- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 30 April 2020 11:43
- Hits: 2701
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 30-4-2020
“เฟดตรึงดอกเบี้ย-ยาต้านไวรัสได้ผล-น้ำมันทะยาน”
- • หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : --
ภาวะตลาดและปัจจัยก่อนหน้า : SET วานนี้ปรับขึ้น รับข่าวคลายล็อคดาวน์ SCC ปรับขึ้นแม้กำไร 1Q63 ลดลงมาก ปิด +7.69 จุด ที่ 1282.68 จุด มูลค่าซื้อขายบาง 49 พันลบ.ตลาดปรับขึ้นคล้ายเพื่อนบ้าน ติดตามประชุมเฟด หุ้นพลังงานฟื้นตัว หลังน้ำมันฟิวเจอร์ปรับขึ้นสูง และคาดหวัง SCC จะมีผลกำไรใน 2Q63กระเตื้องดีขึ้น ซื้อสุทธิมาก-โบรกเกอร์ ขายสุทธิมาก-สถาบัน ต้นปีถึงปัจจุบันต่างชาติขายเป็น 160 พันลบ.
# ปัจจัยและกลยุทธ์:
SET ช่วงสั้นมีโมนตัมดีต่อเนื่อง ปัจจัยต่างประเทศบวก น้ำมันขึ้น แม้ GDP สหรัฐไม่สดใส ปัจจัยบวกคือ เฟดตรึงดอกเบี้ยตามคาดถ้อยแถลงสร้างความมั่นใจให้ตลาดคือ พร้อมผลักดันเศรษฐกิจให้เดินหน้าได้ มีความคืบหน้าด้านยาต้านไวรัส จากบ.Gilead Sciencesใช้ได้ผล ดาวโจนส์ตอบรับ+532 จุด น้ามันดิบวานนี้ทะยาน +22% จากสต็อกสหรัฐที่น้อยและรีโอเพนได้เร็วกว่าคาด ขายทองคำเข้าสินทรัพย์เสี่ยง เช้านี้ตลาดหุ้นเพื่อนบ้าน น้ำมันฟิวเจอร์ปรับตัวขึ้น ดัชนีความกังวลลดลงเป็น 31 จุด ด้านผู้ติดเชื้อไทยเพิ่มน้อยมาก ทยอยเปิด 8 จุดก่อน สำหรับปัจจัยลบคือ GDP 1Q63 สหรัฐ -4.8% ถือว่าลดลงมากสัญญาขายบ้านรอปิดการขายลดลง ดาวโจนส์ล่วงหน้าเช้านี้ปรับลงเล็กน้อย ส่วนไทยประกาศตัวเลขดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) มี.ค.-11% กลยุทธ์ระยะสั้นเข้าไว-ออกไว เล่นรอบ คาดดัชนีซื้อ-ขายในกรอบ 1250-1285 จุด การรีโอเพนได้เร็ว ทำให้มีการเก็งกำไรหุ้นวัฏจักรที่ปรับลงเยอะได้แก่ กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี เช่น PTT,PTTEP.SCC,PTTGC,TOP,IVL แต่ความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจถดถอยก็ยังมีอยู่
ด้านกลยุทธ์ระยะกลาง-ยาว คือ ทยอยถอยรับหลักทรัพย์พื้นฐานดีที่แนะนำซื้อ Defensive- ADVANC,CHG ปันผลสูง-KKP,TISCO,AP,LH เติบโต-ฟื้นตัว- MTC,STEC,DELTA กลุ่มพาณิชย์เด่นจากนโยบายรัฐแจก 5 พันบาท- CPALL,HMPRO บาทอ่อน-ส่งออกดี22%- CPF ขนส่ง- หุ้นปรับลงมากไป กลับมาฟื้นตัวเร็ว BEM,BTS มีโอกาสที่ห้างสรรพสินค้ายังกลับมาเปิดไม่ได้รอบ 4 พ.ค.นี้ จึงมีแรงขายหุ้นศูนย์การค้าเช่น CPN, CRC,CPNREIT และพาณิชย์ BJC,COM7,HMPRO,DOHOME,GLOBAL แต่ตลาดรับรู้ไปบางส่วนแล้ว ติดตามกลุ่มเดินทาง-ท่องเที่ยวจะกลับมาหลังคลายล็อกดาวน์เพราะจะมีผลกับหุ้นสายการบิน และโรงแรมสัปดาห์นี้ปล่อยกู้ซอฟท์โลนให้โรงแรม-สายการบินช่วยทำให้รอด ระยะนี้เก็งกำไรหุ้นเข้า MSCI คือ AWC,KTC,TOA ส่วนหุ้นออกเป็นลบคือ BANPUแนวรับคือ 1230 หรือ 1200 และแนวต้าน 1290-1300 จุดตัดขาดทุนต่ำกว่า 1260 จุด
# Stock Pick Today :
PTTEP ราคาน้ำมันดิบพุ่ง ส่ง sentiment บวก แม้คาดว่ากำไรหลัก 1Q63 ไม่สดใสเป็น 8.14 พันล้านบาท หดตัว -35%YoY และ -30%QoQ เพราะปริมาณขายอ่อนลง ราคาขายเฉลี่ยลดลง แต่ส่วนหนึ่งได้รับการชดเชยจาก Unit cost ที่ลดลง ข้อดีคือ มี Cash cost ค่อนข้างต่ำที่ 16 US$/boe มีงบดุลที่แข็งแกร่ง โดยมีหนี้สินต่อทุนต่ำเพียง 0.29 เท่า และไม่มีหนี้ที่ต้องชำระคืนเงินต้นในปี 63-64 มีแผนลดต้นทุน-ค่าใช้จ่ายลง 10-15% ให้ราคาพื้นฐาน 85 บาทการวิเคราะห์ทางเทคนิค: สั้น...ภาพเป็นบวกเล็กๆ อาจมีรีบาวด์สั้นๆได้ ส่วนระยะกลางยังเป็นโครงสร้างขาลงกดดัน ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick &Indicators มีสถานะ(เพียง)บวกเล็กๆต่อ {“ปิดบวกเล็กน้อย”เหนือ“SMA10วัน” (โดยยังอยู่ใต้อิทธิพลของ“โครงสร้างขาลง–ระยะกลาง”ที่กดดัน)} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯวันนี้“แกว่ง”แบบให้น้ำหนักกับการลง แต่ “ค่าบวก” (มี“SMA10”หนุน) จะช่วยให้มีรีบาวด์ฯสั้นก่อน(แล้วจึงลงต่ำ,ตามมา)ได้ แนวต้าน 1290 – 1300 จุด{แนวตัดขาดทุน “ต่ำกว่า 1260” (แนวรับย่อย “1230 / 1200”) จุด}
Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com
Inside Story
Key Drivers TODAY : ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ
Company Guide : AEONTS (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 160.00)
BH (ถือ -ราคาพื้นฐาน 118.00)
RJH (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 28.00)
Flash Note : SCC (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 417.00)
In The News : ข่าวเด่นวันนี้
Turnover List Watch : คาดสัปดาห์นี้ไม่มีหลักทรัพย์ติด Cash Balance ติดตาม DW
Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
+ ผลประชุม FOMC: ตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00-0.25% พร้อมผลักดันเศรษฐกิจฟื้นตัว
# นายพาวเวลได้ให้คำมั่นในระหว่างการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเมื่อวานนี้ว่า เฟดจะใช้เครื่องมือทั้งหมดที่มีอยู่ เพื่อผลักดันเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้นโดยเร็ว เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจ และมีแนวโน้มที่จะฉุดรั้งการจ้างงาน กิจกรรมทางเศรษฐกิจ และอัตราเงินเฟ้อ ให้ทรุดตัวลงอย่างหนักในระยะเวลาอันใกล้นี้
# ถ้อยแถลงของนายพาวเวลมีขึ้นหลังจากที่ประชุมเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00-0.25% ขณะเดียวกันเฟดยืนยันว่าจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าว จนกว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวขึ้น และเงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2%
+ สหรัฐ: บริษัท Gilead Sciences แถลงว่าได้รับข้อมูลที่น่าพึงพอใจในการใช้ยา remdesivir
# ตลาดยังได้แรงหนุนหลังจากบริษัท Gilead Sciences แถลงว่าได้รับข้อมูลที่น่าพึงพอใจในการใช้ยา remdesivir ซึ่งเป็นยาแอนตี้ไวรัสของบริษัท ในการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19
# ทั้งนี้ Gilead ระบุว่า ผลการศึกษาการใช้ยา remdesivir ซึ่งทางบริษัทดำเนินการร่วมกับสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติ มีผลการรักษาเป็นไปตามเป้าหมายในเบื้องต้น โดยผู้ป่วยโรคโควิด-19 จำนวนอย่างน้อย 50% ที่ได้รับยาremdesivir เป็นเวลา 5 วัน มีอาการดีขึ้น และผู้ป่วยจำนวนมากกว่า 50% ที่ได้รับยา remdesivir สามารถออกจากโรงพยาบาลภายในเวลา 2 สัปดาห์
- สหรัฐ: GDP 1Q63 สหรัฐ หดตัวลงแรง 4.8% ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายดิ่งลง
# กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1/2563 โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐหดตัวลง 4.8% ซึ่งย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะหดตัว 3.5% โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
# ทางด้านสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ดิ่งลง 20.8% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายเดือน โดยได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาลเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19
+ ตลาดหุ้นสหรัฐ: ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 532.31 จุด ขานรับถ้อยแถลง"พาวเวล",ข่าวคืบหน้ายารักษาโควิด-19
# ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (29 เม.ย.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ให้คำมั่นว่าเฟดจะใช้เครื่องมือทุกอย่างเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับข่าวดีจากบริษัท Gilead Sciences ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความหวังเกี่ยวกับความคืบหน้าในการผลิตยารักษาโรคโควิด-19
+ น้ำมัน : WTI ปิดพุ่ง $2.72 หรือ 22% ขานรับตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบ,เก็งสหรัฐเปิดเศรษฐกิจเร็วกว่าคาด
# สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (29 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดการณ์ รวมทั้งความหวังที่ว่า สหรัฐจะเปิดเศรษฐกิจเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ หลังมีความคืบหน้าในการผลิตยารักษาโรคโควิด-19
- • ทองคำ: ปิดลบ $8.8 นักลงทุนขายสินทรัพย์ปลอดภัยหลังมีข่าวคืบหน้ายารักษาโควิด-19
# สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (29 เม.ย.) เนื่องจากรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับยารักษาโรคโควิด-19และการที่ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งนั้น ทำให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และส่งผลให้สัญญาทองคำปิดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 4
- • ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่จะทยอยประกาศสัปดาห์นี้
# ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนมี.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโกเดือนเม.ย., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนเม.ย.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคการผลิตเดือนเม.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนมี.ค.
ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์
+ ศบค.เผยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 9 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต
# ศบค. เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวานนี้ พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ 9 รายทำให้มีจำนวนผู้ป่วยสะสมรวมทั้งสิ้น 2,947 ราย จำนวนผู้ที่หายป่วยแล้วรวมทั้งสิ้น 2,665 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้นอีก 13ราย และวันนี้ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมคงอยู่ที่ 54 ราย
+/• ศบค.นัด 11.30 น.วันนี้แถลงข้อกำหนด-มาตรการคลายล็อกดาวน์
# รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19) หรือ ศบค.จะมีการแถลงข่าวในวันพรุ่งนี้เวลา 11.30 น.เรื่องข้อกำหนด และมาตรการผ่อนปรน โดยมี โฆษกศบค., นพ. ปิยะสกล สกลสัตยาทร นายกมหาวิทยาลัยมหิดลและอดีตรมว.สาธารณสุข รวมทั้ง เลขาธิการ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เลขาธิการ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช) ปลัดกระทรวงสาธารณสุขปลัดกระทรวงมหาดไทย และประธานหอการค้าไทย ร่วมแถลงและตอบข้อซักถาม
-/• ห้างสรรพสินค้ายังไม่เปิด 4 พ.ค.63 หลายหลักทรัพย์ได้รับผลกระทบจิตวิทยาทางลบ
# กทม.เตรียมมาตรการพร้อมปลดล็อก 8 กิจการ รอศบค.เคาะวัน, ขยายปิดผับบาร์ถึงสิ้น พ.ค.ด้านห้างสรรพสินค้ารอเฟสถัดไป (Aspen)
# ผลกระทบ: สอดคล้องกับการแบ่งสี ซึ่งสีแรกคือ สีขาว เปิด 4 พ.ค.63 เป็นธุรกิจจำเป็นในชีวิตประจำวัน เช่น ร้านค้าขนาดเล็ก ร้านอาหาร ส่วนห้างสรรพสินค้าก่อนหน้าถูกจัดเป็นสีเหลืองกว่าจะได้เปิดเป็น 1 มิ.ย.63 แต่ต้องติดตามการประกาศเฟสถัดๆไป และบางจังหวัดที่ผู้ติดเชื้อน้อยอาจเปิดห้างได้ก่อน ไม่ต้องรอส่วนกลาง
# หลักทรัพย์ที่ได้รับจิตวิทยาทางลบระยะสั้นคือ CPN, CRC,CPNREIT และพาณิชย์ COM7,BJC, HMPRO,DOHOME,GLOBAL สื่อสาร เช่น ADVANC (มีสาขาในห้างมาก) และการเดินทางจะไม่ฟื้นเร็วอย่างคาด เพราะเปิดเพียงร้านค้าเล็กๆเช่น BEM,BTS,BTSGIF แต่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับปัจจัยพื้นฐานในระยะยาว และรับรู้ข่าวไปบ้างแล้ว
- ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนมีนาคม 2563 หดตัวลง -11.25%
# สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ระบุว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนมีนาคม 2563 หดตัวลง -11.25% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยได้รับผลกระทบเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและภัยแล้ง ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ไตรมาสแรกปี 2563 หดตัวลง -6.63% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]
******************************************
Click Donate Support Web
