- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 02 June 2020 12:51
- Hits: 4125
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 2-6-2020
วานนี้ SET ปรับตัวขึ้น ความคาดหวังเชิงบวกต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่กลับมาเปิดหลัง ปลด Lockdown เฟส3 แต่อย่างไรก็ดีระหว่างวันมีลดช่วงบวกบ้างจากความกังวลต่อประเด็นสงครามการค้า ณ. สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,352.37 (+9.52 จุด) มูลค่าการซื้อขาย 6.5 หมื่นล้านบาท (เทียบกับวันก่อนหน้า 9.6 หมื่นล้านบาท)
โดยนักลงทุนต่างชาติ ซื้อหุ้นไทย 1,394 ลบ. (นักลงทุนสถาบันซื้อ 1,398 ลบ.) ส่วนตลาด TFEX นักลงทุนต่างชาติเปิด Short Futures ที่ 2,353 สัญญา)
ปัจจัยในประเทศ :
ติดตามตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19
1 มิ.ย. PMI การผลิตไทย (พ.ค.)
5 มิ.ย. CPI ของไทย (พ.ค.)
แนวรับ : 1343/1323
แนวต้าน : 1360/1400
SET Index :ติดแนวต้าน 1360 จุด มีโอกาสชะลอ
• SET Index ปิดที่ระดับ 1352.37 จุด
(+9.52 จุด)
• ดัชนียังไม่สามารถข้ามผ่านแนวต้านสำคัญบริเวณ 1360 จุด
• รอบสั้นอาจได้เห็นการชะลอตัวปิด Gap ที่ 1343 จุด
• แต่อย่างไรก็ดี ทิศทางโดยรวมยังให้น้ำหนักเป็นเชิงบวก
กลยุทธ์การลงทุน
มีหุ้น : ทยอยทำกำไรหลังเข้าใกล้บริเวณแนวต้าน 1360 จุด รอสะสมเพิ่มอีกครั้งที่บริเวณ 1300 จุด
ไม่มีหุ้น : รอดัชนีอ่อนตัวลงมาใกล้แนวรับ 1300 จุด ค่อยหาจังหวะเข้าสะสมใหม่อีกครั้ง
GPSC (ราคาเป้าหมาย consensus 80 บาท) กลุ่มโรงไฟฟ้าได้อานิสงส์บวกจากค่าเงินบาทแข็งค่า ผสานต้นทุนราคา gas ที่ปรับลดลงแรงคาดจะช่วยชดเชยรายได้ขายไฟในนิคมฯ ที่หายไปบางส่วน ผสานกับส่วนแบ่งรายได้จากโครงการไซยะบุรีที่คาดจะดีขึ้นในช่วง 2Q63-3Q63
สงครามการค้าสหรัฐ-จีนที่เร่งขึ้น กระทบค่าเงินโลกผันผวน : ประเด็นปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน กลับมาถูกกล่าวถึงมากยิ่งขึ้น หลังจากที่จีนออกกฎหมายเข้าควบคุมสถานการณ์ในฮ่องกง ซึ่งทางด้านสหรัฐฯใช้ประเด็นนี้กล่าวตอบโต้จีนว่ากำลังพยายามเข้าแทรกแซงฮ่องกง จุดนี้อาจเป็นชนวนที่นำไปสู่การเกิดความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และจีนอีกครั้ง ดังนั้นจึงต้องจับตาอย่างใกล้ชิดว่าการขัดแย้งในรอบนี้จะบานปลายไปถึงการกลับมาของสงครามการค้าอีกครั้งหรือไม่ ซึ่งหากกลับมาพิจารณาข้อตกลงการค้าเฟส 1 พบว่าเนื้อหาส่วนหนึ่งระบุถึงการที่จีนจะต้องสั่งซื้อสินค้าจากสหรัฐฯ กว่า 2 แสนล้านเหรียญในช่วง 2 ปี ฃึ่งป้จจุบันการสั่งซื้อสินค้าของจีนยังห่างไกลจากเป้าหมายที่ตกลงไว้ และมีข่าวว่าล่าสุดว่าทางการจีนอาจจะระงับการนำเข้าถั่วเหลืองและเนื้อสัตว์จากสหรัฐฯ เพื่อตอบโต้ประเด็นฮ่องกง ซึ่งหากทุกอย่างเกิดขึ้นจริงก็ถือเป็นปัจจัยที่อาจต้องเพิ่มความระมัดระวัง โดยแนะการประเมินสถานการณ์โดยติดตามค่าเงินหยวนเทียบดอลล่าร์ ซึ่งหากอ่อนค่ามากๆ จะยิ่งเป็นตัวสะท้อนความรุนแรงของปัญหาสงครามการค้าที่มากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ดีจากความขัดแย้งดังกล่าวอาจส่งผลให้ในระยะสั้นค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่า โดยล่าสุดค่าเงินบาททำจุดแข็งสุดในรอบ 3 เดือน เพิ่มความคาดหวัง Fund Flow ในระยะสั้นมีโอกาสไหลเข้ามาพักตัวใน safe haven อย่างค่าเงินบาทได้
Investment Strategy :
วันนี้คาด SET แกว่งขึ้น ในกรอบแนวรับ 1,343 ต้าน 1,360 จุด เน้นหุ้นที่อาจเป็นเป้า Fund Flow ระยะสั้น โดย ATO Picks วันนี้แนะนำ “GPSC, BBL, TOP”
BAM จับมือช้อปปี้รุกตลาดออนไลน์ (แนวหน้า)
ความเห็น : เรามีมุมมองเป็นกลางต่อประเด็นดังกล่าวที่จะส่งผลอย่างจำกัดต่อผู้ซื้อให้ตัดสินใจในการซื้อทรัพย์สิน แนวโน้ม 2Q63 คาดผลประกอบการจะอ่อนตัวเทียบ QoQ ตามเงินสดเรียกเก็บ แต่เรามองเป็นโอกาสสะสม บนภาพการฟื้นตัวในครึ่งปีหลังที่ความมั่นใจของผู้ซื้อทรัพย์เริ่มกลับมา แนะนำ ซื้อ ราคาเหมาะสม 25 บาท
BEM ลุยรถไฟฟ้าหลายสี ฐานต่ำดันปีหน้าฟื้นแรง (ทันหุ้น)
ความเห็น : Buffer สำคัญของ BEM ในปีนี้คือ สัปมทานทางด่วนใหม่ที่ได้ต่อออกไป บริษัทสามารถให้บริการได้โดยไม่มีค่า amortization ราวปีละ 2000 ลบ. ทำให้แม้ว่า traffic จะเสียไปในระยะแรกจาก covid แต่ไม่สามารถทำให้บริษัทขาดทุนได้ในปีนี้ คำแนะนำ ซื้อ 13.00 บาท
JMART จับตาครึ่งปีหลังเด่น กลุ่มธุรกิจเร่งเครื่องปั๊มยอด
ความเห็น : คาด 2Q63 เป็นจุดต่ำสุดของปี จากธุรกิจมือถือที่คาดมีผลขาดทุนจากการ Lockdown เป็นตัวฉุดในระยะสั้น แต่ส่วนแบ่งกำไรจาก JMT-SINGER จะช่วยชดเชย นอกจากนี้คาดมีการบันทึกกำไรพิเศษจาก JFintech ราว 150-200 ลบ. ช่วยประคองกำไรสุทธิโดยรวม ก่อนที่ธุรกิจใหม่จะเริ่มมีพัฒนาการบวกในช่วง 2H63
PRM ชูเรือ FSU ทำเงิน กำไรนิวไฮเป้า 9.70 บ. (ทันหุ้น)
ความเห็น : เป็นไปตามประมาณการของเรา โดยทิศทางไตรมาส 2-3-4 คาดกำไรรายไตรมาสจะทำ All time high ผลมาจากการปรับราคาค่าบริการขึ้นเฉลี่ย 25% ของกลุ่มเรือ FSU ในไตรมาส 2 คงคำแนะนำ ซื้อ 9.30 บาท
VGI โชว์กำไรนิวไฮ บอร์ดเคาะปันผลเพิ่ม (กรุงเทพธุรกิจ)
ความเห็น : กำไรออกมาใกล้เคียงกับคาดการณ์ของเรา โดยต่ำกว่าเล็กน้อย 3% อย่างไรก็ดี พบว่าการจ่ายปันผลต่ำกว่าคาด ซึ่งอาจเป็นการเตรียมพร้อมรับมือกับสถารณะการณ์ covid-19 ที่เริ่มต้นในไตรมาส 1 ของ VGI นั่นเอง ราคาหุ้นอยู่ใกล้ราคาเหมาะสม (ซื้อ 8.10) แล้ว อาจรอย่อซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web