้นรมว.พลังงานใหม่ เร่งผลักดันโรงไฟฟ้าชุมชนตามแผนเดิม (ข่าวหุ้น) UAC-BCPG* ลุ้นรมว.พลังงานคนใหม่ เร่งผลักดันโรงไฟฟ้าชุมชนตามแผนเดิม พร้อมเปิดรับซื้อไฟฟ้าโครงการ Quick Win 100 เมกะวัตต์ภายในปีนี้
(+) WHA* มีพื้นที่รอเซ็น Q3 ลูกค้าต่อคิวเช่าคลัง (ทันหุ้น) WHA* ดันยอดเช่าคลังสินค้าทะลุเป้า ระบุลูกค้าเรียงคิวเซ็นสัญญากว่า 40,000 ตร.ม. ในช่วง Q3/2563 นี้ ด้านยอดขายสาธารณูปโภคในนิคมเติบโตต่อเนื่อง การเปิดโรงงานดันอัตราการใช้น้ำพุ่ง ลุ้นรัฐเปิด Business Bubble กระตุ้นยอดขายที่ดินช่วงที่เหลือของปี 2563 นี้ เข้าเป้า 1.4 พันไร่
(+) INGRS คว้างานใหม่ 3 โครงการ คาดสร้างรายได้ 4 พันล้าน ตลอดสัญญา 5-6 ปี (ข่าวหุ้น) "อิงเกรสฯ" แจ้งบริษัทย่อยในมาเลเซียและอินโดนีเซีย คว้างาน 3 โครงการ ผลิตและจัดส่งชิ้นส่วนยานยนต์สำหรับผู้ผลิต (OEM) เตรียมลงทุน 939.10 ล้านบาท คาดสร้างรายได้ 4,005.60 ล้านบาท ตลอดอายุสัญญาโครงการ 5-6 ปี วางเป้าโครงการแรกเริ่มดำเนินการผลิตในไตรมาส 4 ปี 64/65
หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า
หุ้นที่แนะนำ "Let profit run" โดยกำหนดจุดล็อกกำไร Trailing stop: RS* (Trailing stop 17 บาท), SEAFCO (Trailing stop 6.4 บาท), JMART (Trailing stop 13 บาท)
INTUCH* (เป้าพื้นฐาน 69 บาท) แนวรับ 56.5 บาท / แนวต้าน 58 บาท หากผ่านได้แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop 56 บาท)
CPF* (เป้าพื้นฐาน 38 บาท) แนวรับ 33.5 บาท / แนวต้าน ?35 บาท หากผ่านได้แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop 32 บาท)
AMATA* (เป้าพื้นฐาน 18.5 บาท) แนวรับ 15.3 บาท / แนวต้าน 16.4 - 16.8 บาท (Stop loss 15 บาท)
DTAC* (เป้าพื้นฐาน 47 บาท) แนวรับ 39.5 บาท / แนวต้าน 41 - 42 บาท (Stop loss 37.25 บาท)
EA* (เป้า Consensus 52.4 บาท) แนวรับ 49.0 บาท / แนวต้าน 52 - 54 บาท (Trailing stop 48 บาท)
STEC* (เป้าพื้นฐาน 19.2 บาท) แนวรับ 15.4 บาท / แนวต้าน 16.0 - 16.2 บาท (Stop loss 15.0 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
BCP* แนะนำ "ถือ" เป้าพื้นฐาน 28.5 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดจะรายงานผลขาดทุนใน 2Q63 เท่ากับ -1.2 พันล้านบาท (พลิกขาดทุนเทียบ YoY, แต่ขาดทุนลดลงเทียบ QoQ) โดยแม้ว่าจะไม่มีผลขาดทุนจากรายการพิเศษเช่นในไตรมาสก่อนหน้าแต่ไม่เพียงพอที่จะทำให้ผลการดำเนินงานโดยรวมพลิกกลับมากำไรได้ในไตรมาสนี้ จึงคงคำแนะนำ "ถือ"
SCCC แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 209 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 2Q63 = 648 ล้านบาท (+1.7% YoY, -21.5% QoQ) และประเมินผลการดำเนินงาน 2Q63 เป็นจุดต่ำสุดของปี โดยผลการดำเนินงานจะฟื้นตัวต่อเนื่องใน 3Q - 4Q จากการผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์และไม่มีการปิดซ่อมบำรุงโรงงาน ฝ่ายวิจัยฯปรับเพิ่มประมาณการฯ ปี 2563 และ 2564 +37% และ +21.5% ตามลำดับ
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web