- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 01 June 2020 16:32
- Hits: 3098
บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 1-6-2020
Market Wrap-Up
• SET ปิดวันที่ 29 พ.ค.63 ปิด +5.34 จุด อยู่ที่ 1,342.85 จุด มูลค่าการซื้อขาย 96,186 ลบ.ต่างชาติซื้อ 5,504 ลบ. สถาบันขาย 760 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 492 ลบ.ยอด NVDR มียอดซื้อสุทธิอยู่ที่ 5,247 ลบ.โดยมียอดซื้อหุ้น SCC,CPALL,CPN,ADVANC,GULF และมียอดขายหุ้น AWC,GLOBAL,LPN,BEC,RATCH มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 854 ลบ หุ้นที่มีมูลค่า Short สูงคือ AWC,KTC,PTT โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 10,165 สัญญาและมียอด Long สะสมตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 115,310 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 4,991 ลบ.
• ตลาดหุ้นสหรัฐ Down Jones ปิด -0.07% , S&P500 +0.48%, Nasdaq +1.29% หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับเพิ่มขึ้น แต่กลุ่มการเงินถูกแรงขาย ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศยกเลิกสถานะพิเศษแก่ฮ่องกง หลังจีนประกาศใช้ กม.ควบคุมความมั่นคงฉบับใหม่กับฮ่องกง แต่ประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐเล็กน้อย ส่วนรายงานการใช้จ่ายส่วนบุคคลสหรัฐ เม.ย. -13.6 % ต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2502 ตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี Stoxx600 ปิด -1.44% หุ้นกลุ่มการเดินทางและสันทนาการ, ธนาคาร, ผู้ผลิตรถยนต์ปรับลดลง จากความกังวลต่อสถานการณ์ข้อขัดแย้งระหว่างสหรัฐ - จีน
Market View
• ภาวะการรลงทุนาตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ปัจจัยหนุนจากเริ่มเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง โดยนิวยอร์คจะเปิดเศรษฐกิจวันที่ 8 มิ.ย. ขณะที่ยุโรป สเปนจะเริ่มผ่อนกฏการกักนักท่องเที่ยวต่างชาติใน ก.ค. เช่นเดียวกับโปรตุเกสที่เริ่มเปิดภาคท่องเที่ยวอีกครั้ง ส่วนประเด็นข้อขัดแย้งสหรัฐ – จีน ที่ใช้กฏความมั่นคงฉบับใหม่กับฮ่องกงนั้น ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ประกาศยกเลิกสิทธิ์พิเศษทางภาษี รวมถึงวีซ่า และระงับธุรกิจกรรมทางการเงิน แต่ยังไม่กระทบข้อตกลงการค้าเฟส 1 ที่ได้ลงนามกับจีนในช่วง ก.พ. ที่ผ่านมา ส่วนการประท้วงของชาวสหรัฐในกรณีตำรวจใช้ความรุนแรงกับชาวสีผิวจนเสียชีวิต ส่งผลให้เกิดการจราจลในหลายเมือง คาดส่งผลกระทบด้านลบต่อ GDP สหรัฐใน Q2 นี้ อาจชะลอตัวต่ำกว่าระดับ 20 % และมีความเสี่ยงติดเชื้อไวรัส Covid-19 เพิ่มมากขึ้น ปัจจัยต่างประเทศสัปดาห์นี้ วันพฤหัส การประขุม ECB คาดมีการเพิ่มวงเงินซื้อสินทรัพย์อีก 5 แสน ล.ยูโร วันศุกร์ สหรัฐรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร พ.ค. คาดลดลง 8 ล.ตำแหน่งงาน สำหรับดัชนีหุ้นไทยวันศุกร์ปิด +0.40 % ปริมาณการซื้อขาย 9.6 หมื่น ลบ. ต่างชาติซื้อ 5.5 พัน ลบ. เป็นผลจากการปรับพอร์ต Rebalance ของ MSCI โดยดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบ Sideway Up รับข่าวการปลดล็อกเฟส 3 ลดช่วงเวลาเคอร์ฟิวส์ ส่งผลให้การเดินทางระหว่างจังหวัดสะดวกขึ้น และเป็นผลบวกต่อการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศในระยะต่อไป
Daily Strategy
• วาง Filter แนวรับดัชนี SET ที่ 1,320 – 1,330 จุด หากยืนได้ ดัชนีอยู่ในกรอบ Sideway Up โดยมีแนวต้าน 1,350 – 1,360 จุด แนะนำเก็งกำไรหุ้นกลุ่ม Defesive เช่น ADVANC, RATCH, TU และเก็งกำไร M, MAJOR, SPA, CENTEL ( + ปลดล็อกดาวน์เฟส 3 )
• CRC* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 38.00 บาท) แนวโน้ม 2Q63 จะได้รับผลกระทบหนักสุดจาก COVID-19 อย่างไรก็ดีแรงกดดันดังกล่าวเริ่มคลี่คลายหลังห้างสรรพสินค้ากลับมาเปิดได้ในวันที่ 17 พ.ค.ซึ่งคาดเห็นบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง โดย CRC ได้ประโยชน์จากสาขาที่ครอบคลุมทั้งในและต่างประเทศ ระยะยาวยังเติบโตไปตามการขยายของตัวของสังคมเมือง เพิ่มสัดส่วนการขายแพลตฟอร์ม Customer-Centric Omnichannel และ CRM Networking นอกจากนี้ล่าสุดยังได้บรรลุข้อตกลงการเข้าซื้อหุ้น CFM ซึ่งดำเนินธุรกิจร้านสะดวกซื้อ Family Mart ในประเทศไทยเพิ่มอีก 49% ช่วยเพิ่มโอกาสในการขยายกิจการให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ของบริษัท ปัจจุบัน Family Mart มีสาขาประมาณ 1,000 สาขา และยังมีแผนที่จะขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง
• CENTEL* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 20.17 บาท) แนะนำให้เล่นเก็งกำไรต่อสำหรับสัปดาห์นี้รับประเด็นที่ภาครัฐเตรียมออกแพ็กเกจหนุนการท่องเที่ยวอย่างการแจกคูปองส่วนลดค่าที่พักประมาณ 40-50% ซึ่งในส่วนนี้น่าจะอนุมัติและเบิกจ่ายได้ในช่วงไตรมาส 3 นอกจากนั้นการคลาย Lock Down และสามารถเดินทางข้ามจังหวัดได้ในส่วนนี้ก็จะช่วยให้การท่องเที่ยวในประเทศกลับมาคึกคัก สำหรับประมาณการผลการดำเนินงานปี 2563 ตลาดประเมินขาดทุนสุทธิ -240 ลบ. ส่วนปี 2564 พลิกกลับมีกำไรที่ 1.1 พัน ลบ.
Daily Key Factors
Oil Update (+) WTI Futures ก.ค.ปิด +1.78 ดอลลาร์ อยู่ที่ 35.49 ดอลลาร์/บาร์เรล Brent Futures ก.ค. ปิด +0.04 ดอลลาร์ อยู่ที่ 35.33 ดอลลาร์/บาร์เรล ราคาน้ำมัน WTI เดือนที่ผ่านมาปรับเพิ่มขึ้น +88.4 % รับการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกพลัสและสหรัฐ ขณะที่ประเทศต่าง ๆ เริ่มเปิดเศรษฐกิจใหม่ ซึ่งช่วยกระตุ้นอุปสงค์ ส่วนเบเกอร์ ฮิวส์ รายงานแท่นขุดน้ำมันและก๊าซสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 17 แท่น อยู่ที่ 301 แท่นขุด
Gold Update (+) Gold Futures ส.ค.ปิด +23.40 ดอลลาร์ อยู่ที่ 1,751.70 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิต, การใช้จ่ายส่วนบคุคคลและดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐมีแนวโน้มชะลอตัว ขณะที่ดัชนี Dollar Index อ่อนค่า -0.06 % อยู่ที่ 98.3271
Fund Flow (+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP สัปดาห์ที่ผ่านมา ซื้อสุทธิ +31.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นไทย +47.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโด +2.0 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -18 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ทรงตัว อยู่ที่ 31.80 บาทดอลลาร์สหรัฐ
(+) ดัชนี BDI ปิด +15.00 อยู่ที่ 504 จุด
(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี อยู่ที่ 0.64 % , 2 ปี อยู่ที่ 0.158 %
(0) ค่าเงินหยวน off-shore แข็งค่าอยู่ที่ 7.1327/USD
(-) ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศตัดข้อผูกพันกับ WHO
Economic Calendar
ในประเทศ
3 มิ.ย. วันหยุด - วันพระราชสมภพของพระราชินี
4 มิ.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทย ( พ.ค.)
5 มิ.ย. ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) (ปีต่อปี) ( พ.ค.)
ดัชนีราคาผู้บริโภคของไทย (ปีต่อปี) ( พ.ค.)
ต่างประเทศ
1 มิ.ย. CN ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนจากสถาบัน Caixin ( พ.ค.)
US ดัชนี PMI ภาคการผลิตจากสถาบันไอเอสเอ็ม (ISM) ( พ.ค.)
3 มิ.ย. US การเปลี่ยนแปลงในการจ้างงานภาคนอกภาคเกษตรกรรมจาก
(ADP) ( พ.ค.)
US ดัชนี PMI ภาคการบริการจากสถาบันไอเอสเอ็ม (ISM) ( พ.ค.)
US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
4 มิ.ย. EU อัตราดอกเบี้ยเงินฝากของสถาบันการเงินที่ฝากไว้กับธนาคาร
กลาง (มิ.ย.)
EU แถลงการณ์นโยบายการเงินของ ECB
EU การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย (มิ.ย.)
EU การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของธนาคารกลางแห่งยุโรป
US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
5 มิ.ย. US การจ้างงานนอกภาคการเกษตร ( พ.ค.)
US อัตราการว่างงาน ( พ.ค.)
Theme Strategy
(1) กลุ่ม Defensive Stock BCPG*, BGRIM*, BPP*, GPSC*, GULF*, ADVANC, INTUCH*
(2) กลุ่มที่อิงการบริโภคในประเทศ CPALL*, CBG*, ICHI*, OSP*
(3) กลุ่มรับประโยชน์ ศก.ชะลอ NPL เพิ่ม และสินเชื่อส่วนบุคคล BAM*, CHAYO*, JMT*, MTC*, SAWAD*
(4) กลุ่มส่งออกอาหารเงินบาทอ่อนค่า CPF*, GFPT*, TFG*, TU*, STA*
(5) กลุ่มรับประโยชน์จากราคาน้ำมันขาลง TOP, PTTGC, IVL, PRM*, TASCO*
(6) กลุ่มรับประโยชน์จากปลดล็อก พ.ร.บ.งบประมาณ STEC, SEAFCO*, TASCO*
*หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio May 2020: ADVANC, BJC*, BPP*, CPALL*, CPF*, STA*
Analysts
Apichai Raomanachai No. 002939
Nopporn Chaykaew No. 043964
Piyatat Pasommanatsakul No. 081741
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web