- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 23 July 2020 14:43
- Hits: 2217
บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 23-7-2020
Market Wrap-Up
- • SET ปิดวันที่ 22 ก.ค.63 ปิด -19.96 จุด อยู่ที่ 1,357.04 จุด มูลค่าการซื้อขาย 63,863 ลบ.ต่างชาติขาย 2,108 ลบ. สถาบันซื้อ 571 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 1,206 ลบ.ยอด NVDR มียอดขายสุทธิอยู่ที่ 2,004 ลบ.โดยมียอดซื้อหุ้น PTL,ICHI,BAM,DELTA,IVL และมียอดขายหุ้น PTTGC,CPF,BBL,STA,PTT มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 445 ลบ หุ้นที่มีมูลค่า Short สูงคือ PTTGC,PTTEP,KBANK โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 12,781 สัญญาและมียอด Long สะสมตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 98,694 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 3,737 ลบ.
- • ตลาดหุ้นสหรัฐ Down Jones ปิด +0.62% , S&P500 +0.57% และ Nasdaq +0.24% ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มปลอดภัย เช่น สาธารณูปโภค , สินค้าอุปโภค หลังสหรัฐสั่งปิดกงศุลจีนในเมืองฮุสตันภายใน 72 ชม. ส่งผลให้นักลงทุนกังวลความขัดแย้งรอบใหม่สหรัฐ – จีน ขณะที่นักลงทุนยังรอสภาคองเกรสกำลังพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่คาดวงเงินมากกว่า 1 ลล.ดอลลาร์ เพื่อช่วยเหลือคนตกงาน ส่วน NAR รายงานยอดขายบ้านมือสอง มิ.ย. +21 % หลังลดลง 3 เดือน ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 ปิด -1.32% หุ้นกลุ่มพลังงานปรับลดลง ยังกังวลต่อข้อแย้งสหรัฐ – จีน และจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสที่ยังเพิ่มขึ้น
Market View
- • ภาวะการลงทุนตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียเช้านี้คาดทรงตัว รอประเมินความเสี่ยงข้อแย้งสหรัฐ – จีน หลังสหรัฐสั่งปิดกงศุลจีนในเมืองฮุสตัน โดยอ้างเพื่อปกป้องสินทรัพย์ทางปัญญาและข้อมูลส่วนบุคคลของชาวอเมริกัน ซึ่งจีนก็ตอบโต้กลับด้วยการสั่งปิดกงศุลสหรัฐในฮ่องกงและอู่ฮั่น จากปัจจัยเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาทองคำเช้านี้อยู่ที่ 1,868 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสถานการณ์ระบาดไวรัส Covid-19 ทั่วโลกปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อรวม 15.3 ล้านราย โดย WHO เผยคาดจะเริ่มใช้วัคซีนกับมนุษย์ในช่วงต้นปีหน้า ขณะที่มีการวิฉัยวัคซีน 100 ตัว และ 23 ตัวกำลังทดลองในมนุษย์ ตลาดหุ้นสหรัฐยังรอสภาคองเกรสในการพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่วงเงินมากกว่า 1 ลล.ดอลลาร์ สำหรับดัชนีหุ้นไทยวานนี้ปิด -1.45 % ต่างชาติขาย 2.1 พัน ลบ. พอร์ตโบรกเกอร์ขาย 1.2 พัน ลบ. ปรับลดลงจากความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์สหรัฐ – จีน เพิ่มขึ้น ประกอบกับไทยมีความเสี่ยงอาจถูกสหรัฐขึ้นบัญชี Watch List ประเทศแทรกแซงค่าเงินที่จะเปิดเผยในช่วงปลายเดือนนี้ ส่งผลให้มีแรงขายทำกำไรหุ้นกลุ่มธนาคาร พลังงาน ปิโตรเคมี วานนี้ ศบค.ได้ปลดล็อกดาวน์เฟส 6 อนุญาตให้ชาวต่างชาติที่จัดงานแสดงสินค้า, กองถ่ายภาพยนต์, รักษาพยาบาล และแรงงานต่างด้าวสามารถเข้าประเทศได้ ช่วยหนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้เข้าสู่ภาวะปกติ
Daily Strategy
- • ดัชนี SET คาดกลับมาภาวะทรงตัวในกรอบแนวรับ 1,340 – 1,350 จุด แนวต้าน 1,370 จุด ระหว่างรอรายงานกำไร Q2/63 ของกลุ่ม Real Sector แนะนำซื้อเก็งกำไร CPF @39.25 บาทรับกำไร Q2/63 คาดราว 5 พัน ลบ., SAWAD ได้แรงหนุนจากกำไร BFIT Q2/63 เพิ่มขึ้น
- • SAPPE* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 22.00 บาท) แนวโน้มผลประกอบการปี 63 รายได้ทรงตัวเพราะผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่งผลยอดขายทั้งในและต่างประเทศหดตัว โดยเฉพาะยอดการส่งออก (สัดส่วนรายได้ 60%) ที่ถูกกระทบค่อนข้างมาก ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทควบคุมต้นทุนการผลิตด้วยการเพิ่มระบบอัตโนมัติทดแทนแรงงานคน และลดค่าใช้จ่ายการตลาดเพื่อพยุงอัตรากำไร โดยแนวโน้มผลประกอบการ 2Q63 น่าจะเป็นจุดต่ำสุด และฟื้นตัวใน 2H63 แรงหนุนจากสัดส่วนสินค้า Functional Drink ที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 13-14% จากเดิม 10% ในช่วงปลายปี ซึ่งสินค้ากลุ่มนี้ยังมีทิศทางเติบโตได้ดีและบริษัทครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับหนึ่ง Consensus ประเมินกำไรปี 63-64 ที่ 403 ล้านบาท และ 447 ล้านบาท +3.4%YoY และ 10.9%YoY ราคายังไม่แพง Forward PER 63 ที่ 14.3 เท่า
- • กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม (คงน้ำหนักการลงทุนที่ Neutral / AMATA, WHA ราคาเป้าหมาย 17.00 บาท* และ 3.30 บาท*) เราปรับเพิ่มประมาณการและราคาเป้าหมายในปี 2563 ของทาง AMATA และ WHA ขึ้นมาเล็กน้อย โดยเรามีมุมมองเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังโดยเฉพาะธุรกิจในกลุ่ม Recurring (Power +Utility & Rental) ที่เร่งตัวขึ้นตามการอุปสงค์ของลูกค้าในนิคมที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามธุรกิจการขายที่ดินในปีนี้มีแนวโน้มชะลอตัวลง เพราะลูกค้ายังไม่สามารถเดินทางเข้ามาในประเทศได้ เบื้องต้น AMATA ตั้งเป้าขายที่ดินในปีนี้ไว้ที่ 600 ไร่ ส่วน WHA ตั้งเป้าที่ 1,400 ไร่ซึ่งถือว่าค่อนข้างท้าทาย เพราะไตรมาส 1 ซึ่งเป็นรอยต่อของไตรมาส 4 ซึ่งเป็น High Season ทั้งคู่ทำยอด Presale ไปได้ไม่ถึง 10% ของเป้าหมายทั้งปี แต่ในระยะสั้นจากสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลายดังนั้นเรามีโอกาสเห็นยอดขาย/โอนที่ดินกลับมาเร่งตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ในช่วงไตรมาส 3-4 ดังนั้นเราจึงแนะนำให้ซื้อเก็งกำไร
Daily Key Factors
Oil Update (-) WTI Futures ส.ค.ปิด -$0.02 ดอลลาร์ อยู่ที่ $41.90 /บาร์เรล Brent Futures ก.ย. ปิด -$0.07 ดอลลาร์ อยู่ที่ $44.29 /บาร์เรล หลัง EIA รายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 4.9 ล.บาร์เรล สวนทางคาดจะลดลง 1.9 ล.บาร์เรล แต่ยังได้แรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า
Gold Update (+) Gold Futures ส.ค.ปิด +21.20 ดอลลาร์ อยู่ที่ 1,865.10 ดอลลาร์/ออนซ์ ได้แรงหนุนจากความกังวลข้อขัดแย้งสหรัฐ – จีน หลังสหรัฐสั่งปิดกงศุลจีนในเมืองฮุสตัน ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า Dollar Index -0.14% อยู่ที่ 94.9861
Fund Flow (-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -89.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -66.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโด -14.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ทรงตัวอยู่ที่ 31.57 บาทดอลลาร์สหรัฐ
(-) ดัชนี BDI ปิด -121 จุด อยู่ที่ 1,473 จุด
(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 0.60 % , 2 ปี อยู่ที่ 0.153 %
(-) ค่าเงินหยวน off-shore อ่อนค่าอยู่ที่ 7.0101/USD
(-) วานนี้สหรัฐรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้น 71,640 ราย รวมอยู่ที่ 4,100,209 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 1,219 ราย รวมอยู่ที่ 146,148 ราย ( Worldometers )
(-) GDP เกาหลีใต้ Q2/63 หดตัว -3.3 % QoQ & คาดการณ์ -2.4 %
Economic Calendar
ในประเทศ
15 ก.ค. เปิดลงทะเบียนรับสิทธิโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน"
สัปดาห์ที่3 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม, ยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์
สัปดาห์ที่4 กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า
สัปดาห์ที่5 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.)แถลงดัชนีอุตสาหกรรม
ต่างประเทศ
20 ก.ค. CN อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดีของธนาคาร PBoC)
22 ก.ค. US ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) (มิ.ย.)
US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
23 ก.ค. US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
24 ก.ค. UK ดัชนียอดขายปลีก (เดือนต่อเดือน) (มิ.ย.)
UK ดัชนี PMI ภาคการผลิต
US ยอดขายบ้านใหม่ (มิ.ย.)
Theme Strategy
(1) กลุ่ม Defensive Stock BCPG*, BGRIM*, BPP*, GPSC*, GULF*, ADVANC, INTUCH*
(2) กลุ่มที่อิงการบริโภคในประเทศ CPALL, CBG*, ICHI*, OSP*
(3) กลุ่มรับประโยชน์ ศก.ชะลอ NPL เพิ่ม สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อจำนำทะเบียน BAM*, CHAYO*, JMART*, JMT*, SINGER*
(4) กลุ่มส่งออกอาหารเงินบาทอ่อนค่า CPF*, GFPT*, TFG*, TU*, STA*
(5) กลุ่มรับประโยชน์จากต้นทุนน้ำมันอยู่ในระดับต่ำและการคลาย Lockdown TOP, PTTGC, IVL*, PRM*, PTG*, TASCO*
(6) กลุ่มรับประโยชน์จากปลดล็อก พ.ร.บ.งบประมาณ STEC, SEAFCO*, PYLON*
*หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio July 2020: INTUCH*, JKN*, TVO*, TASCO*, CPF*, BCH*
Analysts
Apichai Raomanachai No. 002939
Nopporn Chaykaew No. 043964
Piyatat Pasommanatsakul No. 081741
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web