- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 23 April 2020 12:36
- Hits: 1377
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง: บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 23-4-2020
กลยุทธ์การลงทุนรายวัน
เมื่อวานนี้ SET ย่อแล้วดีดตัว ปิดในแดนบวก จากแรงหนุนของการสลับมาซื้อในหุ้นกลุ่ม Defensiveเช่น ไฟฟ้า สื่อสารเป็นต้น โดย ณ. สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,261.81 (+8.89 จุด) มูลค่าการซื้อขาย 7.6หมื่นล้านบาท (เทียบกับวันก่อนหน้า 5.8 หมื่นล้านบาท)โดยนักลงทุนต่างชาติ ขายหุ้นไทย 2,756 ลบ. (นักลงทุนสถาบันซื้อ 50 ลบ.) ส่วนตลาด TFEX นักลงทุนต่างชาติเปิด Short Futures ที่ 4,315สัญญา)
เมื่อคืนที่ผ่านมา :สต๊ฮกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 15 ล้านบาร์เรล มากกว่าคาดที่ 13.7ล้านบาร์เรลราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวท่ามกลางปัจจัยบวกสลับลบ : ราคาน้ำมันดิบโลกยังคงแกว่งผันผวนท่ามกลางปัจจัยบวกสลับลบ โดยวานนี้ตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ รายสัปดาห์รายงานออกมาขยายตัวสูงถึง 15 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่ตลาดคาดที่จะขยายตัว 13.7 ล้านบาร์เรล สะท้อนความต้องการน้ำมันโลกยังคงอ่อนแอ หลังการแพร่ระบาด COVID-19 กดดันกิจกรรมทางเศรษฐกิจโลกหยุดชะงัก แต่อย่างไรก็ดียังมีปัจจัยบวกที่เข้ามาคือ ถ้อยแถลงของโดนัล ทรัมป์ ที่บ่งชี้ว่าเขาได้สั่งให้กองทัพเรือสหรัฐให้ทำการยิงและทำลายเรือของอิหร่านได้ หากมีท่าทีก่อให้เกิดอันตรายต่อเรือสหรัฐ เพิ่มความตึงเครียดมากขึ้น หนุนราคาน้ำมันดิบโลกวานนี้ปรับเพิ่มขึ้น +3.77สู่ระดับ 13.78 เหรียญต่อบาร์เรล อาจส่งผลให้ราคาหุ้นกลุ่มพลังงานมีการรีบาวน์หนุน
SET เพิ่มเติมในวันนี้ ผสานกับปัจจัยในประเทศที่สัญญาณการแกว่งตัวของ SET ยังค่อนข้างแข็งแกร่ง ด้วยแรงหนุนจาก sentiment เชิงบวกต่อตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ของไทยทำจุดต่ำสุดในรอบ 1 เดือน โดยมีแรงซื้อเด่นในกลุ่มไฟฟ้า (GULF, GPSC,BGRIM, EGCO, RATCH) ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีจุดเด่นจากรายได้ที่สม่ำเสมอ กระแสเงินสดแข็งแกร่ง ซึ่งคาดในระยะกลางยังคงมีโอกาสแกว่งขึ้นต่อ ดังนั้นเราเชื่อว่าอาจมีซื้อเพิ่มเติมในหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆที่มีรายได้สม่ำเสมอ กระแสเงินสดดี เป็นสินค้าหรือบริการที่จำเป็น และมีโมเดลธุรกิจที่ดี เช่น กลุ่มขนส่ง (BEM, BTS, AOT), สื่อสาร(ADVANC), การแพทย์ (BDMS), อาหาร (OSP, CBG, RBF) , ค้าปลีก (CPALL,CPN, CRC) และกลุ่มบริหารสินทรัพย์ (BAM, JMT) ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อน SETต่อไป
Investment Strategy : วันนี้คาด SET แกว่งขึ้น ประเมิน แนวรับ 1,230 ต้าน1,280 จุด แนะสัดส่วนเก็งกำไร 20% ของพอร์ต เน้น “BAM, BEM, CBG, EGCO”
กลยุทธ์การลงทุนรายวัน
SET Index : เยี่ยม SET ม้วนกลับมาปิดในกรอบ uptrend channel ได้อย่างยอดเยี่ยม สะท้อนถึงความไม่อยากลด positionของนักลงทุนสถาบัน แม้ว่าหุ้นกลุ่มน้ำมันและ ธนาคาร มีประเด็นลบ โดยหุ้นโรงไฟฟ้า ไอซีที เป็นตัวรับเม็ดเงินที่ออกจากกลุ่มทั้ง 2 เราคาด SET จะเดินทางในเชิงบวกต่อได้วันนี้
กลยุทธ์การลงทุน มีหุ้น : ตลาดย่อปรับฐานไม่หลุดกรอบ uptrend channel ด้านล่าง 1245 ถือต่อได้ ไม่มีหุ้น : เทรดระหว่างวันไม่หลุด1253 เข้าซื้อเล่นสั้นได้ หากมีหลุดลงมา ไปรอซื้อที่ 1245+/-แนวรับ : 1253/1270แนวต้าน :1270/1300 Tiger Picks :GFPT : ซื้อแนวรับ : 10.70/ 11.00 แนวต้าน :11.40/12.00 ตัดขาดทุน : 10.40 CBG : ซื้อสะสมแนวรับ : 77.00 –78.25แนวต้าน :80.00/82.00ตัดขาดทุน : 76.00
ปัจจัยในประเทศ :ปัจจัยต่างประเทศ
ติดตามตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19การรายงานงบ 1Q63
23 เม.ย. ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
รายสัปดาห์ US, ยอดขายบ้านใหม่
US, PMI ภาคการผลิตและบริการ
ของ US & EU (เม.ย.)
24 เม.ย. ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนUS
(มี.ค.), ดัชนีความเชื่อมั่น US (เม.ย)
ทอท.อนุมัติกลุ่ม NWR สร้างรันเวย์เส้นที่ 3 คาด
ปีนี้ผู้โดยสารลด 53% (ผู้จัดการรายวัน 360
องศา)
ความเห็น : กลุ่ม NWR ชนะสร้างรันเวย์ 3 วงเงิน
9.6 พันล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 7.7% ใน
ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นของ NWR ต่ำ 5-7%
แนวโน้ม 1Q63 ผลประกอบการจะยังขาดทุนต่อ
ช่วงนี้ชะลอการลงทุน
DELTA รับจีนกลับมาผลิต ส่องเป้ารายได้ปีนี้โต25% ความเห็น : การกลับมาผลิตของโรงงานในจีนอีกครั้ง หลังถูกหยุดชะงักจาก COVID-19 ทำให้supply chain ของกลุ่มอิเล็คทรอนิกส์เริ่มคลายความกังวล เราประเมินโมเมนตัมยอดคล้ายจะสอดคล้องกับค่าเงินบาทที่อ่อนค่า เราประเมินแนวโน้มกำไรจะเร่งตัว QoQ ในช่วง 1Q-2Q สะท้อนการผ่านจุดต่ำสุด เราชอบ HANA มากสุดในกลุ่ม
กลยุทธ์การลงทุน
BAM (ราคาเป้าหมาย 25.0 บาท)
เป็นผู้นำกลุ่มบริหารสินทรัพย์ของประเทศที่มีฐานสินทรัพย์แข็งแกร่งที่คิดเป็น 47% ของอุตสาหกรรม ซึ่งสามารถแปลงเป็นกระแสเงินสดได้สูงกว่า 10,000ลบ./ปี และมีปันผลสูงกว่า 5% นอกจากนี้โมเดลธุรกิจยังมีความทนทานต่อภาวะที่เศรษฐกิจมีความผันผวน ส่วนสถานการณ์ NPLs ในระบบมีทิศทางเร่งตัว และแนวโน้มต้นทุนทางการเงินลดลงยังเป็นปัจจัยบวกต่อการเติบโตของบริษัท ในระยะกลาง-ยาว
Tata Steel (Thailand) (TSTH)
Results Review ผลประกอบการ 4Q62/63
TSTH ประกาศผลประกอบการ 4Q62/63 (ม.ค.-มี.ค.2563) พลิกฟื้นมามีกำไรที่เด่นถึง 100 ล้านบาท เทียบกับขาดทุน 63 ล้านบาท ในไตรมาสก่อน และ ขาดทุน 117 ล้านบาท ในปีก่อน ได้แรงหนุนจากปริมาณขายเหล็กเส้นและเหล็กลวดที่เพิ่มขึ้นเป็น 320,000 ตัน (+12%QoQ, +5%YoY) จากเป็นช่ววไฮซีซั่น และ ราคาขายที่ดีขึ้นจากไตรมาสก่อน 16,073 บาท/ตัน (+2%QoQ, -11%YoY) รวมแล้วมูลค่ายอดขายเท่ากับ 5,143 ล้านบาท (+15%QoQ, -6%YoY) ส่วนต้นทุนเศษเหล็กปรับลดลง ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นเป็น 5.7% จาก 2.2% ในไตรมาสก่อน และ 1.4% ในปีก่อน ไตรมาสนี้ควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารได้ดี 155 ล้านบาท (-6%QoQ, +1%YoY) ภาระดอกเบี้ยเงินกู้ลดลงเหลือเพียง 6 ล้านบาท (-42%QoQ, -74%YoY) จาก TSTH มีกระแสเงินสดในรูป EBITDA สูงถึง 655 ล้านบาท มีการชำระหนี้ต่อเนื่องทำให้ภาระหนี้มีดอกเบี้ยลดลงเหลือเพียง 502 ล้านบาท (-72%YoY)
แนวโน้มผลประกอบการ
การแพร่ระบาดของ Covid-19 ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจ และ การลงทุนในประเทศ จากที่มีการล็อคดาวน์บางส่วน โดยอุตสาหกรรมเหล็กยังประสบปัญหาจากอุปทานที่เกิดจากผู้ผลิตจากเตาหลอมเหนี่ยวนำไฟฟ้า (Induction furnace) เพิ่มขึ้น นอกจากนี้เศรษฐกิจโลกที่เข้าสู่ภาวะถดถอย และ เหล็กในจีนที่ล้นตลาดทำให้ยังมีปัญหาการนำเข้าเหล็กลวดจากต่างประเทศ จะกดดันผลประกอบการของ TSTH ไตรมาส 1Q63/64 (เม.ย.-มิ.ย. 2563) กลับมาทรุดลงใหม่
คำแนะนำการลงทุน
ราคาหุ้น TSTH ปัจจุบันซื้อขายซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชีต่อหุ้น 1.08 บาท ภาวะตกต่ำของอุตสาหกรรมเหล็กของโลก ทำให้หุ้นกลุ่มเหล็กชั้นนำของโลกซื้อขาย P/BV ค่า Median ที่ต่ำเพียง 0.4 เท่า เพื่อให้สอดคล้องกับอุตสาหกรรมเหล็กของโลกเราประเมินราคาเป้าหมาย อิงกับ ค่าเฉลี่ย 10 ปี Forward P/BV – 2SD = 0.53x จะได้ราคาเป้าหมายใหม่เท่ากับ 0.55 บาท ลดลงจากเดิม 0.85 บาท ซึ่งอิงค่าเฉลี่ย 10 ปี Forward P/BV = 0.78x แม้ว่าราคาหุ้นจะซื้อขายต่ำกว่าราคาเป้าหมาย เราคงแนะนำ ถือ จากอุตสาหกรรมเหล็กยังมีความไม่แน่นอนสูง
ความเสี่ยง
ราคาเหล็กผันผวน, อุตสาหกรรมเหล็กยังล้นตลาด, ความต้องการอ่อนแอ
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web