- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 23 June 2020 21:20
- Hits: 6226
บล.เคจีไอ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 23-6-2020
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร CPF*, SPRC*, VGI*
CPF* (เป้าพื้นฐาน 38 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 31.5 บาท / แนวต้าน 33 – 35 บาท (Stop loss 30 บาท) 2) ประเมินรับ Sentiment บวกจาก i) Supply เนื้อหมูในไทยคาดจะลดลงทั้งจากโรคระบาดในหมูที่เวียดนามและประเทศผู้ส่งออกหลักยังมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นโอกาสส่งออกของไทย ii) Supply เนื้อไก่ในไทยคาดจะลดลง จากการส่งออกเช่นกันหลังจากที่ผู้ประกอบในประเทศบราซิลที่เป็นผู้ส่งออกเนื้อไก่รายใหญ่ยังมีปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 … ราคาเนื้อหมูและไก่ในไทยเริ่มฟื้นตัวแล้วเป็นผลบวกต่อแนวโน้มผลการดำเนินงาน 3Q63 ที่เป็น High season ของการส่งออก
SPRC* (เป้าพื้นฐาน 10 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 6.8 บาท / แนวต้าน 7.5 - 7.8 บาท (Stop loss 6.5 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2Q63 Turnaround จาก i) จะไม่มีขาดทุนสต๊อก เช่นใน 1Q63 อิงราคาน้ำมันดิบปัจจุบัน (ลุ้นพลิกกำไรจากสต๊อกใน 2Q63) ii) ค่าการกลั่นเฉลี่ย 2Q63 ฟื้นตัว QoQ 3) PBV 1.15 เท่า ยังอยู่ในระดับต่ำ -1.0 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต 3) ราคาน้ำมันดิบล่าสุดยืนเหนือ 40 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล ได้แรงบวกจากประเด็นพายุเข้าอ่าวเม็กซิโก (ผู้ประกอบการฯหยุดผลิตชั่วคราว) … อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในบทวิเคราะห์ Commodity weekly วันนี้
VGI* (เป้า Consensus 7.88 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 7.5 บาท / แนวต้าน 7.90 - 8.15 บาท (Stop loss 7.1 บาท) 2) ประเมินรับ Sentiment บวกจากการผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ (รถไฟฟ้า, ห้างค้าปลีก กลับมาดำเนินกิจกรรมตามปกติ) 3) ราคาหุ้น Laggard PLANB* ที่เราแนะนำมาก่อนหน้า นักลงทุนอาจพิจารณาใช้กลยุทธ์ Pair trading เพื่อลดความเสี่ยงตลาดฯ โดย Long VGI* / Short PLANB* พร้อมๆกัน (กำไรรวม +1% เริ่มแนะนำวันที่ 19 มิ.ย.)
หุ้นมีข่าว
(กลุ่มนิคมฯ WHA*, AMATA*) หนุนลงทุนอีอีซี ชงปลดล็อกนักธุรกิจเข้าประเทศ (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) จีนย้ายฐานดันไตรมาส 3-4 ฟื้น"บิ๊กตู่" ถกบอร์ดอีอีซี เห็นชอบแนวทางผ่อนปรนการ เดินทางระหว่างประเทศแบบ Business Bubble เตรียมเสนอ ศบค.อนุมัติ เพื่อเร่งเครื่องการลงทุนในอีอีซี พร้อมมอบศึกษาสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมเพื่อส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรม S-Curve ส่วนยอดขอรับส่งเสริม 5 เดือน 7.4 หมื่นล้าน ลดลง 10% เหตุได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แต่สัญญาณการย้ายฐานจากจีน เริ่มมา ลุ้นไตรมาส 3-4 ดีขึ้น
(+ กลุ่มโรงแรม CENTEL*, ERW*, MINT* / สายการบิน AAV, BA / ปั๊มน้ำมัน PTG*, SUSCO) คลังชงครม.อนุมัติ ขั้นตอนลงทะเบียน รับสิทธิ์ 'เที่ยวไทย' (ไทยโพสต์) "คลัง" แจง 30 มิ.ย.นี้ เตรียมชง ครม.เคาะขั้นตอนลงทะเบียนมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว แจงหลักการต้องให้การใช้งานสะดวกมากที่สุด เชื่อมาตรการแจ่ม ช่วยประคองเศรษฐกิจไปต่อได้
Commodities Update
พายุโซนร้อน Cristobal พัดกระหน่ำใส่อ่าวเม็กซิโก
Event
อัพเดตสินค้าโภคภัณฑ์ประจำสัปดาห์
Impact
ราคาน้ำมันดิบ: ประมาณ 30% ของผลผลิต GoM สหรัฐต้องสะดุดเพราะพายุโซนร้อน Cristobal
ราคาน้ำมันดิบดูไบพุ่งขึ้น 7% WoW เป็น US$41.9/bbl เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เนื่องจากการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐในอ่าวเม็กซิโกต้องหยุดการผลิตลงชั่วคราวประมาณ 30% เพราะพายุโซนร้อน Cristobal ซึ่งพัดกระหน่ำขึ้นฝั่งที่ Louisiana เมื่อวันอาทิตย์ก่อน ส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงถึง 600KBD WoW เหลือ 10.5MBD ส่วนจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐก็ยังคงลดลงอย่างต่ำเนื่องอีก 10 แท่น WoW เหลือ 189 แท่นซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบสิบปี ในขณะเดียวกัน Joint Ministerial Monitoring Committee (JMMC) ของ OPEC ก็ยืนยันว่าทุกประเทศในกลุ่ม OPEC+ จะสามารถปฏิบัติตามข้อตกลงลดการผลิตน้ำมันในอีกสามเดือนข้างหน้าได้ หลังจากที่สมาชิกสี่ประเทศที่ยังลดการผลิตไม่ถึงระดับที่ตกลงกันไว้ในช่วงเดือนพฤษภาคม – มิถุนายน (อิรัก ไนจีเรีย คาซัคสถาน และแองโกล่า) ตกลงจะชดเชยด้วยการลดการผลิตเกินโควต้าในช่วงกรกฎาคม – กันยายน ทั้งนี้ JMMC มีกำหนดจะจัดประชุมนัดหน้าในวันที่ 15 กรกฎาคมเพื่อทบทวนภาวะอุปสงค์/อุปทานในตลาด, การปฏิบัติตามข้อตกลง และระดับของการลดการผลิตน้ำมัน นอกจากนี้ OPEC ยังคาดว่าอุปสงค์การใช้น้ำมันดิบทั้งโลกจะลดลง 6.4MBD YoY ใน 2H63 ซึ่งลดลงน้อยกว่าใน 1H63 ที่ลดลงถึง 11.9MBD YoY
ตลาดโรงกลั่น spread ของน้ำมันเบนซิน น้ำมันเครื่องบิน และน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น
GRM ในตลาดสิงคโปร์ฟื้นตัวขึ้น WoW จาก -US$0.8/bbl เป็น US$0.2/bbl เนื่องจาก crack spread ของน้ำมันเบนซิน น้ำมันเครื่องบิน และน้ำมันดีเซลดีขึ้น โดย spread ของน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้นถึง 42% WoW เป็น US$6.2/bbl, spread ของน้ำมันเครื่องบินก็ปรับตัวดีขึ้นถึง 120% WoW เป็น US$1.0/bbl และ spread ของน้ำมันดีเซลพุ่งขึ้นถึง 37% WoW เป็น US$6.8/bbl เนื่องจากอุปสงค์น้ำมันเพิ่มขึ้นหลังจากที่ทั่วโลกเริ่มผ่อนคลายมาตรการ lockdown เมื่อสถานการณ์โรคระบาดดีขึ้น ทั้งนี้อุปสงค์น้ำมันเบนซินของสหรัฐยังทรงตัว WoW อยู่ที่ 7.9MBD (จากระดับต่ำสุดที่ 5.1MBD และระดับปกติที่ 9.3MBD) โดยเรายังคงเชื่อว่า base GRM ของโรงกลั่นในประเทศจะเพิ่มขึ้น QoQ ใน 2Q63 เนื่องจากต้นทุน crude premium จากตะวันออกกลางลดลง ทั้งนี้ implied GRM ของโรงกลั่นในไทย** เพิ่มขึ้น 36% QoQ เป็น US$2.5/bbl ใน 2QTD63
ตลาดปิโตรเคมี: spread ของ HDPE ลดลงเล็กน้อย WoW
Spread ของ HDPE ลดลง 3% WoW เหลือ US$446/ton เนื่องจากต้นทุน naphtha เพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบที่ขยับสูงขึ้น ในขณะที่ราคา HDPE ทรงตัว WoW อยู่ที่ US$810/ton ซึ่งยังถือเป็นระดับที่ต่ำมากอยู่ แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิต olefins ที่ใช้ก๊าซเป็นวัตถุดิบจะได้อานิสงส์จากราคา HDPE ที่สูงขึ้นหลังจากที่ราคาลงไปทำสถิติต่ำสุดในรอบ 10 ปีที่ US$710/ton เมื่อปลายเดือนเมษายน สำหรับในตลาด aromatics นั้น spread ของ PX-over-condensate ลดลง 6% WoW เหลือ US$166/ton เพราะถูกกดดันจากอุปทาน PX ใหม่ 8.0MTA ที่จะเพิ่มเข้ามาในตลาดเอเชียแปซิฟิกและตะวันออกกลางในปี 2563
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
รีบาวด์แต่ไปไม่ไกล ภาพใหญ่ยังไซด์เวย์ / ทางขึ้นจำกัด
KGI ประเมิน SET Index วันอังคารรีบาวด์ได้บ้าง แต่ยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้าสู่ตลาด ภาพรวมยังไซด์เวย์/มีโอกาสย่อกลับลงมาอีก... ขณะที่เมื่อวานนี้ ดัชนีฯ ปรับลงตามแรงขายปรับพอร์ตออกจากกลุ่มแบงก์ (ตามคาด) หลังจาก ธปท. สั่งห้ามจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลและห้ามซื้อหุ้นคืน... ขณะที่ในวันนี้ปัจจัยโดยรวมเป็นกลาง i) ในส่วนของหุ้นแบงก์นั้น ฝ่ายวิจัยฯ มองว่าการปรับลงเมื่อวานนี้ น่าจะสะท้อนความเสี่ยงเรื่องเงินปันผลไปมากแล้ว คาดว่าราคาหุ้นจะทรงตัว รอดูงบไตรมาส 2/63 ซึ่งจะชี้ภาพของหนี้เสียและคุณภาพสินทรัพย์ได้ชัดขึ้น ii) ในส่วนของการติดเชื้อ Covid-19 ยังเพิ่มขึ้นแต่ไม่มีผลต่อหุ้นโลกมากนัก สหรัฐฯ ยังรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่สูงกว่า 3 หมื่นคนต่อวัน แต่เมื่อคืนนี้หุ้นสหรัฐฯ ยังคงบวกได้หลังนักลงทุนให้น้ำหนักกับความเห็นของที่ปรึกษาทำเนียบขาว แลร์รี คัดโลว์ ว่าภายในสิ้นเดือน ก.ค. น่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ออกมาเพิ่มเติมอีก... ด้านปัจจัยภายในประเทศ นักลงทุนส่วนหนึ่งอาจชะลอ เพื่อติดตามผลประชุม กนง. ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งจะมีการปรับลดประมาณการ GDP ไทยปีนี้จากปัจจุบันที่มอง -5.4% รวมทั้งมีโอกาสสูงที่ กนง. จะลดดอกเบี้ยนโยบายจากระดับปัจจุบันที่ 0.50%
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web