- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 29 June 2020 12:46
- Hits: 4400
บล.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 29-6-2020
MARKET TALK
กลยุทธ์การลงทุน
ความกังวลเรื่องการระบาดรุนแรงของ Covid-19 ในต่างประเทศ และ Trade War ที่สถานการณ์เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทำให้ Fund Flow ไหลเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัย ส่วนในประเทศยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ ขับเคลื่อน กระแสอยู่ที่การเก็งกำไรหุ้นที่ได้ผลบวกจาก มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และคลาย Lock แนะนำ ลด DIF 10% เข้า CPALL หุ้น Top Pick เลือก CPALL และ INTUCH
SET Index ยังไม่ไป แต่ให้เก็งกำไรตามมาตรการผ่อนคลาย
ภายใต้แรงกดดันจาก 2 ปัจจัยหลักได้แก่ การระบาดที่รุนแรงของ Covid-19 ในต่างประเทศโดยล่าสุดจำนวนผู้ติดเชื่อสูงกว่า 10 ล้านคน และผู้เสียชีวิตมากกว่า 5 แสนคน ส่วนอีกปัจจัยหนึ่งเป็นเรื่องของความกังวล Trade War ซึ่งดูเหมือนว่าสถานการณ์มีความผันผวนค่อนข้างมาก สภาพแวดล้อมดังกล่าวทำให้ Fund Flow ไหลเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัยอีกรอบหนึ่งเห็นได้จากราคาทองคำที่ปรับขึ้นไปเหนือ 1770$ ขณะที่ Bond Yield ปรับลดลงโดย Bond Yield 5 ปีในสหรัฐฯ ปรับลงมาสร้างจุดต่ำสุดที่ 0.296% สำหรับปัจจัยภายในประเทศก็อยู่ในภาวะที่ขาดแรงขับเคลื่อน ความสนใจหลักอยู่ที่มาตรการในการฟื้นเศรษฐกิจ และ การคลาย Lock มาตรการเพื่อป้องกันการระบาดของ Covid ซึ่งน่าจะเป็นผลดีต่อหุ้นในบางอุตสาหกรรม แต่ไม่ถึงขนาดที่จะขับเคลื่อนให้ SET Index เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใดทางหนึ่ง กลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้ ให้ความสำคัญกับหุ้นที่น่าจะได้ประโยชน์จากมาตรการฟื้นเศรษฐกิจ และการคลาย Lock แนะนำปรับพอร์ตโดย ให้นำเงินที่พักไว้ใน DIF ออกมา 10% เพื่อเข้าลงทุนใน CPALL ทั้งนี้คาดหมายจะเห็นพัฒนาการเชิงบวกหลายเรื่อง ส่วน Top Pick เลือก CPALL และ INTUCH
Covid-19 + Trade War ผลักเงินเข้าสู่ Safe Heaven อีกครั้ง
เม็ดเงินลงทุนเชื่อว่ายังคงไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยง และเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัย สะท้อนจากตลาดหุ้นโลกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา คือ ดัชนี Dow Jones ลดลง 2.8%, S&P 500 2.4%, NASDAQ 2.6% ฯลฯ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบลดลง 1.5% สวนทางกับสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) ปรับเพิ่มขึ้น อาทิ Bond Yield 5 ปี ของสหรัฐลดลงไปทำจุดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.29% ราคาทองคำเพิ่มขึ้น 0.6% ฯลฯ โดยปัจจัยกดดันหลักๆ ยังเป็นเรื่องเดิม คือ
ความกังวล COVID-19 ที่ยังมีอยู่ ล่าสุด จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วโลกเพิ่มขึ้นเป็น 189,957 ราย สูงกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 7 วันที่ 165,693 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกมีจำนวนกว่า 10 ล้านรายแล้ว โดยจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ส่วนใหญ่ยังมาจากสหรัฐ, บราซิล, อินเดีย เป็นต้น และบางประเทศเผชิญการระบาดรอบที่ 2ก (2nd Wave) (ดังรูป) เช่น เกาหลีใต้, เยอรมนี, สหรัฐ เป็นต้น กระตุ้นความกังวลว่า บางประเทศอาจดำเนินมาตรการ Lockdown อีกครั้งหนึ่งได้
สงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน มีน้ำหนักขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ภายหลังนาย Mike Pompeo รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐเผยว่าสหรัฐเตรียมจำกัดการให้ VISA เข้าสหรัฐ แก่สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่มีส่วนเกียวข้องกับการผลักดันกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ในฮ่องกง ประเด็นดังกล่าวสร้างความกังวลว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนอาจกลับมาอีกครั้งหนึ่งได้
โดยปัจจัยต่างประเทศที่ให้น้ำหนักในสัปดาห์นี้ คือ การรายงานดัชนีเศรษฐกิจต่างๆของทั่วโลก ได้แก่ GDP งวด 1Q63 (รายงานครั้งที่ 2) ของสเปน และอังกฤษ, ดัชนี PMI ภาคการผลิตของญี่ปุ่น, ยุโรป, อังกฤ, สหรัฐ เดือน มิ.ย. 2563, รายงานการประชุม Fed งวด เดือน มิ.ย. 2563 และรายงานภาวะตลาดแรงงานสหรัฐ (ดังตาราง)
ในประเทศไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เก็งกำไรไปตาม มาตรการฟื้นเศรษฐกิจ แล คลาย Lock
ปัจจัยในประเทศในช่วงนี้ไม่มีประเด็นอะไรเป็นพิเศษ เชื่อว่าตลาดน่าจะสนใจหุ้นที่เกี่ยวข้องกับมาตรการกระตุ้นภาครัฐ และการผ่อนคลายธุรกิจ (Reopen) ที่รับได้อนุมัติออกมาแล้วในช่วงก่อนหน้า และจะถึงวันที่มีผลบังคับใช้ในสัปดาห์นี้ หลังจากสถานการณ์ Covid-19 ไทย พบว่า ไร้ผู้ติดเชื้อในประเทศ 34 วัน หลักๆ คือ
มาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว : หลังจากวันที่ 17 มิ.ย. ครม.อนุมัติไปแล้ว 3 มาตรการ อาทิ “เที่ยวปันสุข” คือ รัฐสนับสนุนค่าเดินทาง เช่น สายการบินในประเทศ, รถเช่า ฯลฯ รวม 2 ล้านคน “เราไปเที่ยวกัน” รัฐร่วมจ่ายค่าที่พัก 40% ของค่าห้อง แต่ไม่เกิน 3,000 บาทต่อคืน “กำลังใจ” รัฐสนับสนุนค่าเดินทางบุคลากร COVID-19 ไม่เกินคนละ 2,000 บาท รวมทั้งหมดวงเงิน 4.6 หมื่นล้านบาทราว 0.3% ของ GDP ระยะเวลาคือ ช่วง 3Q63- ต้น 4Q63
ประเด็นให้น้ำหนักคือ การประชุม ครม. วันอังคารนี้ 30 มิ.ย. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) จะมีการเสนอขั้นตอนการลงทะเบียน ให้ ครม.พิจารณา และ วันพุธที่ 1 ก.ค. จะเริ่มเปิดให้นักท่องเที่ยวลงทะเบียนรับสิทธิ์ อาทิ รูปแบบ E-Vocher ซึ่งรัฐจะโอนเงินให้ผ่าน Application “ เป๋าตัง” ของ ธนาคารกรุงไทย
โดยรวม ASPS เชื่อว่าอาจจะมีกระแสการเข้าเก็งกำไรหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม (ERW,CENTEL, MINT) อาทิ ERW เนื่องจากมีสัดส่วนรายได้จากโรงแรมในประเทศราว 90% อีก 10% ต่างประเทศ หรือ กลุ่มการบิน (AAV, BA, NOK) และ อย่างไรก็ตาม ASPS ประเมินราคาหุ้นในกลุ่มได้ปรับขึ้นมาตอบรับปัจจัยบวกและเกินมูลค่าพื้นฐาน แนะนำ Tradingระยะสั้นตามกระแสข่าว
มาตรการผ่อนคลายธุรกิจ โดยวันนี้ ศบค.จะแถลงรายละเอียดผ่อยคลายเฟส 5 อาทิ ผับ, บาร์ ฯลฯ และสัปดาห์นี้นี้วันที่ 1 ก.ค. จะเป็นวันแรกที่โรงเรียนเปิดเทอม และในวันเดียวกัน รัฐจะเปิดให้ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้านั่งติดกันได้ เชื่อว่าจะดีต่อ BTSGIF คือ 1 ในกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ที่ได้ประโยชน์จากผ่อนคลายดังกล่าว ทำให้มีผู้ใช้งาน BTS กลับมาเกือบใกล้เคียงระดับปกติ และปัจจุบันทมี Discount จาก NAV ราว 20% แลมีความผันผวนต่ำ และมีค่า Beta น้อยกว่า 1 เท่า
อีกประเด็นคือ ความคืบหน้าของการเบิกจ่ายงบประมาณของ พ.รก. กระตุ้นเศรษฐกิจ ล่าสุดมีการเบิกจ่ายไปแล้ว 213,586 ล้านบาท หรือคิดเป็น 14.2% ของวงเงินรวม 1.5 ล้านล้านบาท (ไม่นับ พ.ร.ก. ดูแลเสถียรภาพภาคการเงิน วงเงิน 4 แสนล้านบาท เพราะเป็นเพียงการตั้งกองทุนเข้าซื้อตราสารหนี้ ซึ่งการซื้อขายตราสารทางการเงินจะไม่นับในการคำนวณ GDP)
โดยรวมวงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจผ่าน พ.ร.ก. ทั้ง 2 ฉบับมีการเบิกจ่ายไปแล้ว 213,586 ล้านบาทหรือคิดเป็น 14.2% ของวงเงินรวม แต่หากเทียบกับ GDP ไทยปี 2562 ที่ 16.9 ล้านล้านบาท พบว่าวงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจที่เบิกจ่ายมีสัดส่วนเพียง 1.3% ของ GDP ซึ่งนับว่าไม่มากนัก โดยรวม ASPS ประมานการเศรษฐกิจไทยในงวด 2Q63 จะหดตัวแรง 15%yoyมีโอกาสเป็นไปได้ และ งวด 3Q63-4Q63 คาด หดตัว 8.5% , หดตัว 6%
แนะหุ้นเด่น Window Dressing เสริมเกราะป้องกัน COVID อย่าง CPALL, INTUCH
สถานการณ์ไวรัส COVID-19 ยังคงเป็นประเด็นที่ยังต้องติดตาม บวกกับสงครามการค้าที่มีความไม่แน่นอนสูง ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิด Downside ของประมาณอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ รวมถึงผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในปี 2563 ขณะที่ตลาดหุ้นยังซื้อขายบน PER20F ที่แพงสุดในภูมิภาค ทำให้ Fund flow ต่างชาติอาจยังไม่ไหลเข้าหุ้นไทยเช่นเคย
กลยุทธ์การลงทุนจำเป็นต้องพิถีพิถัน แนะหุ้นเด่น Window Dressing พร้อมกับเสริมเกราะป้องกัน COVID-19 อย่าง CPALL, INTUCH เป็น Top picks คาดว่า Outperform ตลาดได้ดีในยามที่ตลาดผันผวนหนัก โดยมีรายละเอียดที่น่าสนใจดังนี้
CPALL(FV@ 78.00) หลังจากราคาหุ้นในกลุ่มค้าปลีก-ค้าส่ง ส่วนใหญ่ปรับตัวเต็มมูลค่าพื้นฐานปี 63 แต่ยังมีตัวเลือกน่าสนใจ CPALL ที่ราคายัง Underperform กลุ่มฯ อย่างมาก ทั้งๆที่มีแนวโน้มกลับมาฟื้นตัวเป็นปกติเช่นเดียวกัน กล่าวคือ
1) ปัจจัยกดดันคลี่คลายไปแล้วทั้งหมด ทั้งการยกเลิกเคอร์ฟิว และห้ามขายแอลกอฮอล์ (7-8% ยอดขาย)) รวมถึงการเดินทางที่จะกลับมาเพิ่มขึ้นหลังคลาย Lockdown + อานิสงส์มาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว หนุนสาขาในปั้ม PTT (15% สาขารวม) และ
2) การขายสินค้าจำเป็น ถือเป็นจุดแข็งสำคัญ ที่เชื่อว่าช่วยให้คาดหวังการฟื้นตัวได้ค่อนข้างแน่นอน บวกกับ การปรับตัว CPALL พัฒนา บริการเสริมตอบโจทย์ New Normal หลัง COVID-19 เช่น การรับ-ส่งพัสดุ ประกอบกับ ธุรกิจรองขายส่ง MAKRO (40% ของยอดขายรวม) ที่ฟื้นตัวเร็ว จากการจับกลุ่ม End user โดยใช้จุดแข็งสินค้าครอบคลุม, ความเชี่ยวชาญขายของสด และราคาแข่งขันได้ ชดเชยกลุ่ม HORECA ที่ลดลงได้ทั้งหมด
ภาพรวมกำไร 1H63 แม้อ่อนตัวลง yoy แต่เชื่อว่าสะท้อนอยู่ในราคาหุ้นแล้ว ขณะที่คาดหวังฟื้นตัวได้ใน 2H63 ประกอบกับ ผลบวกการกลับมาเปิดสาขาใหม่ คงคาดกำไรปี 2563 ทรงตัว yoy แกร่งกว่ากลุ่มฯ ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขาย PER’63 ที่ 26 เท่า ต่ำสุดในรอบหลายปี อีกทั้งได้ปัจจัยหนุน จากการมีโอกาสทำ Window Dressing ช่วงท้ายของไตรมาส 2 และยัง Outperform ตลาดได้ดีในช่วงที่เกิด Covid19 ระยะที่ 1 (ให้ผลตอบแทนชนะตลาดในช่วงนั้นถึง 17.49%)
INTUCH(FV @ 70.00) เป็นอีก 1 หุ้นที่มักถูกทำ Window Dressing (ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 2.2% ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือน มิ.ย.) และ Outperform ตลาดได้ดีในช่วงที่เกิด Covid19 ระยะที่ 1 (ให้ผลตอบแทนชนะตลาดในช่วงนั้นถึง 17.80%) ขณะเดียวกันยังคาดหวังปันผลได้สูงถึง 4% ต่อปี ถือเป็นเบาะรองรับความผันผวนได้เป็นอย่างดี
RESEARCH DIVISION
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส
เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 004132
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 087636
วรรณพฤกษ์ โกมลวิทยาธร
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 110506
ภวัต ภัทราพงศ์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์เชิงปริมาณ
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web