บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 18-2020

Details: Category: บทวิเคราะห์; Published: Monday, 18 May 2020 11:46; Hits: 3102

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 18-2020

Market Wrap-Up

• SET ปิดวันที่ 15 พ.ค.63 ปิด +0.36 จุด อยู่ที่ 1,280.76 จุด มูลค่าการซื้อขาย 50,659 ลบ.ต่างชาติขาย 1,249 ลบ. สถาบันขาย 2,651 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 494 ลบ.ยอด NVDR มียอดขายสุทธิอยู่ที่ 2 ลบ.โดยมียอดซื้อหุ้น STA,BAM,PTTEP,MINT,PTT และมียอดขายหุ้น GULF,ADVANC,RBF,SAWAD,SCB มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 553 ลบ หุ้นที่มีมูลค่า Short สูงคือ CRC,MINT,PTTGC โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 6,790 สัญญาและมียอด Long สะสมตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 114,711 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 1,606 ลบ.
• ตลาดหุ้นสหรัฐ Down Jones +0.25 %, S&P500 +0.39 % ,Nasdaq +0.79 % ได้แรงหนุนจากข่าวการเริ่มคลายล็อกดาวน์ในบางรัฐ ส่วนประเด็นสงครามการค้า ประธานาธิบดีทรัมป์เตรียมกีดกันการส่งออกชิปทั่วโลกให้กับหัวเว่ย จากข้อกล่าวหาจีนเป็นต้นตอการแพร่เชื้อไวรัส ขณะที่รายงานทางเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มชะลอตัว เช่น ยอดค้าปลีก, การผลิตภาคอุตสาหกรรม เม.ย. ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 ปิด +0.47 % ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ หลังจีนรายงานผลผลิตภาคอุตสาหกรรม เม.ย. +3.9 % ขยายตัวจาก มี.ค. -1.1 %

Market View

• ภาวการณ์การลงทุนตลาดหุ้นทั่วโลกสัปดาห์ที่ผ่านมาเริ่มชะลอ หลังฟื้นตัวรับปัจจัยบวกการเริ่มเปิดเศรษฐกิจในบางรัฐของอเมริกาและยุโรปหลายประเทศ โดยยังต้องรอประเมินความเสี่ยงการระบาดรอบ 2 หลังเริ่มมีรายงานผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในจีนและเกาหลีใต้ ขณะที่การฟื้นตัวของ Real Sector นั้นประธานเฟด เจอโรม พาวเวล คาดต้องใช้เวลาถึงสิ้นปีหน้ากว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะมาฟื้นตัว ส่วนสงครามการค้าสหรัฐ – จีน นั้น ล่าสุดประธานาธิบดีทรัมป์จะดำเนินการยับยั้งการส่งออกอุปกรณ์ผลิตชิปจากทั่วโลกที่ส่งไปยังจีน เพื่อกดดันในข้อกล่าวหาจีนเป็นแหล่งแพร่เชื้อไวรัส Covid – 19 ซึ่งอาจจะส่งผลลบกดดันต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้น สำหรับดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมาทรงตัวในกรอบ 1,270 – 1,300 จุด ได้แรงซื้อจากสถาบัน 5.3 พัน ลบ. รายย่อยซื้อ 8.1 พัน ลบ. รับปัจจัยบวกการเริ่มเปิดเศรษฐกิจในเฟส 2 และอยู่ระหว่างการรายงานกำไร บจ Q1/63 ชะลอตัว -18 % จากกลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี และกลุ่มอุตสาหกรรม และคาดกำไรใน Q2 นี้จะต่ำลงกว่านี้อีก ส่งผลให้ Upside ดัชนี SET เริ่มจำกัด วันนี้สภาพัฒน์จะรายงาน GDP ไทย Q1/63 คาด -3.8 % QoQ, -3.3 % YoY และวันพุธ กนง. มีโอกาสลดดอกเบี้ยลงสู่ระดับ 0.50 %

Daily Strategy

• กลยุทธ์การลงทุน วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,270 จุด แนวต้าน 1,290 – 1.300 จุด แนะนำเก็งกำไรกลุ่มโรงกลั่น TOP, SPRC, ESSO ( + คาดกำไร Q2 มีโอกาสฟื้นตัว ) กลุ่มอาหารเครื่องดิ่ม CPF, TFG, ICHI
• TFG* (ทยอยซื้อสะสม / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 4.92 บาท) นอกจากกำไรไตรมาส 1 จะออกมาดีกว่าตลาดคาดและเพิ่มขึ้นกว่า 214%YoY Outlook ในช่วงที่เหลือของปีก็ยังสดใส โดยผู้บริหารของบริษัทยังประเมินอุปสงค์ต่อการบริโภคหมูและไก่ยังเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาขายยังทรงตัวในระดับสูง ด้าน Supply ของหมูก็ยังไม่ฟื้นตัวจากการระบาดของ ASF ในปีก่อน สำหรับปีนี้บริษัทสามารถส่งออกไก่ดิบไปยังจีนได้มากขึ้นด้วย ในส่วนของงบลงทุนบริษัทตั้งไว้ที่ 2-2.5 พัน ลบ. เพื่อขยายโรงงานอาหารสัตว์, โรงชำแหละและขยายกำลังการผลิตของฟาร์มหมู ในส่วนของการประเมินกำไรสุทธิปี 2563-2564 ตลาดประเมิน ไว้ที่ระดับ 1.76 พัน ลบ. และ 1.95 พัน ลบ. ขยายตัว +22.7%YoY ในปี 2563 และ +10.8%YoY ในปี 2564
• TOP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 47.00 บาท) แนวโน้มผลประกอบการ 2Q63 พลิกกัลบมามีกำไรสุทธิเนื่องจากโอกาสขาดทุนจาก Stock Loss และอัตราแลกเปลี่ยนเป็นจำนวนมากเหมือนช่วง 1Q63 จะลดลง โดยคาดหวังราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยในเดือน มิ.ย.ขึ้นมาอยู่เหนือ 35$/bbl ส่วนผลการดำเนินงานเป็นการฟื้นตัวต่ำ ค่าการกลั่นดีขึ้นจากต้นทุนน้ำมันดิบจาก ME ที่มี discount รวมถึงธุรกิจอะโรมาติกส์มีโอกาสปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากคาดการณ์อุปสงค์ของสาร PX ปรับตัวเพิ่มขึ้นในการนำสาร PX ไปทำขวด PET ในช่วงฤดูร้อน

Daily Key Factors

Oil Update (+) WTI Futures มิ.ย.ปิด +1.87 ดอลลาร์ อยู่ที่ 29.43 ดอลลาร์/บาร์เรล Brent Futures ก.ค. ปิด +1.37 ดอลลาร์ อยู่ที่ 32.50 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังเบเกอร์ ฮิวส์ รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 35 แท่น อยู่ที่ 339 แท่น เป็นระดับต่ำสุดในรอบ 80 ปี

Gold Update (+) Gold Futures มิ.ย.ปิด +15.40 ดอลลาร์ อยู่ที่ 1,756.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ได้แรงหนุนเนื่องจากเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงเศรษฐกิจโลกอยู่ในภาวะชะลอตัว ขณะที่ดัชนี Dollar Index อ่อนค่า -0.07% อยู่ที่ 100.4103

Fund Flow (-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP สัปดาห์ที่ผ่านมาขายสุทธิ -753.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย – 411.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโด -277.8 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -64.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ทรงตัว อยู่ที่ 32.04 บาทดอลลาร์สหรัฐ

(+) ดัชนี BDI ปิด +14 จุด อยู่ที่ 407 จุด

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี อยู่ที่ 0.643 % , 2 ปี อยู่ที่ 0.145 %

(0) ค่าเงินหยวน off-shore อยู่ที่ 7.1274/USD

(+) GDP ญี่ปุ่น Q1/63 -0.90 % QoQ ดีกว่าคาดการณ์ -1.1 %

Economic Calendar

ในประเทศ

18 พ.ค. สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) แถลงตัวเลข GDP ไตรมาส 1/63

18 พ.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงผลการดำเนินงานระบบธนาคารพาณิชย์ไตรมาส 1/63

18 พ.ค. นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.)

18 พ.ค. ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนพลังงาน (กบน.)

20 พ.ค. ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 3/2563