WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 23-6-2020dbs

รีบาวด์หวังศก.สหรัฐฟื้นเร็ว-สภาออกงบสูง-น้ำมันเพิ่ม

  • หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : --

ภาวะตลาดและปัจจัยก่อนหน้า : SET วานนี้ปรับลงแรง หุ้นกลุ่มแบงก์ถ่วงตลาด ปิด -18.64 จุด ที่ 1352.18 จุด มูลค่าซื้อขายปานกลาง 65 พันลบ.ตลาดไทยปรับลงคล้ายเพื่อนบ้าน หลังมีข่าวธปท.สั่งการให้ธนาคารวางแผนการบริหารเงินกองทุน ห้ามจ่ายปันผลระหว่างกาลและซื้อหุ้นคืน เพื่อเก็บเงินสดไว้ และหุ้นไฟแนนซ์ได้รับผลกระทบจากการให้เยียวยาลูกหนี้รอบสอง และกังวลติดเชื้อรอบ 2 ซื้อสุทธิมาก-รายย่อย ขายสุทธิมาก-สถาบัน YTD ต่างชาติขายสุทธิเพิ่มเป็น 207 พันลบ.

# ปัจจัยและกลยุทธ์:

SET มีโอกาสฟื้นคาดหวังเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นเร็ว Apple ออกระบบปฏิบัติการใหม่ และคาดหวังสภาออกงบเพิ่ม ปัจจัยบวกคือ มีมุมมองด้านบวกว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวลักษณะ V ได้ แม้มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม มีความคาดหวังสภาคองเกรสจะออกงบสาธารณูปโภค 1 ล้านล้านดอลลาร์ ดาวโจนส์ +154 จุด ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวต่อ ด้านปักกิ่งก็ถูกคาดว่าผู้ป่วยจะลดลงเร็ว ควบคุมได้ดี ดัชนีความกังวล VIX ลดลงเป็น 31.77 จุด เช้านี้ตลาดหุ้นเพื่อนบ้านและดาวโจนส์ล่วงหน้าปรับขึ้นดี ส่วนปัจจัยลบคือยอดขายบ้านมือสองพ.ค.ปรับลง ยังเข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัยทองคำ หลังผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมาก ด้านไทยจะมีการประเมินสถานการณ์ต่ออายุ พรก.ฉุกเฉิน 25-26 มิ.ย.63 นี้ กลยุทธ์ระยะสั้น แม้ต่างประเทศไม่สดใส แต่ในประเทศคุมโรคได้ดี อาจมีแรงซื้อ SSFX และ Window Dressing ช่วยพยุง ก่อนหมด มิ.ย.63 เล่นสั้นเข้าไว-ออกไว เล่นรอบเมื่อปรับลง คาดดัชนีซื้อ-ขายในกรอบ 1340-1380 ความเสี่ยงคือ P/E ไทยสูงในภูมิภาค และการเกิด Second Wave/รออ่อน ด้านกลยุทธ์ระยะกลาง-ยาว คือเศรษฐกิจโลกและไทยไม่สดใส จึงแนะนำทยอยถอยรับหลักทรัพย์พื้นฐานดีที่แนะนำซื้อ หุ้นกลุ่มการแพทย์เข้าไฮซีซัน- BCH,BDMS,CHG,RJH,RPH หุ้น Defensive-ADVANC,CHG ปันผลสูง-KKP,TISCO,LH เติบโต-ฟื้นตัว- MTC,DELTA,TASCO กลุ่มพาณิชย์เด่นจากการคลายล็อกดาวน์ เพิ่มระยะเวลาปิดห้างฯ- CPALL,HMPROราคาเนื้อสัตว์ดี- CPF ขนส่ง- หุ้นกลับมาฟื้นตัวเร็ว BEM,BTS หุ้นกลุ่ม REITs & IFFs ปันผลสูง ดอกเบี้ยในตลาดต่ำ- DIFF,AIMIRT,HREIT ระวังการขายเมื่อมีข่าวดีจริงไปแล้ว หุ้นโรงแรม สนามบิน และสายการบิน ติดตามหุ้นพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบกลับมาเพิ่มในระยะนี้ ด้านหุ้นกลุ่มธนาคารวานนี้ราคาหุ้นปรับลงมามากจากการประกาศ ธปท.ที่สั่งการไม่ควรจ่ายปันผลระหว่างกาลและซื้อหุ้นคืน สำหรับหุ้นที่ไม่มีการจ่ายปันผลระหว่างกาลอยู่แล้ว ได้รับผลกระทบน้อยคือKTB,TISCO,TMB ส่วนที่มีจ่ายระหว่างกาลคือ BBL,KBANK,SCB,KKP ดังนั้นวันนี้หากมีการฟื้นตัว กลุ่มแรกจะน่าสนใจมากกว่า Top Pick คือ TISCO ส่วนธปท.มีมาตรการเยียวยาลดดอกเบี้ย 2-4% ในกลุ่มบัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล เช่าซื้อและจำนำทะเบียนรถยนต์ถึงธ.ค.63 วานนี้ราคาหุ้นปรับลงสะท้อนไประดับหนึ่งแล้ว คงคำแนะนำ ซื้อ AEONTS,MTC และถือ SAWAD ด้านธนาคารมีสินเชื่อประเภทนี้ในสัดส่วนที่น้อย จึงกระทบไม่มาก สัปดาห์นี้ติดตาม ประชุม กนง. ตัวเลขส่งออก และTravel Bubble แนวรับคือ 1320-1300 จุด และ แนวต้าน 1360-1380 จุด ส่วนตัดขาดทุนต่ำกว่า 1340 จุด

# Stock Pick Today :

ADVANC รายได้ต่อเครื่องต่อเดือนของโทรศัพท์เคลื่อนที่มีแนวโน้มดีขึ้น หลังจากโปรฯแรงหมดลงในกลางพ.ค.ถึงต้นมิ.ย.63 ทำให้คาดการณ์ว่าARPU จะดีขึ้นตั้งแต่เดือนมิ.ย.63 และใน 3Q63 ด้านธุรกิจ FBB จำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นในเดือนเม.ย.63 ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการ WFH ที่มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้เห็นว่าADVANC เป็นหุ้นดีในกลุ่ม Defensive และธุรกิจกำลังฟื้นตัวหลังการผ่อนคลาย Lockdown แนะนำ ซื้อ ราคาพื้นฐาน 211 บาท (DCF)

การวิเคราะห์ทางเทคนิค: สั้น...ภาพเป็นลบ แต่แกว่งมีรีบาวด์สั้นๆก่อนได้ ยังให้น้ำหนักกับการลงในระยะกลาง ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick & Indicators เป็นลบ{“ปิดลบ(ค่อนข้างแรง)ใต้“SMA10วัน” (โดยยังคงถูกกดดันจากโครงสร้างขาลง ระยะกลาง”)} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯวันนี้แกว่งลงเป็นหลัก แต่เพราะลงแรง/เร็ว (มี“Oversold ในกราฟรายนาที”) จะช่วยให้มีรีบาวด์ฯสั้นๆตามมาได้ แนวต้าน (กรณีฝืนขึ้นก่อน”) 1360 (หรือ 13701380 จุด {แนวตัดขาดทุน ต่ำกว่า 1340” (แนวรับย่อย 1340 /13201300”) จุด}

Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com

Inside Story

Key Drivers TODAY : ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ

Flash Note : BCH (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 17.00)

TQM (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 120.00)

Stock in Focus : INTUCH (คำแนะนำเชิงกลยุทธ์ ซื้อ-ราคาเป้าหมาย 64.20 บาท)

In The News : ธปท.ให้ธนาคารพาณิชย์ทำแผนบริหารเงินกองทุนส่งปลายก.ค.63

ข่าวเด่นวันนี้

Key Drivers TODAY

ปัจจัยต่างประเทศ

+ ปักกิ่ง ประเทศจีน: ผู้เชี่ยวชาญเชื่อยอดผู้ป่วยโควิด-19 ในปักกิ่งดิ่งลงหนักสัปดาห์นี้ เหตุควบคุมได้ดี

# อู่ เหา ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมโรคจากคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน ได้แสดงความเชื่อมั่นว่า ยอดผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) รายใหม่ในกรุงปักกิ่งจะดิ่งลงอย่างหนักสัปดาห์นี้ เนื่องจากทางการจีนควบคุมต้นตอการแพร่ระบาดได้เป็นอย่างดี และไม่น่าจะเผชิญกับมาตรการล็อกดาวน์ขนานใหญ่เหมือนกับที่เคยประกาศไว้กับเมืองอู่ฮั่น

+ สหรัฐ: มีมุมมองเป็นบวกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็วเป็น V-Shape แม้มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม

# ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนมีมุมมองเป็นบวกว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว หรืออาจดีดตัวขึ้นในลักษณะ V-Shape แม้ว่ายอดติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในหลายรัฐของสหรัฐจะเพิ่มขึ้นก็ตาม ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญหลายรายซึ่งรวมถึงสตีฟ ชวาร์ซแมน ผู้บริหารของแบล็คสโตน กรุ๊ป คาดการณ์ว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐจะอยู่ในลักษณะ V-Shape ในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้านี้ แม้ว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจในอัตราเดียวกับในปี 2562 นั้น อาจต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งก็ตาม

+ แอปเปิลเปิดตัวระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่บน iPhone และ Apple Watch

# แอปเปิลเปิดตัวระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่บน iPhone และ Apple Watch ในงาน Worldwide Developers Conferenceเมื่อวานนี้ ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยหนุนราคาหุ้นแอปเปิลดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ หลังจากราคาหุ้นร่วงลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากข่าวการปิดแอปเปิล สโตร์หลายแห่งเป็นการชั่วคราวในรัฐฟลอริดา, แอริโซนา, เซาท์แคโรไลนา และนอร์ทแคโรไลนา ซึ่งเป็นรัฐที่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่พุ่งขึ้นในช่วงหลายวันที่ผ่านมา

+ สหรัฐ: คาดหวังสภาคองเกรสจะอนุมัติแผนการใช้จ่ายโครงสร้างพื้นฐาน 1 ล้านล้านดอลลาร์

# นักลงทุนคาดหวังว่าสภาคองเกรสสหรัฐจะอนุมัติแผนการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงินเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์โดยแผนการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวจากผลกระทบของโควิด-19

# ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก เปิดเผยว่า ดัชนี Chicago Fed National Activity Index (CFNAI) ดีดตัวขึ้นสู่ระดับ +2.61 ในเดือนพ.ค. จากระดับ -17.89 ในเดือนเม.ย. ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจเริ่มกลับมาขยายตัว

# ขณะที่สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองลดลง 9.7% สู่ระดับ3.91 ล้านยูนิตในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงเดือนที่สามติดต่อกัน อันเป็นผลจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

+ ตลาดหุ้นสหรัฐ: ดาวโจนส์ปิดบวก 153.50 จุด รับแรงซื้อหุ้นเทคโนฯ,คาดศก.ฟื้นตัว

# ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 มิ.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี รวมทั้งมุมมองบวกที่ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จะเพิ่มขึ้นก็ตาม นอกจากนี้ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนคาดหวังว่า สภาคองเกรสสหรัฐจะอนุมัติแผนการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงินเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์

+ น้ำมัน: WTI ปิดบวก 90 เซนต์ รับความหวังศก.-ดีมานด์ฟื้นตัว

# สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 มิ.ย.) ขานรับการคาดการณ์ที่ว่า ภาวะเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐและทั่วโลกจะฟื้นตัวขึ้น หลังรัฐบาลประกาศผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เพื่อเปิดเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนหลังจากนักวิเคราะห์ของ BofA Global Research ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบ WTI และน้ำมันดิบเบรนท์

  • ทองคำ: ปิดบวก $13.40 วิตกยอดติดเชื้อโควิดพุ่งหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

# สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐและทั่วโลกพุ่งขึ้น นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาและการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำ

  • ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่จะทยอยประกาศสัปดาห์นี้

# ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนมิ.ย.จากมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนมิ.ย.จากมาร์กิต, ยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ค., ดัชนีภาคการผลิตเดือนมิ.ย.จากเฟดริชมอนด์, ดัชนีราคาบ้านเดือนเม.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2563, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ค., ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนพ.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์

+/- ติดตามการทยอยประกาศเหตุการณ์หรือตัวเลขสำคัญในสัปดาห์นี้ กนง.-ตัวเลขส่งออก-Travel Bubble

# ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) 24 มิ.ย.นี้ ซึ่งฝ่ายวิจัยฯ DBS คาดว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำต่อไป ที่ 0.5% เพื่อพยุงภาวะเศรษฐกิจไทย รวมทั้งตัวเลขส่งออกเดือนพ.ค. ของไทย การพิจารณาโครงการ Travel Bubble ว่าจะมีการนำเข้าครม.สัปดาห์นี้หรือไม่ และการผ่อนปรนกิจการ/กิจกรรมเฟสต่อไปในระยะที่ 5

  • รองนายกรัฐมนตรี คาดประเมินสถานการณ์ต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่ 25-26 มิ.ย.นี้

# นาย วิษณุ รองนายกรัฐมนตรี คาดประเมินสถานการณ์ต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่ 25-26 มิ.ย.นี้ หากไม่ต่อ ถือว่าปลดล็อคทั้งหมด และต้องใช้ พรบ.โรคติดต่อมาใช้แทนซึ่งจำกัดกว่า คือ ปิดเฉพาะจุด และเมื่อหายแล้วต้องเปิด ไม่เด็ดขาดเท่าพ.ร.ก.ฉุกเฉิน (Aspen)

+/ศบค.แบ่งแนวทางปฏิบัติกับผู้เดินทางจากต่างประเทศเป็น 2 ประเภท

# ศบค.เห็นว่านักเดินทางจากต่างประเทศ เช่น นักธุรกิจ นักลงทุน นักท่องเที่ยวเข้ามาด้านสุขภาพ หากเข้ามาแล้วยินยอมทำ State Quarantine 14 วันให้เข้ามาได้เลย แต่หากจำเป็นมาอยู่ได้เพียง 2-3 วัน เช่น Travel Bubble นั้นจะต้องถูกจำกัดอยู่ในพื้นที่เฉพาะ และปรากฎว่ายังไม่ได้อนุมัติ ต้องพิจารณาและประเมินสถานการณ์อีกครั้ง

+ กพอ. เตรียมเสนอศบค.พิจารณา Business Bubble ในพื้นที่อีอีซี หนุนลงทุนต่อเนื่อง

# สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) จะเสนอแนวทางผ่อนปรนการเดินทางระหว่างประเทศแบบ Business Bubble เป็นลำดับแรกในพื้นที่เฉพาะเจาะจง อาทิ พื้นที่อีอีซี ให้ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ต่อไป เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยและต่างประเทศมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง

+ STGT: เคาะราคาขายสุดท้ายหุ้น IPO ที่ 34 บาทต่อหุ้น เหตุสถาบันจองล้น

# หุ้นศรีตรังโกลฟส์ (STGT) เคาะราคาขายสุดท้ายหุ้น IPO ที่ 34 บาทต่อหุ้น เหตุสถาบันจองล้น เปิดขาย 23 - 25 มิ.ย.นี้ -เทรด 2 ก.ค.63 STGT จะนำเงินจากการเสนอขายหุ้น IPO ไปใช้ขยายกำลังการผลิตและปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตติดตั้งระบบ SAP ชำระเงินกู้สถาบันการเงินและเป็นเงินหมุนเวียนในกิจการ พร้อมวางแผนขยายกำลังการผลิตติดตั้งอย่างต่อเนื่องในระยะยาวเป็นประมาณ 100,000 ล้านชิ้นต่อปีภายในปี 2575 จาก ณ 31 มีนาคมที่ผ่านมาอยู่ที่ประมาณ32,619 ล้านชิ้นต่อปี (Aspen)

# ผลกระทบ: คาดว่าจะเป็นหุ้นใหม่ที่จะได้รับความนิยมสูงในช่วง 2H63 เพราะเป็นบริษัทลูกของ STA และมีแนวโน้มธุรกิจสดใส ที่ผ่านมาเก็งกำไร STA ที่จะได้ประโยชน์จาก Unlock Value ของ STGT ด้วย แต่เราไม่ได้ทำการวิเคราะห์ (NotRated) ส่วนการตั้งราคา IPO ของ STGT มีการใช้ Trailing P/E ที่ประมาณ 54 เท่า เทียบกับหลักทรัพย์ที่ทำธุรกิจคล้ายคลึงกันซื้อขายที่ P/E ราว 67 เท่า ตาม Bloomberge

-BCPG: ประธานกรรมการ บีซีพีจี ขายหุ้น BCPGทั้งหมด 775,000 หุ้น ราคา16.13 บาท/หุ้น

# สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า วันที่ 22 มิถุนายน 2563 นายพิชัยชุณหวชิร ประธานกรรมการ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) BCPG ได้ขายหุ้น BCPG ทั้งหมด 775,000 หุ้น ราคา 16.13บาท/หุ้น

# ผลกระทบ: เป็นจิตวิทยาทางลบ จำนวนหุ้นที่ขายเป็นสัดส่วนน้อยเพียง 0.04% จากจำนวนหุ้นทั้งหมดที่ 1,999 ล้านหุ้นและขายไปในราคาใกล้เคียงกับราคาในตลาดฯที่ซื้อชายวานนี้

นักวิเคราะห์&กลยุทธ์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]

******************************************

 

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!