- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 27 April 2020 15:32
- Hits: 2693
บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 27-4-2020
Market Wrap-Up
- • SET ปิดวันที่ 24 เม.ย.63 ปิด -13.75 จุด อยู่ที่ 1,258.78 จุด มูลค่าการซื้อขาย 68,704 ลบ.ต่างชาติขาย 3,356 ลบ. สถาบันขาย 683 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 275 ลบ.ยอด NVDR มียอดขายสุทธิอยู่ที่ 1,753 ลบ.โดยมียอดซื้อหุ้น CENTEL,BBL,SCB,JAS,GULF และมียอดขายหุ้น KBANK,SAWAD,AOT,INTUCH,GPSC มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 605 ลบ หุ้นที่มีมูลค่า Short สูงคือ PTTEP,KBANK,GULF โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 1,602 สัญญาและมียอด Long สะสมตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 123,924 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 82 ลบ.
- • ตลาดหุ้นสหรัฐ Down Jones +1.11%, S&P500 +1.39% ,Nasdaq +1.65% ได้ปัจจัยหนุนรัฐจอร์เจียได้เปิดบริการธุรกิจขนาดเล็กในวันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ผ่านงบประมาณวงเงิน 4.84 แสน ล.ดอลลาร์ เพื่อช่วยเหลือธุรกิจ SME , รพ. และงบตรวจไวรัส ส่วนรายงานทางเศรษฐกิจคำสั่งซื้อสินค้าคงทนไม่รวมเครื่องบิน อาวุธ มี.ค. ขยายตัว +0.10% เทียบกับ ก.พ. -0.80% ตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี Stoxx 600 ปิด -1.10% หุ้นกลุ่มเดินทาง สันทนาปรับลดลง เช่นเดียวกับกลุ่มธนาคาร หลังคอมเมริช์ แบงก์ถูก S&P ลดอันดับความน่าเชื่อถือลง 1 ขั้น และมีมุมมองเชิงเชิงลบต่อดอยช์ แบงก์
Market View
- • ภาวการณ์ลงทุนตลาหุ้นสัปดาห์ที่ผ่านมาผันผวน ตาม WTI Futures พ.ค. ที่กำลังจะหมดอายุสัญญาลดลงจนติดลบครั้งแรกในประวัติศาสตร์การซื้อขายราคาน้ำมัน เนื่องจากสต็อคเก็บน้ำมันในเมืองคุชชิ่งใกล้เต็มความจำ ส่งผลให้นักลงทุนเลือกที่จะทิ้งสัญญามากกว่ารับส่งมอบ แต่สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบเริ่มฟื้นตัว หลังซาอุ ฯ เผยกลุ่มโอเปกพร้อมดำเนินทุกมาตรการเพื่อรักษาเสถียรภาพราคา ติดตามการประชุม รมว.พลังงานกลุ่มโอเปกในวันที่ 28 เม.ย. โดยล่าสุดซาอุ โอรามได้ประกาศลดกำลังการผลิตก่อนกำหนดในวันที่ 1 พ.ค. ส่วนสถานการณ์ระบาดไวรัส Covid-19 ในสหรัฐและยุโรปดีขึ้นต่อเนื่อง โดยอิตาลีเตรียมเปิดระบบเศรษฐกิจในวันที่ 4 พ.ค. ฝรั่งเศสวันที่ 11 พ.ค. นิวยอร์คคาดเริ่มงานก่อสร้างและภาคการผลิตในวันที่ 15 พ.ค. ประเด็นสำคัญสัปดาห์นี้วันจันทร์ ประชุม BOJ , พุธ GDP สหรัฐ Q1/63 และประชุม FOMC , พฤหัส GDP ยูโรโซน Q1/63 , ประชุม ECB สำหรับดัชนีหุ้นไทยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงาน โรงไฟฟ้า ส่วนกลุ่มธนาคารปรับลดลง หลังรายงานกำไร Q1/63 ลดลง -18.4 % YoY สัปดาห์นี้รอการประชุม ครม.วันอังคาร คาดจะสามารถปลดล็อคดาวน์ได้บางพื้นที่ และรายงานกำไร Q1/63 ของ SCC คาดที่ 7.2 พัน ลบ. -37% YoY, +2% QoQ / PTTEP คาดกำไรที่ 8.6 พัน ลบ. -31% YoY, -26% QoQ
Daily Strategy
- • ประเมินดัชนี SET ทรงตัวในกรอบแนวรับ 1,240 – 1,245 จุด แนวต้าน 1,270 – 1,280 จุด ระหว่างรอรายงานกำไร บจ. Q1/63 และสัปดาห์หน้าติดช่วงวันหยุดยาวปริมาณการซื้อขายอาจชะลอตัว ระยะสั้นแนะนำซื้อกลุ่มอาหาร CPF, GFPT, TFG
- • CENTEL* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 21.30 บาท) แนวโน้มผลประกอบการ 1Q63 ถูกกดดันจากสถานการณ์ COVID-19 ซึ่งส่งผลกระทบกับการดำเนินงานของทั้งธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร และจะแย่ลงต่อใน 2Q63 อย่างไรก็ตามคาดราคาหุ้นที่ลดลงได้รับรู้ปัจจัยเหล่านี้ไปแล้ว ระยะสั้นมอง sentiment บวกจากการทยอยปลดมาตรการ lockdown โดยกลุ่มธุรกิจอาหารที่คิดเป็นรายได้มากกว่า 70% จะเริ่มฟื้นตัวก่อน ในช่วงที่ยากลำบากบริษัทมีแผนปรับลด capex และค่าใช้จ่ายลง ขณะที่ฐานะทางการเงินมีงบดุลที่แข็งแกร่ง เงินสดในมือ 2.2 พันล้านบาท อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนต่ำที่ 0.55 เท่า ยังมีสภาพคล่องเพียงพอต่อการชำระหนี้ในปี 63 ทำให้คาดว่าจะประคองตัวผ่านวิกฤตไปได้ โดยคาดหวังการฟื้นตัวของผลการประกอบการในปี 64
- • STA (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย 14.90 บาท) ลุ้นการ Turn Around ได้ในปีนี้โดยธุรกิจดาวเด่นในกลุ่ม STA ที่น่าจะช่วยพลิกสถานการณ์คือธุรกิจถุงมือยางอย่าง STGT ที่เตรียมเข้าตลาดในปีนี้ โดยบริษัทคาดว่ากำลังการผลิตติดตั้ง Install Capacity ปี 2563 มีโอกาสปรับขึ้นมาที่ 3.19 หมื่นล้านชิ้น/ปี ขยับขึ้นมาจากปีก่อนถึง 4.84 พัน ล้านชิ้น (+17.8%YoY) จากการขยายโรงงานหาดใหญ่และตรัง สำหรับปีนี้จะเน้นเพิ่มสัดส่วนการผลิตถุงมือยางที่ใช้วัตถุดิบธรรมชาติอย่างยางพารามากขึ้น ซึ่งส่วนนี้ไทยมีข้อได้เปรียบด้านต้นทุนเพราะเป็นแหล่งยางพาราที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกประกอบกับค่าขนส่งที่ได้เปรียบต่างชาติ (ในประเทศ) ในส่วนของราคาขายถุงมือยางก็มีแนวโน้มสูงขึ้นตามอุปสงค์ที่ยังดี โดยยอดคำสั่งซื้อยังเต็มจนถึงเดือน ก.ค. ทำให้ทิศทางของอัตรากำไรขั้นต้นดีกว่าปีก่อน ในส่วนของกำไรสุทธิของ STA ปี 2563-2564 ตลาดประเมินไว้ที่ระดับ 1.38 พัน ลบ. และ 1.44 ลบ. พลิกจากขาดทุนในปี 2562 และ +4.34% ในปี 2564
Daily Key Factors
Oil Update (+) WTI Futures มิ.ย.ปิด+0.44 ดอลลาร์ อยู่ที่ 16.94 ดอลลาร์/บาร์เรล Brent Futures มิ.ย. ปิด +0.11 ดอลลาร์ อยู่ที่ 21.44 ดอลลาร์/บาร์เรล ผู้ผลิตสหรัฐบางรายได้เริ่มลดกำลังการผลิต หลังราคาน้ำมันดิบปรับลดลง ขณะที่ซาอุ ฯ ประกาศลดกำลังการผลิตก่อนกำหนดของกลุ่มโอเปกพลัสในวันที่ 1 พ.ค. ขณะที่เบเกอร์ ฮิวส์ รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 60 แท่น อยู่ที่ 378 แท่น
Gold Update (-) Gold Futures มิ.ย. ปิด -9.80 ดอลลาร์ อยู่ที่ 1,735.60 ดอลลาร์/ออนซ์ ถูกแรงขายทำกำไร หลังบริษัทเหมืองทองวางแผนเริ่มกลับมาผลิตอีกครั้ง ช่วยลดความกังวลด้านอุปทานทองคำ ขณะที่ดัชนี Dollar Index อ่อนค่า -0.05% อยู่ที่ 100.3904
Fund Flow (-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP สัปดาห์ที่ผานมาขายสุทธิ -744 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -512 ล้านดอลลาร์ ขายหุ้นอินโด -171 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -60.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้อ่อนค่าเล็กน้อย อยู่ที่ 32.42 บาทดอลลาร์สหรัฐ
(-) ดัชนี BDI ปิด -7 จุด อยู่ที่ 665 จุด
(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี อยู่ที่ 0.607 % , 2 ปี อยู่ที่ 0.225 %
(0) ค่าเงินหยวน off-shore แข็งค่าเล็กน้อย อยู่ที่ 7.0886/USD
(-) สหรัฐมีผู้ติดเชื้อไวรัส 965,426 ราย เสียชีวิต 54,856 ราย
(-) สเปนมีผู้ติดเชื้อไวรัส 226,629 ราย เสียชีวิต 23,190 ราย
(-) อิตาลีมีผู้ติดเชื้อไวรัส 197,675 ราย เสียชีวิต 26,644 ราย
Economic Calendar
ในประเทศ
สัปดาห์ที่ 4 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
30 เม.ย. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
ต่างประเทศ
28 เม.ย. US ดุลการค้าสินค้า (มี.ค.)
US รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากซีบี (เม.ย.)
29 เม.ย. US สต๊อกน้ำมันรายสัปดาห์
US ดัชนีจีดีพีไตรมาส 1Q/63
30 เม.ย. US การประชุม FOMC
US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
CH ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีน (เม.ย.)
EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (เม.ย.)
EU ดัชนีจีดีพีไตรมาส 1Q/63
EU การประชุม ECB
1 พ.ค. US ดัชนี PMI ภาคการผลิตจากสถาบันไอเอสเอ็ม (ISM) (เม.ย.)
Theme Strategy
(1) กลุ่ม Defensive Stock BCPG*, BGRIM*, BPP*, GPSC*, GULF*, ADVANC, INTUCH*, BDMS*, BCH*
(2) กลุ่มที่อิงการบริโภคในปรเทศ ADVANC, INTUCH*
(3) กลุ่มรับประโยชน์ ศก.ชะลอ NPL เพิ่ม BAM*, CHAYO*, JMT*
(4) กลุ่มส่งออกอาหารเงินบาทอ่อนค่า CPF*, GFPT*, TFG*, TU*
(5) กลุ่มการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจอีอีซี AMATA, WHA
(6) กลุ่มรับประโยชน์จากราคาน้ำมันขาลง IRPC, TOP, PRM*
(7) กลุ่มรับประโยชน์จากปลดล็อก พ.ร.บ.งบประมาณปี 63 CK, STEC, SEAFCO*, TASCO*
*หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%
Today Fundamental Research: DTAC
Monthly Portfolio Apr 2020: ADVANC, BJC*, BPP*, CPALL*, CPF*, TU*
Analysts
Apichai Raomanachai No. 002939
Nopporn Chaykaew No. 043964
Piyatat Pasommanatsakul No. 081741
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web