- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 20 July 2020 18:16
- Hits: 4760
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 20-7-2020
“กังวลผู้ติดเชื้อสูง-ประกาศงบแบงก์-ทีมเศรษฐกิจใหม่”
- • หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : --
# ภาวะตลาดและปัจจัยก่อนหน้า :
SET วันศุกร์ปรับขึ้น รับข่าวจัดตั้งทีมเศรษฐกิจ ปิด +11.72 จุด ที่ 1359.58 จุด มูลค่าซื้อขายบาง 41 พันลบ.ดัชนีฯปรับขึ้นดีกว่าตลาดเพื่อนบ้าน มีข่าวนายกฯทาบทาม รมต.เศรษฐกิจ เช่น กระทรวงการคลังเป็น นายปรีดี ดาวฉาย แม้ว่ามีปัจจัยลบ จากความตึงเครียดสหรัฐ-จีน กำไร2Q สหรัฐ-แรงงานไม่สดใส ข่าวโอเปกลดผลิตน้อยลง ติดตามงบกลุ่มแบงก์ ผู้ซื้อสุทธิมาก-ต่างประเทศ ขายสุทธิมาก-รายย่อย YTD ต่างชาติขายสุทธิ 220 พันลบ.
# ปัจจัยและกลยุทธ์:
SET มีโอกาสไซด์เวย์ กังวลยอดผู้ติดเชื้อสูง-เริ่มทยอยประกาศกลุ่มแบงก์ไม่สดใส-ติดตามทีมเศรษฐกิจใหม่ ปัจจัยลบคือ ผู้ติดเชื้อทั่วโลกสูงเป็น 14 ล้านราย เสียชีวิต 6 แสนราย สหรัฐยังอันดับ 1 มีแรงขายหุ้นเทคโนฯฉุดตลาดหุ้นสหรัฐ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ก.ค.ลดลง ดาวโจนส์ปรับลง 63 จุด ราคาน้ำมันดิบปรับลง ส่วนม็อบเยาวชนปลดแอกสลายตัวให้เวลารัฐบาล 2 สัปดาห์ให้คำตอบและสัปดาห์นี้งบกลุ่มแบงก์จะออกมาก มีแนวโน้มจะไม่สดใส หลัง TISCO และKTC ออกมาลดลง วันนี้เป็น KBANK และ SCB ซึ่ง DBS คาด -33% และ -44% y-o-y ตามลำดับ ด้านปัจจัยบวกคือ นักลงทุนคาดหวังรัฐจะออกมาตรการการคลังมากขึ้นตัวเลขเริ่มต้นสร้างบ้าน มิ.ย.63 เพิ่ม 17% สูงสุดตั้งแต่ ต.ค.59 ดัชนีความกังวลวันศุกร์ลดเป็น 25.7 จุด ส่วนในประเทศ ติดตามโฉมหน้าทีมเศรษฐกิจใหม่ และธปท.ยื่นก.คลัง ไทยยังไม่เกิดเงินฝืด เช้านี้ตลาดหุ้นเพื่อนบ้านไซด์เวย์ ดาวโจนส์ฟิวเจอร์สเป็นบวก กลยุทธ์ระยะสั้น เข้าไว-ออกไว เล่นรอบ คาดดัชนีซื้อ-ขายในกรอบ 1340-1380จุด ด้านกลยุทธ์ระยะกลาง-ยาว เนื่องจากเศรษฐกิจโลกและไทยยังย่ำแย่ ความเสี่ยง ติดเชื้อรอบสองและการเมืองไทย แต่มีสัญญาณการผลิต-บริการจ้างงานเริ่มฟื้นตัว หลังคลายล็อกดาวน์ และไตรมาส 2 เป็นจุดต่ำสุดของปีแล้ว จึงแนะนำทยอยถอยรับหลักทรัพย์พื้นฐานดีที่แนะนำซื้อ หุ้นกลุ่มธนาคารมูลค่าต่ำกว่าพื้นฐาน- KBANK,TISCO,KKP,TMB (งบ 2Q63 เด่นสุด +29%) เก็งกำไรหุ้นกลุ่มส่งออกเมื่อบาทอ่อน- DELTA,HANA,KCE,CPF,TU หุ้นพลังงานผันผวนแต่หุ้นแนะนำซื้อ-PTT, PTTEP, TOP, GPSC, BGRIM, BCP วัสดุก่อสร้างพื้นฐานดี-SCC,TASCO, DRT หุ้นกลุ่มการแพทย์เข้าไฮซีซัน-BCH,BDMS,CHG,RJH, RPH หุ้น Defensive-ADVANC,DTAC,CPF,CHG,OSP หุ้นปันผลสูง-KKP,TISCO,LH เติบโต-ฟื้นตัวดี- AP,MTC,PTL,TASCO,TU,STI ราคาเนื้อสัตว์ดี-CPF ขนส่ง-กลับมาฟื้นตัวเร็ว BEM หุ้นกลุ่ม REITs & IFFs ปันผลสูง ดอกเบี้ยในตลาดต่ำ- DIF,AIMIRT,IMPACT แต่ระยะสั้นระวังงบ 2Q63 ไม่ดี คือ BTS,CPALL, HMPRO,CK,VGI,PF อย่างไรก็ตามการยังไม่เปิดน่านฟ้ารับคนต่างประเทศ กลุ่มที่ยังไม่สดใส คือ เดินทาง-ท่องเที่ยว สนามบิน AOT (แต่การกระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศ บางครั้งมีเก็งกำไร) นิคมฯ-คอนโดรอโอนจากจีน และโรงพยาบาลเน้นต่างประเทศ BH แนวรับคือ 1320-1310 จุด และ แนวต้าน 1370-1380 จุด ส่วนตัดขาดทุนต่ำกว่า 1350 จุด
# Stock Pick Today : STI กำไร 2Q63 โตเด่น นำ AEC ควบรวม คาดกำไร 2Q63 เป็น 40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +116.7%YoY และ +44.9%QoQ เป็นผลดีจากการการซื้อกิจการ 63.75% ใน AEC ตั้งแต่ พ.ค.เป็นต้นไป ปรับประมาณการดีขึ้นปีนี้เพิ่มอีก 11% จากการปรับสัดส่วนค่าใช้จ่ายเทียบรายได้ลดลง ยังผลให้อัตราการเติบโต y-o-y ปีนี้และปีหน้าก้าวกระโดดเป็น +73%/+52% ตามลำดับ Backlog เพิ่มเป็น 4.5 พันล้านบาท สร้างรายได้ 2-3 ปี แนะนำ ซื้อ ราคาพื้นฐาน 8.26 บาท
การวิเคราะห์ทางเทคนิค: สั้น...ภาพกลับเป็นบวก อาจมีรีบาวด์ช่วงสั้นๆ แต่ยังให้น้ำหนักกับการลงในระยะกลาง ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick & Indicatorsเปลี่ยนกลับเป็นบวกเล็กๆอีกครั้ง {“ปิดบวก”เหนือ“SMA10วัน”อีกครั้ง (โดยมี“โครงสร้างขาลง – ระยะกลาง”กดดัน)} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯสัปดาห์นี้“แกว่ง”แบบมีรีบาวด์ฯสั้นก่อน(แล้วจึงลงต่ำ,ตามมา)ได้ แนวต้าน 1370 (หรือ 1380 – 1390) จุด {แนวตัดขาดทุน “ต่ำกว่า 1350” (แนวรับย่อย “1320 – 1310 / 1300” จุด)}
Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com
Inside Story
Key Drivers TODAY : ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ
Flash Note : TISCO (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 87.00)
Turnover List Watch : ไม่มีหุ้นติด Cash Balance แต่มีประกาศ DW เพิ่ม
Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
- โควิด-19: จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกยังสูงมาก วันศุกร์จ่อแตะ 14,000,000 ราย ตายเกือบ 600,000 ราย
# วันศุกร์ Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุว่ายอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกขณะนี้อยู่ที่ 13,977,520 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 593,438 ราย โดยสหรัฐมียอดผู้ติดเชื้อไวรัสและเสียชีวิตโควิด-19 สูงสุดในโลก
- สหรัฐ: ยังติดอันดับ 1 ของโลกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิต
# วันศุกร์สหรัฐติดอันดับ 1 ของโลกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิต โดยล่าสุด Worldometer รายงานว่า มีผู้ติดเชื้อจำนวน 3,757,725 ราย และมีผู้เสียชีวิต 141,881 ราย
- สหรัฐ: นักลงทุนเทขายทำกำไรหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวขึ้น ส่วนบริษัทเน็ตฟลิกซ์ กำไรต่ำกว่าคาด
# ดัชนี Nasdaq ปรับตัวลง 1.1% ในรอบสัปดาห์นี้ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวขึ้นสูงอาทิ ไมโครซอฟท์ คอร์ป และอเมซอน.คอม และได้ย้ายไปลงทุนในหุ้นกลุ่มอื่นๆ ที่ปรับตัวตามภาวะเศรษฐกิจ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่ราคาหุ้นของบริษัทเน็ตฟลิกซ์ ดิ่งลง 6.52% หลังเปิดเผยผลกำไรไตรมาส 2/2563 ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ แม้ว่ารายได้และจำนวนผู้ใช้บริการสูงเกินคาดก็ตาม
+ สหรัฐ: นักลงทุนคาดว่า รัฐบาลจะออกมาตรการสนับสนุนด้านการคลังมากขึ้น
# นักลงทุนยังคาดว่า รัฐบาลจะออกมาตรการสนับสนุนด้านการคลังมากขึ้น เนื่องจากโครงการช่วยเหลือคนว่างงานจะหมดอายุลงในวันที่ 31 ก.ค.นี้
# ขณะที่สมาชิกสภาคองเกรสสหรัฐจะกลับไปยังกรุงวอชิงตันในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ เพื่อทำการอภิปรายเกี่ยวกับร่างกฎหมายช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อีกฉบับ
-/+ สหรัฐ: ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐร่วง แต่ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านกลับเพิ่มขึ้น
# มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐ ร่วงลงสู่ระดับ 73.2 ในเดือนก.ค.สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่า ดัชนีจะดีดตัวขึ้นแตะระดับ 79.0 จากระดับ 78.1 ในเดือนมิ.ย. โดยดัชนีความเชื่อมั่นปรับตัวลง เนื่องจากผู้บริโภคกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดรอบสองของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ
# ส่วนกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านพุ่งขึ้น 17.3% ในเดือนมิ.ย. สู่ระดับ 1.186 ล้านยูนิตซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2559 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.169 ล้านยูนิต จากระดับ 1.011 ล้านยูนิตในเดือนพ.ค.
- ตลาดหุ้นสหรัฐ: ดาวโจนส์ปิดลบ 62.76 จุด วิตกยอดโควิดพุ่งกระทบธุรกิจ
# ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางธุรกิจที่เกิดจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ในสหรัฐ และตลาดยังถูกกดดันจากการเปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาดของบริษัทจดทะเบียนต่างๆ
- น้ำมัน: WTI ปิดลบ 16 เซนต์ วิตกโควิดพุ่งฉุดดีมานด์ลด
# สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และทำให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลง
# ทั้งนี้ โอเปกพลัสเห็นชอบให้ปรับลดการผลิตน้ำมันเพียง 7.7 ล้านบาร์เรล/วัน จากปัจจุบันที่ปรับลด 9.7 ล้านบาร์เรล/วันโดยมติดังกล่าวจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในเดือนส.ค.ไปจนถึงสิ้นปี 2563 ซึ่งจะทำให้มีปริมาณน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นอีก 2 ล้านบาร์เรล/วันจากโอเปกพลัสไหลเข้าสู่ตลาดน้ำมันโลก
- • ทองคำ: ปิดบวก $9.7 ขานรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ-ยุโรป
# สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับการคาดการณ์ที่ว่า สหรัฐและยุโรปจะออกมาตรการกระตุ้นด้านการคลังเพิ่มเติม และนักลงทุนยังเข้าซื้อทองในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังคงพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์
- •/+ การเมืองไทย: นายกรัฐมนตรี เชื่อมั่นว่า การปรับ ครม.ครั้งนี้จะทำทุกอย่างให้ดีขึ้น
# นายกรัฐมนตรี เชื่อมั่นว่า การปรับ ครม.ครั้งนี้จะทำทุกอย่างให้ดีขึ้น ซึ่งที่ผ่านมารัฐมนตรีทุกคนไม่ได้บกพร่องอะไรเพียงแต่มีสถานการณ์หลายอย่างเข้ามากดดัน ซึ่งหากมีการปรับเปลี่ยนประชาชนอาจจะรู้สึกดีขึ้นได้ และเชื่อว่าโฉมหน้าครม.ชุดใหม่จะออกมาดี และขอให้รอดูผลงาน พร้อมระบุว่า ในรอบนี้จะทำหน้าที่คุมทีมเศรษฐกิจด้วยตัวเอง
# ผลกระทบ: โฉมหน้า ครม.เศรษฐกิจใหม่ จะมีผลต่อภาวะตลาดฯ หากเป็นคนที่มีแววว่าจะทำให้เศรษฐกิจประคองตัวและฟื้นตัวได้ในยามมีโรคโควิด-19 ก็จะตอบรับในทางบวก ล่าสุดมีข่าวนายกฯทาบทาม รมต.เศรษฐกิจ เช่นกระทรวงการคลังเป็น นายปรีดี ดาวฉาย แต่ล่าสุด นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล อดีตผู้ว่า ธปท. และนาย ทศพร ศิริสัมพันธ์เลขาธิการสภาพัฒน์ได้ปฏิเสธการเข้าร่วม
-การเมืองไทย: "เยาวชนปลดแอก" ยุติการชุมนุมก่อนเที่ยงคืน อ้างความปลอดภัย
# หลังการชุมนุมยาวกว่า 6 ชั่วโมง แกนนำผู้จัดการชุมนุมที่เรียกตัวเองว่า "เยาวชนปลดแอก" ประกาศยุติการชุมนุมเมื่อ23:05 น. อ้างเรื่องความปลอดภัย หลังก่อนหน้านี้ บอกว่า จะอยู่ "เฝ้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย" จนถึง 08:00 น. ของ วันที่19 ก.ค. (BBC News)
# ผลกระทบ: เป็นลบ ต้องติดตามเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อไป ว่าจะขยายผลลุกลามไปในเชิงลบหรือไม่ โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้ให้เวลารัฐบาลเป็นเวลา 2 สัปดาห์ในการตอบข้อเสนอเรียกร้องต่างๆ ที่ได้เสนอไป
+ ผลตรวจประชาชน กรณีทหารอียิปต์-ดญ.ซูดาน ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ
# อธิปดีกรมการควบคุมโรคได้กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจประชาชนที่มีโอกาสติดเชื้อ ทั้งจ.ระยอง และกทม. ปรากฏว่า มีข่าวนายกฯทาบทาม รมต.เศรษฐกิจ เช่น กระทรวงการคลังเป็น นายปรีดี ดาวฉาย ทำให้ความกังวลการติดเชื้อรอบสอง (Second Wave) ลดน้อยลง
- • ธปท.เสนอก.คลัง ชี้แจงอัตราเงินเฟ้อทั่วไป และยืนยันว่าไทยยังไม่เข้าสู่ภาวะเงินฝืด คาด 2Q64 สู่ภาวะปกติ
# ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทำจดหมายเปิดผนึกถึง รมว.คลัง ชี้แจงอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ย 12 เดือนและประมาณการอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ย 12 เดือนข้างหน้าต่ำกว่ากรอบเป้าหมายนโยบายการเงินที่ 1-3% โดยยืนยันว่าไทยยังไม่เข้าสู่ภาวะเงินฝืด แม้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะต่ำกว่าขอบล่างของกรอบ โดยคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายภายในไตรมาส 2/64 จากนโยบายการเงินการคลังผ่อนคลายต่อเนื่อง โดย ธปท.จะติดตามพัฒนาข้อมูลความเสี่ยงต่างๆ และพร้อมใช้เครื่องมือเชิงนโยบายที่มีอยู่เพื่อให้อัตราเงินเฟ้อกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในเวลาอันเหมาะสม
- • หอการค้าไทยระบุความคาดหวังทีมเศรษฐกิจใหม่ สานต่อโครงการขนาดใหญ่ และความเท่าเทียมในสังคม
# ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ระบุว่า สิ่งที่คาดหวังจะเห็นจากทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐนตรี คือการเดินหน้าขับเคลื่อนโครงการที่มีความสำคัญและเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้มีความต่อเนื่องอย่างเป็นรูปธรรมและรวดเร็ว ซึ่งโครงการที่ดีและเป็นประโยชน์ที่ทีมเศรษฐกิจชุดนี้ได้ทำไว้ เช่นโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี), โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน, การพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา ตลอดจนการพัฒนาเมืองโดยรอบสู่การเป็นสมาร์ทซิตี้ เป็นต้น ขณะเดียวกัน ต้องไม่ลืมให้ความสำคัญการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ โดยเฉพาะด้านการศึกษาด้วย ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมในสังคมมากขึ้น
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web