- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 23 April 2020 11:22
- Hits: 1738
บล.เคจีไอ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 23-4-2020
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
บวกต่อ และน่าจะเหวี่ยงแรงต่อไป
KGI ประเมิน SET Index วันพฤหัสฯ ปรับขึ้นและยังผันผวนแรง... หลังจากเมื่อวานนี้ ดัชนีฯ เหวี่ยงแรงตลอดทั้งวัน เทรดแดนลบในช่วงเช้าก่อนที่แรงซื้อในหุ้นเสี่ยงต่ำเช่นกลุ่มสื่อสารและกลุ่มไฟฟ้าผลักดัน SET ฟื้นตัวแรงกว่าคาดในช่วงบ่าย ปิดบวก 0.71%... สำหรับในวันนี้ปัจจัยต่อตลาดหุ้นดูเป็นบวกมากขึ้น ได้แก่ i) ราคาน้ำมันมีเสถียรภาพมากขึ้น หลังสัญญาน้ำมันล่วงหน้าเดือน พ.ค. หมดอายุไปแล้ว และนักลงทุนตอบสนองเชิงบวกกับข่าวที่ว่าสหรัฐฯ สั่งยิงเรือปืนของอิหร่านทุกลำที่มีการรุกล้ำเข้ามา ทั้งนี้ราคาน้ำมันสหรัฐฯ ล่วงหน้าเดือน มิ.ย. และน้ำมันเบรนท์ ปรับขึ้น 19.1% และ 6.5% ตามลำดับ ii) ความคาดหวังต่อการเปิดประเทศยังอยู่ในตลาด หลังเยอรมันเตรียมเปิดเผยรายละเอียดการเปิดเมืองเร็วๆ นี้ และอิตาลีกำหนดการเปิดเมืองบางส่วนในวันที่ 4 พ.ค. (แต่ในฝั่งสหรัฐฯ ล่าสุดทรัมป์ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยต่อแผนเปิดรัฐจอร์เจียในวันที่ 24 เม.ย. นี้) iii) สถานการณ์ Covid-19 ในประเทศไทยยังดูดีขึ้นต่อเนื่อง เมื่อวานนี้ ศบค. รายงานจำนวนผู้ติดเชื้ออยู่ที่เพียง 15 คน ส่งผลให้นักลงทุนยังคงคาดหวังถึงการผ่อนคลายมาตรการเว้นระยะทางสังคมต่างๆ ซึ่งอาจเริ่มขึ้นในเดือน พ.ค. นี้... อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินความผันผวนของ SET Index จะยังสูงต่อไป เนื่องจากดัชนีฯ ปัจจุบันเทรดเกินมูลค่าพื้นฐานของปี 2563 ไปแล้ว ขณะที่สถานการณ์ในตลาดน้ำมันยังไม่มีความแน่นอน
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร CPF*, JMART, EPCO
CPF* (เป้าพื้นฐาน 35 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 27 บาท / แนวต้าน 29 - 30 บาท (Trailing stop 26.5 บาท) 2) Sentiment บวกจากตัวเลขการส่งออกหมวดอาหารที่ปรับตัวบวก +3.9% YoY ในเดือน มี.ค. และคาดจะยังรับอานิสงส์จากราคาเนื้อสัตว์ที่ทรงตัว (โรคระบาดในหมูที่ต่างประเทศ) ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ (ถั่วเหลือง + ข้าวโพดในตลาดต่างประเทศ) ลดลงทำจุดต่ำใหม่ต่อเนื่อง 3) บ.ลูก ที่ฮ่องกงรายงานผลการดำเนินงานโตเด่น YoY สะท้อนแนวโน้มผลการดำเนินงานของ CPF* (ที่มา: นสพ ข่าวหุ้น)
JMART (เป้า Consensus 12.3 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 6.7 บาท และ 6.6 บาท / แนวต้าน 7.1 บาท หาก Breakout ผ่านได้ประเมินแนวต้านถัดไป 7.8 บาท (Stop loss 6.1 บาท) 2) ประเมินรับ Sentiment บวกจากการเปิดตัว iPhone SE ใหม่ราคาถูก คาดกระแสตอบรับดีในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว 3) ประเมินธุรกิจของ บ.ลูก อย่าง SINGER (รับประโยชน์จากมาตรการภาครัฐฯ) และ JMT* (ผู้บริหารคาดผลการดำเนินงานยังโต YoY) 4) PE ปีนี้ยังต่ำเพียง 10.8 เท่า แม้จะมี Downside การปรับลดประมาณการฯแต่เชื่อว่า PE ยังต่ำกว่ากลุ่มค้าปลีกโดยเฉลี่ย ... คาดรับอานิสงส์บวกจากความคาดหวังการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์โดยเฉพาะในพื้นที่ห้างสรรพสินค้า
EPCO (เป้าพื้นฐาน 5.1 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 3.3 บาท และ 3.2 บาท / แนวต้าน 3.44 บาท (Trailing stop 3.1 บาท) 2) ที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) โดยใช้ชื่อย่อใหม่ EP และอยู่ระหว่างดำเนินการย้ายหมวดการซื้อขายหุ้น จากหมวดสื่อสิ่งพิมพ์ เป็นหมวดพลังงาน คาดมีโอกาสถูก Re-rate PE ขึ้น (จากเดิมธุรกิจสิ่งพิมพ์ที่ PE ต่ำเพราะแนวโน้มอุตสาหกรรมฯไม่ดี) 3) แนวโน้มผลการดำเนินงานจะมี Upside จากธุรกิจบรรจุภัณฑ์ (กล่องกระดาษและกล่องลูกฟูก) ที่ได้อานิสงส์การส่งสินค้าออนไลน์ ... ขึ้น XD ปันผล 0.20 บาท/หุ้น วันที่ 28 เม.ย.
หุ้นมีข่าว
(-) พิษไวรัสกระทบเที่ยวบินลด 50% (ไทยโพสต์) AOT* ลุ้นฟื้นตัว ต.ค.64 / กพท.ถกแอร์ไลน์กลับมาให้บริการ 'โควิด-19' พ่นพิษ ฉุด 'เที่ยวบิน-ผู้โดยสาร' ทอท.ปี 63 ลดฮวบ 50% ลุ้นกลับมาฟื้นตัวคล้ายปี 62 ในช่วง ต.ค.64 ด้าน กพท.หารือด่วน 9 สายการบินในประเทศ 23 เม.ย.นี้
(+) CPF* ปลื้มผลงาน CPP ในฮ่องกง โชว์งบไตรมาส 1/63 กำไรพุ่ง 130 ล้านดอลลาร์ (ข่าวหุ้น) CPF* แจ้งบริษัทย่อย CPP ในตลาดหุ้นฮ่องกง โชว์กำไรไตรมาส 1/63 ประมาณ 130 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/62 ที่มีกำไรประมาณ 42 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากราคาสุกรในเวียดนามสูงขึ้น
(+) DELTA* รับจีนกลับมาผลิต ส่องเป้ารายได้ปีนี้โต 25% (ทันหุ้น) DELTA* แวว Q1/2563 เด่น ออเดอร์ในมือทยอยส่งมอบได้ตามกำหนด จีนกลับมาเดินเครื่องเกือบ 100% ส่วนตลาดยุโรปต้องจับตาโควิด-19 ยังไม่บรรเทา กดดันยอดขายช่วงโค้ง 2/2563 ชูเป้าหมายรายได้รวมปี 2563 โตไม่ต่ำกว่า 25%
(+) ออมสินแบ่งเค้กซอฟท์โลน MTC*-SAWAD* รับหมื่นล้าน (ข่าวหุ้น) บอร์ดแบงก์ออมสินเพิ่มเกณฑ์ปล่อยกู้ซอฟท์โลน 8 หมื่นล้าน คัดนอนแบงก์ ลีสซิ่งเหลือ 70 บริษัทจากเดิม 170 แห่ง MTC*-SAWAD* รับไปรายละ 5 พันล้าน สัปดาห์หน้าเริ่มปล่อยกู้ ด้าน MTC* แจ้งงบ Q1 วันที่ 7 พ.ค.นี้ โบรกฯ คาดกำไร 1.2 พันล้าน โต 16% ซอฟท์โลนช่วยดันกำไรเพิ่ม 0.2% “บิ๊กตู่” ส่งเทียบเชิญผู้บริหาร MTC*-SAWAD* ช่วยกู้วิกฤติโควิด
(+) สมคิด สั่งธปท.ปล่อยซอฟต์โลน อุ้มกลุ่มสายการบิน-ท่องเที่ยว ฝ่าวิกฤตโควิด (ข่าวหุ้น) รองนายกรัฐมนตรีสั่งแบงก์ชาติปล่อยกู้ซอฟต์โลนธุรกิจขนาดใหญ่ สายการบินโรงแรมและการท่องเที่ยว พร้อมคลังกู้ 4 แสนล้าน ออกมาตรการขนาดใหญ่เดือน มิ.ย.นี้ เยียวยาประชาชนจากพิษโควิด-19 ต่อเนื่อง สร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจชุมชน หลังควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสได้ผลดี
(0) PTT* ปรับแผนลงทุนสู้โควิด รื้อ 'ปิโตรคอมเพล็กซ์' 2 แสนล. (กรุงเทพธุรกิจ) "ชาญศิลป์"ชงบอร์ดปตท. 30 เม.ย.นี้ เคาะแผนเพิ่มสภาพคล่อง ตัดงบค่าใช้จ่ายไม่จำเป็น ทบทวนลงทุนปิโตรคอมเพล็กซ์สหรัฐ 2 แสนล้าน ปรับแผนลงทุนอะโรเมติกส์ 4 หมื่นล้าน หวังกำเงินสดรับมือโควิด-19 ราคาน้ำมันดิ่ง คาดปีนี้แกว่ง 30-40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
TFG (เป้าพื้นฐาน 4.4 บาท) ประเมินแนวรับ 3.5 บาท / แนวต้าน 3.8 บาท (Trailing stop 3.4 บาท)
BCPG* (เป้าพื้นฐาน 22 บาท) ประเมินแนวรับ ±16.0 บาท / แนวต้าน 16.8 - 17.0 บาท (Trailing stop 15 บาท)
CPALL* (เป้าพื้นฐาน 83 บาท) ประเมินแนวรับ 65 บาท / แนวต้าน 66.75 บาท หากผ่านได้แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop 64 บาท)
INTUCH* (เป้าพื้นฐาน 76 บาท) แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop 50 บาท)
TOP* (เป้าพื้นฐาน 55 บาท) ประเมินแนวรับ 39 บาท / แนวต้าน 41.5 - 43.0 บาท (Trailing stop 37.5 บาท)
MTC* (เป้าพื้นฐาน 49 บาท) ประเมินแนวรับ 45 บาท / แนวต้าน 47 บาท หากผ่านได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 50 บาท (Stop loss 41.5 บาท)
TMB* (เป้าพื้นฐาน 1.38 บาท) ประเมินแนวรับ 0.91 บาท / แนวต้าน 0.95 บาท หาก Breakout ผ่านได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 1.0 - 1.09 บาท (Stop loss 0.90 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
MEGA* แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 36 บาท ฝ่ายวิจัยฯประเมินกำไร 1Q63 = 309 ล้านบาท (+21.9% YoY, -19.1% QoQ) โดยกำไรที่เพิ่มขึ้น YoY จะมาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจหลัก อย่างไรก็ดีฝ่ายวิจัยฯปรับลดสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นลงเล็กน้อย เพื่อสะท้อนรายได้ที่เพิ่มขึ้นจาก Maxxcare กระทบประมาณการฯปี 2563 - 64 ราว -3.8% และ -5.0% ตามลำดับ อย่างไรก็ดี PE ปี 2563 ยังต่ำเพียง 17.6 เท่า (คิดเป็นราว -1.5 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต) จึงคงคำแนะนำ "ซื้อ"
CK* แนะนำ "ถือ" เป้าพื้นฐาน 24.25 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดจะรายงานผลขาดทุนสุทธิ -49 ล้านบาทใน 1Q63 เนื่องจากรายได้ของ BEM* และ CKP* ที่ลดลง นอกจากนี้ฝ่ายวิจัยฯทำการปรับลดประมาณการฯปี 2563 - 64 ลง -39.5% และ -18.1% ตามลำดับ สะท้อนประเด็บลบจาก Backlog ในมือที่ต่ำสุดในรอบ 10 ปี ขณะที่การประมูลงานล่าช้า ทำให้คาดสัดส่วนต้นทุนรายจ่ายคงที่ต่อรายได้จะเพิ่มขึ้นในปี 2563 - 64 จึงปรับลดคำแนะนำลงเป็นเพียง "ถือ"
CKP* แนะนำ "ถือ" เป้าพื้นฐาน 4.4 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดจะรายงานผลขาดทุนสุทธิ -157 ล้านบาท (พลิกจากที่เคยกำไรใน 1Q62 และ 4Q62) เหตุผลหลักมาจากรายได้ขายไฟฟ้าที่ลดลง (น้ำแล้ง) อย่างไรก็ดีคงคำแนะนำ "ถือ" เพราะคาด 2H63 ผลการดำเนินงานจะฟื้นตัวได้ (ผลกระทบภัยแล้งน่าจะเริ่มลดลง)
PYLON แนะนำ "ถือ" เป้าพื้นฐาน 4.4 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 1Q63 = 109 ล้านบาท (+36% YoY, +18.9% QoQ) อย่างไรก็ดีการประมูลงานใหม่ที่ล่าช้าในปีนี้ และ Backlog ปัจจุบันคิดเป็นเพียง 69% ของประมาณการฯ ทำให้ฝ่ายวิจัยฯปรับลดประมาณการฯปี 2563 - 64 ลง -22.1% และ -7.7% ตามลำดับ และปรับลดคำแนะนำลงเป็นเพียง "ถือ"
SEAFCO แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 7.9 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 1Q63 = 101 ล้านบาท (-15.7% YoY, +19% QoQ) แม้ว่าจะประสบปัญหาการประมูลงานล่าช้าเช่นเดียวกับธุรกิจรับเหมาฯ แต่ Backlog ปัจจุบันคิดเป็นราว 85% ของประมาณการฯ และ Dividend yield ที่สูงราว +5% จึงคงคำแนะนำ "ซื้อ"
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- นัยรับ 1256 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นหรือปิดเหนือนัยรับ 1256 จุดได้นั้น อาจผลักราคาขึ้นในกรอบ 1256-1285 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1256 จุดนั้น อาจทรงราคาลงในกรอบ 1256-1228 จุด
แนวรับวันนี้: 1256/1231 แนวต้านวันนี้: 1268/1282
Strategic SET daily
April 23, 2020 Market strategy Thailand
1 อดิศักดิ์ คำมูล
2 66.2658.8888 ต่อ 8843
******************************************
Click Donate Support Web
