- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 27 April 2020 15:04
- Hits: 2299
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 27-4-2020
“คลายล็อคดาวน์ น้ำมันผันผวน P/E ตลาดสูง” • หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : --
ภาวะตลาดและปัจจัยก่อนหน้า : SET วันศุกร์ปรับลง ยาต้านไวรัสได้ผลน้อย น้ำมันฟิวเจอร์ลด ปิด -13.75 จุด ที่ 1258.78 จุด มูลค่าซื้อขาย 69 พันลบตลาดปรับลงคล้ายเพื่อนบ้าน มีแรงขายหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า และ BAM ขายสุทธิสูง-ต่างประเทศ ซื้อสุทธิมาก-รายย่อยต้นปีถึงปัจจุบันต่างชาติขายเป็น 159 พันลบ.แล้ว
# ปัจจัยและกลยุทธ์: SET ช่วงสั้นมีโอกาสผันผวนสูง ปัจจัยบวกและลบคานกันแรง สัปดาห์นี้ติดตามเรื่องหลักการคลายล็อคดาวน์ทั้งต่างประเทศและไทยรวมทั้งประกาศกำไรกลุ่มใหญ่คือ พลังงานและวัสดุก่อสร้าง ปัจจัยบวกคือ ทรัมป์ลงนามมาตรการเยียวยา 4.8 แสนล้านเหรียญแล้ว ดาวโจนส์วันศุกร์เพิ่มดี 260 จุดน้ำมันดิบฟื้นตัวหลังลงลึก แต่ยังวางใจไม่ได้ ผู้ติดเชื้อไทยล่าสุดน้อย 15 ราย ดัชนีกังวลลดลงเป็น 36 จุด และตลาดหุ้นเพื่อนบ้านเช้านี้ปรับขึ้น ด้านปัจจัยลบคือตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐไม่ดี ล่าสุดที่ประกาศคือ คำสั่งซื้อสินค้าคงทน และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และในแง่ประเมินมูลค่าตลาดฯ P/E ปี 63 สูงเป็น 17 เท่า จากค่าเฉลี่ย 18 ปีที่ 14 เท่า ดัฃนีปรับขึ้นมาแล้ว 20% ตั้งแต่ไปทำต่ำสุดที่กลางมี.ค.63 สำหรับดาวโจนส์และน้ำมันล่วงหน้าเช้านี้กลับปรับลง DTAC งบออกมาปานกลางกำไรหลัก1Q63 โตแค่ 2% กลยุทธ์ระยะสั้น เข้าไว-ออกไว เล่นรอบ คาดดัชนีซื้อ-ขายในกรอบ 1240-1285 จุด ด้านกลยุทธ์ระยะกลาง-ยาว คือ ทยอยถอยรับหลักทรัพย์พื้นฐานดีที่แนะนำซื้อ Defensive- ADVANC,CHG ปันผลสูง-KKP,TISCO,AP,LH เติบโต-ฟื้นตัว- MTC,STEC,VGI,DELTA กลุ่มพาณิชย์เด่นจากนโยบายรัฐแจก 5 พันบาท- CPALL,BJC,HMPRO บาทอ่อน-ส่งออกดี- CPF ขนส่ง- หุ้นปรับลงมากไป BEM,BTS
หากห้างสรรพสินค้ากลับมาเปิดได้ 1 พ.ค.63 จะดีกับศูนย์การค้าเช่น CPN, CPNREIT และพาณิชย์ COM7,HMPRO สื่อสาร เช่น ADVANC ติดตามกลุ่มเดินทาง-ท่องเที่ยวจะกลับมาหลังคลายล็อกดาวน์เพราะจะมีผลกับหุ้นสายการบิน และโรงแรม สัปดาห์นี้ปล่อยกู้ซอฟท์โลนให้โรงแรม-สายการบินช่วยทำให้รอดระวัง AOTช่วยเหลือคู่ค้าเพิ่ม ทำให้มีภาระสูงขึ้น ไม่ดีกับงบการเงินปีนี้ แนวรับคือ 1230 หรือ 1200 และแนวต้าน 1270-1280 จุดตัดขาดทุนต่ำกว่า 1250 จุด
# Stock Pick Today : STEC คาดใกล้เซ็นงานสนามบินอู่ตะเภาเฟสหนึ่ง 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งบริษัทคาดว่าจะอยู่ในช่วง พ.ค.-มิ.ย.63 และเริ่มก่อสร้างได้ช่วงปลายปี 63 นี้ ข้อดีคือ จะช่วยเสริมงานในมือที่สูงอยู่แล้ว ณ สิ้นปี 62 เป็น 96 พันล้านบาท หรือเพื่มขึ้นถึง 21% ด้วยการเข้าไปถึอหุ้นในกิจการร่วมค้า BBS (BA45%, BTS 35%, และ STEC 20%) ซึ่งชนะการประมูลบริหารงานสนามบินอู่ตะเภา แม้ปีนี้งานจะน้อย รัฐมุ่งไปแก้ปัญหาโควิด-19 ก่อน แต่คาดว่างานรถไฟฟ้าสายสีส้มมูลค่า 90 พันล้านบาท จะยังเกิดขึ้นในปีนี้และ STEC ก็มีโอกาสจะได้อีก ฐานะการเงินแข็งแกร่ง เป็นเงินสดสุทธิ ให้ราคาพื้นฐาน 17.00 บาท
การวิเคราะห์ทางเทคนิค: สั้น...ภาพเป็นลบเล็กๆ อาจมีรีบาวด์สั้นๆได้ ส่วนระยะกลางยังเป็นโครงสร้างขาลงกดดัน ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick &Indicators เริ่มให้ภาพลบเล็กๆ {“ปิดลบ”เหนือ“SMA10วัน” (โดยมี“โครงสร้างขาลง – ระยะกลาง”กดดัน)} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯสัปดาห์นี้“แกว่ง”แบบให้น้ำหนักกับการลง แต่“ค่าบวก”(มี“SMA10”หนุน) จะช่วยให้มีรีบาวด์ฯสั้นๆก่อน(แล้วจึงลงต่ำ,ตามมา)ได้ แนวต้าน 1270 – 1280 (หรือ 1300) จุด {แนวตัดขาดทุน“ต่ำกว่า 1250” (แนวรับย่อย “1230 / 1200”) จุด}
Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com
Inside Story
Key Drivers TODAY : ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ
Flash Note : BCP (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 21.00)
DTAC (ถือ -ราคาพื้นฐาน 42.00)
In The News : ข่าวเด่นวันนี้
Turnover List Watch : สัปดาห์นี้ไม่มีหลักทรัพย์ติด Cash Balance ยกเว้น DW หลายรุ่น
Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
+/• รัฐจอร์เจียของสหรัฐเป็นรัฐแรกที่ผลักดันแผนผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์
# บรรดานักลงทุนขานรับข่าวที่ว่า รัฐจอร์เจียของสหรัฐเป็นรัฐแรกที่ผลักดันแผนผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ โดยจะอนุญาตให้ธุรกิจขนาดเล็กเปิดทำการในวันศุกร์ (24 เม.ย.) แม้ไม่ได้รับความเห็นชอบจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพก็ตาม
+ สหรัฐ: ปธน.ทรัมป์ลงนามบังคับใช้กฎหมายมาตรการเยียวยาธุรกิจขนาดเล็กและโรงพยาบาลแล้ว
# ปธน.ทรัมป์ลงนามบังคับใช้กฎหมายมาตรการเยียวยาธุรกิจขนาดเล็กและโรงพยาบาลที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 วงเงิน 4.84 แสนล้านดอลลาร์ หลังจากที่วุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอนุมัติร่างกฏหมายดังกล่าวก่อนหน้านี้
-/+ สหรัฐ: ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ ลดลง 14.4% ในเดือนมี.ค.แต่พื้นฐานเพิ่มเล็กน้อย 0.1%
# ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน, รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ดิ่งลง 14.4% ในเดือนมี.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 1.2% ในเดือนก.พ. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนจะร่วงลง 11.9% ในเดือนมี.ค. โดยการทรุดตัวของยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในเดือนมี.ค.ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
# ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐานซึ่งเป็นคำสั่งซื้อสินค้าทุนที่ไม่รวมเครื่องบิน และสินค้าด้านอาวุธ และเป็นตัวบ่งชี้แผนการใช้จ่ายของภาคธุรกิจ เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนมี.ค. หลังจากลดลง 0.8% ในเดือนก.พ. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐานอาจร่วงลง 6.0% ในเดือนมี.ค.
-สหรัฐ: ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 71.8 ในเดือนเม.ย.
# ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 71.8 ในเดือนเม.ย. จากระดับ 89.1 ในเดือนมี.ค. แต่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 67.0 โดยดัชนีความเชื่อมั่นร่วงลงเป็นเดือนที่ 3 แล้ว ท่ามกลางความกังวลกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
+ ตลาดหุ้นสหรัฐ: ดาวโจนส์ปิดบวก 260.01 จุด ขานรับผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์,กม.เยียวยา
# ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (24 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานข่าวที่ว่า บางรัฐของสหรัฐเตรียมที่จะผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์แล้ว หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ชะลอตัวลงนอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ลงนามในร่างกฎหมายมาตรการเยียวยาธุรกิจขนาดเล็กและโรงพยาบาลที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 วงเงิน 4.84 แสนล้านดอลลาร์
+ น้ำมัน : WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 44 เซนต์ หรือ 2.7% จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐลดลง
# สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ (24 เม.ย.) และบวกขึ้นเป็นวันที่ 3ติดต่อกันแล้ว โดยได้ปัจจัยหนุนจากข้อมูลที่บ่งชี้ว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐลดลง และประเทศในกลุ่มโอเปกพลัสเริ่มปรับลดการผลิตน้ำมัน
- • ทองคำ: COMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 9.8 ดอลลาร์ หรือ 0.56% มีแรงขายหลังปรับขึ้นมาก
# สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ (24 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขายสัญญาทองคำออกมาเพื่อทำกำไรหลังจากราคาปรับตัวขึ้นถึง 4 สัปดาห์ในรอบ 5 สัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่การปรับฐานทางเทคนิคถ่วงราคาทองลง และการซื้อขายที่ลดลงในตลาดพันธบัตรสหรัฐได้ลดความต้องการซื้อทองในฐานะแหล่งลงทุนที่ปลอดภัยด้วย
ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์
+ ศบค.เผยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 15 ราย และไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม
# ศบค. เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ 15 รายทำให้มีจำนวนผู้ป่วยสะสมรวมทั้งสิ้น 2,922 ราย จำนวนผู้ที่หายป่วยแล้วรวมทั้งสิ้น 2,594 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้นอีก 47ราย และวันนี้ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม คงยอดผู้เสียชีวิตสะสม 51 ราย
+ นายกฯเรียกประชุมหารือกำหนดมาตรการต่างๆสกัดโควิด-19 ก่อนเข้าครม.อังคารนี้
# พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เรียก นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เข้าพบในช่วงเช้าวันศุกร์ คาดว่าเป็นการหารือการกำหนดมาตรการต่าง ๆ ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ก่อนที่จะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ในวันที่ 28 เม.ย.นี้ โดยใช้เวลาหารือเกือบ 1 ชั่วโมง
+ ธปท.พร้อมให้สถาบันการเงินยื่นรายชื่อลูกหนี้ SME ที่จะขอความช่วยเหลือ
# ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท. พร้อมให้สถาบันการเงินยื่นรายชื่อลูกหนี้ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และจำนวนเงินที่จะขอไปให้ความช่วยเหลือได้ตั้งแต่วันที่ 27 เม.ย.63 เป็นต้นไป และเมื่อธปท. ตรวจสอบว่าเป็นไปตามหลักเกณฑ์แล้ว สถาบันการเงินจะแจ้งผลการอนุมัติให้ทราบภายใน 10 วัน โดยคาดว่าจะเร่งโอนเงินให้ลูกหนี้ได้ภายในปลายสัปดาห์หน้า
+ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะเป็นผู้พิจารณาการจ่ายเงินเยียวยาให้กับเกษตรกรตามฐานข้อมูลที่มีอยู่
# ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการกลั่นกรองโครงการที่จะใช้เงินจากการ พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะเป็นผู้พิจารณาการจ่ายเงินเยียวยาให้กับเกษตรกรตามฐานข้อมูลที่มีอยู่โดยขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป จนกว่าเรื่องจะผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web