บล.เคจีไอ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 28-5-2020

Details: Category: บทวิเคราะห์; Published: Thursday, 28 May 2020 11:48; Hits: 3913

บล.เคจีไอ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 28-5-2020

ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ (รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)

แกว่งขึ้นต่อ

KGI ประเมิน SET Index วันพฤหัสฯ ยังคงปรับขึ้น (ตลาดหุ้นแพงมากแล้ว แต่ความกล้ายังมากกว่าความกลัว)... หลังจากเมื่อวานนี้ ดัชนีฯ บวกต่อแต่มีความผันผวนค่อนข้างสูงระหว่างวัน (ตามคาด)... ขณะที่ปัจจัยเศรษฐกิจโลกวันนี้ยังคงเป็นบวก กล่าวคือ i) รัฐต่างๆ ในสหรัฐฯ ยังเดินหน้าทยอยเปิดธุรกิจเพิ่มเติม เช่น ร้านอาหาร สวนสนุก ทำผม เสริมสวย ฯลฯ ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับสู่ภาวะปกติมากยิ่งขึ้น ii) ในฝั่งยุโรป คณะกรรมาธิการยุโรปเสนอแผนตั้งกองทุน 7.5 แสนล้านยูโรเข้าสู่รัฐสภายุโรปแล้ว เพื่อออกมาตรการกระตุ้นทางการคลัง โดยก่อนหน้านี้ความขัดแย้งเรื่องงบประมาณและหนี้ภาครัฐฯ ของแต่ละประเทศ ส่งผลให้มาตรการด้านการคลังของยุโรปออกมาช้ากว่าสหรัฐฯ อย่างมาก ด้านปัจจัยภายในประเทศ นักลงทุนยังเน้นเก็งกำไรหุ้นที่เชื่อมโยงการคลายล็อกเฟส 3 รวมทั้งประเด็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ...

อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิจัยฯ ยังคงประเมินเป้าหมายดัชนีฯ ปี 2563 ที่ 1,370 จุด (ซึ่งคำนวณจากกำไร บจ. ปี 2564 ไปแล้วด้วย) และมองว่าความผันผวนจะสูงขึ้นตามระดับความสูงและ valuations ที่ตึงตัว ทั้งนี้หุ้นพลังงานอาจด้อยกว่าตลาดในวันนี้ หลังราคาน้ำมัน WTi ปรับลง 5.7% ตามตัวเลขสำรองน้ำมันดิบ API ของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น 8.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ผนวกกับความเสี่ยงของอุปสงค์น้ำมันเพิ่มขึ้นเล็กน้อยตามสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และจีน ล่าสุดสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ อนุมัติกฎหมายคว่ำบาตรจีนแล้วและส่งเรื่องไปที่โดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อรอลงนามและแถลงรายละเอียด ซึ่งก่อนหน้านี้ทรัมป์ได้กล่าวว่าจะมีรายละเอียดออกมาภายในวันเสาร์นี้

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน (สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)

เก็งกำไร BAFS, AMATA*

BAFS (เป้า Consensus 31 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 23 บาท / แนวต้าน 23.9 บาท หากผ่านแนวต้านนี้ไปได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 25 บาท (Stop loss 22.2 บาท) 2) ประเมินรับ Sentiment บวก i) การผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ ทำให้สายการบินเริ่มกลับมาดำเนินธุรกิจ (ในประเทศเริ่มบินแล้ว / ระหว่างประเทศอยู่ระหว่างพิจารณาคลายล็อก) ii) มาตรการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวใน 2H63 3) PBV 2.2 เท่า ลงมาเท่ากับ -2 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต (ย้อนหลัง 7 ปี) สะท้อนปัจจัยลบใน 2Q63 พอสมควรแล้ว ขณะที่คาดว่า หากมีการคลายมาตรการล๊อคดาวน์ดีมานด์การเติมน้ำมันสายการบินจะเริ่มฟื้นตัวใน 2H63

AMATA* (เป้าพื้นฐาน 15.6 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 14.5 / แนวต้าน 15.5 - 16.6 บาท (Trailing stop 14.0 บาท) 2) คาดจะได้ sentiment บวกจากความคืบหน้าการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่จะช่วยกระตุ้นการตัดสินใจทุนของลูกค้าในนิคมฯ (ล่าสุดภาครัฐเตรียมเซ็นสัญญาโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาในเดือน มิ.ย. นี้) 3) การเจรจาลงทุนของลูกค้าต่างชาติจะเริ่มมีความคืบหน้าใน 2H63 ที่ภาครัฐเริ่มเปิดน่านฟ้าให้มีการเดินทางระหว่างประเทศได้ 4) คาดหวังการย้ายฐานการผลิตจากจีนมายังไทย และคาดภาครัฐฯเตรียมออกโปรโมชั่น ข้อเสนอดึงดูดการลงทุนเพิ่มเติมในพื้นที่นิคมฯภาคตะวันออก หลังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย ... นักลงทุนอาจพิจารณาเก็งกำไร WHA* แนวรับ 3.20 บาท / แนวต้าน 3.44 - 3.50 บาท (Trailing stop 3.10 บาท)

หุ้นมีข่าว

(+) CRC* ส่งบริษัทย่อย ซื้อหุ้นแฟมิลี่มาร์ท บริหารเต็มรูปแบบ (ทันหุ้น) CRC* เผยส่งบริษัทย่อย เข้าซื้อหุ้น จำนวน 5,757,500 หุ้น คิดเป็น 49% ใน "เซ็นทรัล แฟมิลี่มาร์ท" จาก Family Mart Co., Ltd (JFM) ผู้ร่วมลงทุนสัญชาติญี่ปุ่นที่ส่งผลให้มีอำนาจในการบริหาร แบรนด์ "Family Mart" อย่างเต็มรูปแบบ

(+ AAV*, BA, AOT*, BAFS) 'ศักดิ์สยาม' ลุ้นเปิดน่านฟ้าย้ำดูรายประเทศ (สยามรัฐ) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้พูดถึงเรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีโดยหากสถานการณ์ดีขึ้นอาจต้องมีการพิจารณาเปิดการบินในประเทศและระหว่างประเทศ ขณะเดียวกันจะต้องมีมาตรการเตรียมความพร้อมในการเปิดประเทศด้วย

(+) BGRIM* ได้นำเข้า LNG 6.5 แสนตัน-ต้นทุนลด (ทันหุ้น) BGRIM* คว้าไลเซนส์ LNG Shipper จำนวน 6.5 แสนตันต่อปี ระบุดีมานด์ใช้ไฟฟ้าเดือนพฤษภาคมกลับมา 100% จ่อขายไฟให้ลูกค้าใหม่กว่า 30 เมกะวัตต์ โชว์ฐานะการเงินแกร่งตุนเงินสด 2.1 หมื่นล้านบาท พร้อมคุม D/E ไม่เกิน 2 เท่า ตั้งงบลงทุน 5 ปี 7-7.5 หมื่นล้านบาท เดินหน้าลงทุน-ซื้อกิจการต่อเนื่อง หวังดันกำลังการผลิตโตตามเป้า 5 พันเมกะวัตต์

(+) ช่วยชีวิต BEC-WORK-RS* ขยายเวลาจ่ายค่าไลเซนส์ (ทันหุ้น) BEC-WORK-RS* เฮ! รับข่าวดี กสทช.ขยายเวลาชำระค่าไลเซนส์ให้ 2 เดือน พยุงกระแสเงินสดหมุนเวียนในองค์กร ด้านนักวิเคราะห์ชี้เป็นปัจจัยหนุนระยะสั้น ประเมิน BEC รับอานิสงส์สูงสุด ตามด้วย WORK-RS* พร้อมคาดการณ์ผลงานไตรมาส 2/2563 ของกลุ่มทีวีดิจิทัลจะเป็นจุดต่ำสุดของปี และจะค่อยๆ ฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลัง

(+ กลุ่มเช่าซื้อ, ยานยนต์, ประกันภัย / - กลุ่มที่รายได้เชื่อมโยงรถมือสอง เช่น KCAR, ASAP, ECL) คลังถกค่ายรถวันนี้ หั่นภาษีป้ายแดง 50% แบงก์เช่าซื้อ TMB*-TCAP*-KKP*-TISCO* ตีปีก (ข่าวหุ้น) สรรพสามิตนัดถกค่ายรถยนต์วันนี้ ก่อนเคาะลดภาษี 50% เยียวยากลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ด้านสมาคมรถมือสอง ค้านข้อเสนอเยียวยารถป้ายแดง หวั่นซ้ำรอยรถคันแรก ตลาดรถมือ 2 สูญพันธุ์ ด้านโบรกฯเชียร์หุ้นแบงก์เช่าซื้อรับอานิสงส์ TMB*-TCAP*-KKP*-TISCO* รวมทั้งกลุ่มยานยนต์

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

หุ้นที่แนะนำ "Let profit run" โดยกำหนดจุดล็อกกำไร Trailing stop: INTUCH* (Trailing stop 52 บาท), TMB (Trailing stop 1.01 บาท), MTC* (Trailing stop 53 บาท), TOP* (Trailing stop 45 บาท), BPP* (Trailing stop 16.5 บาท), CPF* (Trailing stop 29 บาท)

AAV* (เป้าพื้นฐาน 2.08 บาท) แนวรับ 2.04 บาท / แนวต้าน 2.20 บาท หากผ่านได้แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop 2.0 บาท)

CENTEL* (เป้าพื้นฐาน 26 บาท) แนวรับ 23.5 บาท / แนวต้าน 24.5 บาท หากผ่านได้แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop 23.0 บาท)

RS* (เป้าพื้นฐาน 13.2 บาท) แนวรับ 11.9 บาท / แนวต้าน 12.5 บาท หากผ่านได้แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop 11.4 บาท)

TFG (เป้าพื้นฐาน 4.4 บาท) แนวรับ 4.20 บาท / แนวต้าน 4.34 บาท หากผ่านได้แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop 4.12 บาท)

STEC* (เป้าพื้นฐาน 21.4 บาท) ประเมินแนวรับ 15.4 และ 15.0 บาท / แนวต้าน 16.3 บาท (Stop loss 14.5 บาท)

HANA* (เป้าพื้นฐาน 36 บาท) แนวรับ 29 บาท / แนวต้าน 32.0 บาท (Trailing stop 28 บาท)

BCPG* (เป้าพื้นฐาน 22 บาท) แนวรับ 16.7 บาท / แนวต้าน 17.5 - 18.0 บาท (Trailing stop 16.0 บาท)

EA* (เป้า Consensus 59.5 บาท) แนวรับ 39 บาท / แนวต้าน 42 - 43 บาท (Stop loss 38.0 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

กลุ่มสื่อสาร น้ำหนักลงทุน "เท่ากับตลาดฯ" วานนี้ กสทช มีมติอนุมัติให้ขยายระยะเวลาการชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาต โดยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการชำระเงิน 50% นับจากวันที่ครบกำหนดชำระไปอีก 15 วัน หรือภายในวันที่ 15 มิถุนายน 2563 ส่วนที่เหลืออีก 50% ให้ชำระภายในวันที่ 15 สิงหาคม 2563 ประเมินเป็นบวกต่อ ผู้ประกอบการมือถือ โดยประเมิน ADVANC* จะรับประโยชน์สูงสุด เพราะมีภาระการจ่ายชำระฯสูงสุด ขณะที่การแข่งขันด้านราคามีแนวโน้มลดลงเช่นกัน แต่ประเด็นนี้ถูกหักล้างด้วยผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสฯในช่วงนี้ เลือก ADVANC* และ INTUCH* เป็นหุ้นเด่น

กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม น้ำหนักลงทุน "เท่ากับตลาดฯ" ประเด็นสำคัญจากการรายงานผลการดำเนินงาน 1Q63 ที่ผ่านมา i) กลุ่มผู้ผลิตสินค้า อย่าง CBG*, OSP*, และ TKN* กำไรดี แต่ ii) หุ้นร้านอาหารอย่าง ZEN และ M ผลการดำเนินงานอ่อนแอ และน่าจะชะลอตัวลงอีกใน 2Q63 ในภาพรวมฝ่ายวิจัยปรับประมาณการฯ CBG*, TKN* ขึ้นและเลือกเป็นหุ้นเด่น