- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 16 April 2020 14:09
- Hits: 1497
บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 16-4-2020
Market Wrap-Up
- • SET ปิดวันที่ 15 เม.ย.63 ที่ระดับ 1,236.10 จุด ปิด -20.25 จุด มูลค่าการซื้อขาย 69,418 ลบ.ต่างชาติขาย 3,331 ลบ. สถาบันซื้อ 1,466 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 1,321 ลบ.ยอด NVDR มียอดขายสุทธิอยู่ที่ 799 ลบ.โดยมียอดซื้อหุ้น BGRIM,GPSC,PTTGC,SCC,INTUCH และมียอดขายหุ้น BDMS,PTTEP,TOP,BBL,AOT มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 965 ลบ หุ้นที่มีมูลค่า Short สูงคือ PTTEP,PTTGC,PTT โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 9,962 สัญญาและมียอด Long สะสมตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 126,704 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 1,482 ลบ.
- • ตลาดหุ้นสหรัฐ Down Jones -1.86% ,S&P500 -2.20% ,Nasdaq -1.44% หุ้นกลุ่มธนาคาร เช่น โกลด์แมน แซคส์ , แบงก์ ออฟ อเมริกา ปรับลดลงหลังรายงานกำไร Q1/63 ต่ำกว่าคาดการณ์ ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานปรับลดลงตามราคาน้ำมันดิบที่ต่ำกว่า 20 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนรายงานทางเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลง เช่น การผลิตภาคอุตสาหกรรม มี.ค. -5.4% ต่ำสุดในรอบ 74 ปี , ยอดค้าปลีก มี.ค. -8.7% ต่ำกว่าคาด -8.0% ตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี Stoxx600 ปิด -3.25% ถูกกดดันจากคาดการณ์กำไร Q1/63 บจ. ในดัชนี Stoxx600 จะลดลง -22% และ Q2/63 คาด -34.2%
Market View
- • ภาวะการลงทุนตลาดสหรัฐและยุโรปวานนี้ปรับตัวลดลง หลัง IMF คาดเศรษฐกิจโลกปีนี้จะหดตัว -3.3 % โดยเศรษฐกิจสหรัฐปีนี้คาด -5.9 % , ยูโรโซนคาด -7.5 % เริ่มสะท้อนมายังผลประกอบการ Q1/63 บจ. ใน S&P500 คาดลดลง -10.2 % โดยรายกำไรหุ้นกลุ่มธนาคารสหรัฐ เช่น โกลด์แมน แซคส์ , แบงก์ ออฟ อเมริกา กำไร Q1/63 ลดลงกว่าครึ่ง (YoY) ขณะที่รายงานตัวเลขเศรษฐกิจต่างเริ่มหดตัวจากผลกระทบ Lock Down เช่น ยอดค้าปลีกสหรัฐ มี.ค. -8.7% และส่งผลกระทบต่อไปยังตลาดน้ำมัน WTI ปรับลดลงต่ำกว่าระดับ 20 ดอลลาร์/บาร์เรล โดย IEA เผยอุปสงค์ใช้น้ำมันโลกลดลง 9.3 mb/d และอุปสงค์ในช่วง Q2 นี้ต่ำกว่าปีก่อน 23.1 mb/d ดังนั้นมาตรการลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกพลัสที่ 9.7 mb/d ยังไม่สามารถชดเชยอุปสงค์ไปหายไป ส่งผลให้นักลงทุนกลับมากังวลต่อผลกระทบทางเศรษฐกิจจริง สำหรับดัชนีหุ้นไทยวานนี้ปิด -1.61% ต่างชาติขาย 3.3 พัน ลบ. พอร์ตโบรกขาย 1.3 พัน ลบ. จากแรงขายในหุ้นกลุ่มพลังงาน โรงไฟฟ้า ธนาคาร และเป็นการขายทำกำไรหลังดัชนีปรับขึ้นกว่า 20% ขณะที่กลุ่มธนาคารกำลังจะเริ่มรายงานกำไร Q1/63 คาดแนวโน้มหดตัว QoQ , YoY ส่วนภาคเศรษฐกิจจริงอยู่ระหว่างรอเม็ดเงินจาก พรก.เงินกู้ 1.1 ล.ลบ. คาดจะเข้าสู่ระดับใน พ.ค. – มิ.ย. นี้ และคาดรัฐบาลมีโอกาสผ่อนคลายกฏ Lock Down ในช่วงเดือนหน้า จากมาตรการควบคุมการระบาดไวรัสที่มีประสิทธิภาพ
Daily Strategy
- • กลยุทธ์การลงทุน วางจุดสังเกตดัชนีบริเวณ 1,240 จุด กรณียืนไม่ได้ แนะนำรอซื้อเมือดัชนีอ่อนตัวที่ระดับ 1,220 จุด อยู่ระหว่างรอรายงานผลประกอบการ Q1/63 ของกลุ่มธนาคาร แนะนำเก็งกำไรหุ้นที่ประโยชน์จากราคาน้ำมันลดลง เช่น TASCO, EPG, SFLEX
- • EA* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 54.00 บาท) คาดกำไรสุทธิปี 63 จะยังเติบโตต่อเนื่องจากธุรกิจผลิตไฟฟ้า ซึ่งจะรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมหนุมานที่เริ่ม COD ใน 1Q62-2Q62 รวม 260 MW เข้ามาเต็มปี ทำให้มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมทั้งสิ้น 664 MW โดยผู้บริหารคาดรายได้ปีนี้เติบโตแตะ 2.0 หมื่นล้านบาท เนื่องจากธุรกิจไฟฟ้าที่เป็นรายได้หลัก ไม่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 โดยตรง ส่วนธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ลดเป้าหมายการส่งมอบรถยนต์ลงจาก 5 พันคัน เพราะลูกค้าได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 แต่อย่างไรก็ตามคาดว่าเริ่มส่งมอบรถยนต์ได้ในช่วงไตรมาส 3Q63 และโรงงานประกอบคาดจะแล้วเสร็จในเร็วๆ นี้
- • กลุ่มสื่อสาร (Neutral / ADVANC, DTAC, TRUE ราคาเป้าหมาย 225.00บาท, 45.00 บาท, 4.00 บาท) จากกรณีข่าวที่ทาง กสทช. หารือกับทาง Operator เพื่อขอลดค่าบริการลง 10-30% เราประเมินว่าทำได้จริงยาก ข้อสรุปน่าจะออกมาในแนวทางว่าข้อความร่วมมือไม่ใช้การบังคับเป็นกฎ เพราะทางภาครัฐไม่ได้มีเงินชดเชยในส่วนลดดังกล่าวอย่างชัดเจน ในกรอบวงเงิน 3,000 ลบ. ย่อมไม่พอจะชดเชยในส่วนนี้ อีกทั้งช่วงเวลาในการประกาศลดราคาก็ยังไม่ชัดเจนว่าต้องมากน้อยเท่าไหร่ สิ่งที่เอกชนพอจะตอบรับได้คือการนำเสนอแพ็กเก็จที่ราคาลดลงมาโดยยังสอดคล้องกับการใช้งานจริงของลูกค้าอย่างชัดเจน แต่จะไม่ใช้การไปลดราคาแพ็กเก็จปัจจุบันคงเป็นไปได้ยากเพราะส่วนนั้นทางภาครัฐยังไม่ได้ออกมาช่วยอุดหนุนต้นทุนการให้บริการอย่างชัดเจนและการใช้งานโทรคมนาคมต้นทุนการบริการหลักๆคือ Traffic ของโครงข่ายซึ่งต่างจากสาธารณูปโภคอื่นๆ ดังนั้นจะนำมาเปรียบเทียบกันไม่ได้ อย่างไรก็ตามหากผลในการประชุมออกมาในแนวทางที่ผู้ใช้งานมีการเปลี่ยนไปใช้แพ็กเก็จที่ถูกลงเพิ่มขึ้นย่อมส่งผลกระทบต่อภาพรวมค่าบริการ/หัวของทั้งอุตสาหกรรมซึ่งในกรณีนั้นอาจจะต้องมีการประเมินกำไรกันใหม่แต่ปัจจุบันเรายังมองว่าเร็วไปที่จะสรุปแบบนั้น จึงยังให้ Wait & See ดูก่อนและคงน้ำหนักการลงทุนในกล่มสื่อสารเป็น Neutral เลือก ADVANC เป็น TP
Daily Key Factors
Oil Update (-) WTI Futures พ.ค.ปิด -0.24 ดอลลาร์ อยู่ที่ 19.87 ดอลลาร์/บาร์เรล Brent Futures มิ.ย. ปิด -1.91 ดอลลาร์ อยู่ที่ 27.67 ดอลลาร์/บาร์เรล EIA รายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 19.2 mb. ขณะที่ IEA คาดอุปสงค์ความต้องการใช้น้ำมันตลาดโลกปีนี้ลดลง 9.3 mb/d
Gold Update (-) Gold Futures มิ.ย. ปิด -28.70 ดอลลาร์ อยู่ที่ 1,740.20 ดอลลาร์/ออนซ์ ถูกแรงขายทำกำไรหลังราคาปรับขึ้นสูงสุดในรอบ 7 ปี ขณะที่ดัชนี Dollar Index แข็งค่า +0.58 % อยู่ที่ 99.4635
Fund Flow (-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ขายสุทธิ -153 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -102.1 ล้านดอลลาร์ ขายหุ้นอินโด -23.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -27 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้อ่อนค่าเล็กน้อย อยู่ที่ 32.72 บาทดอลลาร์สหรัฐ
(+) ดัชนี BDI ปิด +27 จุด อยู่ที่ 706 จุด
(-) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี อยู่ที่ 0.643 % , 2 ปี อยู่ที่ 0.203 %
(-) ค่าเงินหยวน off-shore อ่อนค่า อยู่ที่ 7.0749/USD
(-) สหรัฐมีผู้ติดเชื้อไวรัส 637,359 ราย เสียชีวิต 28,364 ราย
(-) สเปนมีผู้ติดเชื้อไวรัส 180,659 ราย เสียชีวิต 18,812 ราย
(-) อิตาลีมีผู้ติดเชื้อไวรัส 165,155 ราย เสียชีวิต 21,645 ราย
Economic Calendar
ในประเทศ
สัปดาห์ที่ 3 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม, ยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์
สัปดาห์ที่ 3 กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า
สัปดาห์ที่ 4 สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.)แถลงดัชนีอุตสาหกรรม
สัปดาห์ที่ 4 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
30 เม.ย. ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
ต่างประเทศ
15 เม.ย. US ดัชนียอดขายปลีก (มี.ค.)
US การรายงานสต๊อกน้ำมันดิบ
16 เม.ย. US รายงานจำนวนใบอนุญาตก่อสร้าง (มี.ค.)
US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
US ดัชนีภาคการผลิตจากธนาคารกลางรัฐฟิลาเดลเฟีย (เม.ย.)
17 เม.ย. CN ดัชนีจีดีพี (GDP) ของจีน (ไตรมาส 1)
CN ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีน (มี.ค.)
EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) (มี.ค.)
Theme Strategy
(1) กลุ่ม Defensive Stock BCPG*, BGRIM*, BPP*, GPSC*, GULF*, ADVANC, INTUCH*, BDMS*, BCH*
(2) กลุ่มที่อิงการบริโภคในปรเทศ ADVANC, INTUCH*
(3) กลุ่มรับประโยชน์ ศก.ชะลอ NPL เพิ่ม BAM*, CHAYO*, JMT*
(4) กลุ่มส่งออกอาหารเงินบาทอ่อนค่า CPF*, GFPT*, TFG*, TU*
(5) กลุ่มการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจอีอีซี AMATA, WHA
(6) กลุ่มรับประโยชน์จากราคาน้ำมันขาลง IRPC, TOP, PRM*
(7) กลุ่มรับประโยชน์จากปลดล็อก พ.ร.บ.งบประมาณปี 63 CK, STEC, SEAFCO*, TASCO*
*หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio Apr 2020: ADVANC, BJC*, BPP*, CPALL*, CPF*, TU*
Analysts
Apichai Raomanachai No. 002939
Nopporn Chaykaew No. 043964
Piyatat Pasommanatsakul No. 081741
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web