- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 22 June 2020 12:42
- Hits: 2946
บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 22-6-2020
Market Wrap-Up
- • SET ปิดวันที่ 19 มิ.ย.63 ปิด -2.16 จุด อยู่ที่ 1,370.82 จุด มูลค่าการซื้อขาย 63,320 ล้านบาท ต่างชาติขาย 4,036 ล้านบาท สถาบันซื้อ 1,006 ล้านบาท พอร์ตโบรกซื้อ 229 ล้านบาท ยอด NVDR มียอดขายสุทธิอยู่ที่ 800 ล้านบาท โดยมียอดซื้อหุ้น SCB, TISCO, CPALL, CPN, GULF และมียอดขายหุ้น BAM, ADVANC, KTC, PTTEP, TOP มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 411 ล้านบาท หุ้นที่มีมูลค่า Short สูงคือ CPF, BBL, WHA โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 9,418 สัญญาและมียอด Long สะสมตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 74,869 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตร 2,131 ล้านบาท
- • ตลาดหุ้นสหรัฐ Down Jones -0.80%, S&P500 -0.56% และ Nasdaq +0.03% หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคและกลุ่มท่องเที่ยวปรับลดลงจากความกังวลการระบาดไวรัส ส่งผลให้ร้าน Apple Store ในรัฐฟลอริดา แอริโซนา และนอร์ท – เซาท์แคโรไลนาต้องปิดร้าน ขณะที่เจอโรม พาวเวล เผยเศรษฐกิจอาจฟี้นตัวช้าจากผลกระทบไวรัสระบาด ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 ปิด +0.56% ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานและบริการสุขภาพ โดยการประชุม คณะกรรมการ EC วันศุกร์ที่ผ่านมาเตรียมใช้งบ 1.85 ล้านล้านยูโร ในการฟื้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะหารือการจัดสรรเงินให้กับประเทศสมาชิกในการหารือ ก.ค.นี้
Market View
- • ภาวะการลงทุนตลาดหุ้นสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมา Down Jones ปิด +1 %, Nasdaq ปิด +3.7% ได้แรงหนุนจากเฟดเริ่มเข้าซื้อหุ้นกู้เอกชนในตลาดรองวงเงิน 7.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับธุรกิจ SME ไม่ให้ประสบปัญหาการเงินจนต้องปิดกิจการ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดปัญหาคนตกงานตามมา ขณะที่รายงานผู้ติดเชื้อไวรัสในสหรัฐอยู่ที่ 2.29 ล้านราย, บราซิลติดเชื้อ 1 ล้านราย ส่งผลลบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน โดย Fund Flow ทัวโลกจากรายงาน EPFR สัปดาห์ที่ผ่านมามีเม็ดเงินไหลออกจากกองทุนหุ้น 6.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ไหลเข้ากองทุนพันธบัตร 15.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเข้ากองทุนทองคำ 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สัปดาห์นี้วันพุธ IMF จะรายงานภาวะเศรษฐกิจโลกล่าสุดจากผลกระทบไวรัส Covid-19 สำหรับดัชนีหุ้นไทยวันศุกร์ที่ผ่านมาปิด -0.16% ต่างชาติขายสุทธิ 4 พันล้านบาท และมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 9.4 พันสัญญา ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการปรับลดน้ำหนักของ FTSE EM ถูกปรับลดน้ำหนักจาก 3.05% เหลือ 2.98% ขณะที่ ธปท.ได้ขอความร่วมมือจากธนาคารให้งดจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีและมาตรการซื้อหุ้นคืน เนื่องจากต้องการให้รักษาเงินกองทุนไว้รับรองความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในอนาคต แม้ว่า ณ สิ้น 1Q63 ธนาคารพาณิชย์จะมี BIS Ratio ที่ 18.7%, NPL Coverage Ratio ที่ 143.3%, NPL Ratio ที่ 3.05% แต่สินเชื่อที่ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ (SICR ) เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 7.70% จากปัจจัยดังกล่าวคาดหุ้นกลุ่มธนาคารมีโอกาสปรับลดลงก่อนรายงานกำไรงวด 2Q63 สัปดาห์นี้วันพุธติดตามการประชุม กนง. และรายงานส่งออกไทย พ.ค. 63 คาดที่ -6.35% เทียบกับ เม.ย.+2.12%
Daily Strategy
- • ดัชนี SET แกว่งผันผวนกดดันจากหุ้นธนาคาร วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,360 จุด ยืนได้ถือพอร์ตต่อ โดยมีแนวต้าน 1,380 จุด วางกลยุทธ์ลงซื้อขึ้นขายเลือกเล่นรายตัวในหุ้นขนาดกลาง-เล็ก BAM, JMT, CHAYO, OSP, CBG, SAPPE
- • ADVANC (ทยอยซื้อสะสม / ราคาเป้าหมาย 220.00 บาท) ผลการดำเนินงานกำลังจะผ่านจุดต่ำสุดในช่วงไตรมาส 2 และเริ่มจะกลุ่มมาฟื้นตัวในช่วงครึ่งไปหลังทั้งในส่วนของรายได้บริการและรายได้จากการขาย Handset สำหรับราคาหุ้นหากวันนี้ตลาดมีจังหวะการปรับฐานลงก็จะเป็นโอกาสให้เราได้ทยอยสะสมหุ้น ADVANC ในต้นทุนที่ต่ำกว่าราคาเฉลี่ยในช่วงต้นเดือนด้วย โดยเรายังมองพื้นฐานของ ADVANC ยังแข็งแกร่ง โดย Key Operation stat อย่าง ARPU และยอด Subscriber ในช่วง 2H20 มีโอกาสที่จะกลับมาขยายตัวโดดเด่น สำหรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2563-2564 เราประเมินไว้ที่ระดับ 2.7 หมื่น ลบ. และ 3.2 หมื่น ลบ. สำหรับปี 2563 ชะลอตัวลง -12%YoY แต่กลับมาขยายตัวโดด +17.5%YoY ในปี 2564 ตามลำดับ
- • JMART* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 10.00 บาท) แนวโน้มผลประกอบการ 2Q63 กำไรปกติไม่น่าจะอ่อนตัวมากนักเนื่องจากการลดต้นทุนธุรกิจในช่วงที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ขณะที่กำไรสุทธิมีแนวโน้มเติบโตได้ดีกว่าคาดทั้ง QoQ, YoY จากผลบวกการรับรู้กำไรพิเศษจาการตีมูลค่า J Fintech ราว 150-200 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากการลดสัดส่วนการลงทุนจาก 95.6% เป็น 47.7% ให้ผู้ถือหุ้นกลุ่มใหม่ KB จากเกาหลีใต้ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญทางด้าน Consumer Finance โดยหลังเข้ามาจะมี Synergy ช่วยให้ต้นทุนทางการเงินของ JMART ลดลง นอกจากนี้ในช่วงที่เหลือของปีจะมี Key Driver ผลักดันการเติบโตจาก JMT และ SINGER ทั้งโอกาสซื้อหนี้เสียในระบบมากขึ้น และการขยายพอร์ต HP, C4C อย่างต่อเนื่อง
Daily Key Factors
Oil Update (+) WTI Futures ก.ค.ปิด +0.91 $/bbl อยู่ที่ 39.75 $/bbl Brent Futures ส.ค. ปิด +0.68 $/bbl อยู่ที่ 42.19 $/bbl การประชุมคณะกรรมการควบคุมการลดการผลิตโอเปกเผยสมาชิกได้ลดกำลังการผลิตที่ระดับ 87% ของข้อตกลงลด 9.7 ล.บาร์เรล/วัน และจำเป็นที่ต้องลดให้ได้ระดับ 100 % ขณะที่เบเกอร์ ฮิวส์ รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 10 แท่น อยู่ที่ 189 แท่นขุด
Gold Update (+) Gold Futures ส.ค.ปิด +21.90 ดอลลาร์ อยู่ที่ 1,753 ดอลลาร์/ออนซ์ นักลงทุนกลับเข้าซื้อทองคำจากความกังวลการระบาดไวรัสและเศรษฐกิจชะลอตัว โดย Goldman Sachs คาดในอีก 11 เดือนข้างหน้0าราคาทองคำมีโอกาสปรับขึ้นไปที่ระดับ 2,000 ดอลลาร์/ออนซ์
Fund Flow (-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP สัปดาห์ที่ผ่านมา ขายสุทธิ -748.32 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -449.49 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโด -197.34 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -101.49 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้แข็งค่าเล็กน้อยอยู่ที่ 30.99 บาทดอลลาร์สหรัฐ
(+) ดัชนี BDI ปิด +28 อยู่ที่ 1,555 จุด
(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี อยู่ที่ 0.695%, 2 ปี อยู่ที่ 0.190%
(+) ค่าเงินหยวน off-shore แข็งค่าเล็กน้อยอยู่ที่ 7.0749/USD
Economic Calendar
ในประเทศ
18 มิ.ย. สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม,ยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์
24 มิ.ย. กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า
ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 4/2563
กระทรวงการคลัง-ธนาคารกรุงไทย เปิดจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ "วอลเล็ต สบม."
สัปดาห์ที่5 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.)แถลงดัชนีอุตสาหกรรม
30 มิ.ย. ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
ต่างประเทศ
22 มิ.ย. CN อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดีของธนาคาร PBoC
US ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) ( พ.ค.)
23 มิ.ย. US ยอดขายบ้านใหม่ ( พ.ค.)
24 มิ.ย. US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
25 มิ.ย. CN จีน - เทศกาลแข่งเรือมังกร
US ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน (เดือนต่อเดือน) ( พ.ค.)
US ดัชนีจีดีพี (ไตรมาสต่อไตรมาส) (ไตรมาส 1)
US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
Theme Strategy
(1) กลุ่ม Defensive Stock BCPG*, BGRIM*, BPP*, GPSC*, GULF*, ADVANC, INTUCH*
(2) กลุ่มที่อิงการบริโภคในประเทศ CPALL, CBG*, ICHI*, OSP*
(3) กลุ่มรับประโยชน์ ศก.ชะลอ NPL เพิ่ม สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อจำนำทะเบียน BAM*, CHAYO*, JMART*, JMT*, MTC*, SAWAD*
(4) กลุ่มส่งออกอาหารเงินบาทอ่อนค่า CPF*, GFPT*, TFG*, TU*, STA*
(5) กลุ่มรับประโยชน์จากต้นทุนน้ำมันอยู่ในระดับต่ำและการคลาย Lockdown TOP, PTTGC, IVL*, PRM*, PTG*, TASCO*
(6) กลุ่มรับประโยชน์จากปลดล็อก พ.ร.บ.งบประมาณ STEC, SEAFCO*
*หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio May 2020: ADVANC, BJC*, AOT, CPALL, CPF*, BCH*
Analysts
Apichai Raomanachai No. 002939
Nopporn Chaykaew No. 043964
Piyatat Pasommanatsakul No. 081741
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web