- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 29 June 2020 16:40
- Hits: 3928
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 29-6-2020
“ต่างประเทศไม่สดใส ลุ้น SSFX & Window Dressing ค้ำ”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : --
ภาวะตลาดและปัจจัยก่อนหน้า :
SET วันศุกร์รีบาวด์แต่ถูกขายทำกำไร ปิด +4.46 จุด ที่ 1330.34 จุด มูลค่าซื้อขายบาง 47 พันลบ.ตลาดไทยแกว่งขึ้นแต่น้อยกว่าเพื่อนบ้านดัชนีฯไปทำยอดสูงสุด 1344.04 จุด จากปัจจัยต่างประเทศบวก เช่น คำสั่งซื้อสินค้าคงทนเพิ่ม เศรษฐกิจดีขึ้นหลังคลายล็อกดาวน์ ไทยจะคลายล็อกดาวน์ระยะที่ 5 แต่ยังไม่มั่นใจผู้ติดเชื้อรอบใหม่ทั่วโลก Stress Test สหรัฐ ซื้อสุทธิมาก-สถาบัน ขายสุทธิมาก-ต่างชาติ YTD ต่างชาติขายสุทธิเพิ่มเป็น 215 พันลบ.
# ปัจจัยและกลยุทธ์:
SET มีโอกาสปรับตัวลง สหรัฐกลับมาล็อกดาวน์ สงครามการค้า เฟดห้ามแบงก์ปันผล-ซื้อหุ้นคืน ปัจจัยลบมีมาก คือ สหรัฐกลับมาล็อกดาวน์บางรัฐ หลังมีผู้ติดเชื้อเพิ่มจำนวนมาก กังวลสงครามการค้าหลังจีนไม่พอใจสหรัฐแทรกแซงฮ่องกงและไต้หวัน เฟดให้สถาบันการเงินชะลอจ่ายปันผลระหว่างกาลและซื้อหุ้นคืน จนกว่า4Q63 ดาวโจนส์ศุกร์ -730 จุด น้ำมันก็ปรับลง 23 เซ็นต์ ขายหุ้นเข้าหาทองคำ เช้านี้ตลาดหุ้นเพื่อนบ้านปรับลงถ้วนหน้า ดัชนีกังวลเพิ่มเป็น 34.7 จุด และการเมืองไทย-ปรับเปลี่ยนหัวหน้าพรรคพปชร.เป็น ประวิตรแล้ว ด้านปัจจัยบวกคือ ตัวเลข-ดัชนีการใช้จ่าย และดัชนีความเชื่อมั่นออกมาดี สภาพัฒน์ฯจะเสนอโครงการใช้เงินกู้ 4 แสนลบ.เข้าครม. รองนายกฯสมคิดจะเสนอมาตรการช่วยเหลือ SME การคลายล็อกดาวน์ระยะที่ 5 เริ่ม 1 ก.ค.และเช้านี้ดาวโจนส์ฟิวเจอร์สบวกเล็กน้อย กลยุทธ์ระยะสั้น เข้าไว-ออกไว เล่นรอบเมื่อปรับลง คาดดัชนีซื้อ-ขายในกรอบ 1300-1350 ความเสี่ยงกนง.ได้ปรับลด GDP ปีนี้ลงเหลือ -8.1% จากก่อนหน้าที่คาดไว้ -5.3% ส่วน IMF ปรับลด GDP โลกเป็น -4.9%จากเดิม -3% ด้านกลยุทธ์ระยะกลาง-ยาว คือ เศรษฐกิจโลกและไทยไม่สดใส จึงแนะนำทยอยถอยรับหลักทรัพย์พื้นฐานดีที่แนะนำซื้อ หุ้นกลุ่มการแพทย์เข้าไฮซีซัน- BCH,BDMS,CHG,RJH,RPH หุ้น Defensive- ADVANC,CHG ปันผลสูง-KKP,TISCO,LH เติบโต-ฟื้นตัว- MTC,DELTA,TASCO กลุ่มพาณิชย์เด่นจากการคลายล็อกดาวน์ เพิ่มระยะเวลาปิดห้างฯ- CPALL,HMPRO ราคาเนื้อสัตว์ดี- CPF ขนส่ง- หุ้นกลับมาฟื้นตัวเร็ว BEM,BTS หุ้นกลุ่ม REITs & IFFs ปันผลสูง ดอกเบี้ยในตลาดต่ำ- DIF,AIMIRT,HREIT หุ้นโรงแรม สนามบิน และสายการบิน ยังมีอุปสรรค ต่างชาติเข้ายากมีแต่เที่ยวในประเทศ ติดตามหุ้นพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบกลับมาฟื้นตัวดี แนวรับคือ 1300-1280 จุด และ แนวต้าน 1330-1350 จุด ส่วนตัดขาดทุนต่ำกว่า 1318 จุด ปัจจัยที่น่าติดตามใกล้ปิดงวด 30 มิ.ย.63 แล้ว ทำให้มีเม็ดเงินการซื้อกองทุนประหยัดภาษี SSFX เข้ามาให้ทันได้รายละ 2 แสนบาท คาดว่าจะมีเม็ดเงินราว 1 หมื่นล้านบาท และอาจจะมีการทำ Window Dressing ก่อนปิดรอบครึ่งปี 2563
# Stock Pick Today : BTS ได้ปันผลรับสูงเหมือน GULF เป็นอีกหนึ่งบริษัทโฮลดิ้งส์ที่ได้รับเงินปันผลสูงจากการลงทุน เช่นงวดปี 62/63 ล่าสุดสูงเป็น 521 ล้านบาท หรือ 14%จากกำไรหลัก สูงกว่าปีก่อนหน้าที่ 6% และที่พิเศษคือ มีสองบริษัทที่ไปลงทุนปันผลออกมาล่าสุดสูงมาก คือ NOBLE คาดได้อีก 94 ลบ. และ LPN 20 ลบ.จะบันทึกงวด 1Q63-64นี้ นอกจากบ.ย่อยที่ให้ปันผลหลัก (สัดส่วนถือหุ้น) คือ BTSGIF (33.3%) และ VGI (66.4%) แล้ว BTS ยังไปลงทุนในบริษัทอื่นๆที่มีอนาคตดี จ่ายปันผลปีละ 2 ครั้ง คือ RS (7%)และ HUMAN (12.5%) สถานการณ์ขณะนี้คือ อยู่ในช่วงการฟื้นตัวรวดเร็วจากคลายล็อกดาวน์ ราคาพื้นฐาน 12.80 บ.
การวิเคราะห์ทางเทคนิค: สั้น...ภาพเอียงไปทางลบ คาดแกว่ง...ยังให้น้ำหนักกับการลงในระยะกลาง แต่อาจมีรีบาวด์สั้นๆ ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick &Indicators น้ำหนักหลักยังเอียงมาทาง“ลบ” {แม้“ปิดบวก”ก็เพียงเล็กน้อย และก็“ปิดชิดLOW”ใต้“SMA10วัน”ต่อ (โดยมี“โครงสร้างขาลง–ระยะกลาง”กดดัน)} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯสัปดาห์นี้“แกว่ง”แบบให้น้ำหนักกับการลง แต่“ค่าบวก”(มี“แนวรับ”เดิม ที่“1300+/-”หนุน) จะช่วยให้มีรีบาวด์ฯสั้นๆก่อน(แล้วจึงลงต่ำ,ตามมา)ได้ แนวต้าน 1340 (หรือ1350) จุด {แนวตัดขาดทุน “ต่ำกว่า 1325” (แนวรับย่อย “1300 – 1280 / 1250”) จุด}
Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com
Inside Story
Key Drivers TODAY : ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ
Company Guide : AIMIRT (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 15.00)
In The News : ข่าวเด่นวันนี้
Turnover List Watch : THCOM ติด Cash Balance 6 สัปดาห์ ตามคาด
Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
- สหรัฐ: บางรัฐของสหรัฐได้สั่งล็อกดาวน์อีกครั้ง เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งขึ้น
# ตลาดหุ้นสหรัฐเผชิญแรงกดดัน หลังมีรายงานว่า บางรัฐของสหรัฐได้สั่งล็อกดาวน์อีกครั้ง เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งขึ้น โดยในวันศุกร์ รัฐเท็กซัสและรัฐฟลอริดาได้สั่งให้บาร์ต่างๆ ปิดให้บริการอีกครั้ง นายเกรก แอบบอตต์ ผู้ว่าการรัฐเท็กซัสได้ออกคำสั่งบริหารในวันศุกร์ เพื่อจำกัดการดำเนินธุรกิจและการให้บริการบางอย่าง เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
- สหรัฐ: สหรัฐติดอันดับ 1 ของโลกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อ และผู้เสียชีวิตจากโควิด-19
# Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุว่า ล่าสุดสหรัฐมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 2,546,841 ราย และมีผู้เสียชีวิต 127,361 รายแล้ว โดยในขณะนี้สหรัฐติดอันดับ 1 ของโลกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อ และผู้เสียชีวิตจากโควิด-19
- สหรัฐ: ข้อตกลงการค้าเฟสแรกระหว่างสหรัฐ-จีนจะเผชิญความเสี่ยงมากขึ้น
# รายงานข่าวของหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลที่ว่า ข้อตกลงการค้าเฟสแรกระหว่างสหรัฐ-จีนจะเผชิญความเสี่ยงมากขึ้น หลังจากเจ้าหน้าที่จีนเตือนว่า การที่สหรัฐเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการดำเนินการของจีนในฮ่องกงและไต้หวันนั้น อาจทำให้จีนไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงที่จะซื้อสินค้าเกษตรของสหรัฐ
- สหรัฐ: เฟดสั่งให้บรรดาธนาคารพาณิชย์จำกัดการจ่ายเงินปันผล และห้ามการซื้อหุ้นคืนชั่วคราว
# หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงอย่างหนัก หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สั่งให้บรรดาธนาคารพาณิชย์จำกัดการจ่ายเงินปันผล และห้ามการซื้อหุ้นคืนไปจนถึงอย่างน้อยในไตรมาส 4/2563 หลังจากที่มีการทดสอบภาวะวิกฤต (Stress Test)ประจำปี
+ สหรัฐ: การใช้จ่าย-ดัชนีการใช้จ่ายส่วนบุคคลของผู้บริโภค และดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้น
# กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า การใช้จ่ายส่วนบุคคลของผู้บริโภคสหรัฐ พุ่งขึ้น 8.2% ในเดือนพ.ค. แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 9.0% หลังจากดิ่งลง 12.6% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการทรุดตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการเก็บรวบรวมข้อมูลในปี 2502
# ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ค. หลังจากร่วงลง 0.4% ในเดือนเม.ย.และเมื่อเทียบรายปี ดัชนี PCE พื้นฐาน เพิ่มขึ้น 1.0% หลังจากเพิ่มขึ้น 1.0% เช่นกันในเดือนเม.ย.
# ด้านมหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐ ดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 78.1 ในเดือนมิ.ย. จากระดับ 72.3 ในเดือนพ.ค.
- ตลาดหุ้นสหรัฐ: ดาวโจนส์ปิดร่วง 730.05 จุด วิตกหลายรัฐสั่งล็อกดาวน์หลังโควิดพุ่ง
# ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงมากกว่า 2% (26 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐจะเป็นไปอย่างล่าช้า หลังจากหลายรัฐของสหรัฐกลับมากำหนดข้อจำกัดในการดำเนินธุรกิจอีกครั้ง เพื่อรับมือกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งขึ้น
- น้ำมัน: WTI ปิดลบ 23 เซนต์ วิตกล็อกดาวน์สกัดโควิดอีกรอบกระทบดีมานด์
# สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลดลง (26 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขายสัญญาน้ำมันดิบออกมาท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่ยืดเยื้อจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งทำให้เกิดความวิตกว่า อุปสงค์น้ำมันดิบจะอ่อนแอลงอีก
• ทองคำ: ปิดบวก $9.7 วิตกโควิดพุ่งหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย
# สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวก (26 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลงจากความวิตกเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่พุ่งขึ้นในสหรัฐ และในประเทศต่างๆ
ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์
+ สภาพัฒน์ เข็นโครงการภายใต้เงินกู้ 4 แสนลบ.รอบแรกเข้าครม. 8 ก.ค.นี้
# รายงานจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ได้พิจารณาโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมของประเทศตามแผนงานภายใต้กรอบ พ.ร.ก.กู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิด-19 วงเงิน 4 แสนล้านบาท ในรอบแรก มีโครงการที่ผ่านการคัดกรองเบื้องต้น 213 โครงการวงเงิน 101,482,.29 ล้านบาท โดยจะเสนอให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในวันที่ 8 ก.ค.นี้
+/- อนุญาตคนต่างชาติเข้าต้องกักตัว 14 วัน หากน้อยกว่าต้องตรวจหาเชื้อเข้มข้น ส่วน Travel Bubble ไม่เร็วเลขาธิการ สมช. ยอมรับว่า มาตรการ travel bubble หรือการจับคู่ประเทศท่องเที่ยวยังไม่ได้ข้อยุติ และต้องใช้เวลาพิจารณาไม่ต่ำกว่า 2 เดือนที่จะเริ่มดำเนินการ ซึ่งกรณีของคนต่างชาติ ส่วนใหญ่เป็นการขออนุญาตให้นักธุรกิจเข้ามาในประเทศ แต่ต้องมีมาตรการที่เข้มข้น เช่น ต้องกักตัว 14 วัน หรือหากจะอยู่ในไทยน้อยกว่า 14 วัน ต้องมีการตรวจหาเชื้อโควิดอย่างเข้มข้นไม่น้อยกว่า 3-4 ครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถเข้ามาได้ รวมถึงต้องพิจารณาด้วยว่านักธุรกิจที่จะเข้ามานั้นเดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงหรือไม่ สำหรับมาตรการ travel bubble หรือการจับคู่ประเทศท่องเที่ยวยังไม่ได้ข้อยุติและต้องใช้เวลาพิจารณาไม่ต่ำกว่า 2 เดือนที่จะเริ่มดำเนินการ
# ผลกระทบ: การที่คนต่างชาติยังไม่สามารถเข้ามาได้อย่างสะดวก และ Travel Bubble เกิดได้ไม่เร็วย่อมเป็นอุปสรรคกับหลายอุตสาหกรรม เช่น เดินทาง-ท่องเที่ยว นิคมฯ และอสังหาฯ เป็นต้น ซึ่งนิคมฯและอสังหาฯ จะรอลูกค้าจีนกลับมาทำธุรกรรมที่ไทย
-รองนายกฯจะเน้นการลงทุนในประเทศกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ปัจจุบันโครงการร่วมทุน PPP ล่าช้า
# นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโลกไม่ดีได้ส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจไทย ดังนั้น สิ่งที่ประเทศจะสามารถพึ่งพาได้คือการลงทุนในประเทศ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ได้รายงานความคืบหน้าโครงการ PPP แทบทุกโครงการมีความล่าช้าออกไป 6-10 เดือน
+ กระทรวงการคลังจะมีมาตรการออกมาช่วยเหลือเอสเอ็มอีเพิ่มเติมในสัปดาห์นี้
# นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังจะมีมาตรการออกมาช่วยเหลือเอสเอ็มอีเพิ่มเติมในสัปดาห์นี้โดยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะไปตรวจเยี่ยมสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.) ซึ่งทำงานร่วมกับกระทรวงการคลัง และสถาบันการเงินของรัฐว่าจะมีมาตรการออกมาช่วยการปรับตัวของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรายเล็กอย่างไรบ้าง
- ปัจจัยการเมืองไทย: "ประวิตร" นั่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐตามคาด ติดตามทีมเศรษฐกิจใหม่
# "ประวิตร" นั่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐตามคาด ส่วนตำแหน่งกรรมการบริหารไม่พลิกโผ ตบเท้ามากันพรึบ สันติ-ณัฏฐพล-สุริยะ-สมศักดิ์-ธรรมนัส ฯลฯ จับตาทีมเศรษฐกิจของพรรคฯ นำโดยนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ พร้อมคนมีชื่อเสียงของประเทศ (ข่าวหุ้น)
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา