- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 29 April 2020 13:45
- Hits: 2788
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 29-4-2020
“ติดตามประชุมเฟด GDP ไตรมาส1-ไทยรีโอเพน”
- • หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : BJC (จากซื้อเป็นถือ) / VGI (จากซื้อเป็น Fully Valued)
ภาวะตลาดและปัจจัยก่อนหน้า : SET วานนี้ปรับขึ้น รับข่าวคลายล็อคดาวน์ แม้หุ้นพลังงานปรับลง ปิด +7.58 จุด ที่ 1274.99 จุด มูลค่าซื้อขาย 60.5 พันลบ.ตลาดปรับขึ้บคล้ายเพื่อนบ้าน ติดตามประชุมเฟดวันนี้ และอีซีบี ซื้อสุทธิมาก-โบรกเกอร์ ขายมาก-รายย่อย ต้นปีถึงปัจจุบันต่างชาติขายเป็น 160 พันลบ.แล้ว
# ปัจจัยและกลยุทธ์:
SET ช่วงสั้นมีโมนตัมดีต่อเนื่อง ติดตามประชุมเฟด และไทยรีโอเพน ปัจจัยบวกคือ คาดเฟดตรึงอัตราดอกเบี้ย 0-0.25% รอฟังถ้อยแถลง ติดตามการรีโอเพนสหรัฐ และการประกาศ GDP 1Q63 ดัชนีราคาบ้าน ก.พ.ออกมาดี เช้านี้ตลาดหุ้นเพื่อนบ้าน ดาวโจนส์และน้ำมันล่วงหน้าปรับตัวขึ้นดี ด้านไทยจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่วานนี้เพิ่มเพียง 7 ราย มีการเยียวยา 5 พันบาทเพิ่มเป็น 16 ล้านราย เกษตรกร 10 ล้านราย ส่วนปัจจัยลบคือ สหรัฐมีแรงขายหุ้นเทคโนโลยีก่อนผลประกอบการออกมา ผู้ติดเชื้อสหรัฐเกินกว่า 1 ล้านรายแล้ว ดาวโจนส์วานนี้ -32 จุด น้ำมันวานนี้ปรับลง ยังกังวลภาวะล้นตลาด ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ เม.ย.ปรับลดลง และททท.ทบทวนตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างประเทศ และรายได้ปีนี้ลดลงมาก กลยุทธ์ระยะสั้น เข้าไว-ออกไว เล่นรอบ คาดดัชนีซื้อ-ขายในกรอบ 1250-1285 จุด
ด้านกลยุทธ์ระยะกลาง-ยาว คือ ทยอยถอยรับหลักทรัพย์พื้นฐานดีที่แนะนำซื้อ Defensive- ADVANC,CHG ปันผลสูง-KKP,TISCO,AP,LH เติบโต-ฟื้นตัว- MTC,STEC,DELTA กลุ่มพาณิชย์เด่นจากนโยบายรัฐแจก 5 พันบาท- CPALL,HMPRO บาทอ่อน-ส่งออกดี- CPFขนส่ง- หุ้นปรับลงมากไป BEM,BTS หากห้างสรรพสินค้ากลับมาเปิดได้ จะดีกับศูนย์การค้าเช่น CPN, CPNREIT และพาณิชย์ COM7,HMPRO สื่อสารเช่น ADVANC ติดตามกลุ่มเดินทาง-ท่องเที่ยวจะกลับมาหลังคลายล็อกดาวน์เพราะจะมีผลกับหุ้นสายการบิน และโรงแรม สัปดาห์นี้ปล่อยกู้ซอฟท์โลนให้โรงแรม-สายการบินช่วยทำให้รอด ระยะนี้เก็งกำไรหุ้นเข้า MSCI คือ AWC,KTC,TOA ส่วนหุ้นออกเป็นลบคือ BANPU แนวรับคือ 1230 หรือ 1200และแนวต้าน 1280-1300 จุดตัดขาดทุนต่ำกว่า 1255 จุด
# Stock Pick Today :
AWC เก็งกำไร คาดได้เพิ่มใน MSCI รอบนี้ ประกาศราว 12 พ.ค. และเริ่มใช้ 29 พ.ค.63 และได้ประโยชน์จากการคลายล็อคดาวน์ เพราะทำธุรกิจการถือหุ้นในบริษัทที่ทำโรงแรม เช่น Meridian, Marriott,Hilton บริการ ค้าปลีก ค้าส่ง เช่น Asiatiqe,Gateway และอาคารสำนักงาน เช่น Empire Towerและ Athenee Tower ราคาหุ้นปัจจุบันยังต่ำกว่าราคาจองที่ 6.00 บาทอยู่ 15% และราคาพื้นฐานใน IAA Consensus มี Median ที 5.55 บาท มีส่วนเพิ่ม 9%การวิเคราะห์ทางเทคนิค: สั้น...ภาพเป็นบวกเล็กๆ อาจมีรีบาวด์สั้นๆได้ ส่วนระยะกลางยังเป็นโครงสร้างขาลงกดดัน ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick& Indicators มีสถานะ(เพียง)บวกเล็กๆ {“ปิดบวกเล็กน้อย”เหนือ“SMA10วัน” (โดยยังอยู่ใต้อิทธิพลของ“โครงสร้างขาลง–ระยะกลาง”ที่กดดัน)} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯวันนี้“แกว่ง”แบบมีลุ้นรีบาวด์ฯสั้นๆก่อน (มี“SMA10”หนุน / แล้วจึงลงต่ำ,ตามมา)ได้ แนวต้าน 1280 (หรือ 1290 – 1300) จุด {แนวตัดขาดทุน “ต่ำกว่า 1255”(แนวรับย่อย “1230 / 1200”) จุด} Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com
Inside Story
Key Drivers TODAY : ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ
Company Guide : BJC (ถือ -ราคาพื้นฐาน 45.00)
VGI (Fully Valued -ราคาพื้นฐาน 6.65)
Flash Note : AEONTS (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 170.00)
DELTA (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 47.00)
Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
+/- รอผลประชุม FOMC คาดตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00-0.25%
# นักลงทุนจับตาผลการประชุมเฟดซึ่งจะมีการแถลงในวันพุธที่ 29 เม.ย.ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าของวันพฤหัสบดีที่30 เม.ย.ตามเวลาไทย โดยคาดว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00-0.25% นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ซึ่งจะจัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมนโยบายการเงิน
- สหรัฐ: นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ ก่อนที่จะประกาศผลประกอบการ
# นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ก่อนที่บริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่งจะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ โดยอัลฟาเบทมีกำหนดเปิดเผยผลประกอบการหลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการเมื่อคืนนี้ ขณะที่เฟซบุ๊ก และไมโครซอฟท์ จะเปิดเผยผลประกอบการในวันพุธ ส่วนแอปเปิล และอเมซอนดอทคอม จะเปิดเผยผลประกอบการในวันพฤหัสบดี
- สหรัฐ: ติดตามสถานการณ์การคลายล็อกดาวน์และการเปิดเศรษฐกิจ หลังผู้ติดเชื้อพุ่ง
# นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขาย พร้อมกับจับตาสถานการณ์การคลายมาตรการล็อกดาวน์และการเปิดเศรษฐกิจในสหรัฐว่าจะมีความคืบหน้าเพียงใด หลังจากข้อมูลล่าสุดระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐพุ่งขึ้นทะลุระดับ 1ล้านรายแล้วในขณะนี้ ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในโลก
-/+ สหรัฐ: ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดิ่ง แต่ดัชนีราคาบ้านเพิ่มขึ้น
# ผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดิ่งลงสู่ระดับ 86.9 ในเดือนเม.ย. จากระดับ 118.8 ในเดือนมี.ค. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 87.9
# ขณะที่ผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ ระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐพุ่งขึ้น 4.2% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.9% ในเดือนม.ค.
- ตลาดหุ้นสหรัฐ: ดาวโจนส์ปิดลบ 32.23 จุด ขณะตลาดจับตาประชุมเฟด
# ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (28 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ก่อนที่บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่จะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงอัลฟาเบท เฟซบุ๊ก และไมโครซอฟท์ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาความคืบหน้าในการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ของสหรัฐ และผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีการแถลงในวันพุธที่ 29 เม.ย.ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าของวันพฤหัสบดีที่ 30 เม.ย.ตามเวลาไทย
- น้ำมัน : WTI ปิดลบ 44 เซนต์ นักลงทุนยังกังวลภาวะน้ำมันล้นตลาด
# สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (28 เม.ย.) โดยนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด และการที่คลังน้ำมันของสหรัฐกำลังกักเก็บน้ำมันใกล้เต็มความจุ นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่า กองทุนน้ำมันสหรัฐ (USO) จะเทขายสัญญาส่งมอบเดือนมิ.ย.ทั้งหมด เพื่อหันไปถือสัญญาที่มีระยะเวลาส่งมอบยาวนานกว่า
- • ทองคำ: COMEX ปิดลบ $1.6 นักลงทุนขายสินทรัพย์ปลอดภัยหลังสหรัฐคลายล็อกดาวน์
# สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (28 เม.ย.) โดยสัญญาทองคำยังคงได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนลดการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากรัฐหลายแห่งในสหรัฐเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์และเตรียมเปิดเศรษฐกิจอย่างไรก็ดี การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้ช่วยสกัดแรงลบของสัญญาทองคำเมื่อคืนนี้
- • ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่จะทยอยประกาศสัปดาห์นี้
# ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)ไตรมาส 1/2563 (ประมาณการเบื้องต้น), ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนมี.ค.,จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนมี.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโกเดือนเม.ย., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนเม.ย.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคการผลิตเดือนเม.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนมี.ค.
ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์
+ ศบค.เผยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 7 ราย เสียชีวิต 2 ราย
# ศบค. เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ 7 รายทำให้มีจำนวนผู้ป่วยสะสมรวมทั้งสิ้น 2,938 ราย จำนวนผู้ที่หายป่วยแล้วรวมทั้งสิ้น 2,652 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้นอีก 43ราย และวันนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 54 ราย
+ ครม.เห็นชอบเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโรค 16 ล้านราย และ เกษตรกร 10 ล้านราย
# คณะรัฐมนตรี (ครม.) มติเห็นชอบใช้เงินกู้ตามพ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 จำนวน16 ล้านราย และ เกษตรกร จำนวน 10 ล้านราย
-ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ 1Q63 ลดลงเป็น 47.2
# ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ Modern Trade (Modern Trade Sentiment Index : MTSI) ประจำไตรมาสที่ 1 ปี2563 อยู่ที่ระดับ 47.2 ลดลงจากไตรมาส 4/62 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 51.1 โดยดัชนีปรับตัวลดลงต่ำกว่า 50 (ซึ่งถือว่าเป็นระดับปกติ) เป็นครั้งแรกในรอบ 7 ไตรมาส หรือเกือบ 2 ปี นับตั้งแต่ที่เริ่มทำการสำรวจเมื่อไตรมาส 3/61 โดยดัชนี MTSI ปรับตัวลดลงในทุกภาคจากไตรมาสก่อนหน้า
-ททท.ทบทวนปรับประมาณการรายได้จากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวปีนี้ลงมาก
# ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ทบทวนปรับประมาณการรายได้จากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยปีนี้ ประเมินว่ารายได้จากการท่องเที่ยวในปีนี้จะลดเหลือ 1.14 ล้านล้านบาท ต่ำกว่าปี 62 ที่มีรายได้ราว 3 ล้านล้านบาทโดยคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะลดลงเหลือ 16 ล้านคน ต่ำกว่าเป้าหมายเดิมที่คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในไทยกว่า 39.8 ล้านคน ช่วยสร้างรายได้ประมาณ 7.4 แสนล้านบาท ขณะที่แนวโน้มจำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศคาดลดลงเหลือ 68 ล้านคนต่อครั้งต่ำกว่าเป้าหมายเดิมที่คาดว่าจะมีจำนวนกว่า 160 ล้านคนต่อครั้ง แต่ก็เป็นส่วนช่วยสร้างรายได้ให้กับประเทศประมาณ 4 แสนล้านบาท
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web