บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 5-5-2020

Details: Category: บทวิเคราะห์; Published: Tuesday, 05 May 2020 11:02; Hits: 2614

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 5-5-2020

Market Wrap-Up

• SET ปิดวันที่ 30 เม.ย.63 ปิด +18.98 จุด อยู่ที่ 1,301.66 จุด มูลค่าการซื้อขาย 79,146 ลบ.ต่างชาติขาย 2,159 ลบ. สถาบันซื้อ 4,975 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 82 ลบ.ยอด NVDR มียอดซื้อสุทธิอยู่ที่ 1,658 ลบ.โดยมียอดซื้อหุ้น SCC,EA,GULF,IVL,SCB และมียอดขายหุ้น CPALL,AOT,PTT,KBANK,INTUCH มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 721 ลบ หุ้นที่มีมูลค่า Short สูงคือ AOT,PTTEP,KBANK โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 2,237 สัญญาและมียอด Long สะสมตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 117,256 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 99.5 ลบ.
• ตลาดหุ้นสหรัฐ Down Jones +0.11 %, S&P500 +0.42 % ,Nasdaq +1.23 % ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงาน +3.7% , เทคโนโลยี +1.4% โดยช่วงเปิดตลาดสหรัฐถูกกดดันจากความกังวลสถานการณ์สงครามการค้าสหรัฐ – จีน ขณะที่รายงานทางเศรษฐกิจนั้น ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน มี.ค. -10.3% จาก ก.พ. -0.10% เป็นระดับต่ำสุดจากผลกระทบไวรัสระบาด ตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี Stoxx 600 ปิด -2.65% โดยหุ้นกลุ่มน้ำมัน , รถยนต์, ธนาคารปรับลดลงจากความกังวลต่อความเสี่ยงสงครามการค้าสหรัฐ – จีน รอบใหม่ ขณะที่ Markit PMI ภาคการผลิตกลุ่มยูโรโซน เม.ย. ลดลงอยู่ที่ 33.4 อยู่ในโซนถดถอย

Market View

• ภาวการณ์ลงทุนสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ปัจจัยหนุน FDA สหรัฐรับรองยาต้านไวรัส Covid-19 Remdesivir ของบริษัท Gilead ให้ใช้รักษาผู้ป่วยได้ ขณะที่รายงานผู้ยอดผู้เสียชีวิตในนิวยอร์คต่ำสุดในรอบ 1 เดือน เช่นเดียวกับในอิตาลีและอังกฤษ ส่งผลให้รัฐแคร์ลิฟลอเนีย , ฟลอลิด้า เริ่มกลับมาเปิดระบบเศรษฐกิจอีกครั้ง ในยุโรป อิตาลี ออสเตรีย โปรตุเกสก็เริ่มเปิดเศรษฐกิจ และฝรั่งเศสคาดจะเปิดวันที่ 11 พ.ค. ขณะที่ปัจจัยลบความไม่แน่นอนสงครามการค้าสหรัฐ – จีน กลับมากดดันการลงทุนอีกครั้ง หลังนายไมค์ ปอมเปโอ รมว.ต่างประเทศสหรัฐกล่าวหาจีนเป็นแหล่งแพร่เชื้อไวรัส Covid-19 และไม่ได้เปิดข้อมูลการระบาดที่เพียงพอต่อประชาคมโลก หากเกิดสงครามการค้ารอบใหม่อาจะส่งผลเศรษฐกิจโลกในช่วงครั้งปีหลังฟื้นตัวช้ากว่าประมาณการณ์ สาหรับดัชนีหุ้นไทยสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาปิด +1.48 % สถาบันซื้อสุทธิ 4.97 พัน ลบ. รับปัจจัยบวกการเริ่มทยอยเปิดระบบเศรษฐกิจอีกครั้ง ขณะที่การควบคุมการระบาดผู้ติดเชื้อใหม่ของไทยอยู่ในเกณฑ์ดี แม้ว่าวานนี้จะเพิ่มขึ้น 18 ราย แต่เป็นติดเชื้อจากแรงงานต่างด้าวที่อยู่ในค่ายกักกัน ภาวะการซื้อวันนี้คาดได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคา WTI Futures เช้านี้ +7.1 % อยู่ที่ 21.8 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยหากยืนสามารถยืนหน้าระดับ 20 ดอลลาร์/บาร์เรล จะเป็นสัญญาณการฟื้นตัว

Daily Strategy

• ดัชนีได้แรงหนุนจากก ม.คลายล็อคดาวน์และราคาน้ำมันดิบฟื้นตัว วาง Filter แนวรับสำหรับการเก็งกำไรระยะสั้นที่ 1,280 – 1,290 จุด หากยืนได้ดัชนีอยู่ในโมเมนตัมบวก โดยมีแนวต้าน 1,320 จุด แนะนำเก็งกำไรกลุ่มโรงกลั่น TOP,SPRC,ESSO คาดกำไร Q2 ฟื้นตัว QoQ
• IVL* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 30.50 บาท) ระยะสั้นได้รับปัจจัยบวกจาก Spread Integrated PET ที่ปรับตัวดีขึ้นเนื่องจากความต้องการใช้เพื่อ Restocking ก่อนไปผลิตบรรจุภัณฑ์ในช่วงหน้าร้อน ส่งผลให้ในแง่ผลการดำเนินงานใน 1H63 มีแนวโน้มดูดีกว่าหุ้นตัวอื่นในกลุ่มปิโตรเคมี (เพราะไม่มีส่วนของโรงกลั่นและขาดทุนสต๊อกจากราคาน้ำมันดิบเข้ามาถ่วง) โดยเราคาดว่าจะเห็น Norm Earning Momentum เป็นขาขึ้นแบบ QoQ แต่ YoY ยังลดลงอยู่จากราคาผลิตภัณฑ์และ spread ที่ซบเซาจากปีก่อน ส่วน 2H63 Spread Integrated PET จะอ่อนตัวตามฤดูกาล ขณะที่ส่วนอื่นๆ ยังถูกกดดันจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวที่ส่งผลชัดเจนขึ้นในฝั่ง US & EU
• ADVANC (ทยอยซื้อสะสม / ราคาเป้าหมาย 225 บาท) เตรียมรายงานงบไตรมาส 1 เบื้องต้นเราประเมินไว้กำไรสุทธิที่ระดับ 7.6 พัน ลบ. +0.5%YoY, +7.7%QoQ สำหรับครึ่งปีแรกผลการดำเนินงานอาจจะยังไม่มีอะไรโดดเด่นเพราะผลกระทบของโควิดในไตรมาส 2 จะเป็นตัวฉุดลง โดยความเสี่ยงหลักคือยอดผู้ใช้งาน (Subscribe) ที่อาจลดลงไปพร้อมกับค่าบริการเฉลี่ยต่อหัว (ARPU) ที่ปรับลงตามกำลังซื้อเฉลี่ยของลูกค้า ซึ่งปัจจัยลบต่างๆที่กล่าวมานี้ได้สะท้อนไปแล้วจากความผันผวนของราคาในช่วงที่ผ่านมา แต่ถ้าเรามองข้ามช่วงนี้ไปยังครึ่งปีหลัง ADVANC ยังมีธุรกิจที่เติบโตได้ดีอย่างบรอดแบรนด์ที่ได้รับความนิยมจากการขาย Bundle เป็นตัวช่วย สำหรับประมาณการกำไรสุทธิทั้งปี 63-64 เรายังคงไว้ที่ระดับ 3.1 หมื่น ลบ. และ 3.6 หมื่น ลบ. ทรงตัว +0.9%YoY แต่กลับมาขยายตัวโดดเด่น +15%YoY ในปี 2564

Daily Key Factors

Oil Update (+) WTI Futures มิ.ย.ปิด +0.61 ดอลลาร์ อยู่ที่ 20.39 ดอลลาร์/บาร์เรล Brent Futures มิ.ย. ปิด +0.76 ดอลลาร์ อยู่ที่ 27.20 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังบริษัทน้ำมัน Shale Oil สหรัฐคาดลดลงกำลังการผลิต 3 แสน บาร์เรล/วัน ในช่วง พ.ค. – มิ.ย. นี้ รับอุปสงค์น้ำมันที่ลดลง ขณะที่กลุ่มโอเปกพลัสก็ได้เริ่มลดกำลังการผลิต 9.7 ล.บาร์เรล/วัน

Gold Update (+) Gold Futures มิ.ย. ปิด +12.40 ดอลลาร์ อยู่ที่ 1,713.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ได้ปัจจัยหนุนความไม่แน่นอนต่อสถานการณ์สงครามการค้าสหรัฐ – จีน และรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอ ขณะที่ดัชนี Dollar Index ยังแข็งค่า +0.40% อยู่ที่ 99.481

Fund Flow (-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ขายสุทธิ -18 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโด -8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ทรงตัว อยู่ที่ 32.36 บาทดอลลาร์สหรัฐ

(-) ดัชนี BDI ปิด -19 จุด อยู่ที่ 598 จุด

(+) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี อยู่ที่ 0.631 % , 2 ปี อยู่ที่ 0.184 %

(-) ค่าเงินหยวน off-shore อ่อนค่า อยู่ที่ 7.124/USD

(-) Markit PMI ภาคการผลิตไทย เม.ย. ลดลงอยู่ที่ 36.8 & มี.ค. ที่ 46.7 อยู่ในโซนถดถอยเป็นเวลา 4 เดือนติดต่อกัน

Economic Calendar

ในประเทศ

29 เม.ย. สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.)แถลงดัชนีอุตสาหกรรม

30 เม.ย. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

ต่างประเทศ

1 พ.ค. US ดัชนี PMI ภาคการผลิตจากสถาบันไอเอสเอ็ม (ISM) (เม.ย.)

4 พ.ค. CH ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนจากสถาบัน Caixin (เม.ย.)