Market wrap & Outlook

เมื่อวานตลาดรีบาวด์ก่อน แล้วปิดลบ จากข่าว พบผู้ติดเชื้อ โควิด-19 จาก ตปท.ที่อยู่ในช่วงกักตัว มีการเดินทางออกนอกพื้นที่กักตัว โดยจังหวัดเสี่ยงสูง ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ติดเชื้อได้แก่ กทม.และระยอง ส่งผลให้ราคาหุ้นที่เชื่อมโยงปรับลงทันทีที่ข่าวออก เช่น โรงแรม, ห้างค้าปลีก, โฆษณานอกบ้าน ฯลฯ // หุ้น Most active ติดลบได้แก่ IVL AOT PTL TOP และหุ้นบวกสวนตลาดได้แก่ CPF STGT STA CKP เป็นต้น // หุ้น SMID Cap บวกแรง ได้แก่ SYNEX AH MEGA TQM ASIAN SMT DELTA

วันนี้คาดตลาด Rang bound กรอบ 1331-1363 จุด แนะนำสะสม หุ้น SMID CAP และหุ้นใน Universe ของเราที่ คาดกำไร 2Q20 จะรายงานกำไรเติบโตแข็งแกร่ง ติดตามในรายงาน Tactical play วันนี้

What to watch

(+) กลยุทธ์ ได้เก็บข้อมูลการเล่นของหุ้น ในรอบสั้นที่ผ่านมาระหว่างกรอบดัชนี 1306-1391 (ระหว่าง 25 มิย.-7 กค.) และพบความน่าสนใจของการหมุนกลุ่มเล่นรอบๆนี้ว่า มีการขยับลงมาเล่นหุ้น Second tier sector ประเภทกลาง-เล็ก...เป็นกลุ่มที่ขึ้นแรงกว่าตลาด โดยหุ้นรายตัวที่บวกแรง เช่น STA DELTA GGC EA NEX PRM SINGER JMART JMT 

นอกจากประเด็นการลงทุนของหุ้นเฉพาะตัว แล้ว เราพบว่า ราคาหุ้นในกลุ่มที่เราศึกษา ราคาหุ้นจะ "ขึ้น/ลง" สอดคล้องกับ ผลการดำเนินงาน 2Q20 ที่ "ดีขึ้น/แย่ลง" ด้วยส่วนหนึ่ง ดังนั้นในรายงานฉบับนี้ เราจะใช้เป็น คู่มือประกอบการตัดสินใจลงทุน หรือ เลือกที่จะถือหุ้นต่อตามปัจจัยพื้นฐานด้านผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น และราคาหุ้นที่ปรับลงมา มองเป็นโอกาในการ "Buy on dips" หุ้นเหล่านี้ ภายใต้สมมุติฐาน 2nd wave COVID-19 ในประเทศ ไม่รุนแรงกค. 

(*/+) หุ้นไทยหลายตัว ราคาปรับลงให้ส่วนลดสูง เปิดโอกาสให้กองทุนในประเทศ เริ่มหันมาออกกอง ทริกเกอร์ฟันด์ อีกครั้ง ล่าสุด SCBAM ออกขายกอง ลุยหุ้น New normal เสนอขาย 14-20 กค. นี้ 

(*/-) วิตกการระบาดรอบใหม่ของ เชื้อ โควิด-19 ในประเทศ หลังพบความเสี่ยงจาก 2 เคสผู้ติดเชื้อเมื่อวานนี้ โดยพื้นที่เสี่ยง ได้แก่ ระยอง (ทหารอียิปต์) และ กทม. (ลูกฑูตซูดาน) และการเปิดประเทศเก็บตกคนไทยตกค้าง เริ่มมีการตรวจพบอาการไข้ แต่ทั้งหมด เรามองว่าความเสี่ยงของการระบาดยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำ เพราะ ยังสามารถติดตามความเสี่ยงของผู้ใกล้ชิดเพื่อกักตัว และ รัฐยังคงมีการใช้มาตรการกักตัวผู้เดินทางเข้าประเทศอยู่ น่าจะช่วยตีวง จำกัด การระบาดรอบ 2ได้

หุ้นแนะนำ 

JMART ดูรายงานวันนี้ Earnings Upgrade

Weekly Port

ถอด CENTEL AAV WHA

วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336

นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค

ธนัท พจน์เกษมสิน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน

นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน

รายงานวันนี้

JMART

กุญแจไขความลับของการเติบโตแบบ ex

JMART ได้ครอบครองกุญแจสำคัญ เพื่อไขความลับของการเติบโตแบบก้าวกระโดด ด้วยฟังก์ชั่น ex และการไขกุญแจนี้ต้อง อาศัยแรงขับเคลื่อนจาก Synergy ของกลุ่ม JMART ไปพร้อมกัน... คาดกำไร 2Q JMART จะอยู่ที่ 130 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 24%q-q, ลดลง 5%y-y) จาก กำไรใน กลุ่มธุรกิจ เช่น SINGER ที่คาดจะรายงานกำไรราว 100-120 ล้านบาท เติบโตกว่าเท่าตัว และ JMT ที่คาดกำไรราว 190-200 ล้านบาท เราปรับกำไรปี 2020-21 ขึ้นเป็น 520 และ 650 ล้านบาท ตามลำดับ

Fundamental: เราเห็นโอกาสในการเริ่มสะสมหุ้น JMART อีกครั้ง โดยไม่ควรรอจนกระทั่งกุญแจแห่งความลับนี้ถูกเปิดออกก่อน มิฉะนั้นเราอาจพลาดโอกาสดีในการซื้อหุ้นเติบโตสูง เราปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 15 บาท แนะนำ ซื้อ

VGI 

เตรียมเข้าสู่โหมดฟื้นตัว

เรามองว่าภาพการฟื้นตัวของเม็ดเงินโฆษณาใน 3Q20 ยังคงเป็นไปค่อนข้างช้า อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่าใน 4Q20-1Q21 จะมีเม็ดเงินเข้ามามากขึ้นจากภาพเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว มาตรการกระตุ้นของรัฐบาล และการออกสินค้าใหม่ (ช่วงครึ่งปีแรกมีปัยหาการผลิตในประเทศจีน) โดยเรามองว่ารายได้ของ VGI จะฟื้นตัวอย่างมีนัยยะสำคัญใน 4Q20 ก่อนจะกลับสู่ระดับปกติใน 1Q21 (บนสมมติฐานว่าไม่มีการระบาดรอบ 2 ในประเทศ) สำหรับภาพในปีหน้ายังจะได้แรงหนุนจากรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลืองที่จะเริ่มดำเนินการ ซึ่งคาดยอดผู้ใช้งานจะเพิ่มขึ้นกว่า 30% อีกทั้งยังมีประเด็นบวกรออยู่จากการขยายสัญญาสัมปทานสายสีเขียว (เริ่มมีสื่อหยิบยกมาพูดถึงว่าได้ผ่านการเห็นชอบในหลักการแล้ว) 

Fundamental: หากมีการต่อสัญญาตามข่าวจริงคาดจะหนุนภาพกำไรในระยะยาวของ VGI โดยเราประเมินมูลค่าส่วนเพิ่มที่ 1 บาท/หุ้น เรามองว่าราคาหุ้นที่ถูกขายลงมาเมื่อวานนี้เป็นโอกาสในการเข้า ซื้อ ราคาเป้าหมายปัจจุบันที่ 9 บาท

PTTEP กำไรอยู่ในเทรนด์ขาลง

เราประเมินกำไรสุทธิ 2Q20 ที่ 6.3 พันล้านบาท ลดลง 54% YoY และ 27% QoQ หากไม่รวมรายการพิเศษเราประเมินกำไรหลักที่ 3.7 พันล้านบาท ลดลง 70% YoY และ 60% QoQ จากปริมาณขายและราคาขายที่ลดลง (Offtake จาก PTT ที่ลดลง) รวมถึงดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้น สำหรับภาพ 3Q20 คาดกำไรหลักปรับตัวลดลงต่อเนื่อง YoY และ QoQ จากทั้งปริมาณขายและราคาขายของน้ำมันและแก๊สที่ลดลงตามทิศทางราคาน้ำมันและ HSFO อย่างไรก็ตามคาดต้นทุนน่าจะทรงตัว YoY และ QoQ เรามองว่ากำไรใน 4Q20 จะปรับตัวลงต่อเนื่องและทำจุดต่ำสุดของปี Offtake จาก PTT ที่ต่ำกว่าคาดทำให้เรามีการปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2020 ลง 3% มาที่ 1.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งยังมีความเสี่ยงด้านล่างจากการตัดจำหน่าย และการด้อยค่าของหลุมแห้ง (จากราคาน้ำมันที่ลดลง) 

Fundamental: สำหรับในกลุ่มเราชอบ PTT มากกว่าจากกำไรที่มีความยืดหยุ่น และอัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่สูงกว่า

SPALI 

65% take-up rate สำหรับคอนโดเปิดใหม่... แต่จบแล้วสำหรับตัวช่วย "ซื้อหุ้นคืน"

SPALI เปิดตัวคอนโดศุภาลัย ลอฟท์ สาทร-ราชพฤกษ์ มูลค่า 1.4 พันล้านบาท ด้วย Take-up rate ที่ 65% สูงกว่าเป้าหมายบริษัทที่ 40% และที่เราคาดไว้ 50% เราคาดว่าสาเหตุมาจากราคาขายที่ค่อนข้างถูก-จับต้องได้ และจุดเขายโครงการที่เน้นอยู่ได้จริง-new normal 

Fundamental: ข่าวดังกล่าวเป็นบวกต่อราคาหุ้น แต่เราแนะนำ 'sell on fact' เนื่องจากในระยะสั้น มีแรงกดดันจาก 1) ยอด Presales ใน 2Q20 ลดลง YoY สวนทางกับตลาด และกำไรหลักที่คาดลดลง YoY และเพียงทรงตัว YoY และ 2) โครงการซื้อหุ้นคืนที่ช่วยพยุงราคาหุ้นมาช่วงก่อนหน้านี้สิ้นสุดเมื่อ 10 ก.ค. 2020 ที่ผ่านมา เราคงคำแนะนำ "ถือ" เป็นจุด take-profit และมอง good entry price คือจุดที่ราคาหุ้นหลุด 16 บาท

Tourism

สัมมนา ททท.พบนักวิเคราะห์และนักลงทุนสถาบัน (ยังลุ้นมาตรการกระตุ้นได้อีก)

รายได้ท่องเที่ยวรวมของไทยคาดหดตัวลงจาก 3 ล้านล้านบาทในปี 2019 เป็น 0.7 ล้านล้านบาท ในปี 2020 เนื่องจาก COVID-19 โดยปี 2021 เป้าหมายรายได้ท่องเที่ยวจะเติบโต 10-20% สำหรับมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวจะยังคงมีต่อเนื่อง และ Travel Bubble ในอนาคต ขึ้นกับการตัดสินใจของ สคบ. ทั้งนี้กลยุทธ์ท่องเที่ยวไทยในช่วง-หลัง COVID-19 จะเน้น 1) นักท่องเที่ยวคุณภาพเป็นหลัก, 2) การกระจายตัวของแหล่งรายได้นักท่องเที่ยวต่างชาติ และ 3) การกระจายรายได้เมืองหลัก-รองในไทย

Fundamental: ในระยะสั้นเราคาดว่าตลาดยังกลัวหุ้นท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามเราคาดราคาหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวจะกระเตื้องขึ้นหลังความกดดันของขาดทุน 2Q20 คลี่คลาย (งบออกกลาง ส.ค. 2020) และเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวของกลุ่มจากมาตรการกระตุ้นเที่ยวไทย กลยุทธ์ของเราคือ "Buy on Dip" หุ้นที่เราแนะนำพื้นฐานได้แก่ AOT, AWC , MINT, BH และ BDMS จะเป็นผู้นำการ rebound รอบถัดไป

Flow Tracker 

ยังคงไม่เห็นสัญญาณฟันด์โฟล์วไหลเข้าจากต่างชาติในสัปดาห์นี้

ในสัปดาห์ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยเล็กน้อยที่ระดับ 8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งกลับจากการขายสุทธิที่ระดับ 141 ล้านเหรียญในสัปดาห์ก่อนหน้า สำหรับกระแสเงินลงทุนในภูมิภาค 5 ประเทศที่เราติดตาม พบว่าต่างชาติขายสุทธิในตลาดภูมิภาคที่ระดับ 963 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นการขายต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ขายที่ระดับ 60 ล้านเหรียญ ดัชนีระยะสั้นของตลาดหุ้นทุกตลาดในภูมิภาคยังคงอ่อนแอ ดังนั้นเราคาดว่าในสัปดาห์นี้ต่างชาติจะยังคงขายหุ้นภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง

หุ้นมีข่าว

WHA +

WHA มั่นใจงบแจ่ม ยอด 'โอนที่ดิน-คลังสินค้า' พุ่ง-ดันไตรมาส 2 โตแซงโค้งแรก เผยลูกค้าสนซื้อที่ดิน 2 พันไร่ ลุ้นปลดล็อกเดินทางข้ามปท."ดับบลิวเอชเอ" คาดรายได้ไตรมาส 2 โตเหนือไตรมาสแรก เหตุยอดโอนที่ดิน-เช่าคลังสินค้าพุ่ง ขณะธุรกิจสาธารณูปโภค ดิจิทัลทรงตัว พร้อมคงเป้ารายได้ทั้งปีโต 15% จากปีก่อน 1.33 หมื่นล้าน "จรีพร" แย้มลูกค้าสนใจซื้อที่ดิน 2 พันไร่ รอลุ้นรัฐปลดล็อกเดินทางข้ามประเทศได้เร็ว หนุนยอดขายที่ดินตามเป้า 1.4 พันไร่ (ที่มา กรุงเทพธุรกิจ)

NEX +

NEX ไฟเขียว EA เข้าซื้อหุ้น 40% กรุยทาง BusEV ผู้ถือหุ้นไฟเขียว EA เข้าถือหุ้น 40% เปิดทาง 3 แม่ทัพ "สมโภชน์-อมร-วสุ" นั่งบอร์ด กรุยทางขึ้นแท่นผู้นำ Bus EV เบอร์หนึ่งของเมืองไทย (ที่มา ไทยโพสต์)

CPF +

CPF ผลงานเด่น! โบรกฯคาดไตรมาส 2/63 โชว์กำไรสุทธิ 6,394 ล้านบาท พุ่งกระฉูด 55.70% หนุนครึ่งปีแรกมีกำไรสุทธิ 12,505 ล้านบาท โต 49.20% หลังยอดขายเวียดนาม-ไทย-จีนเพิ่มขึ้น คาดมีกำไรจากรายการพิเศษจากการขายเงินลงทุนและกำไรจากสินทรัพย์ชีวภาพตามราคาหมูที่เพิ่มขึ้น พร้อมเชียร์ "ซื้อ" ราคาเป้าหมายสูงสุด 41 บาท/หุ้น (ที่มา ข่าวหุ้น)

CFRESH +

CFRESH รับอานิสงส์จีนระงับนำเข้ากุ้งเอกวาดอร์ หลังพบเชื้อโควิด เล็งโอกาสชิงเค้กก้อนใหญ่มาถึง เร่งเจรจาส่งออกกุ้งเพิ่ม แย้มปีนี้ตลาดส่งออกกุ้งเติบโตดี รุกขายช่องทางออนไลน์ อัพกำลังการผลิตโรงงานในยุโรป มั่นใจผลงานปีนี้เด่น (ที่มา ทันหุ้น)

SAMTEL + 

เจาะ SAMTEL ลงลึกเกินไป จากราคา 13.50 บาท นับถอยหลังเซ็นงานใหญ่พันล้านเดือนนี้ แถมเดือนหน้าประมูลอีก 3-4 พันล้านบาท โบรกชี้ถึงรอบธุรกิจรัฐเร่งงานด้าน ICT ขณะที่ราคาหุ้นยังถูกพี/อี แค่ 10 เท่า ราคาหุ้นต่ำบุ๊ก P/BV ต่ำกว่าอุตสาหกรรม ดันอัตราผลตอบแทนพุ่ง 8.89% (ที่มา ทันหุ้น)

ANAN +

ANAN แง้มผลงานครึ่งปีหลังโดดเด่น อานิสงส์โอนคอนโดมิเนียมเสร็จใหม่ 5 โครงการ มูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท ขณะที่ครึ่งปีแรกโกยยอดขายกว่า 9.2 พันล้านบาท คิดเป็นกว่า 50% ของเป้าทั้งปีไว้ 1.66 หมื่นล้านบาท ฟาก SIRI คาดไตรมาส 3/63 กวาดยอดขาย 6.1 พันล้านบาท

Trend Forecasting

SET Index ปิด 1,342.37 (-0.6%) มูลค่าการซื้อขาย 6.2 หมื่นล้านบาท

กลยุทธ์เทคนิค: ดัชนีปรับขึ้นได้ไม่นาน โดนสอยล่วง เทรดใต้เส้น EMA ตามสูตรเล่นยาก!....แต่หากมองโครงสร้างระยะกลาง! ทรงออกข้าง Sideway ดังภาพ.....ดังนั้นตามหัวข้อ "แผนแก้เกมส์ เมื่อตลาดเล่นอึดอัด" จะเทรดอย่างไร! เฉลยด้านล่างครับ+++

มุมมองทางเทคนิค: แผนการเทรดในรอบนี้...เน้นกลุ่มโครงสร้างแข็งแกร่ง กลุ่มอาหารล่าสุดมาตามคาดซะด้วย นำโดยลูกพี่ใหญ่ CPF ราคาประจวบเหมาะแนะนำไปแล้ว ...ไม่ตกรถ ส่วนราคาจะไปได้ถึงไหนเฉลยหน้าถัดไป....ภาพสุดท้ายมองตลาดเพื่อนบ้าน "นิเคอิและเกาหลี ก็ทรงออกข้างเหมือนกันครับ

วิธีการเลือกหุ้น: แนะใช้เครื่องมือทางเทคนิคหาสัญญาณกลับตัวระยะสั้น อาทิเช่น เส้นค่าเฉลี่ย, RSI, MACD , Bollinger band , Stochastic พ่วงด้วยเครื่องมือปิดความเสี่ยงหรือจุด Trailing stop

โมเดลพอร์ตทางเทคนิค: 

สรุปผลตอบแทนการลงทุน Year to date +16% สูงกว่าตลาดที่ -14% 

*Addition(หุ้นเข้า): CPF, GULF, JASIF

*Deletion(หุ้นออก): TKN, IRPC ( เล่นไม่ขึ้น)

หุ้นคงเหลือ: INTUCH, GULF, STEC, OSP ,TU, SCC, KCE, CPF

ธนรัตน์ อิศรกุล นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์และปัจจัยทางเทคนิค 

[email protected] +662-618-1334

Track with Technical: "สแกนหุ้นทรงแกร่ง....สู้ตลาดอ่อนแรง"

CPF

มุมมอง หุ้นผู้นำกลุ่ม 

แนะนำ ซื้อเพิ่ม 

CPF

โซนซื้อ 33 - 34 

เป้าหมาย 38

Stop loss < 32

GULF

มุมมอง แนวรับ!สู้สุดฤทธิ์ 

แนะนำ ซื้อ 

GULF

โซนซื้อ 37 - 38 

เป้าหมาย 43

Stop loss < 36

JASIF

มุมมอง ทรงผู้นำ 

แนะนำ ซื้อ 

JASIF

โซนซื้อ 9.8

เป้าหมาย 10.5/11

Stop loss < 9.6

ที่มา: บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง ประจำวันที่ 14 ก.ค. 2563

******************************************