- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 13 May 2020 14:48
- Hits: 1697
บล.เคจีไอ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 13-5-2020
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ชะลอความร้อนแรง น่าจะเทรดในกรอบแคบๆ
KGI ประเมิน SET Index วันพุธจะชะลอความร้อนแรง แนวโน้มไซด์เวย์... หลังจากเมื่อวานนี้ ดัชนีฯ ยังปรับขึ้นสวนทิศทางของตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในเอเชีย (ดีกว่าคาด) เพราะสถานการณ์ Covid-19 ในประเทศไทยดูดีกว่าประเทศหลักอื่นๆ... ขณะที่ปัจจัยแวดล้อมในวันนี้ยังคงเป็นกลาง/ลบเล็กน้อย ได้แก่ i) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับฐานค่อนข้างแรง หลังจากหัวหน้านายแพทย์ทำเนียบขาว ออกมาเตือนว่าสหรัฐฯ อาจมีการติดเชื้อ Covid-19 รอบที่ 2 ที่รุนแรง หากรัฐต่างๆ ทำการเปิดเมืองและเปิดธุรกิจเร็วเกินไป ขณะที่ในฝั่งเอเชียนั้น นักลงทุนยังคงจับตาจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศจีนและประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเป็น 2 ประเทศที่มีการติดเชื้อจำนวนมากในช่วงก่อนหน้านี้ และล่าสุดได้ทยอยเปิดเมืองไปแล้ว ii) การฟื้นตัวของ SET Index ตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่แล้ว ส่งผลให้ valuations ของตลาดหุ้นค่อนข้างตึง ด้วย forward PE2563-consensus สูงกว่า 18 เท่า
ฝ่ายวิจัยจึงมองว่าทางขึ้นของดัชนีฯ จะมีจำกัด... ทั้งนี้ตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสที่จะแข็งกว่าตลาดหุ้นต่างประเทศต่อไป เพราะจำนวนผู้ติดเชื้อ Covid-19 ในประเทศไทยยังเป็นเลขตัวเดียว และมีแนวโน้มที่ ศบค. จะผ่อนคลายมาตรการในเฟส 2 ที่จะเริ่มขึ้นในสุดสัปดาห์นี้ กล่าวโดยสรุป: ฝ่ายวิจัยมอง SET Index ในช่วงสั้น จะขึ้นได้ไม่มากแต่ไม่ลงแรงเช่นกัน (มองแกว่งตัวในกรอบ) ซึ่งน่าจะเอื้อให้หุ้นขนาดกลาง (mid caps) มีความโดดเด่นมากขึ้นโดยเฉพาะหุ้นที่รายงานกำไรไตรมาส 1/2563 ดีกว่าคาด และหุ้นที่เชื่อมโยงกับธีมการทยอยผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มต่างๆ
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร BCPG*, EP, JMART
BCPG* (เป้าพื้นฐาน 22 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 16.0 บาท / แนวต้าน 16.4 - 17.0 บาท (Stop loss 15.4 บาท) 2) รายงานกำไร 1Q63 = 573.7 ล้านบาท (โต +16.7% YoY) ดีกว่าคาด +18% (กำไรปกติดีกว่าคาด +4.4%) เป็นผลจากกำไรอัตราแลกเปลี่ยนมากกว่าคาด และประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2H63 จะดีกว่า 1H63 เพราะปัญหาภัยแล้งจะเริ่มบรรเทาลงหลังเข้าฤดูฝนกลางปีนี้ 3) โดยปกติจะมีการจ่ายปันผลทุกไตรมาส เราคาดจะยังคงจ่ายปันผลในอัตราใกล้เคียงเดิมคือ 0.16 บาท/หุ้น สำหรับ 1Q63 4) ประเมินยังมีการลงทุนโรงไฟฟ้าในลาวอีกหลายแห่ง ที่รอประกาศ (ประเมินจากแผนลงทุนในอนาคต จากที่ประชุมนักวิเคราะห์ล่าสุด BCPG* ยังเหลืองบลงทุนสำหรับปีนี้อีก 1.35 หมื่นล้านบาท) ... แผนลงทุนใหม่นี้เป็น Upside ที่ยังไม่รวมในประมาณการฯ
EP (เป้าพื้นฐาน 5.1 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 3.54 บาท / แนวต้าน 3.76 บาท และถัดไป ±4 บาท (Stop loss 3.40 บาท) 2) เตรียมย้ายเข้าเทรดกลุ่มพลังงานในเดือน มิ.ย.นี้ คาดมีโอกาสถูก Re-rate PE ขึ้น (จากเดิมธุรกิจสิ่งพิมพ์ที่ PE ต่ำเพราะแนวโน้มอุตสาหกรรมฯไม่ดี มาเป็นธุรกิจโรงไฟฟ้าที่ตลาดฯให้ Valuation พรีเมี่ยมกว่า) โดยเราประเมิน PE ปี 2563 เท่ากับ 12.1 เท่า และ Dividend yield 3.3% 3) แนวโน้มผลการดำเนินงานปีนี้จะมี Upside จากธุรกิจบรรจุภัณฑ์ (กล่องกระดาษและกล่องลูกฟูก) ที่ได้อานิสงส์การส่งสินค้าออนไลน์
JMART (เป้าพื้นฐาน 9.8 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 8.5 บาท และ 8.25 บาท / แนวต้าน 9.45 บาท (Stop loss 7.9 บาท) 2) บ.ลูก SINGER รายงานกำไร 1Q63 โตเด่น และ Consensus คาด บ.ลูก JMT* จะรายงานกำไร 1Q63 โตเด่น YoY เป็น Sentiment บวกมาที่ JMART (JMART ถือหุ้น SINGER และ JMT* 30.26% และ 52.63% ตามลำดับ) 3) คาด JMART รับ Sentiment บวกจากการที่ภาครัฐฯเครียมผ่อนคลายมาตรการล๊อคดาวน์ 4) Upside อื่นๆ i) การเข้าถือหุ้น เจฟินเทค โดยสถาบันการเงินจากเกาหลีใต้ และ ii) iPhone SE ใหม่เริ่มเปิดจองวันที่ 14 พ.ค.นี้
หุ้นมีข่าว
(+ กลุ่มยานยนต์ SAT, AH) ค่ายรถทยอยเปิดสายการผลิต โตโยต้าเดินเครื่องครบ 3 โรงงาน (กรุงเทพธุรกิจ) ผู้ผลิตรถยนต์ พร้อมกลับมาเดินเครื่องโรงงาน หลังปิดสายการผลิตชั่วคราวเหตุ โควิด-19 ส่งผลกระทบทั้งด้านตลาดชิ้นส่วน โตโยต้าประกาศเปิดครบ ทั้ง 3 โรงงานภายในเดือนนี้ ตามหลังอีซูซุที่เริ่มผลิตช่วงต้นเดือน มั่นใจมาตรการดูแลความปลอดภัยเพียงพอ ทั้งการตรวจสุขภาพ เหลื่อมเวลาเดินทาง ลดความหนาแน่น คงมาตรการทำงานจากที่บ้านพนักงานส่วนใหญ่
(0) เผือกร้อนบินไทย ไร้วาระเข้าครม. (ข่าวหุ้น) เลื่อนวนไป! ครม.วานนี้ยังไร้เงาแผนฟื้นฟู THAI* “ประยุทธ์” แจงเหตุปรับรายละเอียดไม่เสร็จ ย้ำขอความร่วมมือทุกฝ่ายช่วยสายการบินแห่งชาติ ฟาก “ศักดิ์สยาม” เผยแผนฟื้นฟูส่งมาสนข.แล้ว กำลังตรวจทาน ขีดเส้นพ.ค.นี้แผนต้องเสร็จ!
(+) เจเคเอ็นฯจับมือ "ไอ.ซี.ซี." ปั้น JKN Shopping รุกธุรกิจโฮมช้อปปิ้ง เสริมรายได้ขายโฆษณา (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) "เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย" จับมือ "ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล" ในเครือสหพัฒน์ รุกธุรกิจโฮมช้อปปิ้ง ปั้น JKN Shopping ออกอากาศทาง JKN Dramax และเว็บไซต์ JKNCNBC ขนทัพสินค้าอุปโภคบริโภคส่งตรงถึงนักชอปปิ้ง หนุนรายได้จากการขายสื่อโฆษณาได้เพิ่มขึ้น
(- TISCO*, KKP*, TMB*) แบงก์เข้ม ปล่อยกู้รถ ยอดปฏิเสธ พุ่ง 50% (ฐานเศรษฐกิจ) แบงก์เข้มปล่อยกู้รถ ต้องวางเงินดาวน์ 25% แถมดูลึกถึงความมั่นคงองค์กรและอาชีพด้วย หลังมาตรการล็อกดาวน์คุมโควิด กระทบรายได้ผู้กู้ ดันยอดปฏิเสธพุ่ง 50% สมาคมผู้ประกอบการรถใช้แล้ว มองทั้งปีสินเชื่อทรงตัว ป้ายแดงอาจติดลบ
หุ้นที่แนะนำไปก่อนหน้า
INTUCH* (เป้าพื้นฐาน 76 บาท) แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop 52 บาท)
CPALL* (เป้าพื้นฐาน 83 บาท) แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop 72 บาท)
BPP* (เป้าพื้นฐาน 23.25 บาท) ประเมินแนวรับ 16.0 บาท / แนวต้าน 16.8 บาท หากผ่านแนวต้านได้ แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop 15.7 บาท)
CPF* (เป้าพื้นฐาน 35 บาท) ประเมินแนวรับ 28 บาท / แนวต้าน 29.0 บาท หากผ่านแนวต้านได้ แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop 27.5 บาท)
TFG (เป้าพื้นฐาน 4.4 บาท) ประเมินแนวรับ 4.0 บาท / แนวต้าน 4.3 บาท หากผ่านแนวต้านได้ แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop 3.90 บาท)
TOP* (เป้าพื้นฐาน 55 บาท) ประเมินแนวรับ 42 บาท / แนวต้าน 45.0 - 46.0 บาท (Trailing stop 41.5 บาท)
TMB* (เป้าพื้นฐาน 1.38 บาท) ประเมินแนวรับ 0.90 บาท / แนวต้าน 0.96 - 1.00 บาท (Stop loss 0.89 บาท)
MTC* (เป้าพื้นฐาน 49 บาท) ประเมินแนวรับ 46 บาท / แนวต้าน 50 - 53 บาท (Trailing stop 45 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
GFPT* แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 14 บาท รายงานกำไร 1Q63 = 328 ล้านบาท (+44.2% YoY, +31.1% QoQ) ดีกว่าคาด +20% และดีกว่า Consensus คาด +33% เป็นผลจาก i) อัตรากำไรขั้นต้นดีกว่าคาด และ ii) ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนใน บ.ร่วม สูงกว่าคาด อย่างไรก็ดีแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2Q63 คาดจะชะลอตัวลงตามแนวโน้มราคาเนื้อไก่ ก่อนที่จะฟื้นตัวใน 2H63 (อานิสงส์จากการปลดล็อคดาวน์)
WORK แนะนำ "ขาย" เป้าพื้นฐาน 8.4 บาท รายงานกำไร 1Q63 = 46 ล้านบาท (-39% YoY แต่พลิกจากที่ขาดทุนใน 4Q62) ดีกว่าที่ฝ่ายวิจัยฯและ Consensus คาด (คาดว่าจะขาดทุน) ฝ่ายวิจัยฯปรับปรุงประมาณการฯปี 2563 -2564 โดยคาดปี 2563 กำไร +80 ล้านบาท (เดิมคาดขาดทุน -13 ล้านบาท) และปี 2564 ปรับประมาณการฯขึ้น +24% เป็น +216 ล้านบาท แต่ยังคงคำแนะนำ "ขาย"
IVL* แนะนำ "ถือ" เป้าพื้นฐาน 29 บาท รายงานกำไร 1Q63 = 571 ล้านบาท (-85% YoY แต่ขาดทุนลดลง QoQ) ดีกว่าที่ฝ่ายวิจัยฯคาดไว้ว่าอาจจะขาดทุน และ Consensus คาดกำไรเพียง 94 ล้านบาท เป็นผลจากกำไรพิเศษจากการซื้อกิจการราว 2 พันล้านบาท ฝ่ายวิจัยฯปรับคำแนะนำขึ้นเป็น "ถือ" (เดิม "ขาย") เพราะประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2Q63 จะดีขึ้น QoQ จากปริมาณขายที่คาดจะเพิ่มขึ้น แต่แนวโน้ม 2H63 ยังมีความเสี่ยงที่จะชะลอตัวลงอีกครั้ง
M แนะนำ "ถือ" เป้าพื้นฐาน 51.5 บาท รายงานกำไร 1Q63 = 340 ล้านบาท (-52.1% YoY, -48.1% QoQ) ต่ำคาด -34.6% เป็นผลจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ต่ำคาดและค่าใช้จ่าย SG&A ที่สูงเกินคาด แนวโน้มผลการดำเนินงานคาดว่าจะชะลอตัวลงอีกใน 2Q63 ก่อนที่จะค่อยฟื้นตัวใน 2H63 (2Q รับผลกระทบจากโควิด-19)
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- นัยต้าน 1302 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1302 จุดได้นั้น อาจสะสมแรงผลักขึ้นในกรอบ 1302-1339 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงหรือปิดต่ำกว่านัยต้าน 1302 จุดนั้น อาจทรงราคาลงในกรอบ 1302-1283 จุด
แนวรับวันนี้: 1293/1283 แนวต้านวันนี้: 1302/1326
1 อดิศักดิ์ คำมูล
2 66.2658.8888 ต่อ 8843
******************************************
Click Donate Support Web
