WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 30-4-2020k f

Market Wrap-Up

  • •   SET ปิดวันที่ 29 เม.ย.63 ปิด +7.69 จุด อยู่ที่ 1,282.68 จุด มูลค่าการซื้อขาย 49,140 ลบ.ต่างชาติขาย 452 ลบ. สถาบันขาย 538 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 510 ลบ.ยอด NVDR มียอดซื้อสุทธิอยู่ที่ 922 ลบ.โดยมียอดซื้อหุ้น CPALL,SCB,SCC,IVL,GULF และมียอดขายหุ้น KBANK,CRC,EGCO,MTC,GPSC มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 594 ลบ หุ้นที่มีมูลค่า Short สูงคือ GULF,KBANK,CPALL โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 2,362 สัญญาและมียอด Long สะสมตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 119,493 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 3,315 ลบ.
  • •   ตลาดหุ้นสหรัฐ Down Jones +2.21 %, S&P500 +2.66 % ,Nasdaq +3.57 % ได้ปัจจัยบวกจากผลการทดลองยา Remdesivir มีผลการรักษาไวรัส Covid-19 อยู่ในเกณฑ์ดี ขณะที่การประชุมเฟดมีมติคงดอกเบี้ยที่ 00.25 % และเจอโรม พาวเวล เผยพร้อมใช้ทุกมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้สู่ระดับปกติ ตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี Stoxx 600 ปิด +1.75 % รับข่าวบวกยาต้านไวรัส ขณะที่หุ้นกลุ่มรถยนต์ปรับขึ้นรับคาดการณ์เชิงบวกต่อกำไรของเดมเลอร์ และโฟล์คสวาเกนในปีนี้ หุ้นกลุ่มพลังงานฟื้นตัวตามราคาน้ำมันดิบ

Market View

  • •   ภาวการณ์ลงทุนตลาดหุ้นต่างประเทศได้ปัจจัยหนุนผลการทดสอบยาต้านไวรัส Covid-19 Remdesivir ของบริษัท Gilead เผยผู้ป่วย 50 % ได้รับยาเป็นเวลา 5 วัน มีอาการดีขึ้น และ 50 % สามารถออกจากโรงพยาบาลได้ในเวลา 2 สัปดาห์ แต่ยังต้องรอประเมินผลทดสอบที่มากกว่านี้ ส่วนการประชุมเฟดมีมติคงดอกเบี้ยไว้ที่ 00.25 % ก่อนกว่าอัตราเงินเฟ้อสหรัฐจะกลับสู่ระดับเป้าหมายที่ 2 % ขณะที่รายงาน GDP สหรัฐ Q1/63 หดตัว -4.8 % QoQ ต่ำกว่าคาดการณ์ -3.5 % โดยการใช้จ่ายผู้บริโภค -7.6 %, ส่งออก -8.7 % และสินค้าคงคลัง -16.1 % ปัจจัยต่างประเทศวันนี้ติดตาม GDP ยูโรโซน Q1/63 คาด -3.7 % QoQ, -3.4 % YoY และการประชุม ECB ว่าจะมีความชัดเจนเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่ สำหรับดัชนีหุ้นไทยวานนี้ปิด +0.60 % ต่างชาติและสถาบันขายสุทธิ ปริมาณการซื้อขายชะลอตัวก่อนวันหยุดยาว โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่ฟื้นตัวตามราคาน้ำมันดิบ และหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าเป็นกลุ่ม Defensive และคาดกำไรปีนี้ยังขยายตัว ขณะที่ SCC รายงานกำไร Q1/63 ที่ 6.97 พัน ลบ. -40.2 % YoY, -1.9 % YoY เนื่องจากกำไรธุรกิจปิโตรเคมีชะลอตัว แม้ว่ากำไรจากธุรกิจแพ็คเก็จจิ้งจะขยายตัวได้ดี วันนี้ PTTEP จะรายงานกำไร Q1/63 ฝ่ายวิเคราะห์คาดกำไรที่ 8.6 พัน ลบ. -31 % YoY, -26 % QoQ

Daily Strategy

  • •   ดัชนีได้แรงหนุนจากก ม.คลายล็อคดาวน์และราคาน้ำมันดิบเริ่มทรงตัว วาง Filter แนวรับสำหรับการเก็งกำไรระยะสั้นที่ 1,2601,268 จุด หากยืนได้ดัชนีอยู่ในโมเมนตัมบวก โดยมีแนวต้าน 1,300 จุด แนะนำเก็งกำไร DELTA, HANA, KCE รับข่าวการเริ่ม Re-Stock order
  • •   EPG* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 7.30 บาท) ต้นทุนการผลิตในปีนี้มีโอกาสลดลงตามทิศทางราคาน้ำมันที่ทรงตัวในระดับต่ำ ทางฝั่งรายได้ตัวชูโรงในปีนี้คือธุรกิจผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกซึ่งอุปสงค์ยังอยู่ในระดับสูง ล่าสุดในช่วงเดือน พ.ค. EPG เตรียมวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์หน้ากากเอนกประสงค์พลาสติกประเภท Polypropylene ซึ่งมีคุณสมบัติคือสามารถนำมาทำความสะอาดและใช้ซ้ำได้ด้วยการเปลี่ยนแผ่นกรอง เบื้องต้นการผลิตหน้ากากพลาสติกในเฟสแรกมีเป้าหมายการผลิตที่ 2 ล้านชิ้น/เดือน หลังจากนั้นบริษัทมีแผนที่จะพัฒนาและผลิตหน้ากาก N95 เพื่อใช้ในการแพทย์ในเฟสต่อไป สำหรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2563-2564 ตลาดประเมินไว้ที่ระดับ 1.03 พัน ลบ. และ 1.15 พัน ลบ. ขยายตัวได้ +14%YoY และ +12%YoY ตามลำดับ
  • •   OSP* (ซื้อเมื่ออ่อนตัว / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 40.00 บาท) คาดแนวโน้มกำไรในงวด 1Q63 ยังเห็นการเติบโตจากตลาดเครื่องดื่มประเภท Functional Drink ที่เติบโตสูง สินค้าของบริษัทในกลุ่มนี้คือ C-Vitt มีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นช่วยหนุนรายได้ ขณะที่เครื่องดื่มประเภท Energy Drink (M-150) เติบโตเล็กน้อยตามภาพรวมตลาด แต่ได้ประโยชน์จากการปรับสูตรลดน้ำตาล ทำให้เสียภาษีความหวานลดลง รวมถึงออกโปรแกรม Fit Fast Firm เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและลดต้นทุนในด้านต่างๆ ส่วนผลกระทบจาก COVID-19 เป็นไปอย่างจำกัดการผลิตและการขนส่งยังทำได้ตามปกติ

Daily Key Factors

Oil Update (+) WTI Futures มิ.ย.ปิด +2.72 ดอลลาร์ อยู่ที่ 15.06 ดอลลาร์/บาร์เรล Brent Futures มิ.ย. ปิด +2.08 ดอลลาร์ อยู่ที่ 22.54 ดอลลาร์/บาร์เรล EIA รายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 9 ล.บาร์เรล น้อยกว่าคาดการณ์จะเพิ่มขึ้น 9.8 ล.บาร์เรล ขณะที่ผลการทดสอบยาต้านไวรัส Covid-19 ได้ผลดี ส่งผลให้คาดการณ์อุปสงค์ความต้องการใช้น้ำมันมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นในอนาคต

Gold Update (-) Gold Futures มิ.ย. ปิด -8.80 ดอลลาร์ อยู่ที่ 1,713.40 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังเฟดเผยพร้อมใช้ทุกมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะที่ดัชนี Dollar Index อ่อนค่า -0.29% อยู่ที่ 99.575

Fund Flow (-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ขายสุทธิ -54.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -13.9 ล้านดอลลาร์ ขายหุ้นอินโด -26 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -14.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ทรงตัว อยู่ที่ 32.35 บาทดอลลาร์สหรัฐ

(-) ดัชนี BDI ปิด -12 จุด อยู่ที่ 643 จุด

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี อยู่ที่ 0.622 % , 2 ปี อยู่ที่ 0.194 %

(0) ค่าเงินหยวน off-shore แข็งค่าเล็กน้อย อยู่ที่ 7.0724/USD

(-) Moody’s คาดเศรษฐกิจกลุ่ม G-20 ปีนี้หดตัว -4.0 % ก่อนที่จะฟื้นตัวในปีหน้าที่ +4.8 %

(+)Moody’s คาดราคาน้ำมันดิบ WTI ปีนี้เฉลี่ยที่ 30 ดอลลาร์/บาร์เรล และปีหน้าที่ 40 ดอลลาร์/บาร์เรล

Economic Calendar

ในประเทศ

29 เม.ย.   สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.)แถลงดัชนีอุตสาหกรรม

30 เม.ย.   ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

ต่างประเทศ

29 เม.ย.   US สต๊อกน้ำมันรายสัปดาห์

   US ดัชนีจีดีพีไตรมาส 1Q/63

30 เม.ย.   US การประชุม FOMC

   US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

   CH ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีน (เม.ย.)

   EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (เม.ย.)

   EU ดัชนีจีดีพีไตรมาส 1Q/63

   EU การประชุม ECB

1 พ.ค.   US ดัชนี PMI ภาคการผลิตจากสถาบันไอเอสเอ็ม (ISM) (เม.ย.)

4 พ.ค.   CH ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนจากสถาบัน Caixin (เม.ย.)

6 พ.ค.   US การเปลี่ยนแปลงการจ้างงานนอกภาคเกษตรจากเอดีพี (เม.ย.)

8 พ.ค.   US การจ้างงานนอกภาคการเกษตร (เม.ย.)

   US อัตราการว่างงาน (เม.ย.)

Theme Strategy

(1) กลุ่ม Defensive Stock BCPG*, BGRIM*, BPP*, GPSC*, GULF*, ADVANC, INTUCH*, BDMS*, BCH*

(2) กลุ่มที่อิงการบริโภคในปรเทศ ADVANC, INTUCH*

(3) กลุ่มรับประโยชน์ ศก.ชะลอ NPL เพิ่ม BAM*, CHAYO*, JMT*

(4) กลุ่มส่งออกอาหารเงินบาทอ่อนค่า CPF*, GFPT*, TFG*, TU*

(5) กลุ่มการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจอีอีซี AMATA, WHA

(6) กลุ่มรับประโยชน์จากราคาน้ำมันขาลง IRPC, TOP, PRM*

(7) กลุ่มรับประโยชน์จากปลดล็อก พ.ร.บ.งบประมาณปี 63 CK, STEC, SEAFCO*, TASCO*

*หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%

Today Fundamental Research: -

Monthly Portfolio Apr 2020: ADVANC, BJC*, BPP*, CPALL*, CPF*, TU*

Analysts

Apichai Raomanachai           No. 002939

Nopporn Chaykaew               No. 043964

Piyatat Pasommanatsakul     No. 081741  

******************************************

 

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!