- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 25 June 2020 13:23
- Hits: 4338
บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 25-6-2020
Market Wrap-Up
- • SET ปิดวันที่ 24 มิ.ย.63 ปิด -23 จุด อยู่ที่ 1,333.43 จุด มูลค่าการซื้อขาย 60,885 ล้านบาท ต่างชาติขาย 3,587 ล้านบาท สถาบันซื้อ 1,154 ล้านบาท พอร์ตโบรกขาย 1,623 ล้านบาท ยอด NVDR ขายสุทธิอยู่ที่ 1,495 ล้านบาท โดยมียอดซื้อหุ้น SCB,CPALL,KCE,BBL,JMT และมียอดขายหุ้น ADVANC,IVL,AOT,LH,BJC มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 589 ล้านบาท หุ้นที่มีมูลค่า Short สูงคือ AOT,KBANK,KCE โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 9,004 สัญญาและมียอด Long สะสมตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 89,360 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตร 432 ล้านบาท
- • ตลาดหุ้นสหรัฐ Down Jones -2.72%, S&P500 -2.59% และ Nasdaq -2.19% หุ้นกลุ่มพลังงาน สายการบิน โรงแรม ถูกแรงขายทำกำไรจากความกังวลการระบาดไวรัสรอบ อาจส่งผลให้เกิดการล็อกดาวน์รอบ 2 ขณะที่ IMF คาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐปีนี้หดตัว -8 % & ครั้งก่อน เม.ย. คาด -5.9 % และปีหน้าคาดจะกลับมาขยายตัว +4.5 % ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 ปิด -2.92% หุ้นกลุ่มการเดินทาง ผู้ผลิตรถยนต์ พลังงาน และธนาคารปรับลดลงหลังสำนักผู้แทนการค้าสหรัฐกำลังพิจารณาเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากฝรั่งเศส เยอรมัน สเปน อังกฤษ มูลค่า 3.1 พัน ล.ดอลลาร์ ขณะที่ IMF คาดการณ์เศรษฐกิจกลุ่มยูโรโซนปีนี้จะหดตัว -10.2 % & ครั้งก่อน เม.ย. คาด -7.5% และปีหน้าคาดกลับมาขยายตัว +6%
Market View
- • ภาวะการลงทุนตลาดหุ้นทั่วโลกปรับลดลง หลัง IMF คาดเศรษฐกิจโลกปีนี้หดตัว -4.9% จากเดิมคาดที่ -3 % ก่อนจะฟื้นตัวในปีหน้า +5.4 % ขณะที่การระบาดไวรัสในสหรัฐวานนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 36,188 ราย สูงสุดนับตั้งแต่ 24 เม.ย. ที่ผ่าน โดยรัฐฟลอริดา เท็กซัส แอริโซน่า แคลิฟอร์เนีย มียอดผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลรัฐนิวยอร์ค นิวเจอร์ซี่ และคอนเนกติกัตต้องสั่งกักกันผู้เดินทางจากรัฐอื่น และมีความเสี่ยงต่อการล็อกดาวน์อีกครั้ง ส่วนสถานการณ์ด้านการค้าสหรัฐเตรียมขึ้นภาษีสินค้ายุโรปมูลค่า 3.1 พัน ล.ดอลลาร์ เป็นกรณีตอบโต้กันในกรณีทั้ง 2 ฝ่ายร้องต่อ WTO ในกรณีรัฐบาลยุโรปอุดหนุนธุรกิจการบิน Airbus และสหรัฐหนุน Boeing รวมถึงสหรัฐกำลังพิจาณาขึ้นภาษีสินค้าอาหารทะเลต่อจีน ยุโรป แคนาดา ที่เข้ามาทุ่มตลาด Lobster สหรัฐ ส่งผลให้ภาวะการลงทุนกลับสู่ภาวะ Risk Off อีกครั้ง สำหรับดัชนีหุ้นไทยวานนี้ปิด -1.70 % ต่างชาติขาย 3.5 พัน ลบ. พอร์ตโบรกเกอร์ขาย 1.6 พัน ลบ. หลัง กนง.มีมติคงดอกเบี้ยที่ 0.50 % แต่ได้ปรับลด GDP ไทยปี้คาดหดตัวถึง -8.1 % จากเดิมคาดที่ -5.3 % โดยส่งออกปีนี้คาด -10.3 % , การลงทุนภาคเอกชน -13 % และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเหลือเพียง 8 ล.คน สะท้อนเศรษฐกิจหดตัวสูงสอดคล้องกับ IMF คาด GDP ปีนี้ -7.7 % ต่ำสุดในกลุ่มประเทศอาเซียน
Daily Strategy
- • ดัชนี SET มีความเสี่ยงปรับฐานลงสู่แนวรับ 1,300 – 1,320 จุด จากปัจจัยความเสี่ยงเศรษฐกิจโลก & ไทยชะลอตัว โดยมีแนวต้าน 1,340 – 1,350 จุด แนะนำ Wait & See
- • LH* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 8.60 บาท) หลังจากที่ตลาดหุ้นมีความผันผวนสูงเราจึงแนะนำให้เข้ามาซื้อหุ้นที่มีปันผลสูง โดย Consensus ประเมินปันผลของ LH ในปี 2563 เฉลี่ยที่ 6.32% สำหรับปัจจัยฟื้นฐานเฉพาะตัว LH เป็นหุ้นในกลุ่มอสังหาที่มีการประจายพอร์ตของสินค้าได้ดี โดยสินค้ากลุ่ม Low –Rise ในช่วงไตรมาส 1 ยังมีสัดส่วนมากกว่า 90% ของรายได้จากการขายรวม ซึ่งกลุ่มนี้ผู้ซื้อส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่เป็น Real Demand เพื่อการอยู่อาศัยจริง และ Position ของแบรนด์ยังเน้นลูกค้ากลุ่ม Mid-to High End ดังนั้นหากมองไปในช่วงที่เหลือของปี ยอดขายมีโอกาสที่จะฟื้นตัวขึ้นมาได้ดีกว่า ส่วนรายได้จากการให้เช่าและรายได้จากธุรกิจโรงแรมก็น่าจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังเช่นกัน สำหรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2563-2564 ตลาดประเมินไว้ที่ระดับ 6.74 พัน ลบ. และ 7.65 พัน ลบ. สำหรับปี 2563 ชะลอตัวลง -32.7%YoY แต่กลับมาขยายตัวในปี 2564 +13.5%YoY ตามลำดับ
- • NNCL* (ซื้อเก็งกำไร / ยังไม่มีราคาเป้าหมายใน Consensus) ผู้บริหารคาดทิศทางผลประกอบการปี 63 จะทำได้ใกล้เคียงกับปีก่อนที่มีรายได้ 817 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 256 ล้านบาท โดยผลกระทบจะ COVID-19 ต่อกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมมีไม่มากเนื่องจากเป็นลูกค้าในกลุ่มสารณูปโภคและอาหาร โดยบริษัทยังเน้นขยายการบริการโครงสร้างพื้นฐาน เช่น โครงการขายน้ำให้แก่การประปาส่วนภูมิภาค โครงการ Solar Grid ปัจจุบันอยู่ระหว่างการยื่นของไปอนุญาติขายไฟ และกำลังก่อสร้างคาดเสร็จ ส.ค.63 รวมถึงโครงการ NNEG Phase 2 โรงไฟฟ้าขนาดกำลังการผลิต 60 MW จะ COD ใน ก.ย.63 และโครงการ Fiber optic ในพื้นที่นิคมจะเสร็จใน ก.ค.63 ส่งผลให้ในช่วง 2H63 รายได้และกำไรจาก Recurring Business จะเพิ่มขึ้น
Daily Key Factors
Oil Update (-) WTI Futures ส.ค.ปิด -2.36 $/bbl อยู่ที่ 38.01 $/bbl Brent Futures ส.ค.ปิด -2.32 $/bbl อยู่ที่ 40.31 $/bbl EIA รายงานสต็อคน้ำมันสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 1.4 ล.บาร์เรล สวนทางคาดจะลดลง 1 แสน บาร์เรล ขณะที่ IMF ปรับลดการเติบโตเศรษฐกิจโลกปีนี้ลงสู่ระดับ -4.9 % ส่งผลลบต่ออุปสงค์ความต้องการใช้น้ำมัน
Gold Update (-) Gold Futures ส.ค.ปิด -6.90 ดอลลาร์ อยู่ที่ 1,775.10 ดอลลาร์/ออนซ์ ถูกแรงขายทำกำไรจากความไม่มั่นใจสถานการณ์ระบาดไวรัสขณะที่ Dollar Index แข็งค่า +0.51% อยู่ที่ 97.1528
Fund Flow (-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -175.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -116.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโด -17.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -41.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ทรงตัวอยู่ที่ 30.84 บาทดอลลาร์สหรัฐ
(+) ดัชนี BDI ปิด +88 อยู่ที่ 1,705 จุด
(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี อยู่ที่ 0.676%, 2 ปี อยู่ที่ 0.188%
(-) ค่าเงินหยวน off-shore อ่อนค่าอยู่ที่ 7.0762/USD
(-) วานนี้สหรัฐมีผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้น 39,027 ราย อยู่ที่ 2,463,195 ราย เสียชีวิต เพิ่มขึ้น 807 ราย อยู่ที่ 124,280 ราย ( จาก Worldometers )
Economic Calendar
ในประเทศ
24 มิ.ย. กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า
ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 4/2563
กระทรวงการคลัง-ธนาคารกรุงไทย เปิดจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ "วอลเล็ต สบม."
สัปดาห์ที่5 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.)แถลงดัชนีอุตสาหกรรม
30 มิ.ย. ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
ต่างประเทศ
22 มิ.ย. CN อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดีของธนาคาร PBoC
US ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) ( พ.ค.)
23 มิ.ย. US ยอดขายบ้านใหม่ ( พ.ค.)
24 มิ.ย. US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
25 มิ.ย. CN วันหยุด จีน - เทศกาลแข่งเรือมังกร
US ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน (เดือนต่อเดือน) ( พ.ค.)
US ดัชนีจีดีพี (ไตรมาสต่อไตรมาส) (ไตรมาส 1)
US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
26 มิ.ย. CN วันหยุด จีน - เทศกาลแข่งเรือมังกร
Theme Strategy
(1) กลุ่ม Defensive Stock BCPG*, BGRIM*, BPP*, GPSC*, GULF*, ADVANC, INTUCH*
(2) กลุ่มที่อิงการบริโภคในประเทศ CPALL, CBG*, ICHI*, OSP*
(3) กลุ่มรับประโยชน์ ศก.ชะลอ NPL เพิ่ม สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อจำนำทะเบียน BAM*, CHAYO*, JMART*, JMT*, MTC*, SAWAD*
(4) กลุ่มส่งออกอาหารเงินบาทอ่อนค่า CPF*, GFPT*, TFG*, TU*, STA*
(5) กลุ่มรับประโยชน์จากต้นทุนน้ำมันอยู่ในระดับต่ำและการคลาย Lockdown TOP, PTTGC, IVL*, PRM*, PTG*, TASCO*
(6) กลุ่มรับประโยชน์จากปลดล็อก พ.ร.บ.งบประมาณ STEC, SEAFCO*
*หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio May 2020: ADVANC, BJC*, AOT, CPALL, CPF*, BCH*
Analysts
Apichai Raomanachai No. 002939
Nopporn Chaykaew No. 043964
Piyatat Pasommanatsakul No. 081741
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web