WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.เคจีไอ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 17-7-2020KGI

ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้   ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)

ไซด์เวย์

มุมมอง SET Index วันศุกร์: ฝ่ายวิจัยฯ คาดดัชนีฯ ไซด์เวย์ (เทรดในกรอบจำกัด) เพราะปัจจัยแวดล้อมในทุกมิติในวันนี้ เมื่อสุทธิออกมาแล้วเป็นกลาง และนักลงทุนมีแนวโน้มรอปัจจัยเพิ่มเติมในสัปดาห์หน้า

ปัจจัยต่างประเทศ - เป็นกลาง: i) ในฝั่งสหรัฐฯ ยอดขอรับสวัสดิการว่างงานแย่กว่าที่คาด เพิ่มขึ้น 1.30 ล้านคน (consensus คาดเพิ่ม 1.26 ล้านคน) ขณะที่ตัวเลขยอดค้าปลีก มิ.ย. ดีกว่าคาด เพิ่มขึ้น 7.5% (consensus คาดเพิ่ม 5.2%) ii) ผลประกอบการหุ้นธนาคารสหรัฐฯ ดีกว่าคาด 1 ตัว (Morgan Stanley) และแย่กว่าคาด 1 ตัว (Bank of America) iii) ผลประชุม ธ.กลางยุโรป คงดอกเบี้ยและนโยบาย QE ยุโรปไว้ที่ระดับเดิม เพื่อติดตามภาวะเศรษฐกิจต่อไปก่อน iv) จำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ทั่วโลกเมื่อวานนี้ เพิ่มขึ้น 2.4 แสนคน (เป็นระดับสูงสุดครั้งใหม่)... และยังต้องติดตามข่าววัคซีน/ยารักษา COVID-19 ต่อไป

ปัจจัยภายในประเทศ - เป็นบวกเล็กน้อย: เมื่อวานกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันผลตรวจ... ไม่พบการติดเชื้อ COVID-19 ที่โยงจาก 2 เคสที่เป็นประเด็นคือทหารอียิปต์ที่ระยอง และครอบครัวฑูตซูดานใน กทม.

ปัจจัยที่ต้องติดตามสัปดาห์หน้า: i) สถานการณ์ COVID-19 ในสหรัฐฯ และความเสี่ยงต่อการปิดเมือง/ปิดธุรกิจเพิ่มเติม ii) ตัวเลขส่งออก/นำเข้า เดือน มิ.ย. ของไทย iii) ผลประกอบการไตรมาส 2/2563 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไทย และ iv) ตัวเลข flash PMI เดือน ก.ค. ของประเทศหลักๆ ของโลก เพื่อประเมินโมเมนตัมการฟื้นตัวของเดือน ก.ค. ซึ่งเป็นเดือนที่มีการระบาดของ COVID-19 รุนแรงขึ้น  

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)

เก็งกำไร ESSO*, JMART

                ESSO* (เป้าพื้นฐาน 9.5 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 7.4 บาท / แนวต้าน 8.0 - 8.25 บาท (Stop loss 7.1 บาท) 2) ประเมิน Catalyst บวก i) ผลการดำเนินงาน 2Q63 Turnaround เป็นกำไรราว 1 พันล้านบาท (กำไรสต๊อก + ค่าการกลั่นดีขึ้น QoQ) และ ii) Sentiment บวกจากการเตรียม IPO บ.ลูก PTT* (ปั๊มน้ำมัน OR) ปลายปีนี้ โดย ESSO* มี EBITDA จากธุรกิจปั๊มน้ำมันราว 20-25% ... นักลงทุนอาจพิจารณา "เก็งกำไร" หุ้นโรงกลั่นที่คาดกำไร 2Q63 Turnaround SPRC* (รับ 6.5 / ต้าน 6.8 - 7.0 / Stop loss 6.15) TOP* (รับ 42 / ต้าน 44 - 46 / Stop loss 40.5)

                JMART (เป้า Consensus 15 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 12.3 บาท และ 12.0 บาท / แนวต้าน 13.0 - 13.2 บาท (Trailing stop 11.0 บาท) 2) คาดแนวโน้มผลการดำเนินงาน บ.ลูก SINGER และ JMT* จะดีกว่าคาด หนุนผลการดำเนินงานรวมของ JMART (แม้ 2Q63 จะเป็นช่วงล็อคดาวน์) + 5G หนุนยอดขายสมาร์ทโฟนให้ฟื้นใน 2H63 3) ราคาหุ้น Laggard ทั้ง บ.ลูก (SINGER, JMT*) โดยจากราคาปิดล่าสุด Market cap JMART discount การถือหุ้น SINGER และ JMT* ตามสัดส่วนการถือหุ้นถึง -22% โดยไม่รวมมูลค่าของธุรกิจขายค้าปลีกของ JMART (Market cap JMART = 1.1 หมื่นล้านบาท / มูลค่า SINGER + JMT ตามสัดส่วนการถือหุ้น = 1.45 หมื่นล้านบาท)

หุ้นมีข่าว

(0) BDMS* คาดว่า ผลประกอบการ 3Q63 จะดีกว่า 2Q63 เนื่องจากการกลับมาของผู้ป่วยไทยสู่ระดับปกติแล้วในขณะนี้ ประกอบการกับมีโอกาสสร้างรายได้ส่วนเพิ่มจากทางเลือกในการกักตัวจากความเสี่ยงติดเชื้อ COVID-19 ของรัฐ (ข่าวหุ้น) เรามีมุมมองเป็นกลางต่อข่าวดังกล่าว โดยค่นอข้างแน่นอนว่า ผลการดำเนิงานงวด 2Q63 จะเป็นจุดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ (คาดการณ์เบื้องต้นจะต่ำกว่า 1 พันล้านบาท เทียบกับค่าเฉลี่ยปกติระดับใกล้เคียง 2 พันล้านบาท/ไตรมาสในช่วงที่ผ่านมา) อย่างไรก็ตาม เรามีมุมมองทางบวกมากขึ้นต่อโอกาสการฟื้นตัวของผู้ป่วยต่างชาติที่จะเข้ามารักษาในประเทศไทยปีหน้า เรายังคงแนะนำซื้อหุ้น BDMS โดยให้ราคาเป้าหมายกลางปี 2564 เท่ากับ 27.00 บาท

(+) จ่อผุดเฟส 2 เราเที่ยวด้วยกัน กระตุ้นท่องเที่ยว 'เมืองรอง' (กรุงเทพธุรกิจ) "พิพัฒน์" เผยนายกฯสั่งกระทรวงท่องเที่ยวฯผุดเฟส 2 โครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" กระตุ้นท่องเที่ยว 55 เมืองรองชุมชน-วันธรรมดา เพิ่มอัตรา รัฐช่วยจ่ายจาก 40% เป็น 60%

(0) TIP รื้อโครงสร้าง จัดตั้ง 'โฮลดิ้งส์' ขยายธุรกิจใหม่ (ไทยโพสต์) รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) (TIP) แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2563 มีมติอนุมัติแผนการปรับโครงสร้างการถือหุ้นและการจัดการ การเพิกถอนหุ้นสามัญของบริษัทออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) การทำคำเสนอซื้อหุ้นสามัญของบริษัท การจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้งส์ขึ้นใหม่ และการนำหุ้นสามัญของบริษัทโฮลดิ้งส์ที่จัดตั้งขึ้นใหม่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยจะเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติในวันที่ 1 กันยายนนี้

(-) ค่าไฟก.ย.-ธ.ค.ลด0.83 สต./หน่วย ห่วงโควิดซ้ำอุ้มไม่ไหว-รัฐต้องช่วย (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) กกพ.เคาะลดค่าเอฟที งวด ก.ย.-ธ.ค.63 ลง 0.83 สต.ต่อหน่วย ขณะที่แนวโน้มค่าไฟฟ้าปีหน้าลดลงตามราคาก๊าซฯ ที่ดิ่งลง สะท้อนราคาน้ำมันย้อนหลัง แต่ต้องจับตาตัวแปรสำคัญ การใช้ไฟฟ้าจะลดลงมากน้อยเพียงใดตามทิศทาง ศก. ยอมรับหากโควิด-19 ระบาดรอบ 2 หากรัฐให้ดูแลค่าไฟ ต้องจัดสรรเงินงบประมาณช่วยเหลือ

(+) ILINK เทรนด์สื่อสารบูม ส่งมอบรถไฟฟ้า 2 พันล. (ทันหุ้น) ILINK โดดรับเทรนด์สื่อบูม หนุนครึ่งแรกฟอร์มอลังการ ด้านบิ๊ก "สมบัติ อนันตรัมพร" จัดทัพชิงงานใหม่ 1 พันล้านบาท เติม Backlog เพิ่มจากเดิมราว 1.4 พันล้านบาท รับรู้ยาวถึงปีหน้า แถมลุ้นเซ็นงานเกาะปันหยีไตรมาส 3/2563 นี้ ส่วนปีนี้การันตีรายได้ตามฝัน 5.95 พันล้านบาท จ่อรับรู้ส่งมอบรถไฟฟ้าไร้คนขับมูลค่า 2 พันล้านบาท

(+) III จับ "สกาย" รุกเกมใหญ่ ฮุบงานภาคพื้น-ขนส่ง AOT* (ข่าวหุ้น) ทริพเพิล ไอ ขายหุ้น SAL ให้ SKY ในสัดส่วน 33.20% หวังรุกเกมใหญ่ ผนึกเป็นพันธมิตรเสริมแกร่งธุรกิจ ดึงความเชี่ยวชาญด้านไอทีมาต่อยอดขยายงาน บริการภาคพื้น-ขนส่งในท่าอากาศยาน 6 แห่งของ AOT* ในอนาคต

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

                หุ้นที่แนะนำ "Let profit run" โดยกำหนดจุดล็อกกำไร Trailing stop: RS* (Trailing stop 17 บาท), SEAFCO (Trailing stop 6.3 บาท)

                INTUCH* (เป้าพื้นฐาน 69 บาท) แนวรับ 56.5 บาท / แนวต้าน 58 บาท หากผ่านได้แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop 56 บาท)

                DTAC* (เป้าพื้นฐาน 47 บาท) แนวรับ 39 บาท / แนวต้าน 41- 42 บาท (Stop loss 37.25 บาท)

                CPF* (เป้าพื้นฐาน 38 บาท) แนวรับ 33 บาท / แนวต้าน ±35 บาท หากผ่านได้แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop 32 บาท)

                EA* (เป้า Consensus 52.4 บาท) แนวรับ 46.5 บาท / แนวต้าน 49.5 - 52 บาท (Stop loss 45 บาท)

                STA* (เป้า Consensus 28.7 บาท / สูงสุด 39.9 บาท) แนวรับ 28 บาท / แนวต้าน 31 - 33 บาท (Trailing stop 28 บาท)

                STEC* (เป้าพื้นฐาน 19.2 บาท) แนวรับ 15.0 บาท / แนวต้าน 15.7 - 16.1 บาท (Stop loss 15.0 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

                CK* แนะนำ "ถือ" เป้าพื้นฐาน 26 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดจะรายงานผลขาดทุน -58 ล้านบาท (ขาดทุนน้อยลงจาก 1Q63 และแย่ลงจากที่กำไรใน 2Q62) การฟื้นตัว QoQ เป็นผลจากปันผลรับจาก บ.ลูก TTW* ฝ่ายวิจัยฯปรับลดประมาณการฯปี 2563 - 64 ลง -39.8% และ -2% ตามลำดับ จากการปรับลดรายได้ของ BEM* และ CKP* ลง Catalyst ระยะสั้นสำหรับการลงทุนอยู่ที่การประมูลรถไฟฟ้า MRT สายสีส้มตะวันตก

                STEC* แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 19.2 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 2Q63 = 280 ล้านบาท (+4.5% YoY, +33.7% QoQ) โดยไตรมาสนี้จะได้รับปันผลรับจาก GULF* และ TSE และ Catalyst ระยะสั้นคือการประมูลงานรถไฟฟ้า MRT สายสีส้มตะวันตก ขณะที่ Backlog ในมือแข็งแกร่งกว่าคู่แข่งอย่าง CK*

                CKP* แนะนำ "ถือ" เป้าพื้นฐาน 4.6 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดจะรายงานผลขาดทุน -358 ล้านบาทใน 2Q63 (ขาดทุนใกล้เคียงกับ 1Q63 / แต่พลิกขาดทุนจากที่เคยกำไรใน 1Q62) ฝ่ายวิจัยฯปรับลดประมาณการฯปี 2563 ลง -57.6% สะท้อนผลการดำเนินงานโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำที่อ่อนแอใน 1H63 อย่างไรก็ดีคาดผลการดำเนินงานจะฟื้นตัวใน 2H63 (ฤดูฝน)

                PTTGC* แนะนำ "ถือ" เป้าพื้นฐาน 51 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 2Q63 = 1.6 พันล้านบาท (-27% YoY, Turnaround QoQ) ขณะที่คาดค่าการกลั่นจะดีขึ้นต่อเนื่องหลังจากที่โรงกลั่น ไต้หวัน เกิดเหตุระเบิดวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา (คาดเวลาราว 3 เดือนสำหรับการซ่อมแซม)

******************************************

 

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!