- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 22 April 2020 11:18
- Hits: 2041
บล.ทิสโก้ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 22-4-2020
สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -13.48 จุด น้ำมันกดดันแต่ลดช่วงลบ ส่งออกดีกว่าคาด
SET แกว่งแดนลบตลอดทั้งวันในกรอบ 1243-60 ถูกกดดันจากราคาหุ้นกลุ่มพลังงานร่วง หลังราคาน้ำมันทรุดตัวรุนแรง (สัญญาน้ำมันดิบ WTI เดือน พ.ค. ส่งมอบที่ -37.63 $/บาร์เรล) แต่ส่งออกไทย มี.ค. +4.17% ดีกว่าคาด ช่วยประคองตลาดลดช่วงลบ ต่างชาติขายสุทธิ 6.1 พันลบ. 10 วันติด แต่พลิก Long S50 Futures 3,388 สัญญา
ทิศทางตลาดวันนี้ : ซึมลงต่อ น้ำมันดิ่งแรง 2 วันติด, จับตาผลประกอบการ
หุ้นโลกเมื่อวาน (21 เม.ย.) ปรับตัวลงประมาณ 3% ทั้งหุ้นยุโรปและหุ้นสหรัฐฯ ถูกกดดันจากราคาน้ำมันที่ดิ่งแรง 2 วันติด โดยราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบ มิ.ย. -43% ปิดที่ 11.57 $/บาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 30 ปี ความปั่นป่วนของราคาน้ำมัน สร้างความกังวลมากขึ้นต่อตลาดการเงินและผลกระทบทางศก. มอง SET มีแนวโน้มซึมลง คาดจะถูกกดดันต่อเนื่องจากราคาหุ้นกลุ่มพลังงานที่คาดจะปรับตัวลงตามทิศทางราคาน้ำมัน อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันดิบ WTI ในตลาดล่วงหน้าเช้านี้เริ่มรีบาวด์ 2$ และมอง SET น่าจะปรับตัวดีกว่าหุ้นภูมิภาค จากสถานการณ์แพร่ระบาด COVID-19 ของไทยมีสัญญาณดีขึ้นต่อเนื่อง (เมื่อวานมีผู้ติดเชื้อฯ ใหม่ 19 ราย ต่ำสุดในรอบ 1 เดือน) นำไปสู่การผ่อนปรนมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดฯ ในไม่ช้านี้ โดยน่าจะเห็นความชัดเจนมากขึ้นในต้นสัปดาห์หน้า
สำหรับการประชุมครม.เมื่อวาน เห็นชอบขยายวงเงินเยียวยา 5 พันบ./คน/เดือน จาก 9 ล้านคนเป็น 14 ล้านคน เป็นเวลา 3 เดือน คิดเป็นวงเงิน 2.1 แสนลบ. และเห็นชอบระเบียบการจัดหาเงิน-ตั้งคณะกรรมการตามพ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านลบ. และพ.ร.ก.ของธปท.ทั้ง 2 ฉบับ วันนี้แนะนำติดตามตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ตลาดคาด +16.1 ล้านบาร์เรล และการประกาศผลประกอบการในสหรัฐฯ (AT&T, Delta) แนวรับ 1240+/-, 1230 แนวต้าน 1260, 1275
กลยุทธ์การลงทุน : SET ระดับ 1200 ขึ้นไป มองเป็นจังหวะขายมากกว่าซื้อ
มอง SET ที่ระดับ 1200 จุดขึ้นไปยังมีความเปราะบางสูง เป็นจังหวะขายมากกว่าซื้อ ขึ้นยังเน้นขายกระชับพอร์ต รอย่อตัวทยอยแบ่งซื้อคืน / การเก็งกำไรทำอย่างระมัดระวัง ไม่หวังส่วนต่างราคามาก เน้นหุ้นคาดงบดี มีประเด็นบวก
- • ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick DELTA – ถึงแม้เราปรับประมาณการกำไรปี 2020-21F ลง 26% และ 10% ตามลำดับ แต่กำไรปีนี้ยังทรงตัวอยู่ที่ระดับ 2.9 พันลบ. เท่ากับปีก่อน และจะกลับมาเติบโตสูงในปีหน้า +35% ซึ่งถือว่าดีท่ามกลางผลกระทบจาก COVID-19 โดยผลประกอบการ 1Q20F คาดจะเป็นจุดต่ำ ก่อนที่จะดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง จากการอ่อนค่าของเงินบาท และความต้องการที่เพิ่มขึ้นแข็งแกร่งในธุรกิจโทรคมนาคมและดาต้าเซ็นเตอร์ช่วยชดเชยความต้องการในธุรกิจยานยนต์ที่อ่อนแอ เราปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ” , เป้าพื้นฐานใหม่ 45.75 บ. / หุ้นที่คาดงบจะออกมาดี – CPF, EA, MEGA, PRM, PYLON, RBF, SMPC, TMB, TVO / หุ้นฐานะการเงินแข็งแกร่ง-ราคาลงลึก-ยังมี Upside สูง – PLANB, PYLON, SAT, VNT / อุตฯ ที่ได้รับผลกระทบน้อยจาก COVID-19 มีความทนทานสูงจากภาวะศก.หดตัวรุนแรง ชอบ กลุ่มค้าปลีก - CPALL, BJC กลุ่มอาหาร – CPF, RBF กลุ่มสื่อสาร – DTAC, INTUCH, TRUE กลุ่มรพ. – BDMS และอื่นๆ - BAM / หุ้นปันผลดี - AP, BTSGIF, DIF, INTUCH, KKP, NYT, SABINA, SMPC, SPALI, TVO / หุ้นบลูชิพที่คาดเป็นเป้าลงทุน SSF พิเศษ เด่น AOT, BAM, BDMS, BTS, CPALL, KBANK, PTT, SCC, VGI / หุ้นที่คาดจะได้ประโยชน์จากการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการดำเนินธุรกิจมากขึ้นหลังพ้นวิกฤติ COVID-19 – AIT, COM7, ITEL, SAMART, SYNEX / หุ้นคุณค่า – AEONTS, BBL, BCP, SEAFCO, SCC, SCCC / หุ้นรับอานิสงส์รัฐบาลเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ-กระตุ้นศก.-เร่งรัดลงทุน การบริโภค AEONTS, CPALL รับเหมา-ก่อสร้าง CK, STEC, SEAFCO, PYLON, TASCO, BTS นิคมฯ AMATA, ROJNA, WHA
- • หุ้นเด่น เม.ย. (Smart Tactics) BAM, BJC, DTAC, PTTEP, RBF, SCC, TVO
ปัจจัยติดตาม
วันที่ ปท. เหตุการณ์
22 เม.ย. EU ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหภาพยุโรปใน เม.ย. (เบื้องต้น)
US ตัวเลขดัชนีราคาบ้าน (FHFA House Price Index) สหรัฐฯ ใน ก.พ.
23 เม.ย. JP, EU, US PMI เบื้องต้นภาคอุตฯ ญี่ปุ่น, สหภาพยุโรป, สหรัฐฯ ใน เม.ย., ยอดขายบ้านใหม่สหรัฐฯ มี.ค.
24 เม.ย. US คำสั่งซื้อสินค้าคงทนสหรัฐฯ ใน มี.ค.(เบื้องต้น), ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคใน เม.ย.(สุดท้าย)
ที่มา : Bloomberg, TISCO Research
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web