- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 24 June 2020 15:31
- Hits: 867
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 24-6-2020
“สหรัฐยังเจรจาจีน-ตัวเลขศก.ดี-ติดตามกนง.-น้ำมันตก”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : IVL (จาก Fully Valued เป็นถือ)
ภาวะตลาดและปัจจัยก่อนหน้า : SET วานนี้รีบาวด์ สหรัฐยังเจรจากับจีนต่อ ปิด +4.25 จุด ที่ 1356.43 จุด มูลค่าซื้อขายเบาบาง 49 พันลบ.ตลาดไทยแกว่งแคบคล้ายเพื่อนบ้าน ปัจจัยบวกคือ มีมุมมองด้านบวกว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวลักษณะ V ได้และคาดหวังสภาคองเกรสจะออกงบสาธารณูปโภค 1 ล้านล้านดอลลาร์ กระตุ้นเศรษฐกิจ ลดผลกระทบโควิด หุ้นแบงก์บางตัวฟื้น ซื้อสุทธิมาก-รายย่อย ขายสุทธิมาก-ต่างชาติ YTD ต่างชาติขายสุทธิเพิ่มเป็น 208 พันลบ.
# ปัจจัยและกลยุทธ์:
SET มีโมเมนตัมบวกต่อ ตัวเลขศก.ออกมาดี คาดหวังการฟื้นตัวแบบ V และมาตรการกระตุ้น แม้น้ำมันปรับลง ปัจจัยบวกคือ สหรัฐยังเจรจาการค้ากับจีน ไม่ได้ยุติ ตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดีทั้งยอดขายบ้านใหม่และ PMI ภาคการผลิตและบริการ มีความคาดหวังเศรษฐกิจฟื้นตัวแบบ V และมาตรการเยียวยาเพิ่มเติมAPPLE ช่วยหนุนหุ้นเทคโนฯ ดาวโจนส์ +131 จุด วันนี้ติดตามประชุม กนง. ตัวเลขส่งออก ดัชนีกังวลลดลง และเช้านี้ตลาดหุ้นเพื่อนบ้านและดาวโจนส์ฟิวเจอร์สปรับขึ้น ส่วนปัจจัยลบคือ ราคาน้ำมันดิบปรับลง เพราะสต็อกสหรัฐสูง เข้าหาทองคำ ไม่ไว้ใจเรื่องผู้ติดเชื้อเพิ่มและเจรจาการค้าสหรัฐ-จีน ว่าจะมีอุปสรรคหรือไม่ กลยุทธ์ระยะสั้น แม้ต่างประเทศไม่สดใส แต่ในประเทศคุมโรคได้ดี อาจมีแรงซื้อ SSFX และ Window Dressing ช่วยพยุง ก่อนหมด มิ.ย.63 เล่นสั้นเข้าไว-ออกไว เล่นรอบเมื่อปรับลง คาดดัชนีซื้อ-ขายในกรอบ 1340-1380 ความเสี่ยงคือ P/E ไทยสูงในภูมิภาค และการเกิด Second Wave/รออ่อน ด้านกลยุทธ์ระยะกลาง-ยาว คือ เศรษฐกิจโลกและไทยไม่สดใส จึงแนะนำทยอยถอยรับหลักทรัพย์พื้นฐานดีที่แนะนำซื้อ หุ้นกลุ่มการแพทย์เข้าไฮซีซัน- BCH,BDMS,CHG,RJH,RPH หุ้น Defensive- ADVANC,CHG ปันผลสูง-KKP,TISCO,LH เติบโต-ฟื้นตัว- MTC,DELTA,TASCO กลุ่มพาณิชย์เด่นจากการคลายล็อกดาวน์ เพิ่มระยะเวลาปิดห้างฯ- CPALL,HMPRO ราคาเนื้อสัตว์ดี- CPFขนส่ง- หุ้นกลับมาฟื้นตัวเร็ว BEM,BTS หุ้นกลุ่ม REITs & IFFs ปันผลสูง ดอกเบี้ยในตลาดต่ำ- DIFF,AIMIRT,HREIT ระวังการขายเมื่อมีข่าวดีจริงไปแล้ว หุ้นโรงแรม สนามบิน และสายการบิน ติดตามหุ้นพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบกลับมาเริ่มปรับลง สัปดาห์นี้ติดตาม ประชุม กนง. ตัวเลขส่งออก และTravel Bubble แนวรับคือ 1340-1320 จุด และ แนวต้าน 1360-1380 จุด ส่วนตัดขาดทุนต่ำกว่า 1350 จุด วันนี้ข่าวที่น่าสนใจคือ SAWAD กลับมาจ่ายปันผลที่ 1.40 บาทต่อหุ้น (ยิลด์ 2.7%) และแจกวอร์แรนท์ฟรี คือ SAWAD-W2 ที่สัดส่วน 25 หุ้นเดิม 1 วอร์แรนท์ อายุ 5 ปี ราคาใช้สิทธิ์ 100 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาปัจจุบันมาก แต่อาจจะยังมีการเก็งกำไรแนะนำ ถือ ราคาพื้นฐาน 57 บาท ล่าสุดเพราะปัจจัยพื้นฐานดีขึ้น จึงปรับให้มากขึ้นคือ 1) BCP คงคำแนะนำ ซื้อ แต่ราคาพื้นฐานปรับขึ้นเป็น 26 บาท และ 2) IVLปรับเพิ่มจากเต็มมูลค่า เป็น ถือ ราคาพื้นฐานเป็น 31 บาท ส่วน KCE ผู้บริหารซื้อหุ้นเอง น่าจะส่งผลดีกับราคาหุ้นวันนี้ ตรงข้ามกับ BDMS ที่ตัดใจไม่ซื้อ BH แล้วเลยโทนเป็นลบ
# Stock Pick Today : BCH ยืนหนึ่งรพ.เอกชนตรวจโควิด-19 ถึงวันที่ 10 มิ.ย.63 ตรวจไปมากกว่า 1 แสนราย ซึ่งคาดว่าเป็นกำไรใน 2Q63F 50 ลบ. ราว 20% ของกำไรสุทธิในไตรมาส 2/63 ซึ่งคาดว่าจะเติบโตเป็นเลขสองหลัก เพราะจำนวนคนไข้ไทยและคนไข้ต่างชาติที่เข้ามาทำงานในไทยฟื้นตัว คาดการเติบโตในปี 63F-64F ไปได้ดี ประมาณการกำไรสุทธิปีนี้ขยายตัว +3% และ +9% ในปี 64F ขณะที่เศรษฐกิจในปีนี้ย่ำแย่และจีดีพีติดลบ แนะนำ ซื้อ ราคาพื้นฐาน 17 บ. (DCF)
การวิเคราะห์ทางเทคนิค: สั้น...ภาพยังเป็นลบ แต่แกว่งมีรีบาวด์สั้นๆก่อนได้ ยังให้น้ำหนักกับการลงในระยะกลาง ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick & Indicatorsน้ำหนักหลัก ยังอยู่ในภาพลบ {แม้“ปิดบวก” แต่ก็เพียงเล็กน้อย และยังเคลื่อนไหวอยู่ใต้“SMA10วัน” (โดยถูกกดดันจาก“โครงสร้างขาลง–ระยะกลาง”)} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯวันนี้“แกว่ง”แบบให้น้ำหนักกับการลง แต่“ค่าบวก” จะช่วยให้มีรีบาวด์ฯสั้นๆก่อน(แล้วจึงลงต่ำ,ตามมา)ได้ แนวต้าน 1360 (หรือ 1370 – 1380 จุด {แนวตัดขาดทุน “ต่ำกว่า 1350”(แนวรับย่อย “1340 / 1320 – 1300”) จุด}
Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com
Inside Story
Key Drivers TODAY : ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ
Company Guide : BCP (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 26.00)
IVL (ถือ -ราคาพื้นฐาน 31.00)
SENA (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 3.10)
Stock in Focus : RJH (ซื้อ-ราคาเป้าหมาย 28 บาท)
Turnover List Watch : IP ซื้อขายร้อนแรง ลุ้นใช้ Cash Balance สัปดาห์หน้า
Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
+ สหรัฐ: ยังดำเนินการต่อเรื่องการทำข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน
# นายปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษาด้านการค้าประจำทำเนียบขาว ได้ออกแถลงการณ์เพื่อชี้แจงว่า ข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีนยังไม่ยุติ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เขาได้ให้สัมภาษณ์กับรายการ "The Story" ของสำนักข่าวฟ็อกซ์ นิวส์ ว่าข้อตกลงดังกล่าวได้ยุติลงแล้ว ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวกรองของสหรัฐมีข้อมูลที่ทำให้เชื่อมั่นมากขึ้นว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีต้นตอมาจากห้องทดลองในเมืองอู่ฮั่นของจีน ทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ทวีตข้อความยืนยันถ้อยแถลงของนายนาวาร์โร โดยกล่าวว่า ข้อตกลงการค้าเฟสแรกยังคงมีอยู่
+ สหรัฐ: ตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ดีดตัวขึ้น
# กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ดีดตัวขึ้น 16.6% ในเดือนพ.ค. ซึ่งแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.9% บ่งชี้ว่าตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐเริ่มฟื้นตัว หลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
# ขณะที่ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิต และภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ดีดตัวสู่ระดับ 46.8 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน จากระดับ37.0 ในเดือนพ.ค. โดยได้แรงหนุนจากการที่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์และเปิดให้ธุรกิจต่างๆเริ่มกลับมาดำเนินกิจการได้อีกครั้ง
+ สหรัฐ: มีมุมมองเป็นบวกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็วเป็น V-Shape แม้มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม
# นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์แจนนีย์ มอนโกเมอรี่ สก็อตต์ ในรัฐฟิลาเดลเฟีย กล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดของสหรัฐได้ช่วยสนับสนุนมุมมองที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐที่แนวโน้มดีดตัวขึ้นแบบ V-Shape ซึ่งทำให้นักลงทุนเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น โดยมีแรงซื้อเข้าหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอย่างคึกคัก เนื่องจากนักลงทุนมองว่า ธุรกิจเทคโนโลยีมีโอกาสเติบโตได้มากกว่าธุรกิจอื่นๆ เช่น อสังหาริมทรัพย์ และสาธารณูปโภค
+ แอปเปิล อิงค์ ประกาศแผนการจำหน่ายคอมพิวเตอร์ Mac โดยใช้หน่วยประมวลผลที่บริษัทพัฒนาขึ้นเอง
# หุ้นแอปเปิลได้รับแรงหนุนหลังจากบริษัทแอปเปิล อิงค์ ประกาศแผนการจำหน่ายคอมพิวเตอร์ Mac โดยใช้หน่วยประมวลผลที่บริษัทพัฒนาขึ้นเอง นับเป็นการส่งสัญญาณยุติการเป็นพันธมิตรกับบริษัทอินเทลซึ่งผลิตชิปให้กับแอปเปิลมานานถึง 15 ปี ขณะที่หุ้นอินเทลปิดตลาดปรับตัวลง 0.28% หลังจากแอปเปิลประกาศแผนดังกล่าว
+ สหรัฐ: คาดหวังรัฐบาลสหรัฐจะออกมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจเพิ่มเติม
# ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนมีความหวังว่า รัฐบาลสหรัฐจะออกมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจเพิ่มเติมหลังจากนายแลร์รี คุดโลว์ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจของทำเนียบขาวเปิดเผยว่า การลดหย่อนภาษีและการจ่ายเช็คเงินสดให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 นั้น อาจจะรวมอยู่ในมาตรการเยียวยารอบใหม่ ขณะที่นายสตีเวน มนูชินรัฐมนตรีคลังสหรัฐกล่าวว่า มาตรการเยียวยารอบใหม่จะมุ่งผลักดันให้ประชาชนกลับเข้าทำงานได้เร็วขึ้น และอาจมีการพิจารณาเลื่อนเวลาการยื่นชำระภาษี
+ ตลาดหุ้นสหรัฐ: ดาวโจนส์ปิดบวก 131.14 จุด รับข้อมูลศก.สดใส, แรงซื้อหุ้นเทคโนฯ
# ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 มิ.ย.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ค.ที่ดีดตัวขึ้นแข็งแกร่งกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งนำโดยหุ้นแอปเปิล รวมทั้งความหวังที่ว่า รัฐบาลสหรัฐจะออกมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจเพิ่มเติม
- น้ำมัน: WTI ปิดลบ 36 เซนต์ หลังนักวิเคราะห์คาดสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่ม
# สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (23 มิ.ย.) หลังจากนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในสหรัฐ ยังส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน
• ทองคำ: ปิดพุ่ง $15.60 เงินดอลล์อ่อนหนุนแรงซื้อ
# สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 7 ปีเมื่อคืนนี้ (23 มิ.ย.) เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ช่วยดึงดูดแรงซื้อทองคำ นอกจากนี้ ความสัมพันธ์อันตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีนยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
• ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่จะทยอยประกาศสัปดาห์นี้
# นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีราคาบ้านเดือนเม.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2563, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ค., ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนพ.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์
+/- ติดตามการทยอยประกาศเหตุการณ์หรือตัวเลขสำคัญในสัปดาห์นี้ กนง.-ตัวเลขส่งออก-Travel Bubble
# ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) 24 มิ.ย.นี้ ซึ่งฝ่ายวิจัยฯ DBS คาดว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำต่อไป ที่ 0.5% เพื่อพยุงภาวะเศรษฐกิจไทย รวมทั้งตัวเลขส่งออกเดือนพ.ค. ของไทย การพิจารณาโครงการ Travel Bubble และการผ่อนปรนกิจการ/กิจกรรมเฟสต่อไปในระยะที่ 5
• สศช. รายงานความคืบหน้าการวิเคราะห์และกลั่นกรองแผนงานหรือโครงการที่ 3
# เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รายงานความคืบหน้าการวิเคราะห์และกลั่นกรองแผนงานหรือโครงการที่ 3 ภายใต้ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 วงเงิน 400,000 ล้านบาทว่า จากข้อมูลล่าสุดวันที่ 22 มิ.ย.63 มีข้อเสนอโครงการในรอบที่ 1 รวมทุกแผนงาน จำนวน 43,851 ข้อเสนอ วงเงินกว่า 1.36 ล้านล้านบาท ซึ่งแผนงาน 3.2 มีข้อเสนอโครงการมากที่สุด 42,405 โครงการ ตามมาด้วยแผนงาน 3.1 อีก 1,259 โครงการ
+ "ไทยเที่ยวไทย" มีแนวโน้มดีขึ้นช่วงครึ่งปีหลัง หลังการคลายล็อกดาวน์ในประเทศ
# ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี หรือ TMB Analytics ระบุว่า "ไทยเที่ยวไทย" มีแนวโน้มดีขึ้นช่วงครึ่งปีหลังหลังการคลายล็อกดาวน์ในประเทศและได้มีแพคเก็จกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐ สวนทางกับ "ไทยเที่ยวนอก" ที่ยังคงมีความเสี่ยงจากการระบาดของโควิด-19 พร้อมแนะหากชวน "ไทยเที่ยวนอก" เบนมาเที่ยวไทยแทนทั้งหมดจะช่วยชดเชยรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ 79%
+/• KCE: 3 วัน พิธาน องค์โฆษิต บิ๊กเคซีอีฯ ลุยซื้อหุ้น KCE เข้าพอร์ตรวมกว่า14.10 ล้านหุ้น
# พิธาน องค์โฆษิต ผู้บริหารระดับสูงของเคซีอีฯ เข้าซื้อหุ้น KCE เข้าพอร์ตรวมกว่า14.10 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 1.2%เทียบกับจำนวนหุ้นทั้งหมด ที่ราคาในช่วง 19.30-19.46 บาท ตั้งแต่วันที่ 18-22 มิ.ย.63 เทียบกับราคาปิดวานนี้ที่ 19.7บาท (Aspen)
# ผลกระทบ: เป็นจิตวิทยาทางบวก อาจส่งผลดีกับราคาหุ้นในระยะสั้น แต่ในแง่พื้นฐานฝ่ายวิจัยฯ แนะนำ ขาย คาดว่าผลประกอบการ 1Q63 จะเป็น Peak หรือสูงสุดของปีนี้ บริษัทเริ่มเห็นคำสั่งซื้อที่ลดลงในช่วงปลายมี.ค.63 และมีการปิดโรงงานชั่วคราวที่บางปูเมื่อ 5 พ.ค.63 ซึ่งโรงงานนี้มีกำลังการผลิต 13% ของทั้งหมด ซึ่งเป็นสัญญาณที่เป็นลบ
-/• BDMS: ยกเลิกเข้าเทคโอเวอร์ BH หลังเห็นแนวโน้มธุรกิจไม่ขยายตัว
# นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ผู้ถือหุ้นใหญ่ บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) เปิดเผยว่า ได้ยกเลิกการเข้าเทคโอเวอร์ บมจ.โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH) เพราะเห็นแนวโน้มธุรกิจไม่ขยายตัว ราคาหุ้น BH ปรับตัวลงไปมาก
# ผลกระทบ: เป็นจิตวิทยาทางลบกับ BH ที่ไม่มี BDMS มารับ Tender Offer ที่ราคาสูงกว่าปัจจุบันคือ 125 บาท และอ้างเหตุผลในเชิงลบว่าธุรกิจไม่ขยายตัว แต่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับปัจจัยพื้นฐาน ปัจจุบัน BDMS ถือหุ้นใน BH ทั้งหมด 24.99%และเคยประกาศแผนจะทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดโดยสมัครใจแบบมีเงื่อนไข (Condititonal Voluntary TendeOffer) ในหลักทรัพย์ทั้งหมดของ BH ในสัดส่วน 74.83%
# ปัจจุบันฝ่ายวิจัยฯ แนะนำ ซื้อ BDMS ราคาพื้นฐาน 25.00 บาท และแนะนำ ถือ BH ราคาพื้นฐาน 118.00 บาท
+/- BTS ผู้โดยสารฟื้นเร็ว มุ่งสายสีเหลืองส่วนต่อ
# BTS ปลื้ม ผู้โดยสารฟื้นเร็วเกินคาด แต่รับทั้งปีลดลง 10% ย้ำไม่กระทบรายได้รวม เหตุมีสถานีเปิดเพิ่มดันรายได้ พร้อมจ่ายค่าชดเชย BEM แลกสายสีเหลืองส่วนต่อขยาย รัชดา-ลาดพร้าว ด้านสถานีตากสินสร้างได้ปีนี้ ส่วนโครงการเมืองการบินผลตอบแทนลงทุนเกิน 10% มั่นใจคืนทุนใน 15 ปี (ทันหุ้น)
# ผลกระทบ: มีทั้งบวกและลบ ทางบริษัทจะเจรจา Suppliers เพื่อต่อรองลดต้นทุนส่วนหนึ่งมาชดเชยกับผู้โดยสารที่ลดลงส่วนการค่าชดเชยให้ BEM คาดว่าจะดีในระยะยาว เพื่อให้เส้นทางเชื่อมต่อและรับผู้โดยสารสายสีเหลืองได้มากขึ้น ด้านโครงการพัฒนาอู่ตะเภาจะส่งผลดีต่อการลงทุนในระยะยาว และกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาพื้นฐาน 12.80 บาท
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web