- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 14 May 2020 13:13
- Hits: 3317
บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 14-5-2020
Market Wrap-Up
- • SET ปิดวันที่ 13 พ.ค.63 ปิด -5.14 จุด อยู่ที่ 1,294.55 จุด มูลค่าการซื้อขาย 62,241 ลบ.ต่างชาติขาย 4,028 ลบ. สถาบันซื้อ 478 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 204 ลบ.ยอด NVDR มียอดขายสุทธิอยู่ที่ 1,421 ลบ.โดยมียอดซื้อหุ้น KTC,STA,CPALL,KBANK,MTC และมียอดขายหุ้น BBL,IVL,CPF,INTUCH,GULF มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 551 ลบ หุ้นที่มีมูลค่า Short สูงคือ BANPU,CPALL,KCE โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 3,120 สัญญาและมียอด Long สะสมตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 120,576 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 6,008 ลบ.
- • ตลาดหุ้นสหรัฐ Down Jones -2.71 %, S&P500 -1.75 % ,Nasdaq -1.55 % ปรับลดลงหลังถ้อยแถลงของเจอโรม พาวเวล ชี้เศรษฐกิจสหรัฐมีความเสี่ยงถดถอยยาวนาน และมีความไม่แน่นอน จากผลกระทบไวรัสระบาด ส่งผลให้หุ้นกลุ่มพลังงาน ธนาคารปรับลดลง ขณะที่รายงานดัชนี PPI เม.ย. -1.80 % ลดลงต่อจากมี.ค. ที่ -0.20 % เป็นสัญญาณเงินฝืด ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 ปิด -1.94 % หุ้นกลุ่มการเดินทาง ผู้ผลิตรถยนต์ ธนาคารปรับลดลง จากความกังวลต่อความเสี่ยงไวรัสระบาดรอบที่ 2 หลังคลายมาตรการล็อกดาวน์
Market View
- • ภาวการณ์การลงทุนตลาดหุ้นสหรัฐปรับลดลง หลังถ้อยแถลงของ เจอโรม พาวเวล ชี้เศรษฐกิจสหรัฐมีความเสี่ยงขาลงและมีความไม่แน่นอนสูง จากสัญญาณเศรษฐกิจถดถอยและการฟื้นตัวยังค่อนข้างช้า ส่งผลให้ผลผลิตและรายได้อยู่ในระดับต่ำ โดยเฟดพร้อมใช้มาตรการเพิ่มเติม แต่ไม่ใช่การใช้นโยบายดอกเบี้ยติดลบ และหนุนให้รัฐใช้มาตรการทางภาษีและการใช้ภาครัฐเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่ยุโรปหลายประเทศเริ่มเปิดเศรษฐกิจ ซึ่งยังต้องติดตามผลกระทบจากการระบาดรอบ 2 ว่าจะรุนแรงหรือไม่ หลังมีรายงานติดเชื้อใหม่รอบ 2 ในจีน (อู่ฮั่น ซูหลาน) เกาหลีใต้ และเยอรมัน ส่วนประเด็นสงครามการค้านั้น ล่าสุดประธานาธิบดีทรัมป์ได้ทวีต เผยข้อตกลงการค้ากับจีนนั้น ไม่คุ้มกับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสที่สหรัฐได้รับ ส่งผลให้ความเสี่ยงสงครามการค้ายังมีความไม่แน่นอนสูง สำหรับดัชนีหุ้นไทยวานนี้ปิด -0.40 % จากแรงขายต่างชาติ 4 พัน ลบ. ถูกกดดันจากความกังวลการระบาดรอบ 2 ในต่างประเทศจะกระทบต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง ขณะที่วานนี้ ศบค. รายงานไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในไทย ส่งผลให้รัฐบาลจะทดลองเปิดเศรษฐกิจเฟส 2 ในสัปดาห์หน้า ส่วนรายงานกำไร Q1/63 ของ CPF อยู่ที่ 6.1 พัน ลบ. ดีกว่าคาดการณ์ที่ 4.7 พัน ลบ. ได้แรงหนุนจากธุรกิจหมูในเวียดนาม
Daily Strategy
- • ประเมินดัชนี SET เคลื่อนไหวในกรอบแนวรับ 1,277 – 1,285 แนวต้าน 1,300 – 1,310 โดย Upside เริ่มจำกัดจาก Valuation ดัชนีที่สูง (Forward P/E 17.9 X) จึงแนะนำ Selective Buy ในกลุ่มอาหารเครื่องดิ่มได้รับผลกระทบน้อยจากไวรัสระบาด เช่น CPF, OSP
- • ICHI* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 6.70 บาท) ผู้บริหารตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ในปีนี้ที่ +7%YoY และบริษัทมีการทยอยออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีมาร์จิ้นดีในกลุ่มเครื่องดื่มต่างๆ โดยเฉพาะ Functional Drink ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มที่การเติบโตยังดี เป็นการยกระดับของอัตรากำไรขั้นต้นของ Product Mix ขึ้น นอกจากนั้นยอดขายจากต่างประเทศก็มีแนวโน้มดีขึ้นโดยเฉพาะที่อินโดนีเซีย ด้านกำลังซื้อของผู้บริโภคเองก็มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นได้ในช่วงครึ่งปีหลังเช่นกัน สำหรับกำไรสุทธิปี 2563-2564 ตลาดประเมินไว้ที่ระดับ 397 ลบ. และ 514 ลบ. ชะลอตัวเล็กน้อย -2.56%YoY แต่กลับมาขยายตัวโดดเด่น +29%YoY ในปี 2564
- • TASCO* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 24.80 บาท) ผลประกอบการ 1Q63 ขาดทุนจาก Stock Loss ตามราคาน้ำมันที่ปรับลดลง ขณะที่ผลการดำเนินงานหลักได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ส่งผลให้การขายไปประเทศจีนถูกยกเลิกไปบางส่วนในเดือน ก.พ.-มี.ค.อย่างไรก็ตามเราคาดว่าได้ผ่านจุดต่ำสุดของปีไปแล้ว โดยใน 2Q63 คำสั่งซื้อจากจีนเริ่มทยอยกลับเข้ามาและคาดว่าจะเป็นปกติช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย.นอกจากนี้ยังมีปัจจัยหนุนทางด้านราคาจาก Supply ยางมะตอยในประเทศที่มีโอกาสขาดแคลน เนื่องจากโรงกลั่นหลักๆ ทยอยปรับลดกำลังการผลิตลง ส่วนเป้าปริมาณขายในปี 63 ที่บริษัทตั้งไว้ 1.8-1.9 ล้านตัน
Daily Key Factors
Oil Update (-) WTI Futures มิ.ย.ปิด -0.49 ดอลลาร์ อยู่ที่ 25.29 ดอลลาร์/บาร์เรล Brent Futures ก.ค. ปิด -0.79 ดอลลาร์ อยู่ที่ 29.19 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังประธานเฟดแถลงชี้ความเสี่ยงเศรษฐกิจขาลง อาจกระทบต่ออุปสงค์ความต้องการใช้น้ำมัน ขณะที่ EIA เผยสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 7 แสน บาร์เรล สวนทางคาดจะเพิ่มขึ้น 4.8 ล.บาร์เรล และกำลังการผลิตสหรัฐลดลง 3 แสน บาร์เรล/วัน อยู่ที่ 11.6 ล.บาร์เรล/วัน
Gold Update (+) Gold Futures มิ.ย.ปิด +9.60 ดอลลาร์ อยู่ที่ 1,716.40 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังเศรษฐกิจสหรัฐยังมีความเสี่ยงขาลงจากผลกระทบไวรัสระบาด ส่งผลให้นักลงทุนกลับมาซื้อทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะที่ดัชนี Dollar Index แข็งค่า +0.31% อยู่ที่ 100.2479
Fund Flow (-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ขายสุทธิ -185.4 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -125.4 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโด -52.1 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -7.8 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้แข็งค่าเล็กน้อย อยู่ที่ 32.056 บาทดอลลาร์สหรัฐ
(-) ดัชนี BDI ปิด -35 จุด อยู่ที่ 398
(-) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี อยู่ที่ 0.641 % , 2 ปี อยู่ที่ 0.157 %
(0) ค่าเงินหยวน off-shore แข็งค่าเล็กน้อย อยู่ที่ 7.1008/USD
(-) UN คาดเศรษฐกิจโลกปีนี้หดตัว -3.2 % มูลค่าเศรษฐกิจโลกลดลง 8.5 ลล.ดอลลาร์สหรัฐใน 2 ปีข้างหน้า , มูลค่าการค้าโลกปีนี้ -15 %
Economic Calendar
ในประเทศ
สัปดาห์ที่ 3 ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม, ยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์
11 พ.ค. สภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนและประเมินภาวะเศรษฐกิจและทิศทางลงทุนไตรมาส 2/63
12 พ.ค. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แถลงข้อมูลสรุปภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์
14 พ.ค. กระทรวงการคลัง เปิดพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษรุ่น"เราไม่ทิ้งกัน"5 หมื่นล้านบาท อายุ 5 ปี, อายุ 10 ปี
15 พ.ค. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เริ่มโอนเงินเยียวยาให้เกษตรกรกลุ่มแรก
15 พ.ค. กระทรวงการคลัง ปิดรับเรื่องร้องทุกข์มาตรการเยียวยา 5,000 บาท
ต่างประเทศ
12 พ.ค. US ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (เม.ย.)
CN ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีน (เม.ย.)
CN ดัชนีผู้ผลิต (PPI) ของจีน (เม.ย.)
13 พ.ค. US ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) (เม.ย.)
15 พ.ค. CN ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีน (เม.ย.)
Theme Strategy
(1) กลุ่ม Defensive Stock BCPG*, BGRIM*, BPP*, GPSC*, GULF*, ADVANC, INTUCH*, BDMS*, BCH*
(2) กลุ่มที่อิงการบริโภคในปรเทศ ADVANC, INTUCH*
(3) กลุ่มรับประโยชน์ ศก.ชะลอ NPL เพิ่ม BAM*, CHAYO*, JMT*
(4) กลุ่มส่งออกอาหารเงินบาทอ่อนค่า CPF*, GFPT*, TFG*, TU*
(5) กลุ่มการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจอีอีซี AMATA, WHA
(6) กลุ่มรับประโยชน์จากราคาน้ำมันขาลง IRPC, TOP, PRM*
(7) กลุ่มรับประโยชน์จากปลดล็อก พ.ร.บ.งบประมาณปี 63 CK, STEC, SEAFCO*, TASCO*
*หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%
Today Fundamental Research: BCP
Monthly Portfolio May 2020: ADVANC, BJC*, BPP*, CPALL*, CPF*, STA*
Analysts
Apichai Raomanachai No. 002939
Nopporn Chaykaew No. 043964
Piyatat Pasommanatsakul No. 081741
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web