- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 15 May 2020 20:05
- Hits: 3242
บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 15-5-2020
Market Wrap-Up
- • SET ปิดวันที่ 14 พ.ค.63 ปิด -14.15 จุด อยู่ที่ 1,280.40 จุด มูลค่าการซื้อขาย 46,654 ลบ.ต่างชาติขาย 1,947 ลบ. สถาบันขาย 955 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 259 ลบ.ยอด NVDR มียอดขายสุทธิอยู่ที่ 32 ลบ.โดยมียอดซื้อหุ้น CPALL,MACO,SCB,BJC,BANPU และมียอดขายหุ้น PTT,AOT,ADVANC,CPF,BEM มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 490 ลบ หุ้นที่มีมูลค่า Short สูงคือ AOT,GPSC,CPALL โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 925 สัญญาและมียอด Long สะสมตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 121,501 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 1,553 ลบ.
- • ตลาดหุ้นสหรัฐ Down Jones +1.62 %, S&P500 +1.15 % ,Nasdaq +0.91 % ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่ฟื้นตัวตามราคาน้ำมันดิบ ส่วนกลุ่มธนาคารมีแรงซื้อคืน หลังคลายความกังวลว่าเฟดจะใช้มาตรการดอกเบี้ยติดลบ โดยเจอโรม พาวเวล เผยไม่มีแนวคิดใช้นโยบายดังกล่าว ขณะที่รายงานผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 2.981 ล.ราย สูงกว่าคาดที่ 2.5 ล.ราย ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 ปิด -2.17 % ถูกแรงขายจากหุ้นกลุ่มธนาคารจากความกังวลต่อภาวะหนี้เสียเพิ่มขึ้น และการยกเลิกจ่ายปันผล ส่วนกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ปรับลดลง จากความกังวลข้อขัดแย้งทางการค้าสหรัฐ – จีน
Market View
- • ภาวการณ์การลงทุนตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังเจอโรม พาวเวล เผยไม่มีแนวคิดจะใช้นโยบายดอกเบี้ยติดลบ ซึ่งจะเป็นผลต่อผลประกอบการกลุ่มธนาคาร ขณะที่กลุ่มพลังงานปรับขึ้น หลัง IEA คาดสต็อคน้ำมันทั่วโลกจะลดลง 5.5 ล.บาร์เรล/วัน ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ และอุปทานน้ำมันคาดจะลดลงราว 12 ล.บาร์เรล/วัน หรือคิดเป็น 12 % ส่งผลให้ราคา WTI Futures เช้านี้ยืนที่ระดับ 27.4 ดอลลาร์/บาร์เรล รายงานทางเศรษฐกิจสหรัฐวันนี้ติดตาม ยอดค้าปลีก เม.ย., การผลิตภาคอุตสาหกรรม เม.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค พ.ค. ส่วนดัชนีหุ้นไทยวานนี้ปิด -1.09 % สถาบัน , ต่างชาติ และพอร์ตโบรกเกอร์ขายสุทธิ เป็นการลดความเสี่ยงหลัง Valuation ของดัชนีค่อนข้างแพง และยังต้องติดตามผลกระทบจากการระบาดรอบ 2 ในต่างประเทศ ขณะที่การควบคุมการระบาดในไทยอยู่ในเกณฑ์ดีมาก และวันนี้ที่ประชุม ศบค.จะพิจาณาปลดล็อกเฟส 2 จะกิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติมากขึ้น ส่วนรายงานผลประกอบการ บจ. Q1/63 ของกลุ่มอาหาร เครื่องดื่ม โรงไฟฟ้า ออกมาดีกว่าคาดการณ์ สัปดาห์หน้าวันจันทร์ สภาพัฒน์จะรายงาน GDP ไทย Q1/63 คาด -3.6 % YoY, -4.5 % QoQ
Daily Strategy
- • ประเมินดัชนี SET เคลื่อนไหวในกรอบแนวรับ 1,270 – 1,275 แนวต้าน 1,290 – 1,300 ระหว่างรอประเมินสถานการณ์หลังผ่อนคลายล็อกเฟส 2 แนะนำเก็งกำไรกลุ่มโรงกลั่น TOP, SPRC ( + กำไร Q2 มีโอกาสฟื้นตัว ) / HMPRO, CPN ( +ปลดล็อดดาวน์เฟส )
- • BPP* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 18.30 บาท) แนวโน้มผลประกอบในช่วง 2Q63 ยังดีต่อจากปัจจัยฤดูกาลที่เข้าสู่หน้าร้อน ส่งผลให้ปริมาณความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น โดยกำไรโรงไฟฟ้า CHP ในประเทศจีนได้แรงหนุนจากการเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจและต้นทุนถ่านหินลดลง ส่วนโรงไฟฟ้าถ่านหิน BLCP/Hongsa ไม่น่ากังวลเรื่องความต้องการใช้ไฟฟ้าในประเทศลดลงระหว่าง Lockdown เนื่องจากเป็น Base Load ขายไฟฟ้าใฟ้ EGAT ขณะที่ Solar Japan จะเข้าช่วงที่ความเข้มแสงเพิ่มขึ้น ส่วนใน 2H 0tมีโครงการใหม่ทยอย COD รวม 451 MWe ส่งผลให้กำลังการผลิตไฟฟ้าสิ้นปีเพิ่มขึ้นอีก +20% เป็น 2.7 GWe
- • BTSGIF* (ชะลอการลงทุน / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 8.90 บาท) วานนี้ทางกองทุนมีการรายงานการประเมินมูลค่าทรัพย์สิน โดยมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุน NRTA ณ 31 มี.ค. 63 อยู่ที่ 5.24 หมื่น ลบ. ลดลง 5.89 พัน ลบ.(สิ้นปี 62 อยู่ที่ 5.83 หมื่น ลบ.) ซึ่งจะกระทบต่อ NAV/หน่วยประมาณ 1.017 บาท โดยการปรับลงลงนี้มาจากผลกระทบของ 1) การระบาดโควิด-19 ทำให้รายได้ลดลง (Ridership มี.ค. อยู่ที่ 11.7 ล้านเที่ยว -45%YoY เม.ย. 3.5 ล้านเทียว -81.5%YoY) กระทบ Valuation 3.1 พัน ลบ. 2) กองทุนยังมีการปรับประมาณการ GDP, เงินเฟ้อ และมีการเลื่อนเปิดสถานีตากสินและส่วนต่อขยายบางหว้า-ตลิ่งชัน ทำให้ Valuation ลดลงรวม 2,500 ลบ. 3) ระยะเวลาสัมปทานสั้นลง 1 ไตรมาส (กระทบ Valuation 300 ลบ.) ส่วนการจ่ายปันผลเราคาดว่ากองจะยังคงนโยบายเดือนคือจ่ายไม่ต่ำกว่า 90% ของกำไร สำหรับวันนี้หากราคามีการปรับตัวลงมาเรายังไม่แนะนำให้เข้าไปซื้อและยังให้ชะลอการลงทุนไปก่อน
Daily Key Factors
Oil Update (+) WTI Futures มิ.ย.ปิด +2.27 ดอลลาร์ อยู่ที่ 27.56 ดอลลาร์/บาร์เรล Brent Futures ก.ค. ปิด +1.94 ดอลลาร์ อยู่ที่ 31.13 ดอลลาร์/บาร์เรล EIA เผยสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 7 แสน บาร์เรล สวนทางคาดจะเพิ่มขึ้น 4.8 ล.บาร์เรล และกำลังการผลิตสหรัฐลดลง 3 แสน บาร์เรล/วัน อยู่ที่ 11.6 ล.บาร์เรล/วัน
Gold Update (+) Gold Futures มิ.ย.ปิด +24.50 ดอลลาร์ อยู่ที่ 1,740.90 ดอลลาร์/ออนซ์ ได้แรงหนุนจากคาดการณ์การใช้มาตรการะตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ อาจก่อให้เกิดภาวะเงินเฟ้อในอนาคต ขณะที่ดัชนี Dollar Index แข็งค่า +0.23% อยู่ที่ 100.48
Fund Flow (-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ขายสุทธิ -132.3 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -60.7 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโด -64.3 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -7.3 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ทรงตัว อยู่ที่ 32.075 บาทดอลลาร์สหรัฐ
(-) ดัชนี BDI ปิด -5 จุด อยู่ที่ 393
(-) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี อยู่ที่ 0.623 % , 2 ปี อยู่ที่ 0.153 %
(0) ค่าเงินหยวน off-shore แข็งค่าเล็กน้อย อยู่ที่ 7.1165/USD
(+) ญี่ปุ่นเตรียมยกเลิกภาวะฉุกเฉินใน 39 จังหวัด จากทั้งหมด 47 จังหวัด ในช่วงสิ้นเดือนนี้
(+) กองทุน SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ +0.80 % อยู่ที่ 1,092.14 ตัน เป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี
Economic Calendar
ในประเทศ
สัปดาห์ที่ 3 ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม, ยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์
12 พ.ค. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แถลงข้อมูลสรุปภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์
14 พ.ค. กระทรวงการคลัง เปิดพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษรุ่น"เราไม่ทิ้งกัน"5 หมื่นล้านบาท อายุ 5 ปี, อายุ 10 ปี
15 พ.ค. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เริ่มโอนเงินเยียวยาให้เกษตรกรกลุ่มแรก
15 พ.ค. กระทรวงการคลัง ปิดรับเรื่องร้องทุกข์มาตรการเยียวยา 5,000 บาท
ต่างประเทศ
12 พ.ค. US ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (เม.ย.)
CN ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีน (เม.ย.)
CN ดัชนีผู้ผลิต (PPI) ของจีน (เม.ย.)
13 พ.ค. US ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) (เม.ย.)
15 พ.ค. CN ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีน (เม.ย.)
Theme Strategy
(1) กลุ่ม Defensive Stock BCPG*, BGRIM*, BPP*, GPSC*, GULF*, ADVANC, INTUCH*
(2) กลุ่มที่อิงการบริโภคในประเทศ CPALL*, CBG*, ICHI*, OSP*
(3) กลุ่มรับประโยชน์ ศก.ชะลอ NPL เพิ่ม และสินเชื่อส่วนบุคคล BAM*, CHAYO*, JMT*, MTC*, SAWAD*
(4) กลุ่มส่งออกอาหารเงินบาทอ่อนค่า CPF*, GFPT*, TFG*, TU*, STA*
(5) กลุ่มรับประโยชน์จากราคาน้ำมันขาลง TOP, PTTGC, IVL, PRM*, TASCO*
(6) กลุ่มรับประโยชน์จากปลดล็อก พ.ร.บ.งบประมาณ STEC, SEAFCO*, TASCO*
*หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%
Today Fundamental Research: CPALL, CPF
Monthly Portfolio May 2020: ADVANC, BJC*, BPP*, CPALL*, CPF*, STA*
Analysts
Apichai Raomanachai No. 002939
Nopporn Chaykaew No. 043964
Piyatat Pasommanatsakul No. 081741
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web