- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 22 May 2020 13:11
- Hits: 3571
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 22-5-2020
“ความตึงเครียดจีนสหรัฐ-จีนออกกม.มั่นคงกับฮ่องกง”
- • หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : --
ภาวะตลาดและปัจจัยก่อนหน้า : SET วานนี้ปรับตัวลงเล็กน้อย ขายทำกำไรบ้าง หลังขึ้นร้อนแรง ปิด -1.51 จุด ที่ 1320.69 จุด มูลค่าซื้อขายปานกลาง 70พันลบ.ตลาดแกว่งแคบคล้ายภูมิภาค ดัชนีฯอ่อนลงในช่วงบ่ายหลังจากช่วงเช้ายังปรับขึ้นได้จากปัจจัยบวกคาดว่าเฟดจะมีมาตรการใหม่เพิ่มอีก แต่ด้วย ValuationSET มี P/E ที่ 18 เท่าแล้ว และเศรษฐกิจโลกและไทยยังงสุ่มสี่ยง ซื้อสุทธิมาก-รายย่อย ขายสุทธิมาก-ต่างชาติ ต้นปีถึงปัจจุบันต่างชาติขายสูงขึ้นต่อเป็น 193 พันลบ.
# ปัจจัยและกลยุทธ์:
SET คาด Sideways แต่ออกไปในทางลบ จากปัจจัยต่างประเทศ ปัจจัยลบคือ ความตึงเครียดจีน-สหรัฐเพิ่มหลังวุฒิสภาผ่านร่างเกี่ยวกับบริษัทจีนที่จดทะเบียนในตลาดสหรัฐอาจอยู่ไม่ได้ และจีนจะออกกฎหมายความมั่นคงมาดูแลฮ่องกง อาจจุดฉนวนการประท้วงอีก ดาวโจนส์ -102 จุด ตลาดหุ้นเพื่อนบ้านเช้านี้ส่วนใหญ่ลบ ด้านไทย ธนาคารหลายแห่งทยอยลดดอกเบี้ย ทำให้ส่วนต่างกำไรลดลง และสมช.เสนอต่ออายุ พรก.ฉุกเฉินอีก 1 เดือน ส่วนปัจจัยบวกคือ ดัชนีฝ่ายจัดซื้อ ผลิต-บริการของสหรัฐและยุโรปออกมาดี และราคาน้ำมันวานนี้ยังปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง กลยุทธ์ระยะสั้น เข้าไว-ออกไว เล่นรอบ คาดดัชนีซื้อ-ขายในกรอบ 1300-1340 จุด ด้านกลยุทธ์ระยะกลาง-ยาว คือ ผลการดำเนินงาน 1Q63 ที่ประกาศออกมาไม่สดใส ทำให้มีการปรับประมาณการลงและเม.ย.จะแย่ที่สุดจากโควิด-19 จึงแนะนำทยอยถอยรับหลักทรัพย์พื้นฐานดีที่แนะนำซื้อ Defensive- ADVANC,CHG ปันผลสูง-KKP,TISCO,LHเติบโต-ฟื้นตัว- MTC,DELTA,TASCO กลุ่มพาณิชย์เด่นจากนโยบายรัฐแจก 5 พันบาท- CPALL,HMPRO ราคาเนื้อสัตว์ดี- CPF ขนส่ง- หุ้นปรับลงมากไป กลับมาฟื้นตัวเร็ว BEM,BTS สำหรับหุ้นเข้า SET50- BPP,TTW SET100-SISB, RBF หุ้นหลุด- DELTA และ THAI (ข่าวหุ้น) และอาจมีการเก็งกำไรหุ้นได้ประโยชน์จากการเปิดห้างตั้งแต่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมาเช่น CPN,CRC,COM7,HMPRO,DOHOME,GLOBAL แต่หุ้นที่ฟื้นตัวช้าจะเป็นสายการบินโรงแรม เพราะยังไม่อนุญาตให้ต่างชาติเข้ามาในไทย ล่าสุดถึง มิ.ย.63 มีแต่การบินภายในประเทศ ติดตามมาตรการคลายล็อคดาวน์ระยะที่ 3 และการจัดการเรื่องเคอร์ฟิวส์ แนวรับคือ 1250 หรือ 1230 จุด และ แนวต้าน 1330-1340 จุด ส่วนตัดขาดทุนต่ำกว่า 1300 จุด
# Stock Pick Today :
CHG พ.ค.มีสัญญาณบวกและมิ.ย.น่าจะเข้าที่ แม้รายได้เม.ย.ลดลง 20% y-o-y ได้รับผลกระทบโควิด-19 คนไข้ไม่กล้าไปโรงพยาบาลแต่พ.ค.63 จำนวนคนไข้กลับมาเพิ่มขึ้น ตามอุปสงค์ และแล้วมาถึงเดือน มิ.ย.63 ผู้บริหารเชื่อว่ารายได้จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เราจึงคาดว่าผลกำไร 3Q63 จะกลับมาแข็งแกร่ง หลัง 2Q63 อ่อนลง ทั้งนี้คาดว่าอัตรการเติบโตกำไรปีนี้และปีหน้ายังอยู่ในเกณฑ์ดีเป็น +9%/+14% เทียบ y-o-y แนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 2.80 บ.การวิเคราะห์ทางเทคนิค: สั้น...ภาพกลับเริ่มเป็นลบเล็กๆ ยังให้น้ำหนักกับการลง แต่อาจมีรีบาวด์สั้นๆได้ ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick & Indicatorsเริ่มเป็นลบเล็กๆ {“ปิดลบเล็กน้อย”เหนือ“SMA10วัน” (แต่ “ปิดต่ำ” + ติด“แนวต้านสำคัญ” และมี“โครงสร้างขาลง – ระยะกลาง”กดดัน)} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯวันนี้“แกว่ง”แบบให้น้ำหนักกับการลง แต่“ค่าบวก”(มี“SMA10”หนุน) จะช่วยให้มีรีบาวด์ฯสั้นๆก่อน(แล้วจึงลงต่ำ,ตามมา)ได้ แนวต้าน 1330 (หรือ 1340 – 1350) จุด{แนวตัดขาดทุน “ต่ำกว่า 1300” (แนวรับย่อย “1250 / 1230, 1200”) จุด}
Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com
Inside Story
Key Drivers TODAY : ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ
Company Guide : SC (ถือ -ราคาพื้นฐาน 2.08)
Flash Note : BEM (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 10.10)
FPT (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 15.50)
Stock in Focus : TWPC (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 5.00)
Key Takeaways : CHG (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 2.80)
Turnover List Watch : คาด THAI และ NEX เข้าเกณฑ์ ติดตาม META, META-W4
Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
- สหรัฐ-จีน : กังวลความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีน เรื่องบ.สัญชาตจีนอาจถูกถอนจากตลาดหุ้นนิวยอร์ค
# นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากวุฒิสภาสหรัฐมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ผ่านร่างกฎหมาย "Holding Foreign Companies Accountable Act" ซึ่งอาจทำให้บริษัทสัญชาติจีนที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐถูกถอดออกจากตลาด นอกจากนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าวยังอาจทำให้บริษัทจีนจำนวนมากไม่สามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐ หรือระดมเงินทุนจากนักลงทุนชาวอเมริกันได้ในอนาคต
-สหรัฐ: จะตอบโต้จีนอย่างรุนแรงหากจีนออกกฎหมายความมั่นคงในฮ่องกงจัดการกับกลุ่มผู้ชุมนุม
# ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขู่ว่า สหรัฐจะตอบโต้จีนอย่างรุนแรงหากจีนออกกฎหมายความมั่นคงในฮ่องกงเพื่อจัดการกับกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วง ขณะที่นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐได้ออกมาโจมตีจีนว่า เม็ดเงินมูลค่า 2พันล้านดอลลาร์ที่จีนอัดฉีดให้กับองค์การอนามัยโลก (WHO) เพื่อสนับสนุนการต่อสู้กับโควิด-19 นั้น เทียบกันไม่ได้กับหลายแสนชีวิตที่ต้องสูญเสียไปเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสดังกล่าว
- สหรัฐ: ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกและดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ ไม่สดใส
# กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 2.44 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว โดยตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.40 ล้านราย
# ทางด้าน Conference Board เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ Leading Economic Index (LEI) ร่วงลง 4.4% แตะระดับ98.8 ในเดือนเม.ย. หลังจากดิ่งลง 6.7% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นการทรุดตัวลงหนักที่สุดในรอบ 60 ปีที่มีการรายงานตัวเลขดังกล่าว
+ สหรัฐ: ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-บริการเบื้องต้น พ.ค.ปรับตัวขึ้นดี ยุโรปก็ดีขึ้น
# ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ดีดตัวสู่ระดับ 36.4 ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน จากระดับ 27.0 ในเดือนเม.ย.
# ดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นเดือนพ.ค.ของยูโรโซน ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 30.5 จากระดับ 13.6 ในเดือนเม.ย. โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่รัฐบาลในหลายประเทศของยูโรโซนได้ประกาศผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์
+ "แอสตร้าเซนเนก้า" กำลังดำเนินการผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด
# "แอสตร้าเซนเนก้า" ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์สัญชาติอังกฤษ-สวีเดน กำลังดำเนินการผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด เพื่อให้ทุกประเทศทั่วโลกสามารถเข้าถึงวัคซีนดังกล่าวได้ โดยจนถึงขณะนี้ได้ตกลงที่จะทำการผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 รวม 1,000 ล้านโดสแล้ว และจะเริ่มการส่งมอบเป็นครั้งแรกในเดือนก.ย.63
- ตลาดหุ้นสหรัฐ: ดาวโจนส์ปิดลบ 101.78 จุด วิตกสถานการณ์จีน-สหรัฐตึงเครียด
# ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (21 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีนอาจจะนำไปสู่การทำสงครามการค้ารอบใหม่ หลังจากวุฒิสภาสหรัฐผ่านร่างกฎหมายซึ่งอาจทำให้บริษัทสัญชาติจีนที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐถูกถอดออกจากตลาด นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานที่สูงกว่า 2.4 ล้านรายในสัปดาห์ที่ผ่านมา
+ น้ำมัน : WTI ปิดบวก 43 เซนต์ ขานรับสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง,โอเปกลดผลิต
# สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 6 เมื่อคืนนี้ (21 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการลดลงของสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐ รวมทั้งการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากความหวังที่ว่า อุปสงค์น้ำมันจะฟื้นตัวขึ้น หลังจากที่รัฐบาลต่างๆพากันผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์
- • ทองคำ: ปิดร่วง $30.2 เหตุเงินดอลล์แข็งกดดันตลาด
# สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 30 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (21 พ.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ทำให้สัญญาทองคำมีความน่าดึงดูดน้อยลง นอกจากนี้ ข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของภาคบริการและภาคการผลิตทั้งในสหรัฐและยุโรป ยังส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์
- ธนาคารพาณิชย์ : BAY KBANK และ SCB ทยอยปรับลดดอกเบี้ยต่อจาก BBL
# ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ปรับลดอัตราดอกเบี้ย MLR, MOR และ MRR ลง 0.25-0.35%มีผลวานนี้ ขณะที่ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ MOR-MLR-MRR ลง 0.13%-0.38% ขณะที่ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ลดดอกเบี้ยเงินกู้ MLR-MOR-MRR ในช่วง 0.125-0.35% มีผลวันนี้
# ผลกระทบ: แนวโน้ม 2Q63F กลุ่มธนาคาร - การลดดอกเบี้ยเป็นลบต่อ NIM ใน 2Q63F ส่วนการตั้งสำรองฯ (ECL) ใน2Q63F คาดว่าจะยังอยู่ในระดับสูงจากภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ด้านรายได้ค่าธรรมเนียมใกล้เคียงกับ 1Q63 แนะนำ ซื้อKBANK ราคาพื้นฐาน 108.00 บาท และแนะนำ ถือ BBL ราคาพื้นฐาน 104.00 บาท
+/- สมช.มีมติเห็นควรให้ต่ออายุการบังคับใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินไปอีก 1 เดือน
# ที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มติเห็นควรให้ต่ออายุการบังคับใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ออกไปอีก 1 เดือน จากเดิมที่จะสิ้นสุดในเดือนพ.ค.63 เนื่องจากมองว่าช่วง 1 เดือนจากนี้ จะมีการผ่อนคลายมาตรการในระยะที่ 3 และ 4 จึงจำเป็นต้องมีเครื่องมือที่ใช้ในการกำกับมาตรการให้เป็นไปอย่างมีเอกภาพ โดยเตรียมเสนอเข้าที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) วันพรุ่งนี้ (22 พ.ค.) หากได้รับความเห็นชอบ จะนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า
+ บอร์ด EEC อนุมัติร่างสัญญาร่วมลงทุนกับเอกชนคือกิจการร่วมค้า BBS ในโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา
# คณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (บอร์ด EEC) อนุมัติร่างสัญญาร่วมลงทุนกับเอกชนในโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก หลังจากคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนได้บรรลุข้อตกลงกับกลุ่มกิจการร่วมค้าบีบีเอส โดยจะเสนอเข้า ครม.เพื่อลงนามกับเอกชนในต้นเดือนมิ.ย.นี้ และเร่งก่อสร้างให้แล้วเสร็จในปี 66
# ผลกระทบ: เป็นบวกกับกลุ่มผู้ร่วมทุน BBS คือ BTS,BA และ STEC
-วายุภักษ์ทุบโต๊ะซื้อ THAI โอนหุ้นวันนี้ราคา 4 บาท จับตา KBANK-BBL-KTB สำรองหนี้ฯการบินไทย
# บอร์ดวายุภักษ์เห็นชอบซื้อหุ้น "การบินไทย" หรือ THAI จำนวน 69 ล้านหุ้น ราคาเฉลี่ยที่ 4 บาท มูลค่าประมาณ 300ล้านบาท จากคลัง นัดโอนวันนี้ (22 พ.ค.) ก่อนแจ้งตลาดฯ พร้อมยื่นแผนฟื้นฟูกิจการ THAI เข้าสู่ศาลล้มละลายทันที หลังหลุดพ้นจากรัฐวิสาหกิจ ด้าน ตลท.แจงหุ้นที่มีส่วนผู้ถือหุ้นติดลบจนถูกขึ้น SP จะดูจากงบการเงินรายปี ไม่ใช่รายไตรมาสส่วนกลุ่มแบงก์ปล่อยกู้ซื้อเครื่องบินวงเงิน 4.7 หมื่นล้านบาท โบรกฯ มอง KBANK-BBL และ KTB เสี่ยงสูงสำรองหนี้เสียพุ่ง (ข่าวหุ้น)
+ BGRIM ลุ้นนำเข้า LNG วันนี้ "กัลฟ์" ผ่านฉลุย 1.7 ล้านตัน
# "ปรียนาถ" มั่นใจ BGRIM จะได้ใบอนุญาตจัดหาและค้าส่ง LNG ประมาณ 5-6 แสนตันต่อปี จากการประชุมกกพ.ในวันนี้ หลังวานนี้ กลุ่ม GULF ผ่านฉลุยคว้า 2 ใบอนุญาตนำเข้า LNG รวม 1.7 ล้านตันต่อปี เพื่อใช้ในโรงไฟฟ้า SPP 19แห่ง จำนวน 3 แสนตัน และที่ร่วมกับ RATCH ใช้เป็นเชื้อเพลิงโรงไฟฟ้าหินกอง 1.4 ล้านตันต่อปี (ข่าวหุ้น)
-ESSO: ฟิทช์ลดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นตั๋วแลกเงิน เป็น 'F2(tha)' จาก 'F1(tha)'
# การปรับลดอันดับเครดิตสะท้อนถึงการคาดการณ์ของฟิทช์ว่า อัตราส่วนหนี้สินของ Esso จะยังคงอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง และ Esso ได้รับผลกระทบมากกว่าผู้ประกอบในธุรกิจเดียวกันในประเทศไทยจากสภาพธุรกิจการกลั่นน้ำมันที่อ่อนแอในช่วงขาลง เนื่องจากบริษัทฯ มีขนาดธุรกิจโรงกลั่นและธุรกิจปิโตรเคมีที่เล็กกว่า ซึ่งคาดว่าบริษัทฯ จะประสบกับภาวะเช่นนี้ต่อเนื่องในปี 2563 เนื่องจากอุปสงค์และค่าการกลั่นน้ำมันที่ลดลงจากผลกระทบของ โคโรนาไวรัส (Aspen)
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web