- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 20 July 2020 18:40
- Hits: 5407
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 20-7-2020
กลยุทธ์วันนี้ >> Earnings Play//Accumulate on Dip
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัว Sideways ในแดนบวกเล็กน้อยตลอดทั้งวันก่อนที่ช่วงท้ายชั่วโมงการซื้อขายจะมีแรงซื้อเข้ามาหนาแน่นขึ้นและหนุนให้ดัชนีปิดบวกได้ถึง 11.72 จุด ณ สิ้นวัน โดยได้รับประเด็นหนุนหลังนายกฯยอมรับทาบทามคุณปรีดี ดาวฉายเป็นรมว.คลัง สถาบันในประเทศพลิกมาขายสุทธิในตลาดหุ้น 647 ลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติพลิกมาซื้อสุทธิ 1.5 พันลบ. (และ Long Index Futures อีกเล็กน้อย 895 สัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index จะแกว่งตัว Sideways ในกรอบ 1,350-1,370 จุด ตลาดยังคงติดตามสถานการณ์ระบาดของ COVID-19 ระลอกที่ 2 ควบคู่ไปกับพัฒนาการของวัคซีนและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านนโยบายการคลังโดยเฉพาะฝั่ง EU ที่ยังไม่ได้ข้อสรุปในการเจรจา ขณะที่โฟกัสหลักในระยะนี้อยู่ที่การประกาศผลประกอบการ 2Q20 ของบริษัทจดทะเบียนโดยฝั่งบ้านเรากลุ่มธนาคารจะประกาศทั้งหมดในสัปดาห์นี้ ส่วนอีกปัจจัยที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นคือการปรับครม.ซึ่งต้องจับตาว่าจะผ่านไปอย่างราบรื่นหรือไม่โดยเฉพาะเก้าอี้รมว.พลังงาน ระยะสั้นเราจึงยังเน้นให้เลือกเก็งกำไรหุ้นที่คาดว่าจะมีผลประกอบการ 2Q20 แข็งแกร่ง ส่วนจังหวะปรับฐานของตลาดลงหาระดับ 1,300 จุด+/- ยังเป็นโอกาสในการทยอยสะสมหุ้นพื้นฐาน
กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นที่คาดมีผลประกอบการ 2Q20 แข็งแกร่ง//ทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานในช่วงตลาดปรับฐาน
หุ้นเด่นเดือน ก.ค. : BDMS, BEM, CK, DOHOME, OSP
หุ้นเด่นวันนี้: OSP
- แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปี 2020 ที่ 46 บาท
- OSP สามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดจาก 54% ใน 1Q20 เป็น 55% และ C-Vitt โตดี แต่ยังไม่พอผลักดันกำไร 2Q20 เราคาดกำไรสุทธิ 769 ลบ. -17% Q-Q, +8% Y-Y
- กำไร 2H20 จะโดดเด่นมากหลังรับรู้กำลังการผลิตส่วนขยายของ C-Vitt เต็มไตรมาส ภาษีสรรพสามิต Functional drink ลดลงเหลือ 3% จากเดิม 10% ตั้งแต่ 10 ก.ค. และโรงงานเครื่องดื่มที่พม่าเริ่มเดินเครื่องจักรปลาย ก.ค. นี้ คาดกำไรปีนี้ +21% ปีหน้า +13% PE 31 เท่าปีนี้จะลดเหลือ 27.8 เท่าปีหน้า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 35 เท่า
Fund Flow เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนพลิกกลับมาไหลเข้าภูมิภาค US$318 ล้าน โดยไหลเข้าเกาหลีใต้และไต้หวัน US$191 ล้านและ US$119 ล้าน ตามลำดับ ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลเข้าเช่นกัน US$46 ล้าน ในขณะที่ประเทศอื่นๆในกลุ่ม TIPS มีเม็ดเงินไหลออก แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ายังผันผวนไหลเข้าสลับไหลออกในระยะนี้ โดยนักลงทุนจับตาสถานการณ์ระบาดระลอก 2 ของ COVID-19 ควบคู่ไปกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรวมถึงพัฒนาการของวัคซีน
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) TISCO กำไรต่ำกว่าคาดแต่ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว กำไรสุทธิ 2Q20 -10% Q-Q, -26% Y-Y เป็น 1.33 พันลบ. ต่ำกว่า consensus คาด 13% กำไรที่ลดลง Y-Y เพราะตั้งสำรองหนี้สูญเพิ่มตามคุณภาพหนี้ที่แย่ลงและการลดลงของรายได้ค่าธรรมเนียม กำไรที่ลดลง Q-Q มาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่ลดลงเพราะมาตรการช่วยลูกหนี้ แต่มีสัญญาณที่ดีคือสำรองหนี้สูญลดลง กำไรผ่านจุดต่ำสุดแล้วใน 2Q20 และการตั้งสำรองผ่านจุดสูงสุดแล้วใน 1Q20 โมเมนตัมจะดีขึ้นใน 3Q20 จากสำรองที่ลดต่อเนื่อง TISCO เป็นหนึ่งในหุ้นเด่นในกลุ่มแบงก์ แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 88 บาท
(-) KTC กำไรสุทธิ 2Q20 -30% Q-Q, -13% Y-Y เป็น 1.15 พันลบ. ใกล้เคียง consensus คาด กำไรที่แย่ลงแม้จะคุมค่าใช้จ่ายได้ดี แต่ถูกหักล้างไปกับการตั้งสำรองที่สูงขึ้น +59% Q-Q, +32% Y-Y จากคุณภาพหนี้ที่แย่ลง (NPL สูงขึ้นเป็น 6.65% จาก 4.02% ใน 1Q20) และรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยลดลง แนวโน้มกำไร 2H20 น่าจะทำได้เพียงทรงตัว Y-Y แม้การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตและรายได้จะค่อยๆดีขึ้น แต่ NIM จะลดลงจากมาตรการของธปท.ในการลดเพดานดอกเบี้ยบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล ขณะที่ Coverage ratio ลดลงอย่างรวดเร็วจาก 624% ในปี 2019 เหลือ 157% ใน 2Q20 แนะนำเพียงถือ ราคาเป้าหมาย 33 บาท
(-) คาดการณ์กลุ่มท่องเที่ยว เราคาดผลประกอบการของกลุ่มท่องเที่ยว (MINT, CENTEL, ERW) มีผลขาดทุน 2Q20 สูงถึง 6.64 พันลบ. แย่ลงจาก 1Q20 ที่ขาดทุน 3.28 พันลบ. จากผลของการ Lockdown โรงแรมต้องหยุดให้บริการช่วง เม.ย.-พ.ค. และกลับมาทยอยเปิดให้บริการเดือน มิ.ย. ทำให้ Rev Par น่าจะหดตัว 80-90% Y-Y ส่วน SSSG ของธุรกิจอาหารคาดหดตัว 25-30% Y-Y การฟื้นตัวใน 2H20 ยังเป็นไปอย่างช้าๆเพราะไม่สามารถทำ Travel Bubble ได้เป็นวงกว้าง โครงการเราเที่ยวด้วยกันชดเชยได้เพียงบางส่วน เรายังคง Underweight ระยะสั้นไม่น่าสนใจ จุดเปลี่ยนคือวัคซีน ไม่เช่นนั้นการลงทุนต้องมองยาว 1-2 ปีจึงจะน่าสนใจในฐานะหุ้น Turnaround
(-) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 62.76 จุด ปิดที่ 26,671.95 จุด จากความกังวลเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐที่เพิ่มขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ และจากการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทเน็ตฟลิกซ์ใน 2Q20 ที่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
(+) ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก ท่ามกลางนักลงทุนรอผลการประชุมสุดยอดของผู้นำสหภาพยุโรป (EU) ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งคาดว่าจะเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจวงเงิน 7.50 แสนล้านยูโร รวมถึงหนุนจากหลายบริษัทเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2Q20 ดีกว่าคาด
(0) ตลาดเอเชียปรับตัวผสม ท่ามกลางนักลงทุนติดตามธนาคารกลางจีนกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR ประจำเดือนก.ค. รวมถึงญี่ปุ่นเปิดเผยยอดส่งออก นำเข้า และดุลการค้าเดือนมิ.ย. และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานการประชุมในเช้าวันนี้ตามเวลาไทย
(0) ค่าเงินบาทแกว่งในกรอบแคบ ล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 31.72 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 16 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 40.59 ดอลลาร์/บาร์เรล จากความกังวลเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และความต้องการใช้น้ำมัน
(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 9.7 ดอลลาร์ หรือ 0.54% ปิดที่ 1,810 ดอลลาร์/ออนซ์ จากความคาดหวังว่าสหรัฐและยุโรปจะออกมาตรการกระตุ้นด้านการคลังเพิ่มเติม รวมถึงการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 1206.89 / +-
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
22 ก.ค. - ไทย: ส่งออก-นำเข้า (มิ.ย.)
23 ก.ค. - เกาหลีใต้: 2Q20 GDP
- ยูโรโซน: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.ค.)
24 ก.ค. - สหรัฐ: Markit US Mfg & Services PMI (ก.ค.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Mfg & Services PMI (ก.ค.)
Contact person : Jitra Amornthum Register : 014530
Contact person : Veeravat Virochpoka Register : 047077
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web