- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 22 July 2020 18:38
- Hits: 3953
บล.เคจีไอ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 22-7-2020
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ (รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
บวกต่อ แต่ความเสี่ยงมากขึ้นๆ ตามระดับความสูง
มุมมอง SET Index วันพุธ: ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินดัชนีฯ ขึ้นต่อ หลังเมื่อวานนี้หุ้นไทยแรลลี่แรงกว่าคาด ตามปัจจัยบวกต่อหุ้นเชื่อมโยงเศรษฐกิจโลก (global cyclical)... และวันนี้ธีมหุ้น cyclical น่าจะยังไปได้ต่อ
ปัจจัยต่างประเทศ - เป็นบวกเล็กน้อย: ภาวะโดยรวมยังอยู่ใน risk-on mode หรือกล้าเสี่ยง หลังจาก i) ผลการทดสอบวัคซีนยี่ห้อต่างๆ ยังหนุนความหวังต่อการใช้วัคซีน COVID-19 ในปี 2564 ล่าสุดหลังจากการทดสอบวัคซีนของ AstraZeneca เมื่อวานนี้มีข่าวว่าทางการจีนทดสอบวัคซีนได้ผลดีเช่นกัน ii) กลุ่มยุโรปอนุมัติกองทุนฟื้นฟูมูลค่า 7.5 แสนล้านยูโร... ผนวกกับอนุมัติวงเงินกระตุ้นภาคการคลังในระยะยาวตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นไป อีก 1.07 ล้านล้านยูโร รวมสองก้อนมีมูลค่า 1.82 ล้านล้านยูโร น่าจะส่งผลดีต่อสกุลเงินยูโร กดดันเงินดอลล่าร์ฯ ให้อ่อนค่า และหนุนสินทรัพย์เสี่ยงในภาพรวม iii) ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้น 2.1% ตอบรับปัจจัยบวกต่อจิตวิทยาเศรษฐกิจโลกดังกล่าวข้างต้น
ปัจจัยภายในประเทศ - เป็นกลาง: i) ผลประกอบการไตรมาส 2/2563 ของกลุ่มธนาคารฯ ส่วนใหญ่ออกมาต่ำกว่า consensus คาด แต่การตอบสนองของตลาดไม่ได้รุนแรงมากนัก ii) ความชัดเจนทางการเมืองมีมากขึ้น หลังนายกฯ แถลงเมื่อวานนี้ว่ารายชื่อ ครม. ชุดใหม่ลงตัวแล้ว และหลายฝ่ายมองว่านายกฯ ยังสามารถคุมเกมได้หลังมีแรงกดดันจากฝั่งพรรคพลังประชารัฐในช่วงหลายวันที่ผ่านมา
***อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิจัยฯ มองว่า valuations ของตลาดหุ้นไทยกลับมาตึงตัวมากอีกครั้ง ล่าสุด consensus EPS ปี 2564 ลดลงมาเหลือ 80.8 และหากอิงฐานพีอีเรโชที่เหมาะสมตามการคำนวณของเราที่ 17 เท่า จะได้ดัชนีฯ ที่ 1,374 จุด (ใกล้เคียงระดับปิดเมื่อวานนี้) ความเสี่ยงของตลาดหุ้นจึงน่าจะมากขึ้นตามลำดับ
ปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้: i) ตัวเลขส่งออก/นำเข้าของไทย เดือน มิ.ย. กำหนดการเบื้องต้นจะรายงานในวันที่ 23 ก.ค. ทั้งนี้ consensus คาดส่งออก -15.0% YoY... หดตัวน้อยลงเมื่อเทียบกับ -22.5% YoY ใน พ.ค. ii) ตัวเลข Markit flash PMI เดือน ก.ค. ของประเทศหลักๆ ของโลก เพื่อประเมินโมเมนตัมการฟื้นตัวของเดือน ก.ค. ซึ่งเป็นเดือนที่มีการระบาดของ COVID-19 รุนแรงขึ้นในประเทศหลักๆ ของโลก
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน (สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร ESSO*, AMATA*
ESSO* (เป้าพื้นฐาน 9.5 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 7.85 บาท / แนวต้าน 8.25 บาท หากผ่านแนวต้านนี้ไปได้ประเมินทดสอบแนวต้านถัดไป 8.75 บาท (Stop loss 7.35 บาท) 2) ประเมิน Catalyst บวก i) ผลการดำเนินงาน 2Q63 Turnaround เป็นกำไรราว 1 พันล้านบาท (กำไรสต๊อก + ค่าการกลั่นดีขึ้น QoQ) และ ii) Sentiment บวกจากการเตรียม IPO บ.ลูก PTT* (ปั๊มน้ำมัน OR) ปลายปีนี้ โดย ESSO* มี EBITDA จากธุรกิจปั๊มน้ำมันราว 20-25% ... นักลงทุนอาจพิจารณา "เก็งกำไร" หุ้นโรงกลั่นที่คาดกำไร 2Q63 Turnaround และมี Sentiment บวกของหุ้นโรงกลั่นในภูมิภาคจากโรงกลั่นที่ไต้หวันระเบิด แนะนำอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในบทวิเคราะห์ Commodity weekly วานนี้ SPRC* (รับ 6.9 / ต้าน 7.3 - 7.6 / Stop loss 6.6) TOP* (รับ 44 / ต้าน 46 - 48 / Stop loss 42)
AMATA* (เป้าพื้นฐาน 18.5 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 16.0 บาท / แนวต้าน 16.8 -17.0 บาท (Stop loss 15 บาท) 2) รับ Sentiment บวกจากประเด็นข่าวการย้ายฐานการผลิตจากจีน ล่าสุดมีข่าวภาครัฐฯ ญี่ปุ่นจ่ายเงินสนับสนุนให้ย้ายฐานการผลิตออกจากจีนมายังอาเซียน (เวียดนาม, ไทย) 3) คาด ครม. เศรษฐกิจใหม่เดินหน้าโครงการ EEC ต่อ และโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆเริ่มเดินหน้า 4) PBV 1.2 เท่า ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลังในอดีตที่ 1.3 เท่า และฝ่ายวิจัยฯคาดกำไรปี 2564 จะกลับมาโต +21% YoY (ปีนี้คาดลดลง 29%) ... อาจพิจารณา "เก็งกำไร" WHA* ด้วยธีมการลงทุนเดียวกัน (รับ 3.3 / ต้าน 3.4 - 3.6 / Stop loss 3.2)
หุ้นมีข่าว
(+) BGSR คว้างานมอเตอร์เวย์ ติดตั้งระบบวงเงิน4หมื่นล. (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) ครม. ไฟเขียวกรมทางหลวง เซ็นสัญญากลุ่ม BGSR ติดตั้งระบบเก็บเงินและซ่อมบำรุง "มอเตอร์เวย์" บางปะอิน-โคราช และบางใหญ่-กาญจน์ วงเงิน 3.9 หมื่นล. ใน ก.ค.นี้ เปิดใช้ปี 66 สศช.ถกครม.โยก "คมนาคม"ขอใช้งบโอนปี 63 เหตุเงินกู้เยียวยา "โควิด" มีจำกัด
(- GULF*, PTT* / +นิคมฯ AMATA*, WHA*) พันธมิตร GULF-PTT-จีน เพิ่ม 2 หมื่นล.แหลมฉบัง 3 ครม.ไฟเขียวกลุ่ม BGSR ลุยมอเตอร์เวย์ (ข่าวหุ้น) กลุ่มพันธมิตร GULF*-PTT*-จีน ยอมเพิ่มผลตอบแทนโครงการท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 อีก 20,000 ล้านบาท เป็น 32,000 ล้านบาท จากเดิมให้แค่ 12,051 ล้านบาท แต่ยังต่ำกว่าราคากลาง "กทท." จ่อชงกรรมการนโยบาย EEC เคาะรับหรือไม่รับข้อเสนอเอกชน ขณะที่วานนี้ครม.ไฟเขียวงาน O&M มอเตอร์เวย์ 2 สายแล้ว "กลุ่ม BGSR" ลุ้นได้เซ็นสัญญาเดือนนี้
(+) BGRIM*-GULF* ชิงเค้กนำเข้า LNG ป้อนโครงการ FSRU ของกฟผ. 5 ล้านตัน/ปี (ข่าวหุ้น) BGRIM*-GULF* ชิงเค้กนำเข้า LNG ป้อน FSRU โรงไฟฟ้าพระนครใต้ของกฟผ. 5 ล้านตันต่อปี ลุ้นบอร์ด "กฟผ." ไฟเขียว เล็งเปิด TOR หาผู้รับเหมาก่อสร้างภายในปีนี้ วงเงินลงทุน 2.45 หมื่นล้านบาท
(- CPF*, TFG) ขู่ห้ามส่งออก-หวังกดราคาหมูแพง (ข่าวสด) นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน (คน.) กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า หารือร่วมกับผู้ผลิต ผู้ส่งออก และผู้ค้าปลีกรายใหญ่ ขอความร่วมมือจำหน่ายหมูในราคาที่ไม่เอาเปรียบผู้บริโภค แบ่งเป็นราคาหมูหน้าฟาร์มไม่เกิน 80 บาท/ก.ก. ราคาหมูเนื้อแดงค้าปลีก (หน้าเขียง) ไม่เกิน 150 บาท/ก.ก. ราคาหมูสันนอกไม่เกิน 160 บาท/ก.ก.
(+) CPF* แจ้ง CPP คาดครึ่งปีกำไรพุ่ง (ข่าวหุ้น) นางกอบบุญ ศรีชัย เลขานุการ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF* เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 21 ก.ค. 2563 C.P. Pokphand Co., Ltd. (CPP) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ CPF* ถือหุ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมในสัดส่วน 52.24% ของหุ้นทั้งหมดที่ออกจำหน่ายแล้ว และเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง(HKEX) ได้เปิดเผยข่าวเกี่ยวกับแนวโน้มผลกำไรเชิงบวก (Positive Profit Alert) ตามหลักเกณฑ์การเปิดเผยข้อมูลของ HKEX
หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า
หุ้นที่แนะนำ "Let profit run" โดยกำหนดจุดล็อกกำไร Trailing stop: RS* (Trailing stop 17 บาท), SEAFCO (Trailing stop 6.4 บาท), JMART (Trailing stop 13 บาท)
INTUCH* (เป้าพื้นฐาน 69 บาท) แนวรับ 56.5 บาท / แนวต้าน 58 บาท หากผ่านได้แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop 56 บาท)
CPF* (เป้าพื้นฐาน 38 บาท) แนวรับ 33 บาท / แนวต้าน ?35 บาท หากผ่านได้แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop 32 บาท)
SCCC (เป้าพื้นฐาน 152 บาท) แนวรับ 142 บาท / แนวต้าน 155 - 158 บาท (Trailing stop 140 บาท)
DTAC* (เป้าพื้นฐาน 47 บาท) แนวรับ 40 บาท / แนวต้าน 42 - 43 บาท (Stop loss 37.25 บาท)
EA* (เป้า Consensus 52.4 บาท) แนวรับ 49.5 บาท / แนวต้าน 52 - 54 บาท (Trailing stop 48 บาท)
STA* (เป้า Consensus 28.7 บาท / สูงสุด 39.9 บาท) แนวรับ 28 บาท / แนวต้าน 31 - 33 บาท (Trailing stop 28 บาท)
STEC* (เป้าพื้นฐาน 19.2 บาท) แนวรับ 15.2 บาท / แนวต้าน 15.9 - 16.2 บาท (Stop loss 15.0 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
SEAFCO แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 7.4 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 2Q63 = 77 ล้านบาท (-24.2% YoY, -20% QoQ) ฝ่ายวิจัยฯ ปรับลดประมาณการฯปี 2563 - 64 ลง -11.8% และ -8.7% ตามลำดับ จากการปรับลดสมมติฐานอัตรากำไรเนื่องจากสัดส่วนงานที่มีอัตรากำไรดีลดลง ทั้งนี้ Backlog ในมือปัจจุบันเท่ากับ 2.8 พันล้านบาท ซึ่งรองรับประมาณการรายได้ปี 2563 แล้ว และรองรับประมาณการรายได้ปี 2564 ราว 20% Catalyst บวกระยะสั้นอยู่ที่การผ่นคลายมาตรการเฟส 6 ให้แรงงานต่างชาติเข้าไทยได้ รวมทั้งการรับงานงานโครงการใหญ่ๆอย่าง รถไฟความเร็วสูง, รถไฟฟ้า MRT สีส้มตะวันตก
BCH* แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 22.3 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 2Q63 = 267 ล้านบาท (+9.4% YoY, +2.9% QoQ)
BDMS* แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 27 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 2Q63 = 853 ล้านบาท (-54.3% YoY, -66.8% QoQ)
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web