- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 15 June 2020 16:56
- Hits: 3922
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 15-6-2020
กลยุทธ์การลงทุน
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา SET ย่อแล้วฟื้นตัว โดยแรงกดดันช่วงแรกจากความเสี่ยงเศรษฐกิจ US หลังบางรัฐมีตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19 เร่งขึ้น แต่ตลาดมีแรงฟื้นตัวตามการรีบาวน์ของ Dow Future โดย ณ. สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,382.56 (-14.21 จุด) มูลค่าการซื้อขาย 8.6 หมื่นล้านบาท (เทียบกับวันก่อนหน้า 8.3 หมื่นล้านบาท)
โดยนักลงทุนต่างชาติ ขายหุ้นไทย 2,000 ลบ. (นักลงทุนสถาบันซื้อ 443 ลบ.) ส่วนตลาด TFEX นักลงทุนต่างชาติเปิด Short Futures ที่ 3,243 สัญญา)
CENTEL (ราคาเป้าหมาย 26.0 บาท) คาดรับผลบวกจากมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวภายในประเทศจากภาครัฐที่จะนำเสนอเข้า ครม.ในวันพรุ่งนี้ โดย CENTEL มีสัดส่วนรายได้จากโรงแรมในประเทศถึง 82% ซึ่งรายได้โรงแรมกว่าครึ่งหนึ่งอยู่ในต่างจังหวัด
จับตาการกระตุ้นท่องเที่ยว ผสานการระวัง COVID-19 ระยะสอง : ปัญหาการแพร่ระบาด COVID-19 ในระลอกที่สอง (Second wave) ยังเป็นปัจจัยที่นักลงทุนต้องติดตามอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศผู้นำทางเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น สหรัฐ, จีน และญี่ปุ่น โดยล่าสุดในบางรัฐฯของสหรัฐฯมีการรายงานตัวเลขการติดเชื้อที่สูงขึ้น (เท็กซัส , ฟลอริด้า , แคลิฟอร์เนีย, อริโซน่า) เช่นเดียวกับทางด้านจีน ที่กลับมาพบผู้ติดเชื้อในปักกิ่ง หลังจากปักกิ่งไม่มีผู้ติดเชื้อมากว่า 55 วัน รวมถึงญี่ปุ่นที่พบผู้ติดเชื้อเร่งขึ้นในกรุงโตเกียว ดังนั้นจากสถานการณ์ดังกล่าวจึงควรติดตามการแพร่ระบาดระลอกใหม่อย่างใกล้ชิด แต่อย่างไรก็ดีเราคาดว่าการระบาดรอบสองในแต่ละประเทศจะมีการตื่นตัวและควบคุมได้เร็วมากยิ่งขึ้น เพื่อไม่ให้ขยายวงกว้าง โดยอาจจะมีการปิดเมืองเพียงแค่บางส่วน รวมถึงประชาชนก็มีบทเรียนในรอบแรก ดังนั้นจึงคาดว่าสถานการณ์อาจจะไม่ได้รุนแรงเหมือนในการระบาดในรอบแรก ส่วนปัจจัยเพิ่มเติมแนะติดตามการออกมาตรการกระตุ้นภาคท่องเที่ยวไทย ซึ่งคาดจะเสนอเข้า ครม.ในวันพรุ่งนี้ คาดส่งผลบวกต่อกลุ่มท่องเที่ยว (CENTEL, ERW, MINT), สายการบิน (AAV), ค้าปลีก (CPALL), ปั้มน้ำมัน (PTG) เป็นต้น
Investment Strategy : วันนี้คาด SET ย่อสร้างฐาน ในกรอบแนวรับ 1,360 ต้าน 1,400 จุด เก็งหุ้นที่อิงนโยบายกระตุ้นจากภาครัฐ โดย ATO Picks วันนี้แนะนำ “CENTEL, ERW, WHA”
กลยุทธ์การลงทุน
มีหุ้น : เป็นจังหวะสะสมเพิ่มเหนือแนวรับ 1350 จุด โดยหากหลุด 1330 จุด ให้ลดพอร์ตในการลงทุน
ไม่มีหุ้น : เก็งกำไรระยะสั้นเหนือแนวรับ 1350 จุด รอขายทำกำไรเมื่อดัชนีดีดกลับสู่ 1400 จุด ตัดขาดทุนหากหลุด 1350 จุด
'ศาลฯสั่งถอนมติ'กสทช.' AIS ไม่ต้องจ่าย 7.2 พันล. (ข่าวหุ้น)
ความเห็น : เรามองประเด็นข้างต้นจะส่งผลบวกเพียงเล็กน้อยต่อ ADVANC เนื่องจากเงินที่ถูกฟ้องร้อง คิดเป็น upside เท่ากับ 2.43 บาท/หุ้น หรือเท่ากับ 1.3% จากราคาปัจจุบัน เชิงกลยุทธ์เรามอง 2Q-3Q63 เป็นโอกาสสะสม ADVANC ที่เริ่มผ่อนคลายลง ก่อนที่จะทยอยเปิดตัวแพคเกจ 5G สู่ตลาดในช่วงปลายปี – 2564 สนับสนุนการเติบโตของฐานลูกค้าและ ARPU ราคาเหมาะสมอิง Consensus เท่ากับ 210-218 บาทต่อหุ้น
'MCS' แบ็กล็อกพุ่ง งานเข้า 1.1 หมื่นตัน เจรจาโครงการใหญ่ (ทันหุ้น)
ความเห็น : MCS รับงานใหม่เพิ่มอีก 1.1 หมื่นล้านบาท โดยจะรับรู้รายได้ครึ่งหลังปีนี้ ซึ่งเรายังไม่รวมในประมาณการ ทำให้ปัจจุบันมี Backlog รวม แสนกว่าล้านบาท รองรับรายได้ 2 ปีเศษๆ เราคงแนะนำ ซื้อ โดยประมาณการ และ เป้าหมายของเรามีอัพไซด์จากโครงการใหม่
ยกเลิก 'เคอร์ฟิว' วันนี้ CPALL ได้ขาย 24 ชม. (ทันหุ้น)
ความเห็น : คาดจะช่วยให้ยอดขายฟื้นตัวได้ส่วนหนึ่ง รวมทั้งสินค้าอาหารพร้อมรับประทานซึ่งมีอัตรากำไรสูง ขายได้ดีขึ้น ขณะที่การผ่อนคลายล็อกดาวน์ มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว และการเปิดเทอม จะส่งผลให้ SSSG ของร้านเซเว่นฯ ฟื้นตัว แนะนำ ซื้อ CPALL เป้าหมาย 87 บาท
1.มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ชงมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ เข้า ครม. (16 มิ.ย.) เพื่อพิจารณา ได้แก่
1.1. “กำลังใจ” ตอบแทนบุคลากรที่ปฏิบัติงานแถวหน้าในการรับมือกับ COVID-19 จำนวนประมาณ 1.2 ล้านคน โดยการสนับสนุนค่าศึกษาดูงาน อบรมสัมนา และท่องเที่ยวในประเทศ จำนวน 2,000 บาท เป็นการซื้อแพ็คเกจผ่านบริษัทนำเที่ยวที่รัฐบาลออกให้ 100%
1.2. “เราไปเที่ยวกัน” ช่วยเหลือโรงแรมและที่พักที่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยต้องเสนอขายราคาห้องพักลด 50% รัฐบาลจะช่วยจ่าย 40% ของค่าห้องพักตามราคาจริง พักได้ไม่เกิน 5 วันต่อคน หรือไม่เกิน 3,000 บาทต่อคน
1.3. “เที่ยวปันสุข” สนับสนุนเงินสำหรับค่าตั๋วเครื่องบินสายการบินต้นทุนต่ำคนละไม่เกิน 1,000 บาท และค่าใช้จ่าย รถทัวร์ และรถเช่า อีกไม่เกินคนละ 1,000 บาท รวม 2,000 บาท (รัฐบาลสนับสนุน 40%)
กลุ่มที่ได้ประโยชน์
โรงแรม: ยืนยันการผ่านพ้นจุดต่ำสุดใน 2Q20 และค่อยๆฟื้นตัวใน 3Q20 และอาจทำให้เกิด Positive Upside ในแง่ประมาณการณ์ของตลาด เนื่องจากการกระตุ้นจะก่อให้เกิด Demand เข้ามาช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค. ซึ่งโดยปกติจะเป็นช่วง Low Season ของธุรกิจ จากฐานที่ต่ำในปีก่อนอาจทำแนวโน้มผลประกอบการ / RevPar เทียบกับปีก่อนหน้าดีกว่าที่คาด กลุ่มที่ประโยชน์มากที่สุดคือบริษัทที่มีสัดส่วนรายได้จากโรงแรมในประเทศไทย (AWC 100%, ERW 95%, CENTEL 82%, MINT 14%) และในต่างจังหวัด (MINT 65%, CENTEL 48%, AWC 24%, ERW 30%) สูง
o CENTEL เด่นสุดจากสัดส่วนรายได้โรงแรมในประเทศ 82% จากรายได้โรงแรมทั้งหมด (และเป็นรายได้จากโรงแรมต่างจังหวัด 48%)
ที่มา: MKET Research
Analyst
Theerasate Prompong
+66 2658 6300 ext 1400
การบริโภคของนักท่องเที่ยว: หุ้นเด่นใน Theme ท่องเที่ยว+อาหาร:
o CPALL สาขาครอบคลุมทั่วประเทศ สะดวกต่อการเข้าถึงของนักท่องเที่ยว บวกกับได้อานิสงค์จากการยกเลิกเคอร์ฟิวกลับมาเปิดทำการได้ 24 ช.ม.
o MINT นอกเหนือจากรายได้หลักที่มาจากธุรกิจโรงแรม ยังมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจอาหารคิดเป็นประมาณ 20% ของรายได้ทั้งหมดในปี 2019
การเดินทางภายในประเทศ:
o AAV สายการบินที่มีส่วนแบ่งตลาดเที่ยวบินต้นทุนต่ำในประเทศมากที่สุด ประมาณ 45% ของทั้งหมด
o PTG มีสถานีบริการน้ำมันเกือบ 2,000 แห่ง ทั่วประเทศ ครอบคลุมเส้นทางเดินทางระหว่างจังหวัด/แหล่งท่องเที่ยว บวกกับรายได้เพิ่มเติมจากธุรกิจ Non-oil ของผู้ใช้บริการ
2.Travel Bubble
เมื่อวันศกุรที่ผ่านมา (12 มิ.ย.) ศบค. ชุดใหญ่มีมติอนุมัติในหลักการการเปิดประเทศการท่องเที่ยวอย่างจำกัด (Travel Bubble) เน้นกลุ่มเป้าหมายนักธุรกิจ และผู้ต้องการรับบริการทางการแพทย์ (Medical Tourism) กลุ่มเป้าหมายหลักคือนักท่องเที่ยวจาก จีน ไต้หวัน ฮ่องกง ญี่ปุ่น ASEAN และตะวันออกกลาง
Comment: การปลดล็อคการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ ที่มุ่งเน้น Medical Tourism และเน้นฐานนักท่องเที่ยวประเทศในภูมิภาคเอเชีย ถือเป็นการตัดสินใจได้รวดเร็วและตรงจุด เนื่องจากประเทศต่างๆในลิสต์รายชื่อที่รัฐบาลจะพิจารณา รวมกันแล้วสร้างรายได้หลักเข้าไทยรวมทั้งสิ้นถึงกว่า 40% ของรายได้การท่องเที่ยวทั้งหมดในปี 2019 ยิ่งไปกว่านั้นการชิงเปิดประเทศเร็วกว่าประเทศคู่แข่งสำคัญอื่นๆ อาทิเช่น อินเดีย สิงคโปร์ ที่การระบาดของ COVID-19 ในประเทศยังทำได้ไม่ดี จะกระตุ้น Demand ที่อัดอั้นมา กว่า 3 เดือน และเป็นการแบ่งส่วนแบ่งตลาดจากประเทศคู่แข่งให้เบนเข็มเข้าสู่ประเทศไทยมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งไทยมีศักยภาพทางการแพทย์และมีแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
กลุ่มที่ได้ประโยชน์
หุ้นเด่นใน Theme Medical Tourism
o BDMS มีโรงพยาบาลในเครือกระจายอยู่ตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญทั่วประเทศ มีจุดเด่นด้านคุณภาพการรักษาและบริการทางการแพทย์ เน้นกลุ่มลูกค้าระดับ Medium-High End ทั้งไทยและต่างชาติ และมีการบริการด้านการแพทย์เฉพาะทางที่หลากหลายที่มาพร้อมกับศักยภาพแข่งขันทั้งด้านคุณภาพและราคาได้ในระดับนานาชาติ
o SPA การนวดบำบัด อีกจุดเด่นของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของไทย มีโอกาสการเติบโตสูงทั้งจากจำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้น/ยอดผู้รับบริการสาขาเดิม และอัตราค่าบริการที่ยังมีช่องทางการเติบโตจากบริการที่เน้น premium และกลุ่มลูกค้า high end
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web