- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 28 May 2020 11:05
- Hits: 3860
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 28-5-2020
กลยุทธ์วันนี้ >> Still Focus on Laggard Play
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ยังคงแกว่งตัวขึ้นได้ต่อเนื่องแข็งแรงกว่าที่เราคาดโดยปิดบวกได้อีก 9.02 จุด ณ สิ้นวัน กลุ่มธนาคารซึ่ง Laggard กลับมาฟื้นตัวได้โดดเด่นตามคาด สถาบันในประเทศซื้อสุทธิอีกเร่งตัวขึ้นเป็น 1.7 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1.8 พันลบ. (และ Long Index Futures 1.3 พันสัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET Index จะแกว่งตัว Sideways Up ในกรอบ 1,335-1,360 จุดจากบรรยากาศการลงทุนที่ยังค่อนข้างเป็นบวกโดยตลาดยังให้น้ำหนักต่อประเด็นการ Reopen Economy และทยอยคลาย Lockdown อย่างต่อเนื่องของหลายๆประเทศหลักทั่วโลก อย่างไรก็ตามประเด็นที่ต้องระมันระวังและยังไม่ได้ Price-In ในดัชนีคือสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-จีนที่มากขึ้นหลังล่าสุดสหรัฐฯระบุว่าฮ่องกงไม่ได้มีความเป็นอิสระในการปกครองตนเองจากจีนอีกต่อไปซึ่งกระทบต่อสถานะพิเศษทางการค้ากับสหรัฐฯ ขณะที่ล่าสุดสภาผู้แทนฯสหรัฐฯได้ยื่นร่างกฎหมายคว่ำบาตรจีนในประเด็นอุยกูร์ให้ทรัมป์ลงนาม เราประเมินกรอบบนของดัชนีรอบนี้เต็มที่บริเวณ 1,400 จุดซึ่งเทียบเคียง 2021PER ที่ 16.5 เท่า ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า Upside ไม่มาก ระยะสั้นจึงเน้นเลือกลงทุนในกลุ่มที่ยัง Laggard เช่น กลุ่มการแพทย์ สื่อสารฯ ธนาคาร อสังหาฯ และรับเหมาฯ ส่วนระยะกลาง-ยาวยังรอจังหวะพักฐานก่อนเข้าสะสมอีกครั้ง
กลยุทธ์ : เก็งกำไรระยะสั้นตามการแกว่งตัวโดยเน้น Laggard Play//รอจังหวะปรับฐานของดัชนีก่อนทยอยสะสมหุ้นพื้นฐาน
หุ้นเด่นเดือน พ.ค. : BCH, CPF, INTUCH, KCE, OSP
หุ้นเด่นวันนี้: ADVANC
- แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 210 บาท
- ได้ประโยชน์จากการ Reopen การคลาย lockdown ผู้คนเริ่มเดินทางต่างประเทศ และมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวของไทย เพราะรายได้จาก International roaming และซิมนักท่องเที่ยวจะกลับมา
- กสทช.ยืดเวลาการชำระค่าใบอนุญาตให้ครึ่งหนึ่งเป็นเวลา 2 เดือน ช่วยสภาพคล่องได้ราว 1.3 พันลบ.
- กำไร 2Q20 น่าจะหดตัว Q-Q, Y-Y และทั้งปีหดตัวชั่วคราว -10% Y-Y แต่ระยะยาวได้ประโยชน์จากจากสถานการณ์ปัจจุบันที่กระตุ้นการใช้งานเทคโนโลยีใหม่ๆซึ่งจะเป็นแหล่งรายได้ใหม่ในอนาคต
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนพลิกมาไหลออกจากภูมิภาค US$477ล้าน โดยเม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากเกาหลีใต้ US$419ล้าน ส่วนไทยไหลออก US$57ล้านยังคงมากที่สุดในกลุ่ม TIPS มีเพียงไต้หวันที่เม็ดเงินไหลเข้าบางUS$27ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ายังผันผวนไหลออกสลับไหลเข้าในระยะนี้ โดยตลาดยังให้น้ำหนักเชิงบวกต่อการ Reopen Economy ขณะที่เดียวกันสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-จีนก็เพิ่มสูงขึ้น
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) กสทช.ให้ยืดจ่ายค่าไลเซนส์ปีนี้ของทีวีดิจิตอลและมือถือเป็นภายใน 15 ส.ค. นี้ สำหรับกลุ่มทีวีดิจิตอลช่วยเรื่องสภาพคล่องเล็กน้อยแต่ไม่มีผลกับงบการเงินเพราะตั้งจ่ายไว้แล้ว แนะหลีกเลี่ยงกลุ่มทีวีดิจิตอล แต่ชอบสื่อนอกบ้านคือ PLANB, VGI ส่วนกลุ่มสื่อสาร ให้ยืดชำระค่าใบอนุญาตและกองทุน USO โดย 50% แรกจ่ายภายในกลาง มิ.ย. อีก 50% จ่ายกลาง ส.ค. ช่วยสภาพคล่องเล็กน้อยเพราะเลื่อนเพียง 2 เดือน แนวโน้มผลประกอบการ 2Q20 หดตัวทั้ง Q-Q, Y-Y แต่เรายังมองเป็นบวกระยะยาวจากโอกาสการเติบโตจาก 5G เราชอบ ADVANC, INTUCH มากสุด
(0) กรมสรรพสามิตนัดผู้ประกอบการรถประชุมวันนี้ เนื่องจากนายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้วไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของ ส.อ.ท. ที่ให้ลดภาษีสรรพสามิตรถใหม่ลง 50% เพราะเป็นการซ้ำเติมตลาดรถมือสอง ระวังหุ้นกลุ่มยานยนต์และสินเชื่อเช่าซื้อที่ถูกเก็งกำไรก่อนหน้านี้ว่าจะได้ประโยชน์จากการลดภาษีสรรพสามิต เช่น SAT, STANLY, AH, TISCO, TMB, BAY และลบต่อ MTC, SAWAD อาจกลับข้างหากภาครัฐทบทวนมาตรการช่วยเหลือใหม่
(0) THANI การเพิ่มทุนให้ผู้ถือหุ้นเดิม 2 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ หุ้นละ 1 บาท (ยังไม่กำหนดวัน XR) ทำให้ Share price dilute 25% EPS dilute 20% ข้อดีคือทำให้ D/E ลดลงเหลือ 4.2-4.5 เท่าจากปัจจุบัน 5.5 เท่า แต่ ROE ก็จะลดลงจาก 22% เหลือต่ำกว่า 20% ต่ำสุดในรอบ 4 ปี แนวโน้มกำไร 2Q20 น่าจะหดตัว 10-15% Q-Q เป็น 400-420 ลบ.ตามการหดตัวของสินเชื่อเหลือราว 1 พันลบ./เดือน จาก 1Q20 ที่ 1.5 พันลบ./เดือน และตั้งสำรองสูงขึ้นตาม NPL เราปรับกำไรปีนี้ลง 9% เป็น 1.67 พันลบ. -15% Y-Y ลดเป้าเป็น 4.10 บาท (หลัง XR อยู่ที่ 3.32 บาท) ราคาหุ้นวานนี้ปรับลง 6% สะท้อนการเพิ่มทุนไปบ้างแล้ว แนะนำถือ
(0) MSCI Rebalance พรุ่งนี้ หุ้นไทยที่ได้เข้าคำนวณในดัชนี Global Standard Index มี AWC, BAM, KTC ส่วน BANPU ถูกนำออกจาก Global Standard Index ไปเข้า Small cap แทน ดัชนี MSCI Small cap ยังมีหุ้น 16 ตัวที่ถูกนำออกจากดัชนี มีผล 29 พ.ค. นี้
(+) ตลาดดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 553.16 จุด ปิดที่ 25,548.27 จุด จากความคาดหวังว่าเศรษฐกิจสหรัฐและประเทศต่างๆทั่วโลกจะฟื้นตัวขึ้นหลังจากรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ หนุนด้วยการปรับขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร, กลุ่มสายการบินและกลุ่มธุรกิจเรือสำราญ
(+) ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก หนุนจากคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) เปิดเผยรายละเอียดของกองทุนฟื้นฟู วงเงิน 7.5 แสนล้านยูโร (8.265 แสนล้านดอลลาร์) เพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจสหภาพยุโรป (EU) ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
(+) ตลาดเอเชียปรับขึ้น ตามทิศทางตลาดดาวโจนส์ และความคาดหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หลังหลายประเทศผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ขณะที่นักลงทุนยังติดตามความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งสถานการณ์ในฮ่องกง
(0) ค่าเงินบาทแกว่งในกรอบแคบ ล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 31.89 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 1.54 ดอลลาร์ หรือ 4.5% ปิดที่ 32.81 ดอลลาร์/บาร์เรล จากความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีน รวมถึงถูกกดดันจากรายงานข่าวว่า รัสเซียอาจจะไม่ปรับลดการผลิตน้ำมันตามข้อตกลงในเดือนก.ค. ขณะที่ติดตาม EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐในวันนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย ท่ามกลางนักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล
(-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 1.4 ดอลลาร์ หรือ 0.08% ปิดที่ 1,726.8 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังตลาดดาวโจนส์ปรับขึ้น
SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 1119.05 / +2.34
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
28 พ.ค. - สหรัฐ: Fed Beige Book, 1Q20 GDP
- ไต้หวัน: 1Q20 GDP
- เกาหลีใต้: ธนาคารกลางประชุม
29 พ.ค. - ไทย: ธปท.รายงานภาวะศก.เดือน เม.ย.
- MSCI Rebalance
31 พ.ค. - จีน: Manufacturing & Non-Mfg. PMI (พ.ค.)
1 มิ.ย. - ไทย: Business Sentiment Index (พ.ค.)
- จีน: Caixin PMI Manfacturing (พ.ค.)
- สหรัฐ: ISM Manufacturing (พ.ค.)
Contact person : Jitra Amornthum Register : 014530
Contact person : Veeravat Virochpoka Register : 047077
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web