บล.เคจีไอ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 3-7-2020

Details: Category: บทวิเคราะห์; Published: Friday, 03 July 2020 21:05; Hits: 3347

บล.เคจีไอ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 3-7-2020

ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)

ขึ้นต่อ แต่หากใกล้ 1,400 จะเข้าโซนมูลค่าหุ้นตึงตัวอีกครั้ง

KGI ประเมิน SET Index วันศุกร์ปรับขึ้นต่อ แต่ตลาดเริ่มกลับเข้าโซนที่ valuations ตึงตัวอีกครั้ง แนะลดพอร์ตบ้างเพื่อลดความเสี่ยง... ขณะที่เมื่อวานนี้ ดัชนีฯ แรลลี่แรงกว่าที่เราคาด หลังหุ้นเชื่อมโยงเศรษฐกิจโลก (global cyclical) ปรับขึ้นแรงในช่วงบ่ายท่ามกลางแรงซื้อหนักจากนักลงทุนสถาบันภายในประเทศ... ขณะที่ในวันนี้ ประเด็นตัวเลขเศรษฐกิจโลกยังหนุนสินทรัพย์เสี่ยง หลังสหรัฐฯ รายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร มิ.ย. เพิ่มขึ้นถึง 4.8 ล้านคน สูงกว่า consensus คาดอย่างมาก น่าจะยังหนุนจิตวิทยาของตลาด อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิจัยฯ เพิ่มความระมัดระวังต่อ SET Index มากขึ้นที่ระดับปัจจุบัน เนื่องจาก i) ถ้าอิงฐานพีอีเรโชที่เหมาะสมของเดือน ก.ค. ที่เรามอง 17 เท่า และ consensus EPS ปี 2564 ที่ล่าสุดลดลงมาสู่ 82 คาดว่าการแกว่งขึ้นของดัชนีฯ จะเริ่มอืดและมีความเสี่ยงต่อการปรับฐานหากดัชนีฯ ขึ้นไปแถวๆ 1,390 จุด ii) สถานการณ์ติดเชื้อ COVID-19 ในสหรัฐฯ รุนแรงขึ้นอีก ล่าสุดเมื่อวานนี้สหรัฐฯ ติดเชื้อเพิ่ม 53,000 คน และมีแนวโน้มที่การติดเชื้อจะเร่งขึ้นมากกว่านี้หลังจากช่วงหยุดยาวในวันชาติสหรัฐฯ 4 ก.ค. นี้... สำหรับในสัปดาห์หน้า (7-10 ก.ค.) ปัจจัยที่นักลงทุนควรติดตามได้แก่ จำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในสหรัฐฯ ข้อมูลเศรษฐกิจโลกเดือน มิ.ย. ที่จะทยอยออกมา รวมทั้งการทยอย preview ผลประกอบการไตรมาส 2/2563 ของ บจ. ไทย

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)

เก็งกำไร SPRC*, AAV*, AMATA*

 SPRC* (เป้าพื้นฐาน 10 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 6.9 บาท / แนวต้าน 7.2 บาท หากผ่านได้ประเมินทดสอบแนวต้าน 7.7 - 8.0 บาท (Stop loss 6.6 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯประเมินการผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ทั่วโลกหนุนดีมานด์เชื้อเพลิงใน 2H63 3) ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2Q63 Turnaround จาก i) ไม่มีขาดทุนสต๊อก (ลุ้นกำไร) ii) ค่าการกลั่นของโลกกลั่นไทยฟื้นตัวขึ้น QoQ 4) PBV 1.16 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 1.4 เท่า

 AAV* (เป้า Consensus 2.08 บาท / สูงสุด 3.90 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 2.04 บาท และ 2.0 บาท / แนวต้าน 2.20 บาท หากผ่านได้ประเมินแนวต้านถัดไป 2.40 บาท (Trailing stop 1.96 บาท) 2) ประเมินรับอานิสงส์ Sentiment บวกจาก i) การผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ ii) มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภาครัฐฯ โครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" อุดหนุนค่าตั๋วเครื่องบิน + ค่าที่พัก iii) ภาวะการแข่งขันอุตสาหกรรมการบินลดลงมาก ทำให้ปัจจัยกดดันเรื่องการลดค่าตั๋วฯ ลดลงหลังจากนี้ 3) ประเมินผลการดำเนินงานพ้นจุดต่ำสุด ใน 2Q63 ขณะที่ PBV ต่ำเพียง 0.58 เท่า

 AMATA* (เป้าพื้นฐาน 18.5 บาท) 1) แนวรับ 15.8 บาท / แนวต้าน 16.4 บาท หากผ่านได้ประเมินแนวต้านถัดไป 17 บาท (Stop loss 15.0 บาท) 2) ประเมินรับ Sentiment บวกจาก i) การผ่อนคลายให้นักธุรกิจสามารถเดินทางเข้าไทยได้ ii) การย้ายฐานการผลิตจากจีนมาอาเซียน (ไทย - เวียดนาม) iii) โครงการ EEC คืบหน้า 3) Valuation ไม่แพง PBV 1.2 เท่า (ค่าเฉลี่ยในอดีต 1.3 เท่า), PE ปีนี้ 14.0 เท่า ปี 2564 ลดเหลือ 11.6 เท่า (ค่าเฉลี่ยในอดีต 17.7 เท่า)

หุ้นมีข่าว

(+GULF) GULF ซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานลม เวียด กำลังผลิต 100 เมกะวัตต์ (กรุงเทพธุรกิจ)

ความเห็น : เราประเมินอัพไซด์เบื้องต้นจากดีลดังกล่าวที่ 0.5 บาท/หุ้น บนสมมติฐาน i) Equity IRR 16% ii) ค่าไฟ 0.085 เหรียญสหรัฐ/หน่วย iii) PPA 20ปี (เริ่มจ่ายไฟ 4Q65) iv) เงินลงทุน 200 ล้านเหรียญ (สัดส่วนหนี้:ทุน 70:30) โครงการนี้จะทำให้กำลังการผลิตตามสัดส่วนผู้ถือหุ้นเพิ่มจาก 5.05GW เป็น 5.15GW ในปี 2565 จากกำลังการผลิตปัจจุบันที่ 2.7GW ยังคงคำแนะนำซื้อด้วยราคาเป้าหมาย 1H64 ที่ 40.25 บาท (ไม่รวมอัพไซด์จากโครงการนี้)

(+ กลุ่มนิคมฯ AMATA*, WHA*) "สมคิด" ชวนทูตมะกันผุด "ซิลิคอน วัลเลย์" ทำแพ็กเกจจูงใจร่วมลงทุนในพื้นที่อีอีซี (ไทยรัฐ) นายไมเคิล จอร์จ ดีซอมเบร เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยเปิดเผยหลังเข้าพบ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ว่า ได้พูดคุยกันถึงแนวการทำงานร่วมกันระหว่างสหรัฐฯกับไทยเพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจไทยให้เข้มแข็ง และส่งเสริมให้นักลงทุนสหรัฐฯเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น เชื่อว่าไทยยังน่าลงทุนมีศักยภาพ ที่บริษัทของสหรัฐฯจะเข้ามาลงทุน โดยเฉพาะการเป็นซัพพลายเชน ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน

(+) EA* เชื่อมขั้วไฟฟ้าครบ แบต-รถยนต์-เรือจะวิน (ทันหุ้น) ทำไมนักวิเคราะห์มองราคาพื้นฐาน EA* ที่ 100 บาทต่อหุ้น เหตุธุรกิจสอดรับกระแสโลกคนรุ่นใหม่ยุค 5G "อมร ทรัพย์ทวีกุล" ผู้บริหารชี้ เปิดเกมรุก ส่ง PCM บุกตลาดญี่ปุ่น เป้าสัดส่วนรายได้ชน 20% ล่าสุดมอบเรือไฟฟ้า 20 ลำ รถยนต์ไฟฟ้า 180 คัน มุ่งเดินหน้าติดตั้งสถานีชาร์จ 1,000 แห่ง ส่องลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าเพิ่ม

(+) RATCH* ลุ้นกพช.อนุมัตินำเข้า LNG เตรียมไว้ป้อนโรงไฟฟ้าหินกอง (ข่าวหุ้น) “ราช กรุ๊ป” ลุ้นกระทรวงพลังงาน ชง “กพช.” ปรับรูปแบบโครงสร้างการแข่งขันกิจการก๊าซระยะที่ 2 จ่อเดินหน้าเจรจาจัดซื้อ LNG 1.4 ล้านตัน นำเข้าป้อนโรงไฟฟ้าหินกอง ฟาก “กฟผ.” จ่อคิวเจรจาปรับลดต้นทุนค่าไฟฟ้าลง

(+) JMART เสิร์ฟหุ้นเพิ่มทุนซื้อขายบนกระดาน 3 ก.ค.นี้ (ทันหุ้น) JMART นำหุ้นเพิ่มทุน JMART-W3 และ JMART-W4 เริ่มซื้อขายบนกระดานวันที่ 3 กรกฎาคมนี้ สะท้อนความเชื่อมั่นกลุ่มธุรกิจแข็งแกร่งที่สามารถต่อยอดการเติบโตในธุรกิจการเงิน ธุรกิจค้าปลีกและธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ มองระยะยาวขับเคลื่อนการเติบโตด้วยเทคโนโลยี วางหมากมุ่งดิจิทัลและไฟแนนซ์

(+) ALL ออกวอร์แรนต์ 140 ล้านหน่วย แจก RO อัตรา 4:1 เตรียมเงินทุนขยายธุรกิจ (ข่าวหุ้น) บอร์ด ALL ไฟเขียวแจกวอร์แรนต์ ALL-W1 จำนวน 140 ล้านหน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (RO) ในอัตรา 4 หุ้นเดิมต่อ 1 วอร์แรนต์ ชงผู้ถือหุ้นอนุมัติ 30 ก.ค.นี้ เพื่อเตรียมความพร้อมทางการเงิน รองรับการขยายธุรกิจในอนาคต

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

 หุ้นที่แนะนำ "Let profit run" โดยกำหนดจุดล็อกกำไร Trailing stop: RS* (Trailing stop 15.0 บาท), JMART (Trailing stop 10.2 บาท)

 INTUCH* (เป้าพื้นฐาน 69 บาท) แนวรับ 56 บาท / แนวต้าน 58 บาท หากผ่านได้แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop 55.5 บาท)

 SEAFCO (เป้าพื้นฐาน 7.9 บาท) แนวรับ 5.8 บาท / แนวต้าน 6.0 บาท หากผ่านได้แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop 5.65 บาท)

 VGI* (เป้า Consensus 7.88 บาท) แนวรับ 7.6 บาท / แนวต้าน 8.0 - 8.1 บาท (Trailing stop 7.3 บาท) ... สำหรับกลยุทธ์ Pair trade Long VGI*/Short PLANB* ผลตอบแทนตั้งแต่แนะนำมาตอนนี้ 0%

 CPF* (เป้าพื้นฐาน 38 บาท) แนวรับ 31.5 บาท / แนวต้าน 32.5 – 33 บาท หากผ่านได้แนวต้านถัดไป ±35 บาท (Stop loss 30.5 บาท)

 GGC* (เป้าพื้นฐาน 11.5 บาท) แนวรับ 9.2 บาท / แนวต้าน 9.6 บาท (Stop loss 9.0 บาท)

 GULF* (เป้าพื้นฐาน 41 บาท) แนวรับ 37 บาท / แนวต้าน 39 บาท หากผ่านได้ประเมินแนวต้านถัดไป 41 บาท (Trailing stop 36 บาท)

 STEC* (เป้าพื้นฐาน 19.2 บาท) แนวรับ 15.4 บาท / แนวต้าน 16.2 บาท (Stop loss 15.0 บาท)

 EP (เป้าพื้นฐาน 5.1 บาท) แนวรับ 3.7 บาท / แนวต้าน 3.84 - 4.0 บาท (Trailing stop 3.6 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

 กลุ่มธนาคารพาณิชย์ น้ำหนักลงทุน "เท่ากับตลาดฯ" ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 2Q63 ของกลุ่มฯจะลดลงหนัก จากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยประเมิน กลุ่มที่ 1: KBANK*, TMB* และ KTB* แนวโน้มจะได้รับผลกระทบมากสุด กลุ่มที่ 2: BBL*, SCB* จะได้รับผลกระทบน้อยกว่า และกลุ่มที่ 3: TISCO*, KKP* คาดจะกลับได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของตลาดทุนในไตรมาสนี้ ประเมินปัจจัยลบต่างๆในขณะนี้ ยังกดดันภาวะการลงทุนของกลุ่มฯอยู่ อย่างไรก็ดีฝ่ายวิจัยฯประเมินการพักฐานของราคาหุ้นเป็นโอกาสสะสมอีกครั้ง สำหรับระยะสั้นเลือก TISCO*, KKP* เป็นหุ้นเด่น ...

******************************************

กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ