- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 09 June 2020 10:50
- Hits: 799
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน 9-6-2020
ตลาดหุ้นวานนี้ :
SET Index ปรับตัวขึ้นทดสอบระดับ 1,455 จุดในช่วงเปิดตลาดจากบรรยากาศการลงทุนที่เป็นบวก ก่อนที่จะทยอยแกว่งตัวลงมาและปิดบวกแคบลงเหลือ 2.96 จุด ณ สิ้นวัน กลุ่มที่ปรับตัวได้แข็งแกร่งคือกลุ่มพลังงานจากราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้น อย่างไรก็ตามสถาบันในประเทศและนักลงทุนต่างชาติพลิกมาขายสุทธิในตลาดหุ้น 2.5 พันลบ.และ 788 ลบ. ตามลำดับ (ต่างชาติ Short Index Futures อีก 7.2 พันสัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET Index จะแกว่งตัว Sideways ในกรอบ 1,425-1,450 จุดโดยกลุ่มพลังงานคาดว่าจะชะลอความร้อนแรงจากราคาน้ำมันดิบร่วงลงหลังซาอุดิอาระเบียจะไม่ขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตแบบสมัครใจในเดือน ก.ค. นี้ ส่วนการประชุม FED สัปดาห์นี้คาดว่ายังคงนโยบายการเงิน แต่ต้องติดตามมุมมองทางเศรษฐกิจและ Dot Plot ระยะสั้นแม้ดัชนีอาจยังได้อานิสงส์จากกระแสเงินทุนที่ไหลเข้า แต่จาก Valuation ของ SET Index ที่เริ่มตึงตัวโดยในแง่พื้นฐานบริเวณ 1,450 จุด+- เทียบเท่า 2021PER ราว 17 เท่าทำให้ Upside ไม่มาก เราจึงแนะนำเพียงเก็งกำไรหุ้นขนาดใหญ่ที่ยัง Laggard และทยอยทำกำไรหากดัชนีปรับตัวขึ้นแรงเหนือ 1,450 จุด
กลยุทธ์ : เก็งกำไรระยะสั้นโดยเน้นหุ้นขนาดใหญ่ที่ยัง Laggard//ทยอยทำกำไรเมื่อดัชนีปรับตัวขึ้นเหนือ 1,450++
หุ้นเด่นเดือน มิ.ย. : ADVANC, BDMS, CPF, STEC, TVO
หุ้นเด่นวันนี้: PLANB
- แนะนำซื้อเก็งกำไรถึง 7 บาทจากการ Reopen
- เม็ดเงินโฆษณาหลังจาก Reopen ยังไม่ได้ขยับมากนักแต่สื่อโฆษณานอกบ้านทั้งป้ายบิลบอร์ด จอดิจิตอล และสื่อโฆษณาบนรถขนส่งสาธารณะ ยังเป็นทางเลือกแรกๆที่เจ้าของสินค้าเลือกเพราะแย่งชิงพื้นที่ eye ball จากสื่ออื่น ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเป้าหมายย่อยได้ดี และสร้าง impact และ interactive ได้มากกว่าสื่ออื่น
- บริษัทขอเลื่อนส่งงบ 1Q20 เป็น 30 มิ.ย. เราคาดกำไร -55% Q-Q, -35% Y-Y เหลือ 100 ลบ. แนวโน้มแย่ต่อใน 2Q20 ซึ่งเป็น high season ทำให้ทั้งปี -37% แต่คาดปีหน้าฟื้น +90% เป็น 889 ลบ. สูงกว่ากำไรปี 2019
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนยังคงไหลเข้าภูมิภาคอีก US$309ล้าน แต่กระจุกตัวอยู่ที่ไต้หวันและเกาหลีใต้ US$305ล้านและ US$20ล้าน ขณะที่ตลาด TIPS มีเม็ดเงินไหลออกนำโดยไทย US$25ล้าน เราคาดว่ากระแสเงินทุนคาดว่ายังไหลเข้าภูมิภาคจากความคาดหวังเชิงบวกต่อการ Reopen Economy แต่คาดปริมาณเบาบางลงจากสัปดาห์ก่อนและกระจุกตัวอยู่ที่เอเชียตะวันออก
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) ติดตามการประชุม Fed 9-10 มิ.ย. เราคาด Fed จะตรึงดอกเบี้ยที่ 0-0.25% จนถึงสิ้นปีนี้ (ไม่จำเป็นต้องทำนโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ) และคงนโยบาย Unlimited QE ตามเดิม และรอบนี้จะเปิดเผย Dot plot นักลงทุนจะเห็นมุมมองของ Fed ต่อศก.
(+) รัฐเล็งออกมาตรการกระตุ้นการบริโภค-ท่องเที่ยว 3Q20 นายสมคิด รองนายกฯสั่งช่วยเหลือภาคธุรกิจและประชาชนที่ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือเพราะผลกระทบจาก COVID-19 จะมีมากขึ้นใน 3-4 เดือนข้างหน้า ให้ก.คลังออกมาตรการกระตุ้นการบริโภคและท่องเที่ยว ให้ธปท.ปรับเงื่อนไขกองทุน BSF ที่ช่วยเฉพาะ Investment grade ให้ช่วยธุรกิจที่มีศักยภาพด้วย เราคิดว่ารัฐบาลควรใช้จังหวะนี้ชูประเทศไทยเป็น Medical Tourist Destination อย่างจริงจัง แทนที่จะให้เอกชนต่างคนต่างทำ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการแพทย์ และอุสาหกรรมต่อเนื่องอื่นๆ หุ้นกลุ่มการแพทย์เป็นกลุ่มหนึ่งที่ laggard และเริ่มเห็น traffic ดีขึ้นหลัง Reopen แนะนำ BDMS, BCH, CHG กลุ่มสายการบินและโรงแรมจะใช้เวลานานกว่ามากในการฟื้น แนะเพียงเก็งกำไรตามข่าว ราคาปัจจุบันไม่ใช่จุดเข้าไปลงทุน
(+) OSP เริ่มถูกกว่า CBG แนวโน้มกำไร 2Q20 จะลดลง Q-Q ตามฤดูกาลและถูกกระทบจาก COVID-19 ทำให้ภาพรวม 1H20 ไม่สดใส แต่จะกลับมาโตใน 2H20 หลังกำลังการผลิตใหม่ C-Vitt เข้ามาต้น 3Q20 ล่าสุดออกสินค้าใหม่ C-Vitt Jelly เป็นการขยาย Portfolio ภายใต้แบรนด์ที่ประสบความสำเร็จอยู่แล้ว ยังคงคาดกำไรปี 2020-21 +21% และ +13% คงเป้าเดิม 46 บาท ราคาหุ้นปรับลงมาจน PE เริ่มน่าสนใจ 30 เท่าและ 27 เท่าในปี 2020-21 เริ่มถูกกว่า CBG ที่ PE ปีนี้ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 32 เท่า แนะนำทยอยซื้อ
(0) SET50/100 Rebalance รอบ 2H20 เราคาด SET50 มีหุ้นเข้าคือ TTW หุ้นออกคือ DELTA ส่วน SET100 หุ้นเข้าได้แก่ ACE, BFIT, DOHOME, RBF หุ้นออกได้แก่ DELTA, MBK, PSL, THG ตลาดฯจะประกาศรายชื่อสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนนี้
(+) ตลาดดาวโจนส์ ปรับขึ้น 461.46 จุด ปิดที่ 27,572.44 จุด จากความคาดหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หลังจากทั้ง 50 รัฐในสหรัฐผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ขณะที่นักลงทุนติดตามการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 9-10 มิ.ย.
(-) ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ จากการปรับลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และกลุ่มสุขภาพหลังปรับขึ้นมามากในช่วงที่ผ่านมา
(0) ตลาดเอเชียปรับผสม ท่ามกลางความคาดหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แต่ถูกกดดันจากการปรับลงของราคาน้ำมัน
(+) ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 31.37 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 1.36 ดอลลาร์ หรือ 3.4% ปิดที่ 38.19 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเจ้าชายอับดูลาซิส บิน ซัลมาน รัฐมนตรีพลังงานซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า ซาอุดีอาระเบียจะเพิ่มการผลิตน้ำมันในเดือนก.ค. เพื่อให้สอดคล้องกับโควตาการผลิตน้ำมันของประเทศ ขณะที่นักลงทุนติดตาม EIA รายงานสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ของสหรัฐวันพรุ่งนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย
(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 22.1 ดอลลาร์ หรือ 1.31% ปิดที่ 1,705.1 ดอลลาร์/ออนซ์ จากความคาดหวังเกี่ยวกับรัฐบาลและธนาคารกลางทั่วโลกจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงการอ่อนค่าของดอลลาร์
SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 1125.48 / -2.63
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
9-10 มิ.ย. - สหรัฐ: FOMC ประชุม
15 มิ.ย. - จีน: Industrial Production, Retail sales (พ.ค.)
16 มิ.ย. - ญี่ปุ่น: BOJ ประชุม
- สหรัฐ: Industrial Production, Retail sales (พ.ค.)
17 มิ.ย. - ไทย: ยอดขายรถ (พ.ค.)
18 มิ.ย. - อินโดนีเซีย: ธนาคารกลางประชุม
22 มิ.ย. - ไทย: ยอดขายรถ (พ.ค.)
- สหรัฐ: ยอดขายบ้านเก่า (พ.ค.)
Contact person : Jitra Amornthum Register : 014530
Contact person : Veeravat Virochpoka Register : 047077
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research
ที่มา: บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ประจำวันที่ 9 มิ.ย. 2563
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web