- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 09 June 2020 10:33
- Hits: 653
บล.เคจีไอ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 9-6-2020
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
เข้าสู่ช่วงไซด์เวย์
KGI ประเมิน SET Index วันอังคารไซด์เวย์/บวกในกรอบแคบๆ... หลังจากเมื่อวานนี้ ดัชนีฯ ผันผวนมากขึ้นอย่างชัดเจน (ตามคาด) มีแรงขายสวนเข้ามาตามระดับความสูงของดัชนีฯ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนสถาบันภายในประเทศพลิกมาเป็นขายสุทธิ... สำหรับในวันนี้ แม้ว่าภาพใหญ่ของตลาดหุ้นเอเชียและตลาดหุ้นไทยยังมีแรงหนุนจากการแรลลี่ต่อของตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อคืนนี้ (ล่าสุดดัชนี S&P500 กลับมาบวกแล้วหากนับจากต้นปี 2563) แต่ฝ่ายวิจัยฯ มองว่าแรงผลักขึ้นในกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีจะเริ่มชะลอ หลังราคาน้ำมันดิบ WTi ปรับฐานเมื่อวานตามข่าวว่าซาอุฯ เตรียมกลับมาผลิตน้ำมันตามโควต้าในเดือน ก.ค. นี้ (ในขณะนี้ซาอุฯ ผลิตน้ำมันดิบต่ำกว่าโควต้าของตนเอง) รวมทั้งความเห็นของโกลด์แมน แซคส์ ที่คาดว่าตลาดน้ำมันดิบน่าจะปรับลงในช่วงสั้นหลังราคาวิ่งขึ้นร้อนแรงเกินไป ทั้งนี้นักลงทุนส่วนหนึ่งรอดูผลการประชุม ธ.กลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่จะประกาศในคืนวันพุธที่ 10 มิ.ย. ตามเวลาประเทศไทย โดย consensus คาดว่าเฟดจะมีการออกมาตรการช่วยเหลือธุรกิจ SME ในสหรัฐฯ...
ด้านปัจจัยภายในประเทศนั้น ที่ประชุม ครม. วันนี้จะมีการพิจารณามาตรการช่วยเหลือภาคการท่องเที่ยวภายในประเทศ น่าจะเป็นจิตวิทยาเชิงบวกแต่หุ้นที่เกี่ยวข้อง แต่ผลบวกต่อตลาดโดยรวมน่าจะมีจำกัดเนื่องจากหุ้นเชื่อมโยงการท่องเที่ยวในประเทศมีมาร์เก็ตแคปค่อนข้างเล็กเทียบกับตลาดโดยรวม
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร WHA*, TOP*, STEC*
WHA* (เป้าพื้นฐาน 3.5 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 3.3 บาท / แนวต้าน 3.42 บาท หากผ่านได้ประเมินมีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไป 3.6 บาท (Stop loss 3.1 บาท) 2) ประเมินรับอานิสงส์ธีมการลงทุน i) ความคืบหน้าโครงการอีอีซี (เซ็นสัญญาสนามบินอู่ตะเภาเดือนนี้) ii) การย้ายฐานการผลิตจากจีนมาไทย iii) การเติบโตของ E-commerce เพิ่มความต้องการเช่าคลังสินค้า (จุดเด่นของ WHA*) ... มีประเด็นข่าว WHART เตรียมซื้อสินทรัพย์เข้ากองเพิ่มอีก 3.2 พันล้านบาทใน 2H63 3) มุมมองด้าน "Pair trading" ราคาหุ้น WHA* Laggard AMATA* ที่เราแนะนำมาก่อนหน้า (Price ratio AMATA* / WHA* พุ่งทะลุกรอบ Bollinger band +2 sd) ... สำหรับนักลงทุนที่ต้องการใช้กลยุทธ์ Pair trade เพื่อลดความเสี่ยงตลาดฯ แนะนำ Long WHA* / Short AMATA* พร้อมกัน
TOP* (เป้าพื้นฐาน 68 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 48 บาท / แนวต้าน 52.5 บาท หากผ่านแนวต้านนี้ไปได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 55 บาท (Stop loss 45 บาท) 2) คาดแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2Q63 Turnaround จาก i) ไม่มีผลขาดทุนสต๊อกเช่นใน 1Q63 (อิงราคาน้ำมันปัจจุบัน) ii) ค่าการกลั่นดีขึ้น QoQ ... นักลงทุนอาจพิจารณาเก็งกำไร หุ้นโรงกลั่นอื่นที่ Laggard อาทิ SPRC* (รับ 7.2 / ต้าน 7.9 - 8.45 / Stop loss 7.15 บาท)
STEC* (เป้าพื้นฐาน 21.4 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 16.3 บาท / แนวต้าน 17.0 - 17.8 บาท (Trailing stop 15.6 บาท) 2) คาดรับ Sentiment บวกจากการที่ภาครัฐฯเตรียมเซ็นสัญญาโครงการสนามบินอูตะเภา (คาดงานก่อสร้างเฟสแรก 2 หมื่นล้านบาท) และงานมอเตอร์เวย์ (5 พันล้านบาท) โดย Backlog ปัจจุบัน 7.3 หมื่นล้านบาท (ไม่รวมงานที่กำลังจะเซ็น) 3) 2H63 ผลการดำเนินงานจะดีขึ้น HoH จากการเริ่มงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าของ GULF*
หุ้นมีข่าว
(+ กลุ่มโรงแรม CENTEL*, ERW* / ห้างค้าปลีก CRC*, CENTEL*) รัฐแจกเงินเที่ยว เปิดรับต่างชาติเข้าประเทศไตรมาส 3 (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) คลังช่วยประชาชน-ธุรกิจถึงสิ้นปี "สมคิด" แย้มเปิดประเทศให้ต่างชาติเข้ามาเที่ยวไทยไตรมาส 3 ปีนี้ ภายใต้เงื่อนไขการคัดกรองอย่างดี มีระบบติดตาม พร้อมเร่งกระตุ้นการบริโภคในประเทศ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขับเคลื่อนได้ สั่งคลัง-ธปท.ปรับเกณฑ์ช่วยเหลือตราสารหนี้-หุ้นกู้เอกชนที่เครดิตต่ำกว่าน่าลงทุน "อุตตม" เตรียมมาตรการช่วยเหลือประชาชน ภาคธุรกิจต่อเนื่องถึงสิ้นปี "คลัง" จับมือ ททท.แจกบัตรกำนัลเงิน 3,000 บาท ได้รับแคชแบ็กคืน หวังกระตุ้น คนไทยเที่ยวเมืองไทย คาดเริ่มได้ ก.ค.นี้
(+ WHA*) WHART ซื้อทรัพย์สินเข้ากอง คาดทำรายได้เพิ่ม 300 ล้านบ. (ทันหุ้น) WHART อัดฉีดงบ 3.2 พันล้านบาท เตรียมซื้อทรัพย์สินคลังสินค้าเพิ่ม 1.3 แสนตารางเมตร เข้ากองทรัสต์ในช่วงครึ่งปีหลัง หวังสร้างรายได้เข้ากองเพิ่มไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาทต่อปี ชี้ E-Commerce ขยายตัว หนุนลูกค้าเช่าคลังสินค้าแน่น
(+) EPG* เตรียมปิดดีล ซื้อกิจการ 2-3 แห่ง (ข่าวหุ้น) EPG* เตรียมปิดดีลซื้อกิจการ 2-3 แห่ง ในเร็วๆ นี้ ขณะที่หั่นเป้ารายได้เหลือ 9 พันล้านบาท แต่เล็งรีวิวใหม่หากเศรษฐกิจฟื้น! อัดงบลงทุนปีนี้ 390 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายธุรกิจในไทยและต่างประเทศ โชว์ฐานะการเงินแกร่ง
(+) GPSC* เป้าลงทุน 1000 MW รับรู้ GLOW เต็มปีโตสบาย (ทันหุ้น) GPSC* มองหาการลุงทุนโรงไฟฟ้าเพิ่มทั้งในไทย และต่างประเทศ ไม่ต่ำกว่า 1000 เมกะวัตต์ โฟกัสเวียดนาม-ไต้หวัน-เมียนมา พร้อมลุยพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นอีก 1500 เมกะวัตต์ หรือคิดเป็นสัดส่วน 30% ของพอร์ตภายใน 5 ปี ประเมินผลประกอบการปีนี้จะเติบโตก้าวกระโดด จากการรู้รับ GLOW, โครงการไซยะบุรี และโครงการโรงไฟฟ้าน้ำลิก เต็มปี
(+) คนร. อนุมัติแผนฟื้นฟูกิจการของ ขสมก. ซึ่งอยู่ระหว่างรอการพิจารณาอนุมัติจาก ครม. ในลำดับต่อไป โดย รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า แผนฟื้นฟูล่าสุด ขสมก.จะมีการว่าจ้างบริษัทเอกชนในการให้บริการ (บางกอกโพสต์) เราเชื่อว่า แผนฟื้นฟูกิจการของ ขสมก. จะมีส่วนของการปรับเปลี่ยนเส้นทางและป้ายรถเมล์ที่เหมาะสมในเชิงพาณิชย์มากกว่าปัจจุบัน ซึ่งอาจทำให้การเชื่อมโยงของป้ายรถเมล์และสถานีรถไฟฟ้าเกิดขึ้นในอนาคต เรามองเรื่องดังกล่าวทางบวกต่อโอกาสการได้ผู้โดยสารสารของ BTS* ที่มากขึ้นในอนาคต ทั้งนี้ เรายังคงแนะนำซื้อ BTS โดยให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 13.50 บาท
หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า
หุ้นที่แนะนำ "Let profit run" โดยกำหนดจุดล็อกกำไร Trailing stop: INTUCH* (Trailing stop 55.5 บาท), TMB (Trailing stop 1.15 บาท), MTC* (Trailing stop 55 บาท), BPP* (Trailing stop 17.5 บาท), CPF* (Trailing stop 31 บาท), TFG (Trailing stop 4.30 บาท), BAFS (Trailing stop 25 บาท), RS* (Trailing stop 12.3 บาท)
HANA* (เป้าพื้นฐาน 36 บาท) แนวรับ 30 บาท / แนวต้าน 32.0 บาท หากผ่านได้แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop 29 บาท)
EA* (เป้า Consensus 59.5 บาท) แนวรับ 42 บาท / แนวต้าน 44 บาท หากผ่านได้แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop 41 บาท)
JMART (เป้าพื้นฐาน 9.8 บาท) แนวรับ 9.5 บาท / แนวต้าน 10.0 บาท หากผ่านได้แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop 9.1 บาท)
CENTEL* (เป้าพื้นฐาน 26 บาท) แนวรับ 24.3 บาท / แนวต้าน 26.0 บาท หากผ่านได้แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop 24.0 บาท)
AMATA* (เป้าพื้นฐาน 18.5 บาท) แนวรับ 16.2 บาท / แนวต้าน 17 บาท หากผ่านได้แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop 15.2 บาท)
BCPG* (เป้าพื้นฐาน 22 บาท) แนวรับ 17.2 บาท / แนวต้าน 17.6 - 18.0 บาท (Trailing stop 16.5 บาท)
GGC (เป้า Consensus 9.93 บาท) แนวรับ 9.2 บาท / แนวต้าน 9.7 - 10.0 บาท (Trailing stop 9.15 บาท)
EGCO* (เป้าพื้นฐาน 370 บาท) แนวรับ 273 บาท / แนวต้าน 287 - 310 บาท (Stop loss 266 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
กลุ่มอาหาร น้ำหนักลงทุน "มากกว่าตลาดฯ" แม้ราคาอาหารในภาพรวมจะชะลอตัวลงใน 2Q63 (ผลจากมาตรการล๊อคดาวน์) แต่คาดว่าแนวโน้มจะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นใน 2H63 นอกจากนี้การส่งออกเนื้อไก่ของไทยจะได้อานิสงส์จากอุปทานที่ขาดหายไปของประเทศบราซิล (เป็นประเทศผู้ส่งออกเนื้อไก่รายใหญ่ของโลก) เนื่องจากปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 คงคำแนะนำ "ซื้อ" CPF* และ GFPT* โดยปรับไปใช้เป้าหมายกลางปี 2564 ที่ 38 บาท และ 14.5 บาทตามลำดับ ขณะที่ปรับคำแนะนำ TFG ลงเหลือเพียง "ถือ" เป้าพื้นฐาน 4.5 บาท (เป้ากลางปี 2564)
กลุ่มนิคมฯ น้ำหนักลงทุน "เท่ากับตลาดฯ" ฝ่ายวิจัยฯมีมุมมองบวกต่อกลุ่มนิคมฯจากธีม i) การย้ายฐานการผลิตจากจีน ii) การเติบโตของธุรกิจ E-commerce แม้ผลการดำเนินงานจะชะลอตัวลงระยะสั้นใน 1H63 (ผลจากการแพร่ระบาดของไวรัสฯ) แต่ภาพระยะยาวสดใส ฝ่ายวิจัยฯ จึงปรับ Re-rate PE ของธุรกิจนิคมฯขึ้นเป็น 18 เท่า (+0.5 S.D.) จากเดิม 12 เท่า (-0.5 S.D.) และปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปีหน้าทั้ง AMATA* (แนะนำ "ซื้อ" เป้า 18.5 บาท) และ WHA* (แนะนำ "ถือ" เป้าพื้นฐาน 3.5 บาท)
Strategic SET daily
June 9, 2020 Market strategy Thailand
1 อดิศักดิ์ คำมูล
2 66.2658.8888 ต่อ 8843
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- นัยต้าน 1439 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1439 จุดได้นั้น อาจทรงราคาขึ้นในกรอบ 1439-1456 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงหรือปิดต่ำกว่านัยต้าน 1439 จุดนั้น อาจทรงราคาลงในกรอบ 1439-1393 จุด
แนวรับวันนี้: 1428/1398 แนวต้านวันนี้: 1439/1454
Agricultural Price
ราคาไก่ฟื้นตัวขึ้นจากการผ่อนคลายมาตรการ lockdown
Event
อัพเดตราคาสินค้าเกษตรประจำสัปดาห์
Impact
ปศุสัตว์: ราคาหมูยังแข็งแกร่ง ในขณะที่ราคาไก่เริ่มฟื้นตัวขึ้น
ราคาหมูในประเทศยังแข็งแกร่ง โดยทรงตัว WoW อยู่ที่ 71.50 บาท/กก. เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สะท้อนถึงอุปสงค์ที่แข็งแกร่งของหมูจากการผ่อนคลายมาตรการ lockdown ทั้งนี้ เนื่องจากประเทศไทยยังคงเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ที่ไม่เกิดการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ดังนั้น เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูในประเทศไทยจึงอยู่ในสถานะที่ดีที่จะได้อานิสงส์จากราคาหมูที่ยังคงสูงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในจังหวัดที่อยู่ติดกับประเทศที่ประสบปัญหาอย่างเช่น เวียดนาม ในขณะเดียวกันราคาไก่ในประเทศก็ฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง 8.1% WoW เป็น 33.5 บาท/กก. หลังจากที่มีการผ่อนคลายมาตรการ lockdown เราคาดว่าราคาสินค้าปศุสัตว์จะเร่งตัวขึ้นในช่วงที่เหลือของ 2Q63 จากการผ่อนคลายมาตรการ lockdown เพิ่มเติมในระยะต่อไป
อาหารสัตว์: ราคาข้าวโพดและกากถั่วเหลืองขยับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
ราคาข้าวโพดเพิ่มขึ้น 1.7% WoW เป็น US$3.31/bushel เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ในขณะที่ราคากากถั่วเหลืองเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 2.1% WoW เป็น US$289/metric ton เนื่องจากอุปสงค์เนื้อสัตว์ในตลาดโลกเพิ่มขึ้น ตามการผ่อนคลายมาตรการ lockdown ของเมืองใหญ่ทั่วโลก
การระบาดของโรค ASF ยังคงหนุนราคาหมูในเวียดนาม
ราคาหมูเฉลี่ย ytd ในเวียดนามเพิ่มขึ้นอย่างมาก YoY โดยในเดือนเมษายน 2563 เพียงเดือนเดียวเพิ่มขึ้นถึง 68.2% YoY จากการรายงานของ Vietnam Times ซึ่งเป็นสำนักข่าวระดับแนวหน้าของเวียดนาม ราคาหมูที่ยังมีชีวิตสูงถึง VND100,000/กก. ในเดือนพฤษภาคม 2563 สูงกว่าราคาแนะนำนของรัฐบาลเวียดนามที่ VND70,000/กก. เนื่องจากอุปทานหมุขาดแคลน เพราะเกิดการระบาดของโรค ASF ทั้งนี้ แม้ว่าราคาหมูขุนในเวียดนามจะพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก แต่เกษตรกรท้องถิ่นก็ไม่สามารถเพิ่มอุปทานได้มากนักเนื่องจากต้นทุนพ่อแม่พันธุ์ที่สูงขึ้นมาก เราเชื่อว่าราคาหมูที่สูงต่อเนื่องในเวียดนามจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการแปรรูปอาหารในเวียดนามอย่างเช่น Charoen Pokphand Foods PCL (CPF.BK/CPF TB)* และ Thaifoods Group PCL (TFG.BK TFG TB) ซึ่งมีฟาร์มหมูในเวียดนาม
******************************************
Click Donate Support Web
