- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 22 May 2020 13:23
- Hits: 3914
บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 22-5-2020
Market Wrap-Up
- • SET ปิดวันที่ 21 พ.ค.63 ปิด -1.51 จุด อยู่ที่ 1,320.69 จุด มูลค่าการซื้อขาย 70,212 ลบ.ต่างชาติขาย 3,349 ลบ. สถาบันซื้อ 1,049 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 123 ลบ.ยอด NVDR มียอดขายสุทธิอยู่ที่ 1,318 ลบ.โดยมียอดซื้อหุ้น CRC,TRUE,STA,SAWAD,MINT และมียอดขายหุ้น GULF,BBL,KBANK,ADVANC,CPN มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 500 ลบ หุ้นที่มีมูลค่า Short สูงคือ GULF,CPN,GPSC โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 896 สัญญาและมียอด Long สะสมตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 109,627 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 231 ลบ.
- • ตลาดหุ้นสหรัฐ Down Jones -0.41 %, S&P500 -0.78 % ,Nasdaq -0.97 % หุ้นกลุ่มพลังงาน, เทคโนโลยีสหรัฐปรับลดลง หลังวุฒิสภา ฯ ผ่านร่าง กม. Holding Foreign Companies Accountable Act ซึ่งบริษัทต่างชาติอาจถูกถอดออกจากตลาดหุ้น ถ้าไม่ผ่านเกณฑ์ตรวจสอบ ขณะที่รายงานผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 2.44 ล.ราย ส่งผลให้ยอดรวมอยู่ที่ 38.6 ล.ราย ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 ปิด -0.75 % หุ้นกลุ่มธนาคาร พลังงาน เทคโนโลยีปรับลดลง จากความกังวลขัอขัดแย้งสหรัฐ – จีน ในข้อกล่าวหาจีนเป็นต้นตอของการแพร่ระบาดไวรัส ขณะที่รายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการของยูโรโซน พ.ค. ฟื้นตัวอยู่ที่ระดับ 30.5 จาก เม.ย. ที่ 13.6
Market View
- • ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลดลงจากความกังวลความเสี่ยงสงครามการค้าสหรัฐ – จีน หลังวุฒิสภาสหรัฐผ่านร่าง กม. ตรวจบริษัทต่างชาติที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐ จะต้องไม่ถูกควบคุมโดยรัฐบาลต่างชาติ และถ้าหากผู้ตรวจสอบไม่สามารถสอบบัญชีได้ภายใน 3 ปี จะถูกถอดออกจากตลาด ส่งผลให้หุ้นสัญญาณชาติจีน เช่น อาลีบาบา ไป่ตู้ เจดี.คอม ปรับลดลง โดยร่าง กม. ดังกล่าวจะต้องผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนสหรัฐอีกครั้ง สำหรับแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจของญี่ปุ่นนั้น BOJ จะใช้วงเงินกู้พิเศษ 75 ลล.เยน เพื่อช่วยภาคธุรกิจ เช่นเดียวกับจีนตั้งเป้าขาดดุลงบประมาณปีนี้ที่ 3.6 % ของ GDP เพิ่มจากปีก่อนขาดดุล 2.8 % รวมถึงการออกพันธบัตรรัฐบาลท้องถิ่นอีก 3.75 ลล.หยวน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ สำหรับดัชนีหุ้นไทยวานนี้ปิดทรงตัว -0.11 % ต่างชาติขาย 3.3 พัน ลบ. สถาบันซื้อ 1 พัน ลบ. รายย่อยซื้อ 2.1 พัน ลบ. ตลาดถูกแรงขายทำกำไรหลัง สมช. มีมติขยายเวลา พรก.ฉุกเฉินเพิ่มอีก 1 เดือน เตรียมเสนอที่ประชุม ศบค. วันนี้ และเตรียมพิจาณาการปลดล็อคเฟส 3 ภาพรวมการซื้อขายยังขาดปัจจัยบวกใหม่เข้าหนุนดัชนี ขณะที่ Valuation ของดัชนี SET ค่อนข้างสูงที่ระดับ Forward P/E 19.2 เท่า
Daily Strategy
- • วาง Filter แนวรับดัชนี SET ที่ 1,305 – 1,310 กรณียืนได้ ดัชนียังอยู่ในแนวโน้ม Sideway Up โดยมีแนวต้าน 1,330 – 1,340 แต่ต้องเพิ่มความระมัดระวังเนื่องจาก Valuation ดัชนีค่อนข้างแพง แนะนำเก็งกำไรระยะสั้น SAWAD, MTC, TISCO, KKP
- • BCPG* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 20.50 บาท) อ้างอิงจากประมาณการของ Bloomberg Consensus คาดกำไรสุทธิปี 63 ที่ 2.2 พันล้านบาท +23%YoY แรงหนุนจากโครงการ Nam San 3A และ Nam San 3B ซึ่งเป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำในประเทศลาว กำลังการผลิตตามสัญญารวม 114 MW ซึ่งตัวเลขน้ำจะเริ่มทยอยดีขึ้นในช่วง 2Q/3Q63 โดยบริษัทตั้งเป้าการเติบโตในปี 63-68 EBITDA เติบโต 75% และตั้งงบลงทุนไม่ต่ำกว่า 4.5 หมื่นล้านบาท ในการพัฒนาโครงการที่มีอยู่ในมือ และเตรียมลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาด 600 MW ประเทศลาว คาดว่าจะได้ข้อสรุปในปีนี้
- • กลุ่มสื่อสาร (น้ำหนักการลงทุน Neutral / ราคาเป้าหมาย ADVANC, DTAC, TRUE 225.00 บาท, 45.00บาท, 3.70 บาท) การฟื้นตันตัวของกำลังซื้อของลูกค้ากำลังกลับมาในช่วงที่เหลือของปี ประกอบกับการแข่งขันในธุรกิจมือถือที่เริ่มลดความร้อนแรงลด ส่งผลให้รายได้บริการของกลุ่มน่าจะยังสามารถประคองอยู่ได้ในปีนี้ นอกจากนั้นประเด็นบวกที่ตลาดยังจับตามองอยู่คือการเปิดตัวบริการ 5G ในช่วงปลายปีนี้พร้อมกับการขายอุปกรณ์มือถือ 5G จากค่ายผู้ผลิตต่างๆ ซึ่งหากเป็นไปตามแผนก็จะช่วยกระตุ้นยอดขายและเพิ่ม ARPU ของกลุ่มขึ้นได้อีก ขณะเดียวกันฐานลูกค้ารวม Subscriber ที่หายไปในช่วงไตรมาส 1 ก็จะกลับมา Active ได้ในช่วงปลายไตรมาส 2 ซึ่งก็ทำให้การรายงานตัวเลขผู้ใช้งานกลับมาเติบโตแบบก้าวกระโดดได้ อย่างไรก็ตามการลงทุน 5G ก็และการลงทุนโครงข่ายก็จะทำให้ต้นทุนการดำเนินงานเพิ่มขึ้นมา ดังนั้นผลการดำเนินงานในปีนี้ เมื่อรวมผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ในครึ่งปีแรกก็จะทำให้กำไรกลุ่มชะลอตัวลงเล็กน้อยดังนั้นเราจึงยังคงน้ำหนักการลงทุนเป็น Neutral และเลือก ADVANC เป็น TOP Pick
Daily Key Factors
Oil Update (+) WTI Futures ก.ค.ปิด +0.43 ดอลลาร์ อยู่ที่ 33.92 ดอลลาร์/บาร์เรล Brent Futures ก.ค. ปิด +0.31 ดอลลาร์ อยู่ที่ 36.06 ดอลลาร์/บาร์เรล EIA รายงานสต็อคน้ำมันสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 5 ล.บาร์เรล ขณะที่สายการบินสหรัฐ – แคนาดาเผยอัตราการยกเลิกจองตั๋วเดินทางลดลงและมีการเพิ่มขึ้นในบางเส้นทาง แต่อุปสงค์โดยรวมยังอ่อนแอ
Gold Update (-) Gold Futures มิ.ย.ปิด -30.20 ดอลลาร์ อยู่ที่ 1,721.90 ดอลลาร์/ออนซ์ ถูกแรงขายทำกำไร หลังรายงานดัชนี PMI ของทั้งสหรัฐและยุโรปเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัว ขณะที่ดัชนี Dollar Index แข็งค่า +0.24% อยู่ที่ 99.367
Fund Flow (-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ขายสุทธิ -107.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -105.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ - 2.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ทรงตัว อยู่ที่ 31.85 บาทดอลลาร์สหรัฐ
(+) ดัชนี BDI ปิด +17 จุด อยู่ที่ 494 จุด
(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี อยู่ที่ 0.67 % , 2 ปี อยู่ที่ 0.167 %
(0) ค่าเงินหยวน off-shore อ่อนค่าอยู่ที่ 7.1272/USD
(+) ดัชนี PMI รวมภาคผลิตและบริการสหรัฐ เบื้องต้น พ.ค. อยู่ที่ระดับ 36.4 จาก เม.ย. ที่ 27.0 เป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน
Economic Calendar
ในประเทศ
18 พ.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงผลการดำเนินงานระบบธนาคารพาณิชย์ไตรมาส 1/63
18 พ.ค. นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.)
18 พ.ค. ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนพลังงาน (กบน.)
20 พ.ค. ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 3/2563
20 พ.ค. สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม, ยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์
ต่างประเทศ
20 พ.ค. CN อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดีของธนาคาร PBoC
EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) (เม.ย.)
US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
21 พ.ค. US รายงานการประชุมของ FOMC
US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
US ดัชนีภาคการผลิตจากธนาคารกลางรัฐฟิลาเดลเฟีย ( พ.ค.)
US ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) (เม.ย.)
22 พ.ค. US คำกล่าวของนายพาวเวลล์ (Powell) ประธานธนาคารกลางสหรัฐ
EU ธนาคารกลางยุโรปจะตีพิมพ์รายงานการประชุมนโยบายการเงิน
Theme Strategy
(1) กลุ่ม Defensive Stock BCPG*, BGRIM*, BPP*, GPSC*, GULF*, ADVANC, INTUCH*
(2) กลุ่มที่อิงการบริโภคในประเทศ CPALL*, CBG*, ICHI*, OSP*
(3) กลุ่มรับประโยชน์ ศก.ชะลอ NPL เพิ่ม และสินเชื่อส่วนบุคคล BAM*, CHAYO*, JMT*, MTC*, SAWAD*
(4) กลุ่มส่งออกอาหารเงินบาทอ่อนค่า CPF*, GFPT*, TFG*, TU*, STA*
(5) กลุ่มรับประโยชน์จากราคาน้ำมันขาลง TOP, PTTGC, IVL, PRM*, TASCO*
(6) กลุ่มรับประโยชน์จากปลดล็อก พ.ร.บ.งบประมาณ STEC, SEAFCO*, TASCO*
*หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%
Today Fundamental Research: CHG
Monthly Portfolio May 2020: ADVANC, BJC*, BPP*, CPALL*, CPF*, STA*
Analysts
Apichai Raomanachai No. 002939
Nopporn Chaykaew No. 043964
Piyatat Pasommanatsakul No. 081741
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web